เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เรามีเพื่อนเป็นตัวแทนประกันบริษัทประกันสีฟ้า สโลแกน เคียงข้าง ทุกชีวิต เพื่อนคนนี้นิสัยดี มีน้ำใจ มีอะไรก็คอยช่วยเหลือตลอด เราสมมติว่าเขาชื่อสมหญิงละกันนะค่ะ สมหญิงเป็นตัวแทนสังกัดหน่วยที่กาญจนบุรี เมื่อตอนสิ้นปีภาษีก่อน เรามีบริษัทค้าขายเล็กๆน้อยๆ ช่วงเดือนนั้นเป็นช่วงสิ้นปีที่สำนักงานบัญชีกำลังทำสรุปบัญชีเพื่อยื่นเสียภาษีให้กับสรรพากร ในปีนั้นเรามีกำไรนิดหน่อย สมหญิงเพื่อนรักบอกว่าอยากช่วยให้เรามีกำไรมากขึ้น จึงแนะนำว่าทางบริษัทมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยลดหย่อนภาษีได้ 100%
เธอเรียกประกันตัวนี้ว่า Keyman Insurance เธอเล่าว่าประกันตัวนี้จะสามารถใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีได้เหมือนกับประกันในบุคคลธรรมดา สมหญิงช่วยเราคำนวณเบี้ยประกันจำนวนที่คุ้มค่าที่สุด ที่เราจะต้องเสียเพื่อใช้นำมาเป็นค่าลดหย่อน เราดีใจน้ำตาแทบไหล ที่มีเพื่อนดีขนาดนี้ สมหญิงคำนวณให้เราเรียบร้อย เบี้ยประกันอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท สมหญิงยังบอกว่าค่าคอมเขาไม่เอา เขาจะคืนให้เมื่อเขาได้รับค่าคอมแล้ว เขาต้องการเพียงยอดเท่านั้น
แต่เราเห็นเป็นยอดเงินจำนวนมาก เราขอเวลาสมหญิง เพื่อไปคุยกับสำนักงานบัญชี และ ทนายประจำบริษัทก่อน แต่สมหญิงและเพื่อนเธอ 2-3 คน ต้องการปิดการขาย และช่วยกันโน้มน้าวมากมาย อ้างว่าเดี๋ยวประกันจะออกไม่ทัน ขอเราให้รีบทำจ่าย แล้วเธอจะรีบติดต่อสำนักงานใหญ่เพื่อออกหนังสือกรมธรรม์ให้ทันปีภาษี เรามันก็เป็นคนมองโลกสวยเกินไป สมหญิงเธอย้ำกับเราว่ามีแต่ได้ ไม่มีเสีย เราก็เคลิ้มตาม และชำระเงินไป
พอต้นเดือนมกรา สมหญิงเธอมาหาเราที่ออฟฟิต ขอโทษขอโพยที่มาช้าเพราะประสบอุบัติเหตุระหว่างวิ่งจากกาญเอาเอกสารมาให้เราเซ็นต์ เราเห็นหัวหนังสือเขียนว่ารายงานการประชุม เราอยากจะอ่านเนื้อความ แต่เธอชี้แต่จุดที่เราต้องเซ็นต์ชื่อ และขอให้เซ็นต์เท่านั้น พอเราเซ็นต์เสร็จ เธอรีบเอาเอกสารไปแล้วบอกว่า ต้องรีบเอาหนังสือตัวนี้เข้าสำนักงานใหญ่ กรมธรรม์จะได้สมบรูณ์ ใช้ลดหย่อนภาษีได้ทัน
หลังจากนั้นไม่นาน เราเอาเรื่องนี้ไปคุยกับสำนักงานบัญชี สำนักงานบัญชีแจ้งว่า เราสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีนิติบุคลได้จริง แต่กรรมการผู้มีชื่อใน กรมธรรม์ต้องเป็นคนรับภาระภาษีบุคคลธรรมดา ประหนึ่งว่าได้รับประโยชน์จากบริษัท เราก็เลยลองค้นหาในเน็ตว่ามีเคสเดียวกันนี้ไหม เราพบคำวินิจฉัยของกรมสรรพากร ตรงตามที่สำนักงานบัญชีบอก ในปีนั้นนิติบุคคลเสียประมาณ 23% แต่ถ้าเสียภาษีบุคคลธรรมดา เราต้องเสียที่อัตรา 30%
เราจึงโทรไปหาตัวแทนประกัน ตัวแทนประกันก็ยืนยันว่า จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ไม่เช่นนั้น บริษัทประกันสีฟ้าก็คงมีคดีและถูกฟ้องกันเยอะแยะไปหมดแล้ว เธอยืนยันว่าเราเป็นคนแรกที่ท้วงเธอเรื่องนี้ ที่ผ่านมายังไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย เธอยังบอกว่าจะนัดอาจารย์ที่รู้กฎหมายมาอธิบายให้เราฟัง จะได้สบายใจว่าเราไม่ได้เสียอะไรเลยนะ เรามีแต่ได้กับได้ เธอย้ำแล้วย้ำอีกว่าเราไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาสำหรับเงินกรมธรรม์ 1 ล้าน ที่บริษัททำให้กับเรา
เราพยายามหาข้อมูลตามที่ต่างๆ สุดท้ายเราได้พบหนังสือรายงานการประชุมที่หลายเดือนก่อนเธอบอกให้เราเซ็นต์ชื่อ เราค่อยๆอ่านเนื้อความทีละข้อ และ พบว่า มีหัวข้อหนึ่งพูดถึงเรื่องภาษี ระบุว่าเพื่อเป็นสวัสดิการแก่พนักงาน ทางบริษัทจะทำประกันให้กับ keyman และ เงินได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตัวบุคคล ทางบริษัทจะเป็นผู้ชำระภาษีแทนให้ทั้งหมด
พอเราเห็นข้อนี้ แทบจะเป็นลม โกรธก็โกรธ คือนังสมหญิงมันรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้น เพราะมันเป็นคนทำหนังสือรายงานการประชุมมาให้เราเซ็นต์ เราเข้าใจมาตลอด ว่ามันตกเป็นเหยื่อของบริษัทประกันสีฟ้าเหมือนกับเรา เราขอมันยกเลิกกรมธรรม์ หรือไม่ก็เอาค่าคอมคืนให้เราบางส่วน มันกลับบอกว่า มันได้ค่าคอม เพียง 10% และไม่สามารถให้เราได้ และ กรมธรรม์ก็เลยกำหนดยกเลิกแล้ว ไม่สามารถยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ได้ ส่งปีเดียวมูลค่าเวรคืนเท่ากับศูนย์
เราจึงโทรเข้า Call Center ของหน่วยงานคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ทำประกันของบริษัทประกันนั้น ทางสำนักงานใหญ่เรียกเซลล์และหัวหน้า หน่วยมาคุยกับเราที่ออฟฟิต เราเอาหลักฐานทั้งหมดและพยานบุคคลยืนยันให้ดู แล้วถามหัวหน้าประกันว่า ถ้าเขาเป็นเรา เขาคิดว่าเซลล์เขาผิดไหมที่ เจตนาปกปิดข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญของสัญญาประกัน และ เจตนาหลอกลวงจนทำให้เสียทรัพย์ ตัวหัวหน้าก็ยอมรับว่าลูกน้องตัวเองผิด และแจ้งว่าจะจดบันทึกคำให้การทั้งหมด แล้วจะส่งให้เราตรวจเซ็นต์รับรอง ก่อนส่งสำนักงานใหญ่
เราก็รอจนผ่านไปเป็นเดือน จนเราเพิ่งมารู้ว่ากรมธรรม์เราหมดอายุ ไม่สามารถต่อประกันได้อีก ปกติประกันที่อื่นจะมีจดหมายมาเตือนว่าครบกำหนดต้องชำระค่าประกันรอบถัดไป หรือ บางทีก็จะมีโทรศัพท์จากตัวแทนมาเตือนให้ไปจ่ายค่าประกัน แต่เราไม่ได้รับจดหมายเตือนจากบริษัทประกัน พอเราโทรไปหาตัวแทน ตัวแทนก็บอกว่าฝากบอกไปกับพนักงานของเราคนหนึ่ง ซึ่งพนักงานคนนี้ลาออกจากบริษัทไปครึ่งปีได้แล้ว แปลกไหมค่ะ แทนที่จะโทรหาคนทำประกัน แต่ตัวแทนกลับไปบอกปากเปล่ากับใครก็ไม่รู้ ที่ไม่มีส่วนได้เสียกับประกัน
กลับมาที่เรื่องรอหนังสือบันทึกคำให้การกันต่อนะค่ะ เรารอหนังสือบันทึกคำให้การไม่ไหว เราโทรไปถามความคืบหน้าว่าตกลงบันทึกคำให้การจะส่งให้กับเราเมื่อไร ตัวหัวหน้าก็บอกปัดว่าทางสำนักงานใหญ่จะเป็นคนติดต่อมา เราติดต่อไปหลายครั้งมาก แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เราจึงโทรเขา Call center อีกครั้งทางเจ้าหน้าที่ call center ได้ส่งหนังสือบันทึกการร้องเรียนของสำนักงานคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้ทำประกัน พี่เขาบอกให้เราเขียนสั้นๆ พอได้ใจความ แล้วเขาจะช่วยจัดการให้
รบกวนผู้บริหารของสำนักประกันภัยสีฟ้าช่วยมาดูหน่อยเถอะค่ะ เซลล์ของคุณหลอกลวงให้ข้อมูลไม่ครบ และให้การเป็นเท็จ คุณสมควรทำอะไรกับเซลล์ที่ไร้จรรยาบรรณกลุ่มนี้บ้าง บริษัทคุณเสียค่าโฆษณาเพื่อสร้างภาพว่าเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาล แต่คุณตกม้าตายด้วยการกระทำแย่ๆ ของตัวแทนบริษัทบางคน ที่ได้กระทำการอันไร้ยางอายกับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเสียทั้งทรัพย์และเสียทั้งความไว้วางใจ หวังว่าเราจะได้รับความยุติธรรมกลับคืนมานะค่ะ
กลโกงจากบริษัทประกันสีฟ้า ระวัง!!! แม้ตัวแทนขายจะเป็นคนใกล้ตัวคุณ
เธอเรียกประกันตัวนี้ว่า Keyman Insurance เธอเล่าว่าประกันตัวนี้จะสามารถใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีได้เหมือนกับประกันในบุคคลธรรมดา สมหญิงช่วยเราคำนวณเบี้ยประกันจำนวนที่คุ้มค่าที่สุด ที่เราจะต้องเสียเพื่อใช้นำมาเป็นค่าลดหย่อน เราดีใจน้ำตาแทบไหล ที่มีเพื่อนดีขนาดนี้ สมหญิงคำนวณให้เราเรียบร้อย เบี้ยประกันอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท สมหญิงยังบอกว่าค่าคอมเขาไม่เอา เขาจะคืนให้เมื่อเขาได้รับค่าคอมแล้ว เขาต้องการเพียงยอดเท่านั้น
แต่เราเห็นเป็นยอดเงินจำนวนมาก เราขอเวลาสมหญิง เพื่อไปคุยกับสำนักงานบัญชี และ ทนายประจำบริษัทก่อน แต่สมหญิงและเพื่อนเธอ 2-3 คน ต้องการปิดการขาย และช่วยกันโน้มน้าวมากมาย อ้างว่าเดี๋ยวประกันจะออกไม่ทัน ขอเราให้รีบทำจ่าย แล้วเธอจะรีบติดต่อสำนักงานใหญ่เพื่อออกหนังสือกรมธรรม์ให้ทันปีภาษี เรามันก็เป็นคนมองโลกสวยเกินไป สมหญิงเธอย้ำกับเราว่ามีแต่ได้ ไม่มีเสีย เราก็เคลิ้มตาม และชำระเงินไป
พอต้นเดือนมกรา สมหญิงเธอมาหาเราที่ออฟฟิต ขอโทษขอโพยที่มาช้าเพราะประสบอุบัติเหตุระหว่างวิ่งจากกาญเอาเอกสารมาให้เราเซ็นต์ เราเห็นหัวหนังสือเขียนว่ารายงานการประชุม เราอยากจะอ่านเนื้อความ แต่เธอชี้แต่จุดที่เราต้องเซ็นต์ชื่อ และขอให้เซ็นต์เท่านั้น พอเราเซ็นต์เสร็จ เธอรีบเอาเอกสารไปแล้วบอกว่า ต้องรีบเอาหนังสือตัวนี้เข้าสำนักงานใหญ่ กรมธรรม์จะได้สมบรูณ์ ใช้ลดหย่อนภาษีได้ทัน
หลังจากนั้นไม่นาน เราเอาเรื่องนี้ไปคุยกับสำนักงานบัญชี สำนักงานบัญชีแจ้งว่า เราสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีนิติบุคลได้จริง แต่กรรมการผู้มีชื่อใน กรมธรรม์ต้องเป็นคนรับภาระภาษีบุคคลธรรมดา ประหนึ่งว่าได้รับประโยชน์จากบริษัท เราก็เลยลองค้นหาในเน็ตว่ามีเคสเดียวกันนี้ไหม เราพบคำวินิจฉัยของกรมสรรพากร ตรงตามที่สำนักงานบัญชีบอก ในปีนั้นนิติบุคคลเสียประมาณ 23% แต่ถ้าเสียภาษีบุคคลธรรมดา เราต้องเสียที่อัตรา 30%
เราจึงโทรไปหาตัวแทนประกัน ตัวแทนประกันก็ยืนยันว่า จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ไม่เช่นนั้น บริษัทประกันสีฟ้าก็คงมีคดีและถูกฟ้องกันเยอะแยะไปหมดแล้ว เธอยืนยันว่าเราเป็นคนแรกที่ท้วงเธอเรื่องนี้ ที่ผ่านมายังไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย เธอยังบอกว่าจะนัดอาจารย์ที่รู้กฎหมายมาอธิบายให้เราฟัง จะได้สบายใจว่าเราไม่ได้เสียอะไรเลยนะ เรามีแต่ได้กับได้ เธอย้ำแล้วย้ำอีกว่าเราไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาสำหรับเงินกรมธรรม์ 1 ล้าน ที่บริษัททำให้กับเรา
เราพยายามหาข้อมูลตามที่ต่างๆ สุดท้ายเราได้พบหนังสือรายงานการประชุมที่หลายเดือนก่อนเธอบอกให้เราเซ็นต์ชื่อ เราค่อยๆอ่านเนื้อความทีละข้อ และ พบว่า มีหัวข้อหนึ่งพูดถึงเรื่องภาษี ระบุว่าเพื่อเป็นสวัสดิการแก่พนักงาน ทางบริษัทจะทำประกันให้กับ keyman และ เงินได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตัวบุคคล ทางบริษัทจะเป็นผู้ชำระภาษีแทนให้ทั้งหมด
พอเราเห็นข้อนี้ แทบจะเป็นลม โกรธก็โกรธ คือนังสมหญิงมันรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้น เพราะมันเป็นคนทำหนังสือรายงานการประชุมมาให้เราเซ็นต์ เราเข้าใจมาตลอด ว่ามันตกเป็นเหยื่อของบริษัทประกันสีฟ้าเหมือนกับเรา เราขอมันยกเลิกกรมธรรม์ หรือไม่ก็เอาค่าคอมคืนให้เราบางส่วน มันกลับบอกว่า มันได้ค่าคอม เพียง 10% และไม่สามารถให้เราได้ และ กรมธรรม์ก็เลยกำหนดยกเลิกแล้ว ไม่สามารถยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ได้ ส่งปีเดียวมูลค่าเวรคืนเท่ากับศูนย์
เราจึงโทรเข้า Call Center ของหน่วยงานคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ทำประกันของบริษัทประกันนั้น ทางสำนักงานใหญ่เรียกเซลล์และหัวหน้า หน่วยมาคุยกับเราที่ออฟฟิต เราเอาหลักฐานทั้งหมดและพยานบุคคลยืนยันให้ดู แล้วถามหัวหน้าประกันว่า ถ้าเขาเป็นเรา เขาคิดว่าเซลล์เขาผิดไหมที่ เจตนาปกปิดข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญของสัญญาประกัน และ เจตนาหลอกลวงจนทำให้เสียทรัพย์ ตัวหัวหน้าก็ยอมรับว่าลูกน้องตัวเองผิด และแจ้งว่าจะจดบันทึกคำให้การทั้งหมด แล้วจะส่งให้เราตรวจเซ็นต์รับรอง ก่อนส่งสำนักงานใหญ่
เราก็รอจนผ่านไปเป็นเดือน จนเราเพิ่งมารู้ว่ากรมธรรม์เราหมดอายุ ไม่สามารถต่อประกันได้อีก ปกติประกันที่อื่นจะมีจดหมายมาเตือนว่าครบกำหนดต้องชำระค่าประกันรอบถัดไป หรือ บางทีก็จะมีโทรศัพท์จากตัวแทนมาเตือนให้ไปจ่ายค่าประกัน แต่เราไม่ได้รับจดหมายเตือนจากบริษัทประกัน พอเราโทรไปหาตัวแทน ตัวแทนก็บอกว่าฝากบอกไปกับพนักงานของเราคนหนึ่ง ซึ่งพนักงานคนนี้ลาออกจากบริษัทไปครึ่งปีได้แล้ว แปลกไหมค่ะ แทนที่จะโทรหาคนทำประกัน แต่ตัวแทนกลับไปบอกปากเปล่ากับใครก็ไม่รู้ ที่ไม่มีส่วนได้เสียกับประกัน
กลับมาที่เรื่องรอหนังสือบันทึกคำให้การกันต่อนะค่ะ เรารอหนังสือบันทึกคำให้การไม่ไหว เราโทรไปถามความคืบหน้าว่าตกลงบันทึกคำให้การจะส่งให้กับเราเมื่อไร ตัวหัวหน้าก็บอกปัดว่าทางสำนักงานใหญ่จะเป็นคนติดต่อมา เราติดต่อไปหลายครั้งมาก แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เราจึงโทรเขา Call center อีกครั้งทางเจ้าหน้าที่ call center ได้ส่งหนังสือบันทึกการร้องเรียนของสำนักงานคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้ทำประกัน พี่เขาบอกให้เราเขียนสั้นๆ พอได้ใจความ แล้วเขาจะช่วยจัดการให้
รบกวนผู้บริหารของสำนักประกันภัยสีฟ้าช่วยมาดูหน่อยเถอะค่ะ เซลล์ของคุณหลอกลวงให้ข้อมูลไม่ครบ และให้การเป็นเท็จ คุณสมควรทำอะไรกับเซลล์ที่ไร้จรรยาบรรณกลุ่มนี้บ้าง บริษัทคุณเสียค่าโฆษณาเพื่อสร้างภาพว่าเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาล แต่คุณตกม้าตายด้วยการกระทำแย่ๆ ของตัวแทนบริษัทบางคน ที่ได้กระทำการอันไร้ยางอายกับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเสียทั้งทรัพย์และเสียทั้งความไว้วางใจ หวังว่าเราจะได้รับความยุติธรรมกลับคืนมานะค่ะ