สวัสดีครับ วันนี้ผมมีประสบการณ์ การเดินทางด้วยด้วยมอเตอร์ไซต์มาฝาก กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้รีวิวนะครับ
แต่ขอเป็นพื้นที่เล็กๆสำหรับแบ่งปันประสบการณ์ดีๆก็แล้วกันนะครับ เอาแบบยาวเลยนะครับ^^
ก่อนอื่นผมกับเพื่อนๆ มีแพลนว่าจะไปเที่ยวดอยอ่างขางกันตอนปีใหม่ครับ แล้วไปเจอกันที่เชียงใหม่ 1 มกราคม 2559 ตอนเช้า
แต่ผมมีเวลามากกว่านั้น ก็เลยชวนเพื่อนอีกคนไปภูกระดึงกันก่อนแล้วไปเจอเพื่อนที่เชียงใหม่
เริ่มกันเลย let's go ผมออกเดินทางจากพิษณุโลก เมื่อ 28 ธันวาคม โดยใช้ถนนสาย 12 ผ่านเขาค้อ เพชรบูรณ์ และ เลย ผมประทับใจถนนสายพิษณุโลก - หล่มสักมาก เพราะถนนพึ่งสร้างเสร็จ วิว และ อากาศดีมากๆ ก็เลยขี่ได้แบบชิวๆ ไม่ต้องทำเวลามาก
แต่พอเดินทางถึงภูกระดึงเป็นเวลา บ่าย 4 โมง เจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้นแล้ว ก็เลยต้องนอนข้างล่าง แล้วขึ้นพรุ่งนี้เช้า จึงทำให้เวลาเที่ยวด้านบนเหลือเพียงวันเดียว เพราะต้องเผื่อเวลาเดินลง และเดินทางไปเชียงใหม่ด้วย
รุ่งเช้าเราพร้อมแล้ว ไม่จ้างลูกหาบ แบกกันคนละ 10 กิโล สู่ ภูกระดึง
เล่นเอาแทบอยากทิ้งกระเป๋า ฮ่าๆๆ แต่ไม่เป็นไรครับ ลุยต่อ แต่คนเยอะมากๆ เลยครับ ไม่ได้ถ่ายรูปตนเองเลยครับ เพราะถือกล้อง
งั้นถ่ายบรรยากาศมาให้ชมก็แล้วกัน
บางครั้งก็น่าเห็นใจ ลูกหาบเหมือนกันนะครับ แต่ก็เป็นอาชีพของเขาครับ เราก็ได้แต่เอาใจช่วย คงจะหนักมาก
ใช้เวลาเดินนานมากกว่าที่คิด แขนขาเมื่อยล้า แต่เมื่อเราเริ่มเดินแล้ว ต้องไปให้สุดทางครับ บันได้สุดท้าย ก่อนถึงด้านบน
ฮ่าๆๆ สุดท้ายเราก็มาถึงด้านบนจนได้ ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึง ป้ายนี้ต้องถ่ายเป็นที่ระลึกให้ได้ ก็เลยวานพี่แถวนั้นถ่ายให้ ฮ่าๆ
แต่เรายังไม่ถึงจุดที่พักนะครับ ยังต้องเดินกันอีก 3 กิโลกว่าๆ ลุย
พอมาถึงเราต้องรีบเที่ยวแล้ว เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับ ขณะนี้เวลาบ่าย 2 กว่าๆ ตั้งใจจะไปผาหล่มสัก แต่คงไม่ทันแล้วละ TT
งั้นก็เดินเที่ยวบริเวณใกล้ๆ ก่อนละกัน เดินอีกแล้ว เดี๋ยวไม่คุ้ม ฮ่าๆ
ผมจำไม่ได้ว่าเดินไปไหนบ้าง แต่เอาภาพบรรยากาศมาฝากแล้วกันนะครับ
เดินเล่นจนเวลาล่วงไป 5 โมง ถึงเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกแล้วครับ ณ บริเวณ ผาหมากดูก แล้วเดินทางกลับที่พักผมแปลกใจมากเลยครับ ด้านบนคือเหมือนกับเป็นเมืองย่อมๆเลยนะครับ อย่างกะถนนคนเดิน ทั้งร้านของที่ระลึก ร้านข้าว ร้านน้ำชา กาแฟ มีหมูกะทะด้วย amazing!
รีบนอนดีกว่าครับ พรุ่งนี้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ณ ผานกแอ่น
จวนได้เวลาเดินทางกลับ แต่คราวนี้เข็ดจากแบกของขึ้นครับ จ้างลูกหาบละกัน ฮ่าๆๆ
ใช้เวลาเดินลงไม่นานก็ถึงพื้น พร้อมกับรอสัมภาระ เอาละทำไงต่อดี ตอนนี้ก็บ่ายแก่ๆ (รอลูกหาบนานมาก) วันนี้ วันที่30 แล้ว
ผมตัดสินใจกับเพื่อน เดินทางไปเชียงใหม่วันนั้นเลย strong มากครับ เดินทางแบบข้ามวัน ข้ามคืนครั้งแรก ของชีวิตเลย ฮ่าๆ
พวกเราใช้ถนนสาย ไปทางภูเรือ ไปทางด่านซ้าย แล้วขี่เข้า นครไทย พิษณุโลก แล้วก็ขี่ขึ่นไปทะลุอุตรดิตถ์ ซึ่งถนนแบบเปลี่ยวมากๆๆ เราก็เลยต้องขับให้ไวๆ เพราะกลัว ฮ่าๆ แต่ขี่มอเตอร์ไซต์ตอนกลางคืน ขับง่ายดีนะครับ ไม่ต้องกังวลกับรถที่สวนมา กังวลเพียงจะหลุดโค้งเท่านั้น
จากอุตรดิตถ์เราก็ไปตามทางหลวง 11 สู่ แพร่ ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ครับ ออกเดินทางจาก ภูกระดึง 5 โมงเย็น ถึงเชียงใหม่ ประมาณเที่ยงๆของวันที่ 31 ครับ พอถึงเชียงใหม่ เราก็นอนหลับเป็นตายเลยครับ สิ้นปี คืนนี้ผมมาสวดมนต์ข้ามปีที่ วัดสวนดอก ใกล้ๆมหาลัยเชียงใหม่ครับ
รุ่งเช้าเพื่อนๆ มากันครบแล้ว เดินทางสู่ดอยอ่างขางครับ กว่าจะเตรียมข้างของเสร็จก็ปาไปเกือบเที่ยง ฮ่าๆ
ใช้ถนนสายแม่ริม ผ่านไปเชียงดาว แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ดอยอ่างขางครับ ผมชอบถนนสายนี้นะ สวยดี
เราถึงดอยอ่างขางก็มืดแล้วครับ หน้าหนาวพระอาทิตย์ก็ตกเร็วเป็นธรรมดา
มาถึงค่ำแบบนี้คง มองไม่เห็นอะไร พรุ่งนี้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันครับ
เก็บภาพบรรยากาศมาฝากครับ ^^
ณ บริเวณ สถานีเกษตรหลวง อ่างขาง กับดอกไม้นานาพันธ์ สวยงามไปในทุกย่อมหญ้า สรรค์ของคนชอบดอกไม้เลยครับ
แน่นอนครับว่าพระเอกของที่นี่ คือพญาเสือโคร่ง และมีซากุระจริงๆ อิมพอร์ตมาจากญี่ปุ๋นด้วยนะครับ แต่ผมแยกไม่ออกครับ ฮ่าๆๆ
เก็บภาพบรรยากาศมาฝากครับ เล่าเรื่องด้วยภาพละกัน
ผมนอนเชียงใหม่ 1 คืน รุ่งเช้าผมก็ขี่มอเตอร์ไซต์กลับพิษณุโลกอีกครั้ง โดยสวัสดิภาพครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนะครับ ไว้มีประสบการณ์ดีๆ ผมจะถ่ายภาพและไว้มาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะครับ ^^
(เล่าเรื่อง) สวัสดีปีใหม่ wave 110 จากภูกระดึง ถึง ดอยอ่างขาง
แต่ขอเป็นพื้นที่เล็กๆสำหรับแบ่งปันประสบการณ์ดีๆก็แล้วกันนะครับ เอาแบบยาวเลยนะครับ^^
ก่อนอื่นผมกับเพื่อนๆ มีแพลนว่าจะไปเที่ยวดอยอ่างขางกันตอนปีใหม่ครับ แล้วไปเจอกันที่เชียงใหม่ 1 มกราคม 2559 ตอนเช้า
แต่ผมมีเวลามากกว่านั้น ก็เลยชวนเพื่อนอีกคนไปภูกระดึงกันก่อนแล้วไปเจอเพื่อนที่เชียงใหม่
เริ่มกันเลย let's go ผมออกเดินทางจากพิษณุโลก เมื่อ 28 ธันวาคม โดยใช้ถนนสาย 12 ผ่านเขาค้อ เพชรบูรณ์ และ เลย ผมประทับใจถนนสายพิษณุโลก - หล่มสักมาก เพราะถนนพึ่งสร้างเสร็จ วิว และ อากาศดีมากๆ ก็เลยขี่ได้แบบชิวๆ ไม่ต้องทำเวลามาก
แต่พอเดินทางถึงภูกระดึงเป็นเวลา บ่าย 4 โมง เจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้นแล้ว ก็เลยต้องนอนข้างล่าง แล้วขึ้นพรุ่งนี้เช้า จึงทำให้เวลาเที่ยวด้านบนเหลือเพียงวันเดียว เพราะต้องเผื่อเวลาเดินลง และเดินทางไปเชียงใหม่ด้วย
รุ่งเช้าเราพร้อมแล้ว ไม่จ้างลูกหาบ แบกกันคนละ 10 กิโล สู่ ภูกระดึง
เล่นเอาแทบอยากทิ้งกระเป๋า ฮ่าๆๆ แต่ไม่เป็นไรครับ ลุยต่อ แต่คนเยอะมากๆ เลยครับ ไม่ได้ถ่ายรูปตนเองเลยครับ เพราะถือกล้อง
งั้นถ่ายบรรยากาศมาให้ชมก็แล้วกัน
บางครั้งก็น่าเห็นใจ ลูกหาบเหมือนกันนะครับ แต่ก็เป็นอาชีพของเขาครับ เราก็ได้แต่เอาใจช่วย คงจะหนักมาก
ใช้เวลาเดินนานมากกว่าที่คิด แขนขาเมื่อยล้า แต่เมื่อเราเริ่มเดินแล้ว ต้องไปให้สุดทางครับ บันได้สุดท้าย ก่อนถึงด้านบน
ฮ่าๆๆ สุดท้ายเราก็มาถึงด้านบนจนได้ ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึง ป้ายนี้ต้องถ่ายเป็นที่ระลึกให้ได้ ก็เลยวานพี่แถวนั้นถ่ายให้ ฮ่าๆ
แต่เรายังไม่ถึงจุดที่พักนะครับ ยังต้องเดินกันอีก 3 กิโลกว่าๆ ลุย
พอมาถึงเราต้องรีบเที่ยวแล้ว เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับ ขณะนี้เวลาบ่าย 2 กว่าๆ ตั้งใจจะไปผาหล่มสัก แต่คงไม่ทันแล้วละ TT
งั้นก็เดินเที่ยวบริเวณใกล้ๆ ก่อนละกัน เดินอีกแล้ว เดี๋ยวไม่คุ้ม ฮ่าๆ
ผมจำไม่ได้ว่าเดินไปไหนบ้าง แต่เอาภาพบรรยากาศมาฝากแล้วกันนะครับ
เดินเล่นจนเวลาล่วงไป 5 โมง ถึงเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกแล้วครับ ณ บริเวณ ผาหมากดูก แล้วเดินทางกลับที่พักผมแปลกใจมากเลยครับ ด้านบนคือเหมือนกับเป็นเมืองย่อมๆเลยนะครับ อย่างกะถนนคนเดิน ทั้งร้านของที่ระลึก ร้านข้าว ร้านน้ำชา กาแฟ มีหมูกะทะด้วย amazing!
รีบนอนดีกว่าครับ พรุ่งนี้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ณ ผานกแอ่น
จวนได้เวลาเดินทางกลับ แต่คราวนี้เข็ดจากแบกของขึ้นครับ จ้างลูกหาบละกัน ฮ่าๆๆ
ใช้เวลาเดินลงไม่นานก็ถึงพื้น พร้อมกับรอสัมภาระ เอาละทำไงต่อดี ตอนนี้ก็บ่ายแก่ๆ (รอลูกหาบนานมาก) วันนี้ วันที่30 แล้ว
ผมตัดสินใจกับเพื่อน เดินทางไปเชียงใหม่วันนั้นเลย strong มากครับ เดินทางแบบข้ามวัน ข้ามคืนครั้งแรก ของชีวิตเลย ฮ่าๆ
พวกเราใช้ถนนสาย ไปทางภูเรือ ไปทางด่านซ้าย แล้วขี่เข้า นครไทย พิษณุโลก แล้วก็ขี่ขึ่นไปทะลุอุตรดิตถ์ ซึ่งถนนแบบเปลี่ยวมากๆๆ เราก็เลยต้องขับให้ไวๆ เพราะกลัว ฮ่าๆ แต่ขี่มอเตอร์ไซต์ตอนกลางคืน ขับง่ายดีนะครับ ไม่ต้องกังวลกับรถที่สวนมา กังวลเพียงจะหลุดโค้งเท่านั้น
จากอุตรดิตถ์เราก็ไปตามทางหลวง 11 สู่ แพร่ ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ครับ ออกเดินทางจาก ภูกระดึง 5 โมงเย็น ถึงเชียงใหม่ ประมาณเที่ยงๆของวันที่ 31 ครับ พอถึงเชียงใหม่ เราก็นอนหลับเป็นตายเลยครับ สิ้นปี คืนนี้ผมมาสวดมนต์ข้ามปีที่ วัดสวนดอก ใกล้ๆมหาลัยเชียงใหม่ครับ
รุ่งเช้าเพื่อนๆ มากันครบแล้ว เดินทางสู่ดอยอ่างขางครับ กว่าจะเตรียมข้างของเสร็จก็ปาไปเกือบเที่ยง ฮ่าๆ
ใช้ถนนสายแม่ริม ผ่านไปเชียงดาว แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ดอยอ่างขางครับ ผมชอบถนนสายนี้นะ สวยดี
เราถึงดอยอ่างขางก็มืดแล้วครับ หน้าหนาวพระอาทิตย์ก็ตกเร็วเป็นธรรมดา
มาถึงค่ำแบบนี้คง มองไม่เห็นอะไร พรุ่งนี้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันครับ
เก็บภาพบรรยากาศมาฝากครับ ^^
ณ บริเวณ สถานีเกษตรหลวง อ่างขาง กับดอกไม้นานาพันธ์ สวยงามไปในทุกย่อมหญ้า สรรค์ของคนชอบดอกไม้เลยครับ
แน่นอนครับว่าพระเอกของที่นี่ คือพญาเสือโคร่ง และมีซากุระจริงๆ อิมพอร์ตมาจากญี่ปุ๋นด้วยนะครับ แต่ผมแยกไม่ออกครับ ฮ่าๆๆ
เก็บภาพบรรยากาศมาฝากครับ เล่าเรื่องด้วยภาพละกัน
ผมนอนเชียงใหม่ 1 คืน รุ่งเช้าผมก็ขี่มอเตอร์ไซต์กลับพิษณุโลกอีกครั้ง โดยสวัสดิภาพครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนะครับ ไว้มีประสบการณ์ดีๆ ผมจะถ่ายภาพและไว้มาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะครับ ^^