สวัสดีค่า ครั้งนี้จะมารีวิวเกี่ยวกับการรักษาสิวอุดตันนะคะ
สภาพผิวโดยปกติสิวส่วนใหญ่เป็นสิวอุดตัน มีอักเสบบ้างนิดหน่อย รอยแดงรอยดำและหลุมเยอะ
หาหมอมานานถึง 7 ปี ก็เป็นๆหายๆตลอด ประกอบกับต้องแต่งหน้าไปทำงาน ใช้รองพื้นทุกวัน แต่ก็กดสิวอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่อยากกินยาค่ะ
ใช้ skincare อย่างระมัดระวังไม่ใช้เนื้อครีมหนักๆและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมน้ำมัน ส่วนใหญ่จะมีเนื้อเป็นน้ำ โลชั่นและเจล
ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวมามากมาย พอดีเจอเพจแบรนด์ Prof. ใน facebook ก็เลยตัดสินใจลองดูค่ะ
ต่อจากนี้จะรีวิวทุกอย่างที่ใช้ร่วมกับ BHA2% และ whitening ของแบรนด์ Prof. ค่ะ

หน้าตาของผลิตภัณฑ์ Prof. ทั้งสองตัวค่ะ
ต่อไปก็เป็นรีวิวทุกอย่างที่ใช้ทุกวันค่ะ
1. Corin de farme (คอริน เดอ ฟาร์ม) เป็น cleansing gel ที่ใช้ได้ทั้งเช้า-เย็น โดยในตอนเช้าจะใช้เพื่อล้างคราบครีมที่ทาในตอนกลางคืนออก และในตอนเย็นจะใช้ล้างพวกกันแดด รองพื้นแป้งและเครื่องสำอางต่างๆออก ใช้ดี อ่อนโยน แนะนำมากๆค่ะ
2. Skindom yeast ultra deep cleansin whip foam โฟมล้างหน้าที่โฟมนุ่มมาก ใช้หลังจากเอาเครื่องสำอางออกหมดแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าผิวสะอาด ไม่ระคายเคืองเหมาะกับผิวผสม-ผิวมัน ใช้หลายหลอดแล้วจ้า
3. BP10% เป็นเจลที่ใช้ทาก่อนล้างหน้า หลังเช็ดเครื่องสำอางออกแล้ว เพื่อให้สิวอุดตันอ่อนตัว กดออกได้ง่ายขึ้นและยังช่วยลดการอักเสบของสิวอักเสบได้ด้วย โดยปกติที่ขายทั่วไปและเป็นที่นิยมจะเป็นยี่ห้อ Benzac มี 2.5% และ 5% ซึ่งไม่มี10% เราก็เลยซื้อจากคลินิกที่ไปกดสิวค่ะ สำหรับใครที่ไม่เคยใช้ต้องเริ่มจากค่า % น้อยๆก่อน ถ้าหน้าค่อนข้างด้านแล้วแบบเรา 10% ยังเฉยๆเลยค่ะ ทาทิ้งไว้ 10-15 นาที
หลังจากล้างหน้าและซับให้แห้งแล้ว เซ็ตแรกเป็น skincare ที่ใช้ในตอนเช้าค่ะ
4. Sena marine plankton เซรั่มแพลงตอนของเกาหลี เนื้อบางเบาซึมไว ก่อนหน้านี้เราใช้ biotherm plankton ก็ดีเหมือนกัน แต่หมดแล้วเลยลองเปลี่ยนดูค่ะ sena หลักๆคือให้ความชุ่มชื้น มีส่วนช่วยให้ผิวหน้าผ่อนคลายและลดอาการอักเสบได้
5. Tomei clindai gel เป็นเจลแต้มสิว ตัวยาคลินดาไมซิน สำหรับรักษาสิวอักเสบ โดยไม่แสบไม่ลอก ไม่เป็นคราบ ใช้มาหลายสิบหลอดแล้วค่ะ
6. Tomei anti-acne cream เป็นครีมช่วยรักษาสิวอักเสบและช่วยยับยั้งการเกิดสิวใหม่ และผลัดเซลส์ผิวไปด้วย ใช้คู่กับตัวเจลมาหลายสิบหลอดค่ะ
7. Etude House Sunprise Mild Airy Fresh SPF50+ PA+++ กันแดดเนื้อน้ำ อ่อนโยน ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม ทาแล้วไม่มีสี ซึมไว
เซ็ตต่อไป ทากลางคืนค่ะ
8. Skindom luxury cell collagen peptide ampoule เป็นซุปเปอร์เซรั่มที่ช่วยบำรุงและปรับสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่น มีส่วนช่วยควบคุมความมันและทำให้ผิวเงาเป็นประกาย ใช้มา4ขวดแล้วค่ะ
9. Smooto Aloe-E Snail Bright Gel เจลว่านหางจระเข้ เข้มข้น99.5% ผสมวิตามินอีและสารสกัดเมือกหอยทาก เป็นเจลบำรุงสารพัดประโยชน์ เราใช้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบค่ะ ราคาถูกหาซื้อง่าย
10. Prof. BHA2% gel ตัวนี้พระเอกของเราค่ะ ช่วยลดความมันได้จริงและรักษาสิวอุดตันไปด้วย สิวอุดตันจะกดออกง่ายขึ้นและลดการเกิดสิวอุดตันใหม่ได้จริงค่ะ ใช้ทาหลังลงครีมบำรุง มีสารลดการอักเสบใส่มาด้วย ช่วยให้สิวไม่เห่อรุนแรงแบบยี่ห้ออื่นๆ เพราะก่อนนี้เคยใช้ Murad exfoliating acne treatment gel แล้วสิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบหมดทั้งหน้าเลยค่ะ เรียกได้ว่าเละ หลุมก็มาจากการใช้ Murad นั่นแหละค่ะ T^T
11. Prof. Aktiv White ตัวนี้ก็นางเอกค่ะ เป็น whitening ที่หวังผลในเรื่องการลดรอยดำรอยแดงจากสิวได้จริง โดยปกติเราไม่ใช้ whitening ค่ะ จะใช้เจลทารอยสิวแทน แต่ Aktiv white ช่วยลดรอยได้ด้วยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้อย่างอ่อนโยน ตอนซื้อเค้าจัดเซ็ต1200บาทได้ทั้ง BHAและwhitening ก็เลยเอามาด้วย ถูกใจมากๆค่ะ
สรุปคือ ผลิตภัณฑ์ Prof.ทั้งสองตัว ช่วยให้ผิวเราดีขึ้นมากๆโดยสามารถใช้ร่วมกับ skincare ที่เราใช้อยู่ได้เลย ราคาเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพแล้วคุ้มมากจริงๆค่ะ ซื้อใช้ไปเรื่อยๆแน่นอน ใครที่ใช้ยารักษาสิวมามากมาย แล้วยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ลอง Prof.ดูค่ะ
12. Thursday plantation เป็นเจลแต้มสิวจาก tea tree oil ช่วยให้สิวยุบไวขึ้น แต่เราใช้แค่กลางคืนเพราะมันเหนียวค่ะ ใช้กลางวันไม่ได้
ต่อไปคือตัวช่วยเสริมค่ะ
มาส์กของ leaders clinic ที่โด่งดัง เราใช้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือบางทีก็2ครั้งต่อเดือนค่ะ แล้วแต่ว่ามีเวลามั้ย
และนี่เป็นสภาพผิวหน้าก่อนและหลังใช้ Prof. ร่วมกับ skincare ที่เราใช้อยู่ค่ะ ไม่ต้องอธิบายอะไรมากค่ะดูจากภาพได้เลย ไม่มีการแต่งหน้าและใช้ app ใดๆทั้งสิ้น
ภาพ before ก่อนเราเริ่มใช้ Prof. วันที่ 20 ธันวาคม 2558
ภาพ after หลังจากใช้ Prof. มาได้เกือบ2เดือนแล้ว
จบแล้วค่ะกับรีวิวในครั้งนี้ หากมีข้อสงสัยคอมเมนท์ได้เลยนะคะ บ๊ายบายจ้า
[CR] รักษาสิวอุดตันด้วย BHA2% จากแบรนด์ Prof.
สภาพผิวโดยปกติสิวส่วนใหญ่เป็นสิวอุดตัน มีอักเสบบ้างนิดหน่อย รอยแดงรอยดำและหลุมเยอะ
หาหมอมานานถึง 7 ปี ก็เป็นๆหายๆตลอด ประกอบกับต้องแต่งหน้าไปทำงาน ใช้รองพื้นทุกวัน แต่ก็กดสิวอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่อยากกินยาค่ะ
ใช้ skincare อย่างระมัดระวังไม่ใช้เนื้อครีมหนักๆและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมน้ำมัน ส่วนใหญ่จะมีเนื้อเป็นน้ำ โลชั่นและเจล
ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวมามากมาย พอดีเจอเพจแบรนด์ Prof. ใน facebook ก็เลยตัดสินใจลองดูค่ะ
ต่อจากนี้จะรีวิวทุกอย่างที่ใช้ร่วมกับ BHA2% และ whitening ของแบรนด์ Prof. ค่ะ
หน้าตาของผลิตภัณฑ์ Prof. ทั้งสองตัวค่ะ
ต่อไปก็เป็นรีวิวทุกอย่างที่ใช้ทุกวันค่ะ
1. Corin de farme (คอริน เดอ ฟาร์ม) เป็น cleansing gel ที่ใช้ได้ทั้งเช้า-เย็น โดยในตอนเช้าจะใช้เพื่อล้างคราบครีมที่ทาในตอนกลางคืนออก และในตอนเย็นจะใช้ล้างพวกกันแดด รองพื้นแป้งและเครื่องสำอางต่างๆออก ใช้ดี อ่อนโยน แนะนำมากๆค่ะ
2. Skindom yeast ultra deep cleansin whip foam โฟมล้างหน้าที่โฟมนุ่มมาก ใช้หลังจากเอาเครื่องสำอางออกหมดแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าผิวสะอาด ไม่ระคายเคืองเหมาะกับผิวผสม-ผิวมัน ใช้หลายหลอดแล้วจ้า
3. BP10% เป็นเจลที่ใช้ทาก่อนล้างหน้า หลังเช็ดเครื่องสำอางออกแล้ว เพื่อให้สิวอุดตันอ่อนตัว กดออกได้ง่ายขึ้นและยังช่วยลดการอักเสบของสิวอักเสบได้ด้วย โดยปกติที่ขายทั่วไปและเป็นที่นิยมจะเป็นยี่ห้อ Benzac มี 2.5% และ 5% ซึ่งไม่มี10% เราก็เลยซื้อจากคลินิกที่ไปกดสิวค่ะ สำหรับใครที่ไม่เคยใช้ต้องเริ่มจากค่า % น้อยๆก่อน ถ้าหน้าค่อนข้างด้านแล้วแบบเรา 10% ยังเฉยๆเลยค่ะ ทาทิ้งไว้ 10-15 นาที
หลังจากล้างหน้าและซับให้แห้งแล้ว เซ็ตแรกเป็น skincare ที่ใช้ในตอนเช้าค่ะ
4. Sena marine plankton เซรั่มแพลงตอนของเกาหลี เนื้อบางเบาซึมไว ก่อนหน้านี้เราใช้ biotherm plankton ก็ดีเหมือนกัน แต่หมดแล้วเลยลองเปลี่ยนดูค่ะ sena หลักๆคือให้ความชุ่มชื้น มีส่วนช่วยให้ผิวหน้าผ่อนคลายและลดอาการอักเสบได้
5. Tomei clindai gel เป็นเจลแต้มสิว ตัวยาคลินดาไมซิน สำหรับรักษาสิวอักเสบ โดยไม่แสบไม่ลอก ไม่เป็นคราบ ใช้มาหลายสิบหลอดแล้วค่ะ
6. Tomei anti-acne cream เป็นครีมช่วยรักษาสิวอักเสบและช่วยยับยั้งการเกิดสิวใหม่ และผลัดเซลส์ผิวไปด้วย ใช้คู่กับตัวเจลมาหลายสิบหลอดค่ะ
7. Etude House Sunprise Mild Airy Fresh SPF50+ PA+++ กันแดดเนื้อน้ำ อ่อนโยน ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม ทาแล้วไม่มีสี ซึมไว
เซ็ตต่อไป ทากลางคืนค่ะ
8. Skindom luxury cell collagen peptide ampoule เป็นซุปเปอร์เซรั่มที่ช่วยบำรุงและปรับสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่น มีส่วนช่วยควบคุมความมันและทำให้ผิวเงาเป็นประกาย ใช้มา4ขวดแล้วค่ะ
9. Smooto Aloe-E Snail Bright Gel เจลว่านหางจระเข้ เข้มข้น99.5% ผสมวิตามินอีและสารสกัดเมือกหอยทาก เป็นเจลบำรุงสารพัดประโยชน์ เราใช้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบค่ะ ราคาถูกหาซื้อง่าย
10. Prof. BHA2% gel ตัวนี้พระเอกของเราค่ะ ช่วยลดความมันได้จริงและรักษาสิวอุดตันไปด้วย สิวอุดตันจะกดออกง่ายขึ้นและลดการเกิดสิวอุดตันใหม่ได้จริงค่ะ ใช้ทาหลังลงครีมบำรุง มีสารลดการอักเสบใส่มาด้วย ช่วยให้สิวไม่เห่อรุนแรงแบบยี่ห้ออื่นๆ เพราะก่อนนี้เคยใช้ Murad exfoliating acne treatment gel แล้วสิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบหมดทั้งหน้าเลยค่ะ เรียกได้ว่าเละ หลุมก็มาจากการใช้ Murad นั่นแหละค่ะ T^T
11. Prof. Aktiv White ตัวนี้ก็นางเอกค่ะ เป็น whitening ที่หวังผลในเรื่องการลดรอยดำรอยแดงจากสิวได้จริง โดยปกติเราไม่ใช้ whitening ค่ะ จะใช้เจลทารอยสิวแทน แต่ Aktiv white ช่วยลดรอยได้ด้วยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้อย่างอ่อนโยน ตอนซื้อเค้าจัดเซ็ต1200บาทได้ทั้ง BHAและwhitening ก็เลยเอามาด้วย ถูกใจมากๆค่ะ
สรุปคือ ผลิตภัณฑ์ Prof.ทั้งสองตัว ช่วยให้ผิวเราดีขึ้นมากๆโดยสามารถใช้ร่วมกับ skincare ที่เราใช้อยู่ได้เลย ราคาเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพแล้วคุ้มมากจริงๆค่ะ ซื้อใช้ไปเรื่อยๆแน่นอน ใครที่ใช้ยารักษาสิวมามากมาย แล้วยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ลอง Prof.ดูค่ะ
12. Thursday plantation เป็นเจลแต้มสิวจาก tea tree oil ช่วยให้สิวยุบไวขึ้น แต่เราใช้แค่กลางคืนเพราะมันเหนียวค่ะ ใช้กลางวันไม่ได้
ต่อไปคือตัวช่วยเสริมค่ะ
มาส์กของ leaders clinic ที่โด่งดัง เราใช้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือบางทีก็2ครั้งต่อเดือนค่ะ แล้วแต่ว่ามีเวลามั้ย
และนี่เป็นสภาพผิวหน้าก่อนและหลังใช้ Prof. ร่วมกับ skincare ที่เราใช้อยู่ค่ะ ไม่ต้องอธิบายอะไรมากค่ะดูจากภาพได้เลย ไม่มีการแต่งหน้าและใช้ app ใดๆทั้งสิ้น
ภาพ before ก่อนเราเริ่มใช้ Prof. วันที่ 20 ธันวาคม 2558
ภาพ after หลังจากใช้ Prof. มาได้เกือบ2เดือนแล้ว
จบแล้วค่ะกับรีวิวในครั้งนี้ หากมีข้อสงสัยคอมเมนท์ได้เลยนะคะ บ๊ายบายจ้า