*
(งบสวยขนาดนี้ ยังโยนหุ้นทิ้งกันเหมือนกับบริษัทเจ๊งเลยครับ)
ในช่วงไตรมาสที่ 3/2559 (งวด 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558) บริษัทฯ มีผลกําไรสุทธิจํานวน 353.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นรอยละ 139.51 จากไตรมาสที่ 3/2558 (งวด 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 31 ธันวคม 2557) ซึ่ง มีผลกำไรสุทธิจํานวน 147.63 ล้านบาท โดยมีรายการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ดังนี่
1. รายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 592.47 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.50 จากไตรมาสที่ 3 ของปีก่อน ที่จํานวน 1,668.75 ล้านบาท เป็น 2,261.22 ล้านบาท โดยยอดจําหนายของทั้ง 3 กลุ่ม ผลิตภัณฑ์มีอัตราการเติบโตเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็นดังนี้
- ผลิตภัณฑ์ฉนวนยางเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.8
- ผลิตภัณฑ์พลาสติกยานยนต์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 79.0
- ผลิตภัณฑ์พลาสติกบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.3
ทั้งนี้ ยอดขายผลิตภัณฑ์พลาสติกยานยนต์ เพิ่มขึ้นอย่ามีนัยสําคัญ เป็นผลจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เริ่มผลิตและจําหน่าย รวมทังการขยายธุรกิจใหม่ในประเทศออสเตรเลีย (TJM)
2. ต้นทุนขายสินค้าเพิ่มขึ้น 316.83 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.47 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่ 1,243.79 ล้านบาท โดยยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย ทั้งนี้เป็นผลจากราคาราคาวัตถุดิบทลดตํ่าลง รวมถึงประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ด้วยการบริหารจัดการ โดยอาศัยเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ มีการเพิ่มปรับปรุงและเปลี่ยนทดแทนอุปกรณ์และเครื่องจักรใหม่อย่างต่อเนื่อง
3. ค่าใชจ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 155.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 55.41 โดยรายการหลักที่เพิ่มขึ้นเป็นรายจ่ายของกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติกยานยนต์ในประเทศออสเตรเลีย (TJM) ที่เริ่มรับรู้รายการในปีนี้
4. ต้นทุนทางการเงิน ลดลง 48.48 ล้านบาท หรือร้อยละ 73.83 ตามสัดส่วนของภาระหนี้สินที่ลดลงและผลกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนบนเงินสกุล เงินตราต่างประเทศ
P.S การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดวิเคราะห์เหตุผลและข้อมูลก่อนลงทุนครับผม
Credited by EPG Creative Innovation Organization ขอบคุณคับ
** Update ผลประกอบการบริษัท EPG กันครับ ***
(งบสวยขนาดนี้ ยังโยนหุ้นทิ้งกันเหมือนกับบริษัทเจ๊งเลยครับ)
ในช่วงไตรมาสที่ 3/2559 (งวด 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558) บริษัทฯ มีผลกําไรสุทธิจํานวน 353.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นรอยละ 139.51 จากไตรมาสที่ 3/2558 (งวด 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 31 ธันวคม 2557) ซึ่ง มีผลกำไรสุทธิจํานวน 147.63 ล้านบาท โดยมีรายการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ดังนี่
1. รายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 592.47 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.50 จากไตรมาสที่ 3 ของปีก่อน ที่จํานวน 1,668.75 ล้านบาท เป็น 2,261.22 ล้านบาท โดยยอดจําหนายของทั้ง 3 กลุ่ม ผลิตภัณฑ์มีอัตราการเติบโตเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็นดังนี้
- ผลิตภัณฑ์ฉนวนยางเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.8
- ผลิตภัณฑ์พลาสติกยานยนต์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 79.0
- ผลิตภัณฑ์พลาสติกบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.3
ทั้งนี้ ยอดขายผลิตภัณฑ์พลาสติกยานยนต์ เพิ่มขึ้นอย่ามีนัยสําคัญ เป็นผลจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เริ่มผลิตและจําหน่าย รวมทังการขยายธุรกิจใหม่ในประเทศออสเตรเลีย (TJM)
2. ต้นทุนขายสินค้าเพิ่มขึ้น 316.83 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.47 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่ 1,243.79 ล้านบาท โดยยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย ทั้งนี้เป็นผลจากราคาราคาวัตถุดิบทลดตํ่าลง รวมถึงประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ด้วยการบริหารจัดการ โดยอาศัยเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ มีการเพิ่มปรับปรุงและเปลี่ยนทดแทนอุปกรณ์และเครื่องจักรใหม่อย่างต่อเนื่อง
3. ค่าใชจ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 155.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 55.41 โดยรายการหลักที่เพิ่มขึ้นเป็นรายจ่ายของกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติกยานยนต์ในประเทศออสเตรเลีย (TJM) ที่เริ่มรับรู้รายการในปีนี้
4. ต้นทุนทางการเงิน ลดลง 48.48 ล้านบาท หรือร้อยละ 73.83 ตามสัดส่วนของภาระหนี้สินที่ลดลงและผลกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนบนเงินสกุล เงินตราต่างประเทศ
P.S การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดวิเคราะห์เหตุผลและข้อมูลก่อนลงทุนครับผม
Credited by EPG Creative Innovation Organization ขอบคุณคับ