สวัสดีครับมิตรรักชาวพันทิปทุกคน ผมเพิ่งตั้งกระทู้เป็นกระทู้แรกถ้าตัวหนังสือตกผิดพลาดยังต้องขอโทษขออภัยไว้นะครับ
ผมอายุอานามก็สามสิบต้นๆ ผ่านการอกหักมาพอหอมปากหอมคอผมรักใครผมรักจริงทั้งนั้นแต่ทำไมไม่รู้เค้าคือหักอกผมๆได้มีโอกาสรู้จักกับผู้หยิงคนนึงเขาเป็นคนภาคเดียวกับผมเธอทำงานอยู่กรุงเทพอายุเค้ากะเพิ่ง24-25ครับ ผมรู้จักเพราะผมไปทำธุระที่กรุงเทพผมเจอเธอครั้งแรกมันใช่สำหรับผมเลย คือไม่รู้ว่าอะไรดนใจให้ผมไปทักเธอเหมือนกัน ผมเองก็งะๆๆ มึนๆงงๆ กลางๆปนอิสานครับ55 เธอตอบผมเป็นภาษาอิสานผมกะเอ้าคนบ้านเดียวกันตั้วนิ เธอกะถามผมมีหยังบ่จ้า พร้อมรอยยิ้มใส่เหล็กจัดฟัน ป๊าดจุ๊ๆๆตาฮักขนาด ผมกะขอไลนเธอๆกะให้ผมแหม๋ ผมถามเธอในไลนว่ามีแฟนยังครับผู้สาว เธอตอบ:ว่ามีแล้วจ้า

เธอส่งมาให้ผมจั๊กซี่ ผมถึงกับอยากสิร้องไห้ แต่เธอกะตอบมาอีกว่า มีแฟนแต่ช่วงนี้มีปัญหาบ่มีเวลาให้กันว่าสั่นว่าเด แฟนเค้าเป็นทหาร(ยศผู้หมวด) คบกันมาตั้งแต่เรียนปริญญาตรี ปี3 ผม. คิดในใจสิเอาอะไรไปสู้กับเค้า แต่กะสิสู้เด้อเหอะๆๆ คุยไปคุยมากะได้ซั่มเธอครั้งนึงฮ่าๆ. ผมกะไปๆมากรุงเทพ-ขอนแก่น แต่เธอกะะบ่เลิกกับผู้หมวดคนนั้นเดเห็นเค้ากะรักกันดีอยู่ จนกระทั่งผมกับขอนแก่นนอนคิดอยู่ทั้งคืนอยากได้เธอมาเป็นเมียความคิดอันชั่วๆก็บังเกิดขึ้น พอฟ้าเริ่มสางผมกะขับรถไปบ้านที่หนองคายขับไปผู้เดียวออกจากบ้านเกือบหกโมงเช้าไปถึงหนองคาย แปดโมงหน่อยๆพอถึงหนองคายผมแกล้งโทรไปถามเธอว่าบ้านเธออยู่ไหน อยู่ตำบล หมู่บ้านไหน เธอกะงงถามผมว่าถามเพื่อ! ผมกะเลยโกหกเค้าไปว่าอ่อพาอิแม่มาบ้านญาติพี่น้อง เพื่ออยู่แถวนี้ผมบอกเธอไปว่าอยู่หมู่บ้านนี้เธอว่าอ่อคนละที่กันเธอบอกผมเฉยเลยแบบหลุดปากเว้า(พูด) ผมกะไปตามอำเภอ ตามหมู่บ้านที่เธอบอก เกือบหลงพอไปหมู่บ้านกะถามคนแถวนั้นว่าบ้านน้อง..อยู่หลังไหนครับ ขับไปเรื่อยๆจนเจอบ้านเธอเห็น แม่กับยายเค้านั่งกันอยู่หน้าบ้าน ผมลงจากรถถามว่านี้บ้านน้อง..ใช่ไหมครับเค้ากะว่า เออใช่ๆ ผมกะหิ้วของฝากมาฝากว่าที่แม่เฒ่าตั้วเหอะๆ ผมก็สวัสดีครับแม่และยาย ยายถาม หนุ่มๆเป็นใครหนุ่มรู้หลานข้าได้ไง ผมกะตอบไปแบบหน้าด้านๆว่าเป็นแฟนน้อง..ครับ เค้าถึงกับงง แล้วเค้าถามหลานเค้าทำไมไม่มาด้วยผมว่าเค้ายุ่งครับเค้าบ่ว่างครับ แม่เค้าว่าเฮ้ย..มันมีแฟนอยู่แล้วนะเป็นทหาร ผมกะเลยว่าอ่อ ไอ้คนนั้นมันเลิกแล้วครับ ที่ผมมาวันนี้ผมจะมาขอน้อง..กับอิแม่ครับ ผมให้สินสอด เงินสดแปดหมื่น ทอง3บาทครับแม่ งานบ่จัดใหญ่เอาแค่พี่ๆน้องๆเท่านั้น แม่เค้ากะงงๆผมกะเลยว่าเอางี้ครับแม่เดี๋ยววางมัดจำไว้ก่อนสองหมื่นตกลงบ่ครับแม่ ๆกะเออๆๆออๆไปเหอะๆๆๆ แล้วยายกะถามผมว่ากำหนดงานวันไหน ผมบอกอีก2อาทิตย์ครับยาย ๆกะปาดมันคือเร็วแท้บัก ผมไม่บอกเหตุผลหรอกว่าทำไมแต่งเร็วจัง ตกลงกันรู้เรื่องบ่ายๆผมก็กลับขอนแก่น ช่วงผมขับรถนั้นเธอโทรมาหาผม ๆรับสาย เธอด่าผมก่อเรื่องอะไรไว้ที่หลอกถามว่าบ้านอยู่ไหนเนี่ย เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม ถามก่อนไหมว่าจะแต่งหรือเปล่าไม่ใช่คิดเออเองแบบนี้ ผมยังไม่ทันพูดไรเลยเธอว่างสายใส่ผมสะงั้นจากนั้นผมติดต่อเธอไม่ได้อีกเลยไลนไม่ตอบโทรไม่รับ เริ่มคิดในใจละว่ากินแห้วแน่ๆๆงานนี้ แต่ปลอบตัวเองเข้าข้างตัวเองว่าเอาว่ะไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แหละ
จนวันงานมาถึงผมยังติดต่อเธอไม่ได้นะ แต่ใจสู้เสือไม่ถอยแล้วเดินหน้าอย่างเดียวผมก็พาพ่อแม่ญาติพี่น้องเอากะบะไปสองคันคนประมาณ20กว่าคนได้ ไปถึงบ้านเค้าๆก็เตรียมงานไว้นะแต่ไม่อะไรมากเตรียมกับข้าวไว้ แม่มาบอกผมว่าเจ้าสาวมันยังไม่มาจากกรุงเทพเลย ผมเองถึงกับตกใจแม่ก็กระหน่ำโทรๆๆๆหาลูกสาวเค้า ส่วนป้าๆน้าๆผมก็บ่นสรุปเจ้ามงอยู่กรุงเทพอยู่ เออเจริญพรเถอะห่ารากมันนิ แม่เค้าโมโหเค้ายังไม่ตื่นเลย เค้ารับสายแม่กระหน่ำด่าไปหลายคำยาวมาก เค้าจะไม่ยอมกับมาด้วยซ้ำจู่ๆเค้าก็ยอมมา บินตอน10โมง ถึงสนามบิน11โมงนิดนึง ผมก็ขับไปรับเธอที่อุดรกว่าจะถึงบ้านบ่ายคึ่ง เธอถามผมเป็นอะไรจะแต่งอะไรเร็วขนาดนี้ แล้วอีกอย่างรู้ทั้งรู้ว่า..มีแฟนอยู่แล้ว ผมเลยบอกความจริงเธอไปว่าอีก2อาทิตย์ผมจะไปทำงานที่เมืองนอกเลยอยากได้น้อง..มาเป็นเมียคนอื่นจะได้ไม่ยุ่ง เค้าก็เงียบ ชุดเจ้าสาวอะไรก็ไม่มีแต่งทั้งชุดทำงานนั่นแหละ แปลกๆดี เจ้าสาวผมล้ะหน้าเนี้ยบึ้งเชียว กว่าจะได้ทำพิธิปาไปบ่าย2แล้ว พิธีเสร็จสิ้นญาติๆผมก็กลับกันตกเย็นเธอจะกลับกรุงเทพแม่เค้าบ่นว่าจะรีบกลับไปไหนเค้าไม่ให้ไปไหน3วัน เธอพูดมาว่าหึลูกลางานมาแค่วันเดียวเท่านั่นแหละคือวันนี้ ผมกะได้เลยบอกถ้าจะกลับก็กลับอ้ายบ่ว่า เดี๋ยวอ้ายไปส่งนะกลับรถไรเธอบอกกลับเครื่องบินระหว่างขับรถผมกะบอกเธอพี่อยากได้ลูก เอาลูกให้อ้ายนะเธอกะปฏิเสทผมบอกโนๆๆเธอว่ายังไม่อยากมีผมถามเธออีกว่าพี่ไม่อยู่มาดูและพ่อแม่พี่ได้ไหมย้ายมาอยู่ขอนแก่นเลยอ่ะเธอก็ปฏิเสทผมอีก ผมเองเริ่มท้อ ยอมใจเธอจริงที่รัก ผมก็ไปส่งเธอที่สนามบินเธอบินตอน4ทุ่มผมกะรอส่งเธอขึ้นเครื่องผมกะเลยแวะนอนอุดรนะแหละขี้เกลียจขับรถกลับ พอเธอขึ้นเครื่องผมก็ติดต่อเธอไม่ได้เหมือนเดิม ผมกลับขอนแก่นโดนแม่ด่าเค้าเหมือนไม่อยากแต่งกับมุงเลยนะบักห่านิถ้าคนอยากแต่งมันกะต้องเตรียมพร้อมมากกว่านี้กุละอายชาวบ้าน ส่วนค่าสินสอดผมยกให้ทางเค้าหมด ทางนั่นก็ส่งคืนมา3หมื่น ทองไม่คืน
กระทั่งผมจะบินเธอก็ไม่ไปส่งผม ได้แต่ไลนมาว่าขอให้โชคดี เดินทางปลอดภัยนะจ้ะ แค่ผมก็ชื่นใจแล้ว ผมไปถึงนั้นผมโทรหาเธอๆก็กับคุยกับผมสะงั้นไปไลนมาหาตอบทุกคำ ผมงงเลย ผมไปอยู่ที่นั่นได้เดือนกว่าๆเธอเริ่มเปลื่ยน ผมลืมไปผมไมาได้จดทะเบียนกับเธอ เหมือนงานแต่งครั้งนี้มันแค่ฉากละครไง่ไม่รู้เว้ย
ผมโทรไลนหาเธอเห็นเธอนอนกอดกับไอ้หมวดนั้นเฉยเลย คือสรุปว่ากุเป็นชู้ของพวกเอง2คน เค้าก็ให้ผมดูทะเบียนสมรสเค้าไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว เชี้ยเอ้ยทำไมกุถึงตาบอดขนาดนี้ เลยถามเค้าว่า ไม่รักแล้วมาแต่งงานกันทำไม เธอตอบผมเคยบอกรักป่ะ แล้วไอ้งานแต่งจอมปลอมนั้นน้ะใครเป็นต้นคิดๆเองเออเองทั้งนั้น
แล้วก็ได้ข่าวมาว่าจะแต่งกันเร็วๆนี้แหละเห็นว่า สินสอดทองหมั้นเป็นล้าน เห็นว่าเงินสด 999,999บาท ทองอีก 9 บาท แหวนเพรชอีก1คู่ จัดงานยิ่งใหญ่
*สรุปกุผิดที่โง่ไปรักคนอย่างเธอใช่ไหม* เจ็บปวดว่ะ
คันบ่ฮักกัน สิมาแต่งงานนำกันเฮ็ด_ถ้าไม่รักกันจะมาแต่งงานกันทำไม? มันเจ็บปวดร้าวนะเว้ย
ผมอายุอานามก็สามสิบต้นๆ ผ่านการอกหักมาพอหอมปากหอมคอผมรักใครผมรักจริงทั้งนั้นแต่ทำไมไม่รู้เค้าคือหักอกผมๆได้มีโอกาสรู้จักกับผู้หยิงคนนึงเขาเป็นคนภาคเดียวกับผมเธอทำงานอยู่กรุงเทพอายุเค้ากะเพิ่ง24-25ครับ ผมรู้จักเพราะผมไปทำธุระที่กรุงเทพผมเจอเธอครั้งแรกมันใช่สำหรับผมเลย คือไม่รู้ว่าอะไรดนใจให้ผมไปทักเธอเหมือนกัน ผมเองก็งะๆๆ มึนๆงงๆ กลางๆปนอิสานครับ55 เธอตอบผมเป็นภาษาอิสานผมกะเอ้าคนบ้านเดียวกันตั้วนิ เธอกะถามผมมีหยังบ่จ้า พร้อมรอยยิ้มใส่เหล็กจัดฟัน ป๊าดจุ๊ๆๆตาฮักขนาด ผมกะขอไลนเธอๆกะให้ผมแหม๋ ผมถามเธอในไลนว่ามีแฟนยังครับผู้สาว เธอตอบ:ว่ามีแล้วจ้า
จนวันงานมาถึงผมยังติดต่อเธอไม่ได้นะ แต่ใจสู้เสือไม่ถอยแล้วเดินหน้าอย่างเดียวผมก็พาพ่อแม่ญาติพี่น้องเอากะบะไปสองคันคนประมาณ20กว่าคนได้ ไปถึงบ้านเค้าๆก็เตรียมงานไว้นะแต่ไม่อะไรมากเตรียมกับข้าวไว้ แม่มาบอกผมว่าเจ้าสาวมันยังไม่มาจากกรุงเทพเลย ผมเองถึงกับตกใจแม่ก็กระหน่ำโทรๆๆๆหาลูกสาวเค้า ส่วนป้าๆน้าๆผมก็บ่นสรุปเจ้ามงอยู่กรุงเทพอยู่ เออเจริญพรเถอะห่ารากมันนิ แม่เค้าโมโหเค้ายังไม่ตื่นเลย เค้ารับสายแม่กระหน่ำด่าไปหลายคำยาวมาก เค้าจะไม่ยอมกับมาด้วยซ้ำจู่ๆเค้าก็ยอมมา บินตอน10โมง ถึงสนามบิน11โมงนิดนึง ผมก็ขับไปรับเธอที่อุดรกว่าจะถึงบ้านบ่ายคึ่ง เธอถามผมเป็นอะไรจะแต่งอะไรเร็วขนาดนี้ แล้วอีกอย่างรู้ทั้งรู้ว่า..มีแฟนอยู่แล้ว ผมเลยบอกความจริงเธอไปว่าอีก2อาทิตย์ผมจะไปทำงานที่เมืองนอกเลยอยากได้น้อง..มาเป็นเมียคนอื่นจะได้ไม่ยุ่ง เค้าก็เงียบ ชุดเจ้าสาวอะไรก็ไม่มีแต่งทั้งชุดทำงานนั่นแหละ แปลกๆดี เจ้าสาวผมล้ะหน้าเนี้ยบึ้งเชียว กว่าจะได้ทำพิธิปาไปบ่าย2แล้ว พิธีเสร็จสิ้นญาติๆผมก็กลับกันตกเย็นเธอจะกลับกรุงเทพแม่เค้าบ่นว่าจะรีบกลับไปไหนเค้าไม่ให้ไปไหน3วัน เธอพูดมาว่าหึลูกลางานมาแค่วันเดียวเท่านั่นแหละคือวันนี้ ผมกะได้เลยบอกถ้าจะกลับก็กลับอ้ายบ่ว่า เดี๋ยวอ้ายไปส่งนะกลับรถไรเธอบอกกลับเครื่องบินระหว่างขับรถผมกะบอกเธอพี่อยากได้ลูก เอาลูกให้อ้ายนะเธอกะปฏิเสทผมบอกโนๆๆเธอว่ายังไม่อยากมีผมถามเธออีกว่าพี่ไม่อยู่มาดูและพ่อแม่พี่ได้ไหมย้ายมาอยู่ขอนแก่นเลยอ่ะเธอก็ปฏิเสทผมอีก ผมเองเริ่มท้อ ยอมใจเธอจริงที่รัก ผมก็ไปส่งเธอที่สนามบินเธอบินตอน4ทุ่มผมกะรอส่งเธอขึ้นเครื่องผมกะเลยแวะนอนอุดรนะแหละขี้เกลียจขับรถกลับ พอเธอขึ้นเครื่องผมก็ติดต่อเธอไม่ได้เหมือนเดิม ผมกลับขอนแก่นโดนแม่ด่าเค้าเหมือนไม่อยากแต่งกับมุงเลยนะบักห่านิถ้าคนอยากแต่งมันกะต้องเตรียมพร้อมมากกว่านี้กุละอายชาวบ้าน ส่วนค่าสินสอดผมยกให้ทางเค้าหมด ทางนั่นก็ส่งคืนมา3หมื่น ทองไม่คืน
กระทั่งผมจะบินเธอก็ไม่ไปส่งผม ได้แต่ไลนมาว่าขอให้โชคดี เดินทางปลอดภัยนะจ้ะ แค่ผมก็ชื่นใจแล้ว ผมไปถึงนั้นผมโทรหาเธอๆก็กับคุยกับผมสะงั้นไปไลนมาหาตอบทุกคำ ผมงงเลย ผมไปอยู่ที่นั่นได้เดือนกว่าๆเธอเริ่มเปลื่ยน ผมลืมไปผมไมาได้จดทะเบียนกับเธอ เหมือนงานแต่งครั้งนี้มันแค่ฉากละครไง่ไม่รู้เว้ย
ผมโทรไลนหาเธอเห็นเธอนอนกอดกับไอ้หมวดนั้นเฉยเลย คือสรุปว่ากุเป็นชู้ของพวกเอง2คน เค้าก็ให้ผมดูทะเบียนสมรสเค้าไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว เชี้ยเอ้ยทำไมกุถึงตาบอดขนาดนี้ เลยถามเค้าว่า ไม่รักแล้วมาแต่งงานกันทำไม เธอตอบผมเคยบอกรักป่ะ แล้วไอ้งานแต่งจอมปลอมนั้นน้ะใครเป็นต้นคิดๆเองเออเองทั้งนั้น
แล้วก็ได้ข่าวมาว่าจะแต่งกันเร็วๆนี้แหละเห็นว่า สินสอดทองหมั้นเป็นล้าน เห็นว่าเงินสด 999,999บาท ทองอีก 9 บาท แหวนเพรชอีก1คู่ จัดงานยิ่งใหญ่
*สรุปกุผิดที่โง่ไปรักคนอย่างเธอใช่ไหม* เจ็บปวดว่ะ