แผนช่วยทีวีดิจิตอลเคว้ง ‘คลัง-อสส.-กฤษฎีกา’ เสียงแตก ลุ้นประชุมต่อต้นมี.ค.
มติชน ฉบับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
บอร์ด กสทช.ยังไร้ข้อสรุปแนวช่วยเหลือทีวีดิจิตอล เหตุไม่ลงตัว หลังคลัง-อสส.-กฤษฎีกามีความเห็นคนละทาง ลุ้นประชุมรอบต่อไปต้น มี.ค.นี้ เล็งเสนอ คตร.เห็นชอบแจกคูปองหนุนค่าอุปกรณ์รับชม 690 บาท เพิ่มอีก 11.6 ล้านใบ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ สำนักงาน กสทช.ได้มีการรายงานปัญหาและแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลในประเด็นต่างๆ ที่สำนักงาน กสทช. สามารถช่วยเหลือได้แล้ว ได้แก่ การแจกคูปองสนับสนุนค่าอุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอล มูลค่า 690 บาท เพิ่มอีกจำนวน 11.6 ล้านใบ ให้แก่ครัวเรือนเรื่องที่ได้รับสิทธิแต่ไม่ได้คูปองครั้งก่อน ครัวเรือนที่มีเจ้าบ้านและทะเบียนบ้าน หลังวันที่ 16 กันยายน 2558 ครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้านมีผู้อาศัยแต่ไม่มีเจ้าบ้าน บ้านพักราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ และครัวเรือนที่ใช้ทะเบียนบ้านร่วมกัน โดยวันที่ 16 กุมภาพันธ์ กสทช.เดินทางไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวแก่คณะกรรมการการตรวจสอบการใช้จ่ายภาครัฐ (คตร.) ซึ่งหาก คตร.อนุญาตจะมีการส่งเรื่องต่อไปยังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาอนุมัติให้เริ่มดำเนินการ
นายฐากรกล่าวว่า ประเด็นอื่นๆ ที่ กสทช.สามารถดำเนินการได้แล้ว คือการเรียงช่องให้เหมือนกันทุกรูปช่องทางออกอากาศได้เป็นอำนาจสำนักงาน กสทช. ที่สามารถบังคับให้ดำเนินเป็นไปตามข้อกำหนดของ กสทช. ซึ่งปัจจุบันมีเพียง โครงข่าย ทรูวิชั่นส์ เพียงรายเดียว ที่ไม่ดำเนินการ เรื่องการทำประชาสัมพันธ์ทีวีดิจิตอล มูลค่าโครงการ 60 ล้านบาท ทาง กสทช.ได้ออกประกาศประกวดราคาแล้ว เรื่องลดค่าเช่าโครงข่ายสำนักงาน กสทช.ได้ส่งเรื่องต่อไปให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เป็นผู้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว และเรื่องลดการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) กสทช. อยู่ระหว่างปรับปรุงร่างประกาศเก็บเงินใหม่ โดยจะปรับเพียง 0.1-1% จากรายได้รวมต่อปี
นายฐากรกล่าวว่า ประเด็นที่เกินของข่ายอำนาจสำนักงาน กสทช. และต้องให้บอร์ด กสทช.เป็นผู้ตัดสินใจ ได้แก่ เลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 3 การขยายระยะเวลาใบอนุญาตอีก 1 ปี การคืนใบอนุญาตได้โดยไม่ต้องชำระเงินงวดที่เหลือ การใช้เงิน กสทช.ในการจัดจำหน่วยงานกลางชี้วัดเรตติ้ง และการใช้งาน กสทช.ช่วยเหลือผู้ประกอบการในส่วนของการอัพโหลดสัญญาณช่องรายการทีวีดิจิตอลขึ้นดาวเทียม
“หลังการพิจารณาบอร์ด กสทช.มีมติให้เลื่อนการพิจารณาเป็นครั้งต่อไป ซึ่งนัดหมายคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอลที่มีตัวแทนจากกระทรวงการคลัง สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานกฤษฎีกา สรุปผลการพิจารณาเสร็จสิ้น เนื่องจากการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ทั้ง 3 หน่วยงาน ยังมีความเห็นกันไปคนละทิศทาง กสทช.จึงขอให้นำประเด็นต่างๆ กลับไปปรึกษาหัวหน้างานในหน่วยงานของตน คาดอย่างช้าจะหาข้อสรุปประเด็นต่างๆ ต้นเดือนมีนาคม” นายฐากรกล่าว
นายฐากรกล่าวว่า พร้อมกันนี้บอร์ด กสทช.มีมติอนุมัติงบรายจ่ายประจำปี 2559 จำนวน 5,395.4 ล้านบาท เพิ่มสูงจากปี 2558 ประมาณ 1% ซึ่งเป็นการตั้งงบประมาณแบบเกินดุล เนื่องจากคาดการณ์ กสทช.จะมีรายได้ประมาณ 8,500 ล้านบาท ส่วนเงินที่เกินมาจากงบรายจ่าย กสทช.มีแผนส่งเข้ากองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และกองทุน กสทช. 278.4 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 (หน้า 8)
แผนช่วยทีวีดิจิตอลเคว้ง ‘คลัง-อสส.-กฤษฎีกา’เสียงแตก ลุ้นประชุมต่อต้น มี.ค.
แผนช่วยทีวีดิจิตอลเคว้ง ‘คลัง-อสส.-กฤษฎีกา’ เสียงแตก ลุ้นประชุมต่อต้นมี.ค.
มติชน ฉบับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
บอร์ด กสทช.ยังไร้ข้อสรุปแนวช่วยเหลือทีวีดิจิตอล เหตุไม่ลงตัว หลังคลัง-อสส.-กฤษฎีกามีความเห็นคนละทาง ลุ้นประชุมรอบต่อไปต้น มี.ค.นี้ เล็งเสนอ คตร.เห็นชอบแจกคูปองหนุนค่าอุปกรณ์รับชม 690 บาท เพิ่มอีก 11.6 ล้านใบ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ สำนักงาน กสทช.ได้มีการรายงานปัญหาและแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลในประเด็นต่างๆ ที่สำนักงาน กสทช. สามารถช่วยเหลือได้แล้ว ได้แก่ การแจกคูปองสนับสนุนค่าอุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอล มูลค่า 690 บาท เพิ่มอีกจำนวน 11.6 ล้านใบ ให้แก่ครัวเรือนเรื่องที่ได้รับสิทธิแต่ไม่ได้คูปองครั้งก่อน ครัวเรือนที่มีเจ้าบ้านและทะเบียนบ้าน หลังวันที่ 16 กันยายน 2558 ครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้านมีผู้อาศัยแต่ไม่มีเจ้าบ้าน บ้านพักราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ และครัวเรือนที่ใช้ทะเบียนบ้านร่วมกัน โดยวันที่ 16 กุมภาพันธ์ กสทช.เดินทางไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวแก่คณะกรรมการการตรวจสอบการใช้จ่ายภาครัฐ (คตร.) ซึ่งหาก คตร.อนุญาตจะมีการส่งเรื่องต่อไปยังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาอนุมัติให้เริ่มดำเนินการ
นายฐากรกล่าวว่า ประเด็นอื่นๆ ที่ กสทช.สามารถดำเนินการได้แล้ว คือการเรียงช่องให้เหมือนกันทุกรูปช่องทางออกอากาศได้เป็นอำนาจสำนักงาน กสทช. ที่สามารถบังคับให้ดำเนินเป็นไปตามข้อกำหนดของ กสทช. ซึ่งปัจจุบันมีเพียง โครงข่าย ทรูวิชั่นส์ เพียงรายเดียว ที่ไม่ดำเนินการ เรื่องการทำประชาสัมพันธ์ทีวีดิจิตอล มูลค่าโครงการ 60 ล้านบาท ทาง กสทช.ได้ออกประกาศประกวดราคาแล้ว เรื่องลดค่าเช่าโครงข่ายสำนักงาน กสทช.ได้ส่งเรื่องต่อไปให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เป็นผู้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว และเรื่องลดการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) กสทช. อยู่ระหว่างปรับปรุงร่างประกาศเก็บเงินใหม่ โดยจะปรับเพียง 0.1-1% จากรายได้รวมต่อปี
นายฐากรกล่าวว่า ประเด็นที่เกินของข่ายอำนาจสำนักงาน กสทช. และต้องให้บอร์ด กสทช.เป็นผู้ตัดสินใจ ได้แก่ เลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 3 การขยายระยะเวลาใบอนุญาตอีก 1 ปี การคืนใบอนุญาตได้โดยไม่ต้องชำระเงินงวดที่เหลือ การใช้เงิน กสทช.ในการจัดจำหน่วยงานกลางชี้วัดเรตติ้ง และการใช้งาน กสทช.ช่วยเหลือผู้ประกอบการในส่วนของการอัพโหลดสัญญาณช่องรายการทีวีดิจิตอลขึ้นดาวเทียม
“หลังการพิจารณาบอร์ด กสทช.มีมติให้เลื่อนการพิจารณาเป็นครั้งต่อไป ซึ่งนัดหมายคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอลที่มีตัวแทนจากกระทรวงการคลัง สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานกฤษฎีกา สรุปผลการพิจารณาเสร็จสิ้น เนื่องจากการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ทั้ง 3 หน่วยงาน ยังมีความเห็นกันไปคนละทิศทาง กสทช.จึงขอให้นำประเด็นต่างๆ กลับไปปรึกษาหัวหน้างานในหน่วยงานของตน คาดอย่างช้าจะหาข้อสรุปประเด็นต่างๆ ต้นเดือนมีนาคม” นายฐากรกล่าว
นายฐากรกล่าวว่า พร้อมกันนี้บอร์ด กสทช.มีมติอนุมัติงบรายจ่ายประจำปี 2559 จำนวน 5,395.4 ล้านบาท เพิ่มสูงจากปี 2558 ประมาณ 1% ซึ่งเป็นการตั้งงบประมาณแบบเกินดุล เนื่องจากคาดการณ์ กสทช.จะมีรายได้ประมาณ 8,500 ล้านบาท ส่วนเงินที่เกินมาจากงบรายจ่าย กสทช.มีแผนส่งเข้ากองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และกองทุน กสทช. 278.4 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 (หน้า 8)