
ใกล้ตรุษจีนแล้วยังไม่รู้จะไปไหน เป็นธรรมเนียมของผม ต้องหาเรื่องเที่ยว หาเรื่องกิน หาเรื่องพักผ่อน หาเรื่องใช้ตัง หลังจากเหนื่อยมาทั้งปี ก็เลยมาวางแผนว่า ตรุษจีนปีนี้จะไปไหนกันดี หันไปถามศรีภรรยา เธอตอบมาทันใด “ อยู่บ้าน เศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีตัง ไม่ไป ” พร้อมส่งประกายรังสีอำมหิตมาทางสายตา เอาไงดี ขอเวลาคิดแพบบ แล้วแผนการอันแยบยลที่จะหาเรื่องเที่ยวก็ผุดขึ้นมา
“เออ คือว่า.. เธอ.. ชั้นอยากไปไหว้พระ กราบอาจารย์ที่อุบลฯ แล้วก็เธอเองก็ยังไม่เคยไปอุบลฯเลย แล้วอยากจะพาแม่เธอไปนั่งเครื่องด้วย แม่เค้ายังไม่เคยนั่งเครื่องเลย “
สำเร็จครับ แผนการผ่านฉลุย ทีนี้ก็เริ่มวางแผนว่าจะเดินทางกี่โมง จะไปไหนบ้าง หาเที่ยวบิน ไป-กลับ หารถเช่า หาที่พัก
เริ่มกันที่การเดินทางไปอุบลฯ ผมเลือกนกแอร์ด้วยสองสามเหตุผล คือเลือกที่นั่งติดกันได้ทั้งกลุ่ม มีเที่ยวบินเช้าที่สุด เจ้าอื่นๆ ออกหลังนกแอร์ประมาณชั่วโมงนึง จะได้มีเวลาเที่ยวเพิ่มขึ้น สุดท้ายจอง DD 9310 ออก 6.05 น.ถึงอุบลฯ 7.00 น. พอใกล้วันเดินทางน้องนกก็แจ้งว่า ขอเรียนท่านผู้โดยสารว่า เที่ยวบิน DD 9310 ขอนำไปยำรวมกับ DD9312 นะคะ เวลาออกใหม่ 7.25 น. ค่ะ อ่ะ งานเริ่มงอก จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลรถเช่า มาลงตัวที่ ECO CAR ของน้องอ๋า ได้รถนิสสันอัลเมร่า ราคาแอบแรงไปนิด วันละ 1,100 บาทมีเศษนิดหน่อย แต่สะดวกตรงที่ไม่ต้องรูดบัตร เพียงแต่วางมัดจำไว้ 5,000 บาท พูดจาสุภาพ บริการดี ติดต่อได้ครับที่ โทร. คุณอ๋า 087-204 6820 ได้เที่ยวบิน ได้รถ ทีนี้ก็โทรหา บ้านสวนณัฐชนา บ้านสองคอน อาจารย์เรืองประทิน 081-999 0298 หรือคุณณัฐชนา 081-725 4728 จองวัน จองห้อง แล้วรอวันเวลาเดินทาง
ตัดฉับกลับมาที่วันเดินทาง ขับรถออกจากบ้านตั้งแต่สามทุ่ม (ผมอยู่ต่างจังหวัด ห่างจาก กทม.ประมาณ 380 กม.) ถึงดอนเมืองตีสี่กว่าๆ เพราะได้ข่าวว่ารอบเช้ามีผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องเยอะมาก ให้มารอก่อนนานๆๆๆๆ แถวตรวจความปลอดภัยยาวมากกกก ขับรถไปที่จอดรถแล้วมาเช็คอิน วันนี้ได้เกต 34 มองออกไปท่ามกลางความมืดตอนตีห้า เห็นน้องสิงโตจอดอยู่เตรียมตัวไปภูเก็ต รอจนสว่างน้องสิงโตไปแล้ว แต่น้องนกยังไม่มา รอ รอ รอ จน 7.15น. (ตามเวลาออก) จึงเห็นรถพุชแบคลากน้องนกมาเข้างวง สุดท้ายกว่าจะได้ออกจริง 8.03 น. ตามคอนเซ็ปของนกแอร์
ทริปนี้ใช้มือถือของซัมซุงถ่ายล้วนๆ ไม่อยากหิ้วกล้องไป บางภาพอาจจะเบลอๆ ขอปิดบังใบหน้า เพราะว่าผมไม่หล่อ เมียไม่สวย แม่ยายอายุเยอะ ลูกชายคนโตหล่อมากแต่หวง ส่วนลูกสาวคนเล็ก อยากโชว์ความน่ารักครับ
วันนี้ บินด้วย HS-DBA
บอร์ดแล้วคะ
เตรียมเดินทาง
ของว่างบนเครื่องครับ
พาหนะของเราครับ
ใช้เวลาไม่นาน เพียง 50 นาที เราก็มาถึงอุบลราชธานี อากาศเย็นๆ 13 องศาก็รอต้อนรับเราอยู่ โดยมีไทยสไมล์เตรียมตัวเดินทางกลับดอนเมืองจอดอยู่ข้างๆ รับกระเป๋าแล้ว ออกมารับรถเช่า จากนั้นก็หาของกินรองท้องก่อนครับ มาถึงอุบลฯแล้วอาหารเช้าเจ้าดังต้องที่นี่ สามชัย สาขาจวนผู้ว่าฯ เมื่อก่อนนี้ ร้านสามชัยอยู่หน้าศาล แต่ปัจจุบันที่สาขาหน้าศาลได้ปรับเปลี่ยนไปเป็นร้านขายของฝากแนว หมูยอ กุนเชียง ไปแล้ว การเดินทางออกจากสนามบินให้ขับรถตรงมาเรื่อยๆ ใช้ถนนเทพโยธี พอผ่านสี่แยกที่สี่ที่ตัดกับถนนพิชิตรังสรรค์ ก็เตรียมตัวหาที่จอดทางซ้ายมือได้เลยครับ เนื่องจากว่าเรามากันค่อนข้างสายแล้ว เก้าโมงกว่า จึงมีที่ว่างให้นั่งได้สะบาย หาที่นั่งได้แล้วก็เริ่มสั่งอาหารกัน พอสั่งอาหารเสร็จ หายใจเข้า พอเริ่มหายใจออกได้ครึ่งนึง ไข่กระทะร้อนๆ ก็มาวางอยู่ตรงหน้า รวดเร็วจริง เร็วจนยังไม่ได้บิ้วอารมณ์เลย ไข่กระทะ หมูยอนึ่ง ข้าวมันไก่ จานละ 40.- ข้าวต้มปลา 35.- กาแฟโบราณร้อน โอวัลตินร้อน ปลาท่องโก๋ สิริค่าเสียหาย 300.- บาทถ้วน
ไข่กระทะ อาหารขึ้นชื่อ
ภาระกิจลุล่วงครับ
เติมพลังกันแล้ว ขับรถย้อนกลับไปทางสนามบินถึงสี่แยกสุดท้ายก่อนถึงสนามบินให้เลี้ยวขวาเข้าถนนอุบลฯ-ตระการฯ ครับ เราจะไปกราบหลวงปู่บุญมี โชติปาโล กัน ขับไปประมาณ 2 กม.จะเจอสี่แยกไฟแดง ให้เลี้ยวซ้ายตามป้าย วัดสระประสานสุขหรือวัดหนองบัวหลวงปู่บุญมี เมื่อวันที่ 22-25 มกราคมที่ผ่านมา เพิ่งจะมีงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ซึ่งสังขารท่านไม่เน่าไม่เปื่อย แต่เรามาวันนี้จะมากราบอัฐิธาตุของท่าน กราบหลวงปู่บุญมีแล้วก็ออกเดินทางไปยังวัดหนองบัว ซึ่งเป็นคนละหนองบัวเมื่อสักครู่ ที่วัดหนองบัวแห่งนี้จะมีเจดีย์พุทธคยาจำลอง ตั้งอยู่ ด้านบนบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัดตั้งอยู่บนถนนธรรมวิถี โดยแยกออกจากถนนชยางกูร หมายเลข 212 อีกทีหนึ่ง
กราบหลวงปู่บุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข
ไหว้พระวัดหนองบัว นมัสการเจดีย์พุทธคยาจำลอง
ออกจากวัดหนองบัว ผมขับรถตรงดิ่งไปตามถนนชยางกูร ผ่านทุ่งศรีเมือง ข้ามสะพานแม่น้ำมูลเข้าสู่อำเภอวารินฯ ตรงไปเรื่อยๆ อีก 3 กม.ตามเส้นทางหมายเลข 2178 สังเกตทางขวามีซอยไปวัดหนองป่าพง ก็กลับรถ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยตามป้ายไปวัดหนองป่าพง เพื่อไปกราบหลวงปู่ชา สุภัทโทกันนะครับ
หลวงปู่ชา สุภัทโทเป็นอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นผู้ก่อตั้งวัดป่านานาชาติที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมายเป็นชาวต่างชาติ และมีวัดสาขาทั่วไทย
จอดรถไว้ด้านนอกแล้วเดินเข้าไปในวัดกันครับ ด้านหน้าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่ ที่ชั้นสามจะมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่อยู่ด้วย จากนั้นก็เดินไปด้านหลังทางขวามือ จะเห็นป้ายบอกทางไป “เจดีย์” เราก็เดินตามป้ายไปเลย เพียง 400 เมตรเท่านั้น บรรยากาศร่มรื่น ไม่ร้อน มีฝูงไก่ป่ามากมายทีเดียว ไปกราบพระธาตุของหลวงปู่ รูปหล่อ และชมอัฐบริขารของหลวงปู่ชา
เจดีย์อนุสรณ์สถานหลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง
บรรยากาศภายในวัดหนองป่าพง ร่มรื่น สงบเงียบ
ผ่านไปสามวัด มองนาฬิกาบ่ายโมงกว่าแล้ว หาอะไรรองท้องกันก่อน ในเมืองอุบลฯมีชาวไทยเชื้อสายเวียดนามหรือที่เรียกกันว่า “เวียดเกี่ยว” อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น มื้อนี้ต้องเป็นอาหารเวียดนามครับ ขับรถกลับเข้าเมือง พอเลยทุ่งศรีเมืองไปแยกที่สองให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพิชิตรังสรรค์ ตรงไปจนเกือบถึงสามแยก ชาวอุบลฯเรียกว่า สามแยกโณงเรียนสามัคคี ร้าน “กอล์ฟเฟอร์ อาหารเวียดนาม” อยู่ซ้ายมือครับ จอดรถแล้วเข้าไปสั่งอาหารทานกัน ตอนแรกคิดว่าสั่งนิดหน่อยแต่สุดท้าย ดูเมนูแล้วน่ากินทุกอย่าง ปกติร้านนี้เปิดถึงเย็นแต่วันที่ไปทางร้านปิดเร็ว เพราะจะไปเที่ยวตรุษจีนกัน(ซึ่งตรงกับตรุษญวน หรือเตร็ด ด้วย) แหนมเนือง 150.- ข้าวผัดเวียดนาม 90.- ไข่เจียวเวียดนาม 45.- หมูหนาว 90.- ขนมเบื้อง เมี่ยงสด สองอย่างนี้จำราคาไม่ได้แล้ว ออกจากร้านเป็นกลุ่มสุดท้าย ทั้งหมดจ่ายไป 665.- ตอนแรกตั้งใจว่าจะต่อด้วยกาแฟ ร้านซาลูนฝั่งตรงข้ามกัน แต่ไม่ไหวครับ ไม่เหลือเนื้อที่ในการจัดเก็บแล้ว ที่ร้านซาลูนนี้ หากใช้บอร์ดดิ้งพาสของนกแอร์มาแสดง จะได้รับส่วนลดด้วย หน้าร้านมีร่มนกแอร์สีเหลืองสดสังเกตง่ายครับ
ร้านกอล์ฟเฟอร์ มองเห็นชัดเจน

อันนี้แหนมเนือง

หมูหนาว

เมี่ยงสด(ปอเปี๊ยะสด) กับขนมเบื้องญวณ

ไข่เจียวเวียดนาม เป็นไข่เจียวใส่ผักกับวุ้นเส้นหั่นสั้น ทอดด้วยหม้อทำให้ไข่ตั้งทรงสูงหนานุ่ม ไม่อมน้ำมัน ขอบไข่ออกกรอบๆ

เหลือติดจานนิดหน่อย

ร้านซาลูน ฝั่งตรงข้าม ได้แต่นั่งมองครับ ต้องมาเก็บทริปหน้า
[CR] ## ตรุษจีน อุ้มลูก จูงเมีย หอบแม่ยาย ไปอุบลฯ ##
ใกล้ตรุษจีนแล้วยังไม่รู้จะไปไหน เป็นธรรมเนียมของผม ต้องหาเรื่องเที่ยว หาเรื่องกิน หาเรื่องพักผ่อน หาเรื่องใช้ตัง หลังจากเหนื่อยมาทั้งปี ก็เลยมาวางแผนว่า ตรุษจีนปีนี้จะไปไหนกันดี หันไปถามศรีภรรยา เธอตอบมาทันใด “ อยู่บ้าน เศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีตัง ไม่ไป ” พร้อมส่งประกายรังสีอำมหิตมาทางสายตา เอาไงดี ขอเวลาคิดแพบบ แล้วแผนการอันแยบยลที่จะหาเรื่องเที่ยวก็ผุดขึ้นมา
“เออ คือว่า.. เธอ.. ชั้นอยากไปไหว้พระ กราบอาจารย์ที่อุบลฯ แล้วก็เธอเองก็ยังไม่เคยไปอุบลฯเลย แล้วอยากจะพาแม่เธอไปนั่งเครื่องด้วย แม่เค้ายังไม่เคยนั่งเครื่องเลย “
สำเร็จครับ แผนการผ่านฉลุย ทีนี้ก็เริ่มวางแผนว่าจะเดินทางกี่โมง จะไปไหนบ้าง หาเที่ยวบิน ไป-กลับ หารถเช่า หาที่พัก
เริ่มกันที่การเดินทางไปอุบลฯ ผมเลือกนกแอร์ด้วยสองสามเหตุผล คือเลือกที่นั่งติดกันได้ทั้งกลุ่ม มีเที่ยวบินเช้าที่สุด เจ้าอื่นๆ ออกหลังนกแอร์ประมาณชั่วโมงนึง จะได้มีเวลาเที่ยวเพิ่มขึ้น สุดท้ายจอง DD 9310 ออก 6.05 น.ถึงอุบลฯ 7.00 น. พอใกล้วันเดินทางน้องนกก็แจ้งว่า ขอเรียนท่านผู้โดยสารว่า เที่ยวบิน DD 9310 ขอนำไปยำรวมกับ DD9312 นะคะ เวลาออกใหม่ 7.25 น. ค่ะ อ่ะ งานเริ่มงอก จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลรถเช่า มาลงตัวที่ ECO CAR ของน้องอ๋า ได้รถนิสสันอัลเมร่า ราคาแอบแรงไปนิด วันละ 1,100 บาทมีเศษนิดหน่อย แต่สะดวกตรงที่ไม่ต้องรูดบัตร เพียงแต่วางมัดจำไว้ 5,000 บาท พูดจาสุภาพ บริการดี ติดต่อได้ครับที่ โทร. คุณอ๋า 087-204 6820 ได้เที่ยวบิน ได้รถ ทีนี้ก็โทรหา บ้านสวนณัฐชนา บ้านสองคอน อาจารย์เรืองประทิน 081-999 0298 หรือคุณณัฐชนา 081-725 4728 จองวัน จองห้อง แล้วรอวันเวลาเดินทาง
ตัดฉับกลับมาที่วันเดินทาง ขับรถออกจากบ้านตั้งแต่สามทุ่ม (ผมอยู่ต่างจังหวัด ห่างจาก กทม.ประมาณ 380 กม.) ถึงดอนเมืองตีสี่กว่าๆ เพราะได้ข่าวว่ารอบเช้ามีผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องเยอะมาก ให้มารอก่อนนานๆๆๆๆ แถวตรวจความปลอดภัยยาวมากกกก ขับรถไปที่จอดรถแล้วมาเช็คอิน วันนี้ได้เกต 34 มองออกไปท่ามกลางความมืดตอนตีห้า เห็นน้องสิงโตจอดอยู่เตรียมตัวไปภูเก็ต รอจนสว่างน้องสิงโตไปแล้ว แต่น้องนกยังไม่มา รอ รอ รอ จน 7.15น. (ตามเวลาออก) จึงเห็นรถพุชแบคลากน้องนกมาเข้างวง สุดท้ายกว่าจะได้ออกจริง 8.03 น. ตามคอนเซ็ปของนกแอร์
ทริปนี้ใช้มือถือของซัมซุงถ่ายล้วนๆ ไม่อยากหิ้วกล้องไป บางภาพอาจจะเบลอๆ ขอปิดบังใบหน้า เพราะว่าผมไม่หล่อ เมียไม่สวย แม่ยายอายุเยอะ ลูกชายคนโตหล่อมากแต่หวง ส่วนลูกสาวคนเล็ก อยากโชว์ความน่ารักครับ
วันนี้ บินด้วย HS-DBA
บอร์ดแล้วคะ
เตรียมเดินทาง
ของว่างบนเครื่องครับ
พาหนะของเราครับ
ใช้เวลาไม่นาน เพียง 50 นาที เราก็มาถึงอุบลราชธานี อากาศเย็นๆ 13 องศาก็รอต้อนรับเราอยู่ โดยมีไทยสไมล์เตรียมตัวเดินทางกลับดอนเมืองจอดอยู่ข้างๆ รับกระเป๋าแล้ว ออกมารับรถเช่า จากนั้นก็หาของกินรองท้องก่อนครับ มาถึงอุบลฯแล้วอาหารเช้าเจ้าดังต้องที่นี่ สามชัย สาขาจวนผู้ว่าฯ เมื่อก่อนนี้ ร้านสามชัยอยู่หน้าศาล แต่ปัจจุบันที่สาขาหน้าศาลได้ปรับเปลี่ยนไปเป็นร้านขายของฝากแนว หมูยอ กุนเชียง ไปแล้ว การเดินทางออกจากสนามบินให้ขับรถตรงมาเรื่อยๆ ใช้ถนนเทพโยธี พอผ่านสี่แยกที่สี่ที่ตัดกับถนนพิชิตรังสรรค์ ก็เตรียมตัวหาที่จอดทางซ้ายมือได้เลยครับ เนื่องจากว่าเรามากันค่อนข้างสายแล้ว เก้าโมงกว่า จึงมีที่ว่างให้นั่งได้สะบาย หาที่นั่งได้แล้วก็เริ่มสั่งอาหารกัน พอสั่งอาหารเสร็จ หายใจเข้า พอเริ่มหายใจออกได้ครึ่งนึง ไข่กระทะร้อนๆ ก็มาวางอยู่ตรงหน้า รวดเร็วจริง เร็วจนยังไม่ได้บิ้วอารมณ์เลย ไข่กระทะ หมูยอนึ่ง ข้าวมันไก่ จานละ 40.- ข้าวต้มปลา 35.- กาแฟโบราณร้อน โอวัลตินร้อน ปลาท่องโก๋ สิริค่าเสียหาย 300.- บาทถ้วน
ไข่กระทะ อาหารขึ้นชื่อ
ภาระกิจลุล่วงครับ
เติมพลังกันแล้ว ขับรถย้อนกลับไปทางสนามบินถึงสี่แยกสุดท้ายก่อนถึงสนามบินให้เลี้ยวขวาเข้าถนนอุบลฯ-ตระการฯ ครับ เราจะไปกราบหลวงปู่บุญมี โชติปาโล กัน ขับไปประมาณ 2 กม.จะเจอสี่แยกไฟแดง ให้เลี้ยวซ้ายตามป้าย วัดสระประสานสุขหรือวัดหนองบัวหลวงปู่บุญมี เมื่อวันที่ 22-25 มกราคมที่ผ่านมา เพิ่งจะมีงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ซึ่งสังขารท่านไม่เน่าไม่เปื่อย แต่เรามาวันนี้จะมากราบอัฐิธาตุของท่าน กราบหลวงปู่บุญมีแล้วก็ออกเดินทางไปยังวัดหนองบัว ซึ่งเป็นคนละหนองบัวเมื่อสักครู่ ที่วัดหนองบัวแห่งนี้จะมีเจดีย์พุทธคยาจำลอง ตั้งอยู่ ด้านบนบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัดตั้งอยู่บนถนนธรรมวิถี โดยแยกออกจากถนนชยางกูร หมายเลข 212 อีกทีหนึ่ง
กราบหลวงปู่บุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข
ไหว้พระวัดหนองบัว นมัสการเจดีย์พุทธคยาจำลอง
ออกจากวัดหนองบัว ผมขับรถตรงดิ่งไปตามถนนชยางกูร ผ่านทุ่งศรีเมือง ข้ามสะพานแม่น้ำมูลเข้าสู่อำเภอวารินฯ ตรงไปเรื่อยๆ อีก 3 กม.ตามเส้นทางหมายเลข 2178 สังเกตทางขวามีซอยไปวัดหนองป่าพง ก็กลับรถ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยตามป้ายไปวัดหนองป่าพง เพื่อไปกราบหลวงปู่ชา สุภัทโทกันนะครับ
หลวงปู่ชา สุภัทโทเป็นอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นผู้ก่อตั้งวัดป่านานาชาติที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมายเป็นชาวต่างชาติ และมีวัดสาขาทั่วไทย
จอดรถไว้ด้านนอกแล้วเดินเข้าไปในวัดกันครับ ด้านหน้าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่ ที่ชั้นสามจะมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่อยู่ด้วย จากนั้นก็เดินไปด้านหลังทางขวามือ จะเห็นป้ายบอกทางไป “เจดีย์” เราก็เดินตามป้ายไปเลย เพียง 400 เมตรเท่านั้น บรรยากาศร่มรื่น ไม่ร้อน มีฝูงไก่ป่ามากมายทีเดียว ไปกราบพระธาตุของหลวงปู่ รูปหล่อ และชมอัฐบริขารของหลวงปู่ชา
เจดีย์อนุสรณ์สถานหลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง
บรรยากาศภายในวัดหนองป่าพง ร่มรื่น สงบเงียบ
ผ่านไปสามวัด มองนาฬิกาบ่ายโมงกว่าแล้ว หาอะไรรองท้องกันก่อน ในเมืองอุบลฯมีชาวไทยเชื้อสายเวียดนามหรือที่เรียกกันว่า “เวียดเกี่ยว” อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น มื้อนี้ต้องเป็นอาหารเวียดนามครับ ขับรถกลับเข้าเมือง พอเลยทุ่งศรีเมืองไปแยกที่สองให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพิชิตรังสรรค์ ตรงไปจนเกือบถึงสามแยก ชาวอุบลฯเรียกว่า สามแยกโณงเรียนสามัคคี ร้าน “กอล์ฟเฟอร์ อาหารเวียดนาม” อยู่ซ้ายมือครับ จอดรถแล้วเข้าไปสั่งอาหารทานกัน ตอนแรกคิดว่าสั่งนิดหน่อยแต่สุดท้าย ดูเมนูแล้วน่ากินทุกอย่าง ปกติร้านนี้เปิดถึงเย็นแต่วันที่ไปทางร้านปิดเร็ว เพราะจะไปเที่ยวตรุษจีนกัน(ซึ่งตรงกับตรุษญวน หรือเตร็ด ด้วย) แหนมเนือง 150.- ข้าวผัดเวียดนาม 90.- ไข่เจียวเวียดนาม 45.- หมูหนาว 90.- ขนมเบื้อง เมี่ยงสด สองอย่างนี้จำราคาไม่ได้แล้ว ออกจากร้านเป็นกลุ่มสุดท้าย ทั้งหมดจ่ายไป 665.- ตอนแรกตั้งใจว่าจะต่อด้วยกาแฟ ร้านซาลูนฝั่งตรงข้ามกัน แต่ไม่ไหวครับ ไม่เหลือเนื้อที่ในการจัดเก็บแล้ว ที่ร้านซาลูนนี้ หากใช้บอร์ดดิ้งพาสของนกแอร์มาแสดง จะได้รับส่วนลดด้วย หน้าร้านมีร่มนกแอร์สีเหลืองสดสังเกตง่ายครับ
ร้านกอล์ฟเฟอร์ มองเห็นชัดเจน
อันนี้แหนมเนือง
หมูหนาว
เมี่ยงสด(ปอเปี๊ยะสด) กับขนมเบื้องญวณ
ไข่เจียวเวียดนาม เป็นไข่เจียวใส่ผักกับวุ้นเส้นหั่นสั้น ทอดด้วยหม้อทำให้ไข่ตั้งทรงสูงหนานุ่ม ไม่อมน้ำมัน ขอบไข่ออกกรอบๆ
เหลือติดจานนิดหน่อย
ร้านซาลูน ฝั่งตรงข้าม ได้แต่นั่งมองครับ ต้องมาเก็บทริปหน้า