มาต่อจากประเทศชิลีกันที่นี่นะคะ อยากจะบอกว่า เห็นมดแดงบ่นๆเรื่องค่าใช้จ่ายที่ประเทศชิลีแล้ว มาที่นี่ ค่าใช้จ่ายแพงกว่าประเทศชิลีอีกคร้า เกินงบต่อวันกันไปเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ ประหยัดกันเท่าที่จะทำได้ จากที่ตั้งไว้ว่าใช้กันไม่เกินคนละ 25 USD ต่อวัน มาที่นี่เล่นเอาหืดขึ้นคอกันเลยละค่ะ กว่าจะทำได้ แพงใช้ได้เลยแต่ละอย่าง
ลิงค์จากประเทส ชิลี สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้วนะคะ
http://pantip.com/topic/34641357
ลิงค์จากประเทศโบลิเวีย
http://pantip.com/topic/34622069
ลิงค์จากประเทศเปรู
http://pantip.com/topic/34403325
ลิงค์จากประเทศเอกวาดอร์
http://pantip.com/topic/34057015/comment92-1
และ ลิงค์สำหรับคนที่ยังไม่อ่านตอนแรก จุดเริ่มต้นที่ประเทศปานามา มดแดงอยากให้คนที่ยังไม่ได้อ่านลองเข้าไปอ่านดูนะคะ ว่าจุดเริ่มต้นของพวกเราเป็นยังไง มีจุดมุ่งหมายยังไง แผนการเดินทางของเราครั้งนี้เป็นยังไง ยังไงลองเข้าไปอ่านกันดูนะคะ
http://pantip.com/topic/34046788
หลังจากออกจากด่านที่ Coyhaique แล้ว เราขี่ต่อทางลูกลังมาอีกประมาณ 100 กม ก็มาถึงถนนใหญ่สาย 40 หรือ เส้น รูท 40 ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่จะขี่ลงไปยัง Ushuavia จุดใต้สุดของโลกเป้าหมายของพวกเรา จากทางตัดลูกลังกับถนนใหญ่ขี่ต่อมาอีกประมาณ ร้อยกว่ากิโลเมตร ก็มาถึง Rio maya แต่กว่าจะมาถึงนี่ใช้เวลานานพอสมควรเลยละค่ะ ตลอดเส้นทางทั้งทางลูกลังทั้งถนนใหญ่ ลมแรงมากๆเลย ตอนอยู่ที่ประเทศชิลีเรามีโอกาสได้พูดคุยกับไบเกอร์ข้ามประเทศหลายคน เตือนเราเป็นสียงเดียวว่า ถนนในประเทศอาเจนติน่าเป็นถนนที่น่าเบื่อที่สุดในแถบอเมริกาใต้ ตลอดสองข้างทางเป็นพื้นที่ราบล้น น่าเบื่อ มีคนขับหลับในจนเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งต้องคอยระวัง ที่สำคัญเนื่องจากเป็นพื้นที่ราบล้นจึงมีลมพักแรงมากตลอดทาง รถเรา150 ซีซี คันเล็กก็ต้องค่อยๆไป ขี่กันเอียงตลอดทางเลย กว่าจะมาถึงนี่เมื่อยกันน่าดู เรามาพักทานข้าวกันที่ Rio Mayo ขี่กันเข้ามาในเมือง ไม่มีร้านอะไรเปิดเลย เหมือนเป็นเมืองร้าง หิวก็หิว ขี่กันมาเรื่อยๆจนมาเจออยู่ร้านนึงกำลังจะปิดพอดี เราเลยเข้าไปขอเค้าว่า รับเราไว้ก่อนปิดเถอะ เราหิวกันมาก เจ้าของร้านใจดีเลยบอกตกลง เราสั่งอาหารทานกันด้วยความหิว ไม่ทันได้ถามราคา คิดว่า คงจะไม่แพงเท่าไรมั้ง สั่งอาหารปรกติ แต่พอเช็คบิลออกมาถึงกับอึ้ง ตั้ง 300 เปโซแน่ะ ค่าเงินเปโซ อาเจนติน่า ตอนนี้ 1 เปโซเท่ากับ 2.5 บาทไทย อาหารกลางวันเมื้อนี้ก็เท่ากับ 750 บาทไทย แม่เจ้า แพงจังเลย เราเลยถามเจ้าของร้านว่า นี่เป็นราคาปรกติในประเทศอาเจนติน่าใช่มั้ย เค้าตอบว่าใช่แล้ว เราหันมามองหน้ากัน ที่ว่าที่ประเทศชิลีค่าใช้จ่ายว่าแพงแล้ว ที่นี่แพงกว่าอีก มดแดงคิดในใจสงสัยจะได้กินแต่ ปะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกแล้ว
ถนนเรียบๆล้นๆแบบนี้ตลอดทริปเลยละค่ะ
หลังจากทานอาหารเสร็จเราก็ออกเดินทางต่อไปยัง Bajucaracoles เพื่อไปเติมน้ำมัน และพักที่นั่น หนึ่งคืน เมืองนี้เป็นเมืองทางผ่านเล็กๆ มีบ้านคนอยู่แค่ไม่กี่หลัง มีโรงแรมอยู่แค่หนึ่งที่ ราคา 500 เปโซ หรือ 1250 บาทไทย ค่อนข้างจะแพงนะคะ ถ้าใครที่มีอุปกรณ์แคมป์มาด้วย เค้าคิดค่ากางเต้น เต้นละ50 เปโซ หรือ 125 บาทไทยค่ะ
รุ่งเช้าเราออกเดินทางต่อไปยังเมือง El Chalten ขี่กับไปประมาณ 460 กม เราค่อยๆขี่ต้านลมกันไปเรื่อยๆ ขี่ไปพักไป มีปั้มน้ำมันให้พักเติมน้ำมันตลอดทาง จอดพักก้นกันข้างทางบ้าง ขี่ที่ประเทศนี้ค่อนข้างจะสบายเรื่องเวลา มีเวลาเยอะกว่าที่อื่นๆ ไม่ต้องรีบขี่ไปให้ถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เพราะพระอาทิตย์ที่นี่ตกตอน 3 ทุ่ม บางวัน 3 ทุ่มครึ่งยังสว่างโล่อยู่เลยค่ะ มีเวลากันทั้งวันเลย
พูดถึงเมืองนี้นิด “El Chalten เป็นเมืองเล็กๆที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา Monte Fitz Roy และธารน้ำแข็งที่เก่าแก่จนได้รับเป็นมรดกโลก ที่นี่ถูกยกให้เป็นสถานที่สุดฮอตสำหรับนักปีนเขาทั่วโลกเพราะมีทัศนียภาพที่งดงามตลอดทั้งปี และยังอยู่ใน 1 ใน10 เมืองน่าเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาด ในปี2015 จัดอันดับโดย Lonely planet” ข้อความจากเว็บไซด์chillpainai.com
อย่างที่บอกไปจากกระทู้ที่แล้วว่า มดแดงทำกล้องหาย เสียดายมากๆเลยค่ะที่ไม่ได้มีรูปมาให้เพื่อนๆดู อยากจะบอกว่า เส้นทางจาก รูท 40 เลี้ยวเข้ามายังเมือง El Chalten สวยมากเลยค่ะ ทั้งแม่น้ำสีเขียวมรกต รายร้อมด้วยภูเขาไฟที่ปรกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวตลอดทาง สวยงามบาดตาบาดใจจริงๆค่ะ คิดแล้วก็ยังโกรธตัวเองไม่หายที่ทำกล้องหายไปแบบนั้น เสียดายจริงๆค่ะ
มดแดงขอลงรูปจากเว็บไซด์ต่างๆมาให้เพื่อนๆดูไว้จินตนาการกันนะคะ รูปทั้งหมดนี้ไม่ได้ถ่ายเอง ได้มาจากอินเตอร์เนตค่ะ
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว โหลดแผนที่มาให้เพื่อนๆดูด้วยเลย
อยากจะบอกว่ารูปพวกนี้มดแดงมีหมดเลย แต่มันหายไปแล้วววววว T_T
เนื่องจากเมืองนี้เป็นจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในเขตปาตาโกเนียนี้ ที่พักที่นี่ค่อนข้างจะราคาแพงมากๆเลยค่ะ เราขี่หาที่พักกันไปเรื่อยๆ โชคดีมาได้ โฮสเทลราคาถูกที่สุดในเมืองนี้ เลย ตกคนละ 150 เปโซ หรือ 375 บาท ต่อคน ปรกติมดแดงจะถ่ายรูปที่พักที่อยากแนะนำไว้ แต่ตอนนี้รูปไม่มีแล้ว จำชื่อที่พักก็ไม่ได้ เอาเป็นว่า ถ้าเพื่อนๆจะมาพักที่นี่ ให้เข้าเมืองมาจนสุดเป็นทางสามแยกแล้วเลี้ยวซ้าย จะเป็นป้าย Hostel เขียนบนตึกไว้ตัวเบื้อเริ่มเลยค่ะ ไม่พลาดแน่นอนค่ะ หลังจากเข้าที่พักแล้วเราก็นอนพักผ่อนกัน วันที่2 เราออกไปเดินเล่นรอบๆสถานที่ นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ก็ต้องมาปีนเขาขึ้นไปดูภูเขาน้ำแข็งข้างบน สวยงามมากเลยละค่ะ แต่พอดี ไอ้หนุ่มผมยาวมีปัญหาข้อเท้าแพลงเล็กน้อยเราเลยไม่ได้ไปเดินปีนเขากัน ได้แต่เดินดูเมืองกันไกล้ๆ
หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อไปยัง เมือง El Calafate (ทันที ที่ที่มดแดงทำกล้องหายละค่ะ) จาก El Chalten มา El Calafate เป็นระยะทางประมาณ 212 กม ตลอดเส้นทาง สวยงามสุดๆค่ะ เหมือนอยู่ในเทพนิยายเลย แต่ลมยังพัดแรงอยู่นะคะ ขี่กันมาถึงช่วงบ่ายๆ จัดแจงเข้าที่พักกัน แล้วออกเดินทางไปดูธารน้ำแข็งที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก คือ ธารน้ำแข็ง Perito Moreno ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 80 กม ถ้าไม่มีรถมาเองเค้ามีทัวร์ให้ค่ะ ทั้งจากเมือง El Chalten หรือจากที่นี่ ค่าทัวร์ก็จะตกอยุ่ที่ 1200-4000 บาทไทย แล้วแต่ละบริษัททัวร์นะคะ นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมธารน้ำแข็งนี้ได้โดยการนั่งเรือเล็กไปตามทะเลสาบ Argentino ซึ่งมีความยาวประมาณ 30 กม หรือว่าจะชมจากจุดชมวิวสามจุดของที่นั่นก็ได้ หรือ สามารถเดินไป หรือนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปได้ค่ะ ปรกติจะถ่ายรูปราคาไว้ ถ้ามดแดงจำไม่ผิด ค่าเข้าสถานที่น่าจะเป็นคนละ 170 เปโซนะคะ พอไปถึงที่จอดรถแล้วก็นั่งรถบัสขึ้นไปต่ออีก ประมาณ 5 นาทีค่ะ อยากจะบอกว่า ภาพที่เห็นนี่สวยงามจริงๆค่ะ สวยจนอึ้ง สวยจนอยากร้องให้ มันงดงานเหลือเชื่อจริงๆ เกิดมามดแดงไม่เคยเห็นอะไรสวยงามขนาดนี้มาก่อนเลย เรานั่งดูกันนิ่งๆอยู่เป็นชั่วโมงเลย ภาพที่เห็นข้างหน้าเป็นธารน้ำแข็งไหลลงมาจากยอดเขาลงมาที่แม่น้ำ ธานน้ำแข็งแห่งนี้จะมีน้ำแข็งไหลลงมาเรื่อยๆตลอดปี นั่งกันอยู่ที่นี่เงียบๆก็จะได้ยินเสียงน้ำแข็งแตกดังก้องแล้วไหลลงมาที่แม่น้ำเป็นระยะ มันเป็นอะไรที่อัศจรรย์ใจมากเลยละค่ะ น้ำด้านล่างเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมายจนกลายเป็นสีเขียวอมฟ้าสวยงามจับใจ นั่งกันอยู่ประมาณ 2 ชม ก็ได้เวลากลับแล้วเพราะนัดช่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไว้ ตอนลงมาที่ลานจอดรถ เห็นมีกลุ่มไบค์เกอร์ข้ามประเทศมาจอดอยู่ข้างๆรถเราเพียบเลย มดแดงเลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วดันลืมวางไว้ตรงไกล้ๆ เพื่อจัดสัมภาระก่อนกลับ ขากลับออกมาประมาณ 50 กม แล้ว นึกขึ้นได้ว่าลืมเอาไว้ที่นั่น ขี่กลับไปเอา ถามเจ้าหน้าที่เกือบทุกคนก็ไม่เห็น หายไปแล้วละค่ะ มดแดงนี่ร้องให้เลย ที่สวยๆแบบนี้ ไม่รู้ชีวิตนี้จะได้มาอีกรึเปล่านะคะ ยังโชคดีที่มีรูปจากกล้องมือถือของไอ้หนุ่มผมยาวไว้ มาให้เพื่อนๆได้ดูกันบ้างนะคะ
ธารน้ำแข็ง Perito Moreno
มอเตอร์ไซค์มาจอดข้างๆ อยากถ่ายรูปเก็บไว้ กล้องหายเลย T_T
หลังจากนั้นเราก็ขี่กลับเอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วเดินทางต่อวันรุ่งขึ้นเลย
สาวไทยกับสองล้อรอบโลก ตอน ตะลุยอเมริกาใต้ (เป้าหมายของทริป Ushuaia (อุชะวายา) จุดใต้สุดของโลก ที่ อาเจนติน่า)
มาต่อจากประเทศชิลีกันที่นี่นะคะ อยากจะบอกว่า เห็นมดแดงบ่นๆเรื่องค่าใช้จ่ายที่ประเทศชิลีแล้ว มาที่นี่ ค่าใช้จ่ายแพงกว่าประเทศชิลีอีกคร้า เกินงบต่อวันกันไปเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ ประหยัดกันเท่าที่จะทำได้ จากที่ตั้งไว้ว่าใช้กันไม่เกินคนละ 25 USD ต่อวัน มาที่นี่เล่นเอาหืดขึ้นคอกันเลยละค่ะ กว่าจะทำได้ แพงใช้ได้เลยแต่ละอย่าง
ลิงค์จากประเทส ชิลี สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้วนะคะ
http://pantip.com/topic/34641357
ลิงค์จากประเทศโบลิเวีย
http://pantip.com/topic/34622069
ลิงค์จากประเทศเปรู
http://pantip.com/topic/34403325
ลิงค์จากประเทศเอกวาดอร์
http://pantip.com/topic/34057015/comment92-1
และ ลิงค์สำหรับคนที่ยังไม่อ่านตอนแรก จุดเริ่มต้นที่ประเทศปานามา มดแดงอยากให้คนที่ยังไม่ได้อ่านลองเข้าไปอ่านดูนะคะ ว่าจุดเริ่มต้นของพวกเราเป็นยังไง มีจุดมุ่งหมายยังไง แผนการเดินทางของเราครั้งนี้เป็นยังไง ยังไงลองเข้าไปอ่านกันดูนะคะ
http://pantip.com/topic/34046788
หลังจากออกจากด่านที่ Coyhaique แล้ว เราขี่ต่อทางลูกลังมาอีกประมาณ 100 กม ก็มาถึงถนนใหญ่สาย 40 หรือ เส้น รูท 40 ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่จะขี่ลงไปยัง Ushuavia จุดใต้สุดของโลกเป้าหมายของพวกเรา จากทางตัดลูกลังกับถนนใหญ่ขี่ต่อมาอีกประมาณ ร้อยกว่ากิโลเมตร ก็มาถึง Rio maya แต่กว่าจะมาถึงนี่ใช้เวลานานพอสมควรเลยละค่ะ ตลอดเส้นทางทั้งทางลูกลังทั้งถนนใหญ่ ลมแรงมากๆเลย ตอนอยู่ที่ประเทศชิลีเรามีโอกาสได้พูดคุยกับไบเกอร์ข้ามประเทศหลายคน เตือนเราเป็นสียงเดียวว่า ถนนในประเทศอาเจนติน่าเป็นถนนที่น่าเบื่อที่สุดในแถบอเมริกาใต้ ตลอดสองข้างทางเป็นพื้นที่ราบล้น น่าเบื่อ มีคนขับหลับในจนเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งต้องคอยระวัง ที่สำคัญเนื่องจากเป็นพื้นที่ราบล้นจึงมีลมพักแรงมากตลอดทาง รถเรา150 ซีซี คันเล็กก็ต้องค่อยๆไป ขี่กันเอียงตลอดทางเลย กว่าจะมาถึงนี่เมื่อยกันน่าดู เรามาพักทานข้าวกันที่ Rio Mayo ขี่กันเข้ามาในเมือง ไม่มีร้านอะไรเปิดเลย เหมือนเป็นเมืองร้าง หิวก็หิว ขี่กันมาเรื่อยๆจนมาเจออยู่ร้านนึงกำลังจะปิดพอดี เราเลยเข้าไปขอเค้าว่า รับเราไว้ก่อนปิดเถอะ เราหิวกันมาก เจ้าของร้านใจดีเลยบอกตกลง เราสั่งอาหารทานกันด้วยความหิว ไม่ทันได้ถามราคา คิดว่า คงจะไม่แพงเท่าไรมั้ง สั่งอาหารปรกติ แต่พอเช็คบิลออกมาถึงกับอึ้ง ตั้ง 300 เปโซแน่ะ ค่าเงินเปโซ อาเจนติน่า ตอนนี้ 1 เปโซเท่ากับ 2.5 บาทไทย อาหารกลางวันเมื้อนี้ก็เท่ากับ 750 บาทไทย แม่เจ้า แพงจังเลย เราเลยถามเจ้าของร้านว่า นี่เป็นราคาปรกติในประเทศอาเจนติน่าใช่มั้ย เค้าตอบว่าใช่แล้ว เราหันมามองหน้ากัน ที่ว่าที่ประเทศชิลีค่าใช้จ่ายว่าแพงแล้ว ที่นี่แพงกว่าอีก มดแดงคิดในใจสงสัยจะได้กินแต่ ปะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกแล้ว
ถนนเรียบๆล้นๆแบบนี้ตลอดทริปเลยละค่ะ
หลังจากทานอาหารเสร็จเราก็ออกเดินทางต่อไปยัง Bajucaracoles เพื่อไปเติมน้ำมัน และพักที่นั่น หนึ่งคืน เมืองนี้เป็นเมืองทางผ่านเล็กๆ มีบ้านคนอยู่แค่ไม่กี่หลัง มีโรงแรมอยู่แค่หนึ่งที่ ราคา 500 เปโซ หรือ 1250 บาทไทย ค่อนข้างจะแพงนะคะ ถ้าใครที่มีอุปกรณ์แคมป์มาด้วย เค้าคิดค่ากางเต้น เต้นละ50 เปโซ หรือ 125 บาทไทยค่ะ
รุ่งเช้าเราออกเดินทางต่อไปยังเมือง El Chalten ขี่กับไปประมาณ 460 กม เราค่อยๆขี่ต้านลมกันไปเรื่อยๆ ขี่ไปพักไป มีปั้มน้ำมันให้พักเติมน้ำมันตลอดทาง จอดพักก้นกันข้างทางบ้าง ขี่ที่ประเทศนี้ค่อนข้างจะสบายเรื่องเวลา มีเวลาเยอะกว่าที่อื่นๆ ไม่ต้องรีบขี่ไปให้ถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เพราะพระอาทิตย์ที่นี่ตกตอน 3 ทุ่ม บางวัน 3 ทุ่มครึ่งยังสว่างโล่อยู่เลยค่ะ มีเวลากันทั้งวันเลย
พูดถึงเมืองนี้นิด “El Chalten เป็นเมืองเล็กๆที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา Monte Fitz Roy และธารน้ำแข็งที่เก่าแก่จนได้รับเป็นมรดกโลก ที่นี่ถูกยกให้เป็นสถานที่สุดฮอตสำหรับนักปีนเขาทั่วโลกเพราะมีทัศนียภาพที่งดงามตลอดทั้งปี และยังอยู่ใน 1 ใน10 เมืองน่าเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาด ในปี2015 จัดอันดับโดย Lonely planet” ข้อความจากเว็บไซด์chillpainai.com
อย่างที่บอกไปจากกระทู้ที่แล้วว่า มดแดงทำกล้องหาย เสียดายมากๆเลยค่ะที่ไม่ได้มีรูปมาให้เพื่อนๆดู อยากจะบอกว่า เส้นทางจาก รูท 40 เลี้ยวเข้ามายังเมือง El Chalten สวยมากเลยค่ะ ทั้งแม่น้ำสีเขียวมรกต รายร้อมด้วยภูเขาไฟที่ปรกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวตลอดทาง สวยงามบาดตาบาดใจจริงๆค่ะ คิดแล้วก็ยังโกรธตัวเองไม่หายที่ทำกล้องหายไปแบบนั้น เสียดายจริงๆค่ะ
มดแดงขอลงรูปจากเว็บไซด์ต่างๆมาให้เพื่อนๆดูไว้จินตนาการกันนะคะ รูปทั้งหมดนี้ไม่ได้ถ่ายเอง ได้มาจากอินเตอร์เนตค่ะ
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว โหลดแผนที่มาให้เพื่อนๆดูด้วยเลย
อยากจะบอกว่ารูปพวกนี้มดแดงมีหมดเลย แต่มันหายไปแล้วววววว T_T
เนื่องจากเมืองนี้เป็นจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในเขตปาตาโกเนียนี้ ที่พักที่นี่ค่อนข้างจะราคาแพงมากๆเลยค่ะ เราขี่หาที่พักกันไปเรื่อยๆ โชคดีมาได้ โฮสเทลราคาถูกที่สุดในเมืองนี้ เลย ตกคนละ 150 เปโซ หรือ 375 บาท ต่อคน ปรกติมดแดงจะถ่ายรูปที่พักที่อยากแนะนำไว้ แต่ตอนนี้รูปไม่มีแล้ว จำชื่อที่พักก็ไม่ได้ เอาเป็นว่า ถ้าเพื่อนๆจะมาพักที่นี่ ให้เข้าเมืองมาจนสุดเป็นทางสามแยกแล้วเลี้ยวซ้าย จะเป็นป้าย Hostel เขียนบนตึกไว้ตัวเบื้อเริ่มเลยค่ะ ไม่พลาดแน่นอนค่ะ หลังจากเข้าที่พักแล้วเราก็นอนพักผ่อนกัน วันที่2 เราออกไปเดินเล่นรอบๆสถานที่ นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ก็ต้องมาปีนเขาขึ้นไปดูภูเขาน้ำแข็งข้างบน สวยงามมากเลยละค่ะ แต่พอดี ไอ้หนุ่มผมยาวมีปัญหาข้อเท้าแพลงเล็กน้อยเราเลยไม่ได้ไปเดินปีนเขากัน ได้แต่เดินดูเมืองกันไกล้ๆ
หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อไปยัง เมือง El Calafate (ทันที ที่ที่มดแดงทำกล้องหายละค่ะ) จาก El Chalten มา El Calafate เป็นระยะทางประมาณ 212 กม ตลอดเส้นทาง สวยงามสุดๆค่ะ เหมือนอยู่ในเทพนิยายเลย แต่ลมยังพัดแรงอยู่นะคะ ขี่กันมาถึงช่วงบ่ายๆ จัดแจงเข้าที่พักกัน แล้วออกเดินทางไปดูธารน้ำแข็งที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก คือ ธารน้ำแข็ง Perito Moreno ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 80 กม ถ้าไม่มีรถมาเองเค้ามีทัวร์ให้ค่ะ ทั้งจากเมือง El Chalten หรือจากที่นี่ ค่าทัวร์ก็จะตกอยุ่ที่ 1200-4000 บาทไทย แล้วแต่ละบริษัททัวร์นะคะ นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมธารน้ำแข็งนี้ได้โดยการนั่งเรือเล็กไปตามทะเลสาบ Argentino ซึ่งมีความยาวประมาณ 30 กม หรือว่าจะชมจากจุดชมวิวสามจุดของที่นั่นก็ได้ หรือ สามารถเดินไป หรือนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปได้ค่ะ ปรกติจะถ่ายรูปราคาไว้ ถ้ามดแดงจำไม่ผิด ค่าเข้าสถานที่น่าจะเป็นคนละ 170 เปโซนะคะ พอไปถึงที่จอดรถแล้วก็นั่งรถบัสขึ้นไปต่ออีก ประมาณ 5 นาทีค่ะ อยากจะบอกว่า ภาพที่เห็นนี่สวยงามจริงๆค่ะ สวยจนอึ้ง สวยจนอยากร้องให้ มันงดงานเหลือเชื่อจริงๆ เกิดมามดแดงไม่เคยเห็นอะไรสวยงามขนาดนี้มาก่อนเลย เรานั่งดูกันนิ่งๆอยู่เป็นชั่วโมงเลย ภาพที่เห็นข้างหน้าเป็นธารน้ำแข็งไหลลงมาจากยอดเขาลงมาที่แม่น้ำ ธานน้ำแข็งแห่งนี้จะมีน้ำแข็งไหลลงมาเรื่อยๆตลอดปี นั่งกันอยู่ที่นี่เงียบๆก็จะได้ยินเสียงน้ำแข็งแตกดังก้องแล้วไหลลงมาที่แม่น้ำเป็นระยะ มันเป็นอะไรที่อัศจรรย์ใจมากเลยละค่ะ น้ำด้านล่างเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมายจนกลายเป็นสีเขียวอมฟ้าสวยงามจับใจ นั่งกันอยู่ประมาณ 2 ชม ก็ได้เวลากลับแล้วเพราะนัดช่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไว้ ตอนลงมาที่ลานจอดรถ เห็นมีกลุ่มไบค์เกอร์ข้ามประเทศมาจอดอยู่ข้างๆรถเราเพียบเลย มดแดงเลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วดันลืมวางไว้ตรงไกล้ๆ เพื่อจัดสัมภาระก่อนกลับ ขากลับออกมาประมาณ 50 กม แล้ว นึกขึ้นได้ว่าลืมเอาไว้ที่นั่น ขี่กลับไปเอา ถามเจ้าหน้าที่เกือบทุกคนก็ไม่เห็น หายไปแล้วละค่ะ มดแดงนี่ร้องให้เลย ที่สวยๆแบบนี้ ไม่รู้ชีวิตนี้จะได้มาอีกรึเปล่านะคะ ยังโชคดีที่มีรูปจากกล้องมือถือของไอ้หนุ่มผมยาวไว้ มาให้เพื่อนๆได้ดูกันบ้างนะคะ
ธารน้ำแข็ง Perito Moreno
มอเตอร์ไซค์มาจอดข้างๆ อยากถ่ายรูปเก็บไว้ กล้องหายเลย T_T
หลังจากนั้นเราก็ขี่กลับเอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วเดินทางต่อวันรุ่งขึ้นเลย