สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมเขียนลง Pantip ที่เกี่ยวกับการเดินทาง แต่คราวนี้มันจะเป็นการเดินทางของผมเพียงคนเดียว ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นไว้ก่อนว่า ก่อนหน้านี้ประมาณปีใหม่ ผมตั้งใจจะ Backpack คนเดียวจากนครศรีธรรมราช ไปยังแม่ฮ่องสอน ในช่วงสิ้นเดือนมกราคม 59 แต่ก่อนจะถึงการเดินทางของผม ก็เกิดเรื่องบังเอิญนิดหน่อยก็คือ พอดีมีพี่จากสตูถ่ายพรีเวดดิ้งโทรมาบอกว่ามีลูกค้าจะไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่เชียงใหม่ในช่วง 27-29 ม.ค. 59 และอยากให้ผมไปเป็นผู้ช่วยช่างภาพ ซึ่งผมก็ตอบรับไปโดยทันที (ดีเหมือนกันไม่ต้องนั้งรถไฟฟรีขึ้นเหนือ)
ก่อนจะเริ่มเข้าเรื่องผมขอฝากทริปก่อนหน้านี้ไว้หน่อยนะครับ เผื่อใครยังไม่ได้เข้าไปอ่านหรือไปดูรูปก็เข้าไปได้ตาม link นี้นะครับ
==== > http://pantip.com/topic/34484617 (7 วัน 6 คืน กิน เที่ยว ถ่ายรูป ณ เชียงใหม่ – เชียงราย)
และฝาก FB ไว้เหมือนเดิมเผื่อใครอยากเข้าไปดูรูปเต็มๆตามนี้ครับ
https://www.facebook.com/iBravery
ในส่วนของการถ่ายพรีเวดดิ้ง(พร้อมเที่ยว)ที่เชียงใหม่ผมขอเขียนเล่าแบบรวบรัดนะครับ ผมอยากจะเน้นไปที่การเดินทางของผมมากกว่า ถ้าใครขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปหน้าที่ผมเริ่ม Backpack ได้เลยครับ (ขอโฆษณาหน่อยละกันนะครับ จิงๆผมอยากถ่ายพรีเวดดิ้งแบบแบ็คแพ็ค แบบที่ไม่ต้องจัดท่า ไม่ต้องจ้างแต่งหน้า ไม่ต้องเช่าชุดแต่งงาน ไปแบบแบ็คแพ็คจิงๆ เผื่อมีใครสนใจ และอยากไปถ่ายต่างประเทศ เข้ามาคุยกันได้นะครับ ผมไม่ซีเรียสเรื่องเงิน แค่ดูแลผมตลอดทริปด้วยก็พอครับ อิอิ ผมอยากลองงามลักษณะนี้ ซึ่งคงเป็นครั้งแรก ก็คงไม่กล้ารับปากว่ามันจะออกมาดีมาก แต่ก็คิดว่ามันก็ไม่ออกมาแย่แน่นอนครับ)
งั้นผมขอเริ่มเลยละกัน วันแรกของการเดินทาง(ถ่ายพรี) ผมออกจากจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยรถส่วนตัวประมาณ 4 ทุ่มของวันที่ 25 และไปรับบ่าวสาวที่ กทม วันที่ 26 และออกเดินทางไปถึงเชียงใหม่เที่ยงวันที่ 27 ครับ โดยสถานที่ๆจะไปถ่ายที่แรกก็คือ “ดอยอ่างขาง” ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมเหมือนกันครับที่ได้มาดอยอ่างขาง พอมาถึงก็เข้าที่พักและก็เข้าไปถ่ายในสถานีเกษตร์นิดหน่อยครับ (วันแรกผมไม่ค่อยได้ถ่ายเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง แต่ก็แอบๆเก็บมาบ้างเป็ยบรรยากาศ)
อันนี้เป็นส่วนท้อครับ จุดนี้มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเยอะเหมือนกันครับ
พอวันที่ 2 ก็ไปที่ไร่ชา 2000 ไร่ ซึ่งต้องขึ้นจากที่พักไปอีกประมาณ 10 นาที ซึ่งไม่ไกลกันมากครับ
ผมก็แอบๆถ่ายทั้งวิวทั้งบ่าวสาวมามั้ง อิอิ
ถ่ายเสร็จเราก็ยกกองไปเข้าที่พักในเมือง เห็นข้างทางสวยๆ ก็ลงไปถ่ายเล่นๆกันหน่อย
ถ่ายเสร็จก็เดินทางกันต่อ หลังจะขับรถไปได้สักพักทีมงานและบ่าวสาวขอไปเที่ยวที่ม่อนแจ่มก่อนเพราะไม่ไกลจากตัวเมืองมาก (จากอ่างขางมาถึงในเมืองก็บ่ายประมาณบ่าย 2 โมงแล้ว) อ้อ!! ลืมพูดถึงที่พัก ที่พักที่พวกผมไปพัก ชื่อว่า Runway station resort ภายในก็ค่อนข้างสบายและก็สะอาดด้วยครับ
พอเอาขอเก็บเข้าที่พักก็ยิงยาวไปม่อนแจ่มเลยครับ บรรยากาศม่อนแจ่มผมเคยรีวิวไปครั้งนึงแล้วเมื่อทริปก่อน (กลับไปอ่านย้อนหลังได้ครับตาม Link นี้
http://pantip.com/topic/34484617) ไปถึงม่อนแจ่มช่างภาพก็หามุมถ่าย ผมก็คอยแอบถ่ายแบบเนียนๆไปเรื่อยๆ อิอิ (ช่วงนี้มีแต่รูปบ่าวสาว ขอโฆษณาแบบเนียนๆหน่อยนะครับ)
เสร็จจากม่อนแจ่มก็เดินทางกลับที่พัก พักผ่อนเพื่อเตรียมไปถ่ายในวันถัดไป (ไม่ต้องสงสัยนะครับว่าทำไมถ่ายหลายวัน เพราะเป็นทริปถ่าย+เที่ยว บ่าวสาว เลี้ยง ช่างภาพก็ไชโยครับ)
วันถัดมาวางแผนกันไว้ว่าจะไปถ่ายกันที่ ขุนวาง – ศูนย์วิจัยกล้วยไม้รองเท้านารี และจุดชมวิวบนอินทนนท์ ตื่นเช้ามาก็มาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตี 3 ครับ โดยได้ช่างแต่งหน้าก็คือน้องเหมียว ช่างแต่งหน้าจากเชียงใหม่ (ผมไม่มีเบอร์ติดต่อและเฟสน้องเค้า เพราะคนที่ติดต่อก็คือพี่ช่างภาพครับ)
อันนี้ผมของสรุปภาพรวมทั้ง 3 ที่เลยนะครับ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาจะได้เข้าไปสู่ช่วงการเดินทางของผม (ผมไม่ค่อยจะมีภาพเท่าไหร่ช่วงวันนี้ เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นผู้ช่วยช่างภาพ ก็ต้องเน้นงานไว้ก่อนครับ ภาพส่วนใหญ่วันนี้ของผมก็จะเป็นภาพบ่าวสาว)
คืนวันนี้พวกผมพักกันที่บ้านกลางหลวงครับ เป็นที่พักกลางนาห้องนึงนอนได้ 6 คน 2 ห้องน้ำ บรรยากาศค่อนข้างดีทีเดียวเลยครับ และมีร้านกาแฟที่บรรยากาศสุดฟินด้วย
อีกรูปเป็นบรรยากาศร้านกาแฟ
หลังจากถ่ายเสร็จพรีเวดดิ้งกันมาทั้งวันก็ถึงเวลาพักผ่อน และในที่สุดพรุ้งนี้ (วันเสาร์ที่ 30 มกราคม 58) ก็ถึงเวลาที่ผมต้องออกเดินทางเพียงลำพัง ต้องแยกกับทีมงานและออกไปเผชิญกับความท้าทายสิ่งใหม่ๆ (เว่อร์มาก!!) แต่ก่อนจะถึงวันพรุ้งนี้ซึ่งนานๆผมจะได้เจอดาวเต็มฟ้าแบบฟ้าเคลียร์ๆ ผมก็คงจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแน่ๆ (อยู่ใต้โอกาสแบบนี้หายากมากครับ มรสุมมีเกือบตลอดทั้งปี)
พรีเวดดิ้งดาวหมุน ก็แปลกไปอีกแบบ
สุดท้ายในที่สุดก็มาถึงเรื่องราวการเดินทางของผม ผมจะพยายามเล่าให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะจำได้นะครับ หากข้อมูลส่วนไหนคลาดเคลือนไปก็ขออภัยมาใน ณ ที่นี้ด้วยครับ เริ่มวันแรกกันเลย
[CR] ทำเนียนไปถ่ายพรี (เวดดิ้ง) แต่แอบหนีไป Backpack คนเดียว ที่ แม่ฮ่องสอน
สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมเขียนลง Pantip ที่เกี่ยวกับการเดินทาง แต่คราวนี้มันจะเป็นการเดินทางของผมเพียงคนเดียว ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นไว้ก่อนว่า ก่อนหน้านี้ประมาณปีใหม่ ผมตั้งใจจะ Backpack คนเดียวจากนครศรีธรรมราช ไปยังแม่ฮ่องสอน ในช่วงสิ้นเดือนมกราคม 59 แต่ก่อนจะถึงการเดินทางของผม ก็เกิดเรื่องบังเอิญนิดหน่อยก็คือ พอดีมีพี่จากสตูถ่ายพรีเวดดิ้งโทรมาบอกว่ามีลูกค้าจะไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่เชียงใหม่ในช่วง 27-29 ม.ค. 59 และอยากให้ผมไปเป็นผู้ช่วยช่างภาพ ซึ่งผมก็ตอบรับไปโดยทันที (ดีเหมือนกันไม่ต้องนั้งรถไฟฟรีขึ้นเหนือ)
ก่อนจะเริ่มเข้าเรื่องผมขอฝากทริปก่อนหน้านี้ไว้หน่อยนะครับ เผื่อใครยังไม่ได้เข้าไปอ่านหรือไปดูรูปก็เข้าไปได้ตาม link นี้นะครับ
==== > http://pantip.com/topic/34484617 (7 วัน 6 คืน กิน เที่ยว ถ่ายรูป ณ เชียงใหม่ – เชียงราย)
และฝาก FB ไว้เหมือนเดิมเผื่อใครอยากเข้าไปดูรูปเต็มๆตามนี้ครับ https://www.facebook.com/iBravery
ในส่วนของการถ่ายพรีเวดดิ้ง(พร้อมเที่ยว)ที่เชียงใหม่ผมขอเขียนเล่าแบบรวบรัดนะครับ ผมอยากจะเน้นไปที่การเดินทางของผมมากกว่า ถ้าใครขี้เกียจอ่านก็ข้ามไปหน้าที่ผมเริ่ม Backpack ได้เลยครับ (ขอโฆษณาหน่อยละกันนะครับ จิงๆผมอยากถ่ายพรีเวดดิ้งแบบแบ็คแพ็ค แบบที่ไม่ต้องจัดท่า ไม่ต้องจ้างแต่งหน้า ไม่ต้องเช่าชุดแต่งงาน ไปแบบแบ็คแพ็คจิงๆ เผื่อมีใครสนใจ และอยากไปถ่ายต่างประเทศ เข้ามาคุยกันได้นะครับ ผมไม่ซีเรียสเรื่องเงิน แค่ดูแลผมตลอดทริปด้วยก็พอครับ อิอิ ผมอยากลองงามลักษณะนี้ ซึ่งคงเป็นครั้งแรก ก็คงไม่กล้ารับปากว่ามันจะออกมาดีมาก แต่ก็คิดว่ามันก็ไม่ออกมาแย่แน่นอนครับ)
งั้นผมขอเริ่มเลยละกัน วันแรกของการเดินทาง(ถ่ายพรี) ผมออกจากจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยรถส่วนตัวประมาณ 4 ทุ่มของวันที่ 25 และไปรับบ่าวสาวที่ กทม วันที่ 26 และออกเดินทางไปถึงเชียงใหม่เที่ยงวันที่ 27 ครับ โดยสถานที่ๆจะไปถ่ายที่แรกก็คือ “ดอยอ่างขาง” ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมเหมือนกันครับที่ได้มาดอยอ่างขาง พอมาถึงก็เข้าที่พักและก็เข้าไปถ่ายในสถานีเกษตร์นิดหน่อยครับ (วันแรกผมไม่ค่อยได้ถ่ายเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง แต่ก็แอบๆเก็บมาบ้างเป็ยบรรยากาศ)
อันนี้เป็นส่วนท้อครับ จุดนี้มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเยอะเหมือนกันครับ
พอวันที่ 2 ก็ไปที่ไร่ชา 2000 ไร่ ซึ่งต้องขึ้นจากที่พักไปอีกประมาณ 10 นาที ซึ่งไม่ไกลกันมากครับ
ผมก็แอบๆถ่ายทั้งวิวทั้งบ่าวสาวมามั้ง อิอิ
ถ่ายเสร็จเราก็ยกกองไปเข้าที่พักในเมือง เห็นข้างทางสวยๆ ก็ลงไปถ่ายเล่นๆกันหน่อย
ถ่ายเสร็จก็เดินทางกันต่อ หลังจะขับรถไปได้สักพักทีมงานและบ่าวสาวขอไปเที่ยวที่ม่อนแจ่มก่อนเพราะไม่ไกลจากตัวเมืองมาก (จากอ่างขางมาถึงในเมืองก็บ่ายประมาณบ่าย 2 โมงแล้ว) อ้อ!! ลืมพูดถึงที่พัก ที่พักที่พวกผมไปพัก ชื่อว่า Runway station resort ภายในก็ค่อนข้างสบายและก็สะอาดด้วยครับ
พอเอาขอเก็บเข้าที่พักก็ยิงยาวไปม่อนแจ่มเลยครับ บรรยากาศม่อนแจ่มผมเคยรีวิวไปครั้งนึงแล้วเมื่อทริปก่อน (กลับไปอ่านย้อนหลังได้ครับตาม Link นี้ http://pantip.com/topic/34484617) ไปถึงม่อนแจ่มช่างภาพก็หามุมถ่าย ผมก็คอยแอบถ่ายแบบเนียนๆไปเรื่อยๆ อิอิ (ช่วงนี้มีแต่รูปบ่าวสาว ขอโฆษณาแบบเนียนๆหน่อยนะครับ)
เสร็จจากม่อนแจ่มก็เดินทางกลับที่พัก พักผ่อนเพื่อเตรียมไปถ่ายในวันถัดไป (ไม่ต้องสงสัยนะครับว่าทำไมถ่ายหลายวัน เพราะเป็นทริปถ่าย+เที่ยว บ่าวสาว เลี้ยง ช่างภาพก็ไชโยครับ)
วันถัดมาวางแผนกันไว้ว่าจะไปถ่ายกันที่ ขุนวาง – ศูนย์วิจัยกล้วยไม้รองเท้านารี และจุดชมวิวบนอินทนนท์ ตื่นเช้ามาก็มาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตี 3 ครับ โดยได้ช่างแต่งหน้าก็คือน้องเหมียว ช่างแต่งหน้าจากเชียงใหม่ (ผมไม่มีเบอร์ติดต่อและเฟสน้องเค้า เพราะคนที่ติดต่อก็คือพี่ช่างภาพครับ)
อันนี้ผมของสรุปภาพรวมทั้ง 3 ที่เลยนะครับ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาจะได้เข้าไปสู่ช่วงการเดินทางของผม (ผมไม่ค่อยจะมีภาพเท่าไหร่ช่วงวันนี้ เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นผู้ช่วยช่างภาพ ก็ต้องเน้นงานไว้ก่อนครับ ภาพส่วนใหญ่วันนี้ของผมก็จะเป็นภาพบ่าวสาว)
คืนวันนี้พวกผมพักกันที่บ้านกลางหลวงครับ เป็นที่พักกลางนาห้องนึงนอนได้ 6 คน 2 ห้องน้ำ บรรยากาศค่อนข้างดีทีเดียวเลยครับ และมีร้านกาแฟที่บรรยากาศสุดฟินด้วย
อีกรูปเป็นบรรยากาศร้านกาแฟ
หลังจากถ่ายเสร็จพรีเวดดิ้งกันมาทั้งวันก็ถึงเวลาพักผ่อน และในที่สุดพรุ้งนี้ (วันเสาร์ที่ 30 มกราคม 58) ก็ถึงเวลาที่ผมต้องออกเดินทางเพียงลำพัง ต้องแยกกับทีมงานและออกไปเผชิญกับความท้าทายสิ่งใหม่ๆ (เว่อร์มาก!!) แต่ก่อนจะถึงวันพรุ้งนี้ซึ่งนานๆผมจะได้เจอดาวเต็มฟ้าแบบฟ้าเคลียร์ๆ ผมก็คงจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแน่ๆ (อยู่ใต้โอกาสแบบนี้หายากมากครับ มรสุมมีเกือบตลอดทั้งปี)
พรีเวดดิ้งดาวหมุน ก็แปลกไปอีกแบบ
สุดท้ายในที่สุดก็มาถึงเรื่องราวการเดินทางของผม ผมจะพยายามเล่าให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะจำได้นะครับ หากข้อมูลส่วนไหนคลาดเคลือนไปก็ขออภัยมาใน ณ ที่นี้ด้วยครับ เริ่มวันแรกกันเลย