เป็นแม่สมัยนี้ต้องสตรองมาก พร้อมรับมือกับปัญหาของลูก

อยากตั้งกระทู้นี้บอกเล่าความเป็นแม่ที่ต้องสตรองมากๆ ในการดูแลลูกแก้ปัญหาทุกๆอย่าง ที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา

ด้วยสังคมสมัยนี้ โซลเชี่ยล ต่างๆ จะสังเกตุว่าเด็กสมัยนี้โตเกินเด็ก ทำอะไรขาดวามยั้งคิด บางอย่างทำเลียนแบบทำตามเพื่อน ทำเพื่อความเท่ห์ หรือทำเพราะไม่อยากโดนเพื่อนดูถูก

ลูกเราก็เช่นกันค่ะ ตอนลูกเล็กๆ เราทำงานอยู่กับบ้านเลยเปิดทีวีให้ลูกดูการ์ตูน ซึ่งคนในสังคมระดับกลางๆส่วนมากก็เลี้ยงลูกโดยทิ้งไว้หน้าทีวีแบบนี้ ซึ่งมันมีผลทำให้ลูกสมาธิสั้น ผลมาเกิดเห็นชัดเจนตอนลูกเรียน ป.5 เริ่มก้าวร้าวและขาดความย้ำยั้งชั่งใจ การเรียนลดลงอย่างชัดเจน

เราต้องพาลูกไปรักษาที่ รพ.รามา ระยะเวลาประมาณ 2 ปีอาการเริ่มดีขึ้น คุณหมอลดยาลงแระพยายามให้แม่ใกล้ชิด

ตอนลูกเรียน ม.1 สังคมใหม่สิ่งแวดล้อมใหม่ ลูกเริ่มเกเร หนีเที่ยว โดดเรียนและสูบบุหรี่ การตีไม่ใช้การแก้ปัญหาที่ใช้ได้ ไม่เกิดผลอะไร และยิ่งทำให้ลูกเป็นหนักกว่าเดิม

เราต้องปรับอารมณ์ตัวเอง แล้วเรียกลูกมาพูดคุยแบบเพื่อน เปลี่ยนจากให้ลูกไป-กลับ โรงเรียนเองเป็นไปรับ-ไปส่ง เข้าถึงครูที่โรงเรียนจนลูกผ่าน ม.1 มาได้

เริ่มเข้า ม.2 เทอมแรก เริ่มมีเรื่องทะเลาะวิวาท เพื่อนไปมีเรื่องกับใครตามไปเฮกับเพื่อนด้วย มีเรื่องมีคดีความจนถึงโรงพัก ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลให้ใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้นอีก คัดกรองเพื่อนพยามสอนลูกให้มีน้ำใจมีคุณธรรม บอกเล่าถึงเรื่องราวบาปบุญคุณโทษ และต้องสอนลูกให้รู้จักคิด ติดตามเฟชบุ๊คของลูกให้มากขึ้น เวลามีข่าววัยรุ่นฆ่ากันตาย อริต่างโรงเรียน กระทั้งข่าวข่มขื่นก็ต้องสอนและพูดคุยให้ลูกเข้าใจถึงเรื่องราว ไม่ให้ลูกมองว่ามันเป็นการกระทำทีเทห์หรือเจ๋ง ไม่ให้ลอกเลียน

พอเทอม 2 ก็เริ่มที่จะมีความรัก ต้องคอยตามดูเรื่องเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การสอนลูกให้รู้จักเวลาที่ควร รวมถึงการป้องกันการผิดพลาดต่างๆ อีกทั้งเรื่องการเรียน ปัญหามากมายที่คนเป็นแม่ต้องสตรองมากๆ

อีกหลายปีกว่าลูกจะโต จากประสบการณ์เราๆคิดว่าความใกล้ชิดและการเข้าใจ ดูแลแบบใส่ใจเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ลูกโตไปแบบรอดปากเหยี่ยวปากกา รอดวิถีสังคมวัยรุ่นไปให้ได้

คุณแม่ท่านอื่นมีประสบการณ์มาแชร์กันบ้างค่ะ เผื่อเอาไว้เป็นแนวทาง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่