เกิดอะไรขึ้นกับรถยี่ห้อ Nissan?

สวัสดีครับพี่น้องพันทิป นี่เป็นกระทู้แรกของผมหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยน้ะครับ
คือเรื่องมันมีอยู่ว่า ผมได้ไปซื้อรถนิสสันอัลเมร่าเมื่อวันที่ 12 สิงหา 2013 ช่วง 2 หมื่นกิโลนิดๆไม่มีปัญหาใดๆ  หลังจากนั้นผมได้ตัดสินใจไปติดแก๊สของ Enegy Rexxxx เพราะว่ารถต้องวิ่งไปกลับชานเมืองบ่อยๆเลยตัดสินใจติดแก๊สเพื่อลดค่าใช้จ่าย ช่วงแรกๆก็ปกติทุกอย่างครับ จนมีสักระยะประมาณ 100,000 กิโล เครื่องก็เริ่มมีปัญหาคือเครื่องจะเร่งไม่ค่อยขึ้น ตอนนั้นใจคิดว่าอาจเป็นเพราะยังไม่ได้ถ่ายน้ำมันเครื่อง(ลืมถ่ายน้ำมันเครื่องประจำครับ) ก็ไม่ได้คิดไรอาจจะเป็นปกติของรถรุ่นนี้เพราะเครื่องมันแค่1.2 จนกระทั่งวันนั้นผมได้ขับไปทำงาน ตอนออกจากไฟแดงรถดับเฉยเลยครับมันมีไฟน้ำมันเครื่องโชว์ขึ้นมา ตอนนั้นตกใจมากทำไรไม่ถูกเพราะไม่เคยเป็น พอตั้งสติได้ก็เข้าเกียร์ N แล้วสตาร์ทใหม่ก็พุ่งตรงไปศูนย์เลยครับ พอไปถึงศูนย์ก็บอกอาการเขาไป จนกระทั่งรถเสร็จพนักงงานมาบอกว่าไม่พบสิ่งปกติใดๆ เครื่องก็ปกติดีทุกอย่างในใจผมคิดว่า"อ่าวเห้ยรถตูเพิ่งดับกลางสี่แยก แล้วมาบอกว่าไม่เป็นไรได้ไงว้ะ" พอผมขับกลับบ้านเท่านั้นแหละ เครื่องก็ปกติดีแต่ว่าเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นเหมือนเดิมแต่ไม่มีอาการดับกลางอากาศ จนกระทั่งวันที่3หลังจากการเข้าศูนย์บริการ อาการรถดับกลางอากาศก็กลับมาเยือนอีกแล้ว ผมเลยพาเข้าศูนย์อีกทีและรอบนี้ผมมั่นใจว่ารอบนี้มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ผมก็นั่งรอเรื่อยๆจนรถเสร็จเขาก็บอกอีกว่าปกติเหมือนเดิมให้ลองไปเช็คระบบแก๊สดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือปล่าว ผมก็ขับรถไปศูนย์บริการแก๊สของEnergy reform บอกอาการเขาไปโดยที่ช่างก็ไม่รอช้าก็จู่โจมหาสาเหตุรถของผมเป็นเวลา2-3ชั่วโมงจนกระทั่งพบสาเหตุ !! โดยช่างบอกว่าอาจเป็นเพราะวาล์วยัน(ภาษาช่างตอนนั้นผมก็งงๆ)ลองไปให้อู่เช็คให้ดู ผมก็ขับรถไปที่อู๋ที่รู้จักกันโดยบอกอาการรถอย่างละเอียดโดยแกจะนัดเอารถวันพรุ่งนี้ พอวันรุ่งขึ้นผมก็โทรไปสอบถามว่ารถเป็นไงบ้าง ช่างก็บอกว่าวาล์วยัน(จริงด้วย)โดยแนะให้เปลี่ยนฝาสูบ(ถ้าผมจำไม่ผิดน้ะ)ผมก็ตอบตกลงไปโดยช่างจะสั่งของมาทำและใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่ารถโอเคแล้ว พอถึงวันรับรถผมก็ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์รอบบ้านเลยโดยภาวนาให้มันปกติสักที(เดือนนี้ไม่มีตังกินข้าวแล้ว) พอไปถึงอู่พี่เขาก็พาไปเทสรถว่ามันปกติดีทุกอย่าง ตอนนั้นยิ้มแก้มปริเลย(รถตูรอดแล้ว)แต่มาหน้าเสียตอนจ่ายตังนี่แหละ 555555 โดยช่างบอกว่ารถเราใช้แก๊สมากเกินไปไม่ได้วิ่งน้ำมันเลย(ไม่ได้วิ่งน้ำมันเลยจริงๆ)ทำให้ฝาวาล์วมันบางแล้วช่างก็เปลี่ยนหัวเทียนให้ด้วย หลังจากนั้นเราก็วิ่งน้ำมันมาตลอดเลย(ใช้E20ตลอดไม่เคยเติมอะไรเลย) เป็นเวลาประมาณครึ่งปีก็ไม่มีปัญหาอะไรจนกระทั่งขับได้ประมาณ 129,XXX อาการเดิมเริ่มมา โดยรอบนี้ผมตัดสินใจจะเข้าศูนย์อีกที่นึงเพราะพี่ที่ทำงานบอกมาว่าดีมากๆผมก็เลยขับไปที่ศูนย์ให้เขาเช็ครถให้อย่างละเอียดประมาณ 1 ชั่วโมงนิดช่างก็มาบอกกับเราว่า ผ้าเบรคหมด สายพานหย่อน น้ำมันท่วมกล่องเชื้อเพลิง ต้องเปลี่ยนไส้กรองหรือหม้อกรองนี่แหละ(จำไม่ได้) เขาก็นัดแนะถ้าจะมาเปลี่ยนให้เรามาเปลี่ยนวันไหนอะไรแบบนี้ ผมก็ตอบตกลงไปเพราะทำไงได้รถใช้งานก็ต้องซ่อมเป็นปกติ พอถึงวันนัดผมก็ไปแต่เช้าเลยโดยนัดเอารถตอนเย็นวันนั้นเพราะจะเอาไปทำงานอีก พอตกเย็นผมก็รีบไปเอาเลยเพราะกลัวศูนย์มันปิดเพราะพรุ่งนี้วันอาทิตย์(ตอนนั้นอีก15นาที0ปิด)ผมก็จ่ายตังไปประมาณหมื่นสองพันกว่าๆ(จำรายการไม่ได้เดี่ยวจะดูใบเสร็จแล้วจะมาแจ้งน้ะครับ) ทีนี้ที่มันพีคสุดๆคือพอออกจากอู่เท่านั้นแหละ เวลาเตะเบรคมันจะดัง ตึก ตึก ตึก ที่ล้อหลัง (ตัวนี้ตัวท้อปจะมีabs)ตอนนั้นผมเครียดมาก(เวรเอ้ยเพิ่งออกจากศูนย์ไม่ถึง10นาที)กะว่าจะกลับไปศูนย์แต่ว่าคงไม่ทันเลยตัดสินใจไปอู่ประจำดีกว่า พอไปถึงก็เล่าให้ช่างฟัง ช่างก็ถอดล้อหลังออก สรุปมาได้ว่า "ผ้าเบรคหนาเกินไป เจียจานมาไม่ตรง เดี่ยวพี่จะปรับให้ก่อนให้พอใช้งานได้ชั่วคราวแต่ว่าต้องเจียจานใหม่" โดยมีสองทางเลือกคือเจียกับอู่หรือเจียที่ศูนย์ เอ้อลืมบอกไปครับว่าศูนย์มันรับประกัน 1 ปี ก็เลยบอกช่างไปว่าเดี่ยวจะเข้าศูนย์เพราะเพิ่งทำมาไม่ถึง 12 ชั่วโมงเลย!! (หงุดหงิดมาก)จากนั้นผมก็ไปเตินน้ำมัน "E20" ครึ่งถัง พอออกจากปั้มเท่านั้นแหละสิ่งที่ตามมาคือ "กลิ่นน้ำมัน" มันเหม็นมาก อยู่ดีๆก็ลอยมาจากไหนไม่รู้จนผมสังเกตุได้ว่ากลิ่นน้ำมันจะมาจากตอนที่เราจอดรถหรือตอนดับเครื่อง พอรุ่งเช้าผมก็โทรหาช่างแต่ว่าไม่มีใครรับสายเพราะว่าวันนี้วันอาทิตย์เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมก็เอาไงเอากันวันนี้ของลองรถหน่อย !! โดยวันนี้ผมขับรถวนรอบเมืองโดยจะใช้โหมดดูดอากาศออกเพื่อจะดูดกลิ่นน้ำมันออก ขับไปมาประมาณ 60 กิโลก็มีแต่เสียงเบรคดัง ตึก ตึก ตึก เราก็โล่งไปว่าเครื่องคงไม่มีปัญหาไร จนกระทั่งก่อนกลับบ้านผมได้ไปส่งญาติที่บ้าน รถเกิดอาการดับกลางอากาศอีกแล้วครับท่าน(ตอนนั้นเข้าเกียร์ D ความเร็ว 20 กม/ชม. เพราะรถติด) ไฟน้ำมันเครื่องโชว์ ผมก็หักหลบข้างทางก็สตาร์ทใหม่ พอไปถึงบ้านญาติมันจะมีเนินเล็กๆที่ไว้ลดความเร็วลด รถผมก็ดับอีกครับอาการเดิมเช่นเคย พอส่งญาติเสร็จผมก็เข้าบ้านโดยคิดในใจว่า"จะถึงบ้านไหมว้ะตู"เมื่อถึงสี่แยกไฟแดง(ที่เดิมเวลาเดิมด้วย)โดยรอบนี้ผมสังเกตุได้ว่ารถจะดับเมื่ออยู่ในเกียร์ D เหมือนรอบจะต่ำเหลือ 900 ผมเลยลองเข้าเกียร์ N แช่รอบไว้ที่ 1200 พอไฟเขียวก็ลองเข้าเกียร์ D นึกว่าจะไม่ดับแต่ที่ไหนได้ ตายสนิท !! (ไฟเขียวแล้วคันหลังก็บีบแตรรัวๆ) ผมก้สตาร์ทใหม่แล้วขับไปจนถึงบ้านอย่างเคร่งเครียด แล้วพรุ่งนี้ 15/2/2559 ผมกะว่าจะไปให้ศูนย์มันเช็คอย่างละเอียดอีกทีครับ

ปล.1 รถพอใช้แก๊สจะไม่มีปัญหาเรื่องการน๊อคกลางอากาศเลยอาจจะมีอาการวูปๆบ้าง
ปล.2 รถคันนี้ใช้ E20 ตลอดไม่เคยเติมน้ำมันอื่นๆ
ปล.3 เลยระยะถ่ายน้ำมันเครื่องประมาณ 1000 กิโลแล้ว
ปล.4 รถคันนี้ไม่เคยประสบอุบัติเหตุครับ
ปล.5 รถวิ่งพ้น 40 กม/ชม จะไม่มีการดับ
ปล.6 ศูนย์แรกไม่ให้การแนะนำเลยเหมือนว่าจะเมิน แต่ศูนย์ที่สองใส่ใจดีมากแต่ว่าทำไมถึงเกิดการผิดพลาดขนาดนี้
ปล.7 แก๊สที่ใช้เป็น LPG น้ะครับ

อยากถามว่าท่านผู้รู้ว่า
1.เป็นไปได้ไหมว่าเป็นเพราะน้ำมัน E20 เพราะผมไม่เคยผสมกับพวก 95 หรือ 91 เลย
2.หรือเป็นเพราะระบบแก๊ส
3.รถผมกำลังประสบปัญหาอะไรครับ
4.หรือมีสาเหตุอย่างอื่นครับ
5.ศูนย์ผิดพลาดขนาดนี้ควรแจ้งไหมครับ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบน้ะครับ นี้เป็นกระทู้แรกของใช้คำอาจจะผิดบ้างหรือไม่สุภาพบ้างก็ขออภัยด้วยน้ะครับ