"ขับเคลื่อนโดยนิรันดร์" ชีวิตคริสเตียนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ เพื่อสันติสุขในโลกแห่งนิรันกาล

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแบ่งปันข่าวประเสริฐให้กับทุกๆคนนะคะ
อ้างอิงมาจากหนังสือ "ขับเคลื่อนโดยนิรันดร์" ของจอห์น บีเวียร์ นักประกาศความรอดชาวคริสเตียน

ทุกคนเคยถามตัวเองไหม ว่าเราเกิดมาในโลกใบนี้เพื่ออะไร....
1. เพื่อรวย มีอำนาจชื่อเสียง มีคนมายกย่องเชิดชู
2. เพื่อมีความสุขอย่างถึงที่สุด
3. เพื่อดูแลคนอื่น อุทิศตัวเพื่อคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือคนที่ยากไร้
4. เพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
5. เพื่อชดใช้กรรม
       สำหรับคริสเตียนเราเกิดมาเพื่อทำพระประสงค์ของพระเจ้าให้สำเร็จ ทุกๆวินาทีที่ใช้นั้นจะเป็นช่วงระยะเวลาที่มีค่าเพื่อชีวิตที่ดีในนิรันกาล ระยะเวลาอันแสนสั้นบนโลกใบนี้ (แต่ละคนไม่น่าจะเกิน100ปี)มีความสำคัญอย่างมาก เพราะทุกๆการกระทำจะถูกนำไปพิพากษาบนบัลลังค์ของพระเจ้า ชีวิตคริสเตียนมีเพียงแค่ชาติเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็นคริสเตียนมีความร้อนรนในการประกาศ เพราะเขาอยากให้ทุกๆคนที่อยู่รอบตัวเขา มีชีวิตที่สันติสุขในสวรรค์กับพระเจ้า
       สวรรค์ของคริสเตียนว่าเป็นอย่างไร และทำอย่างไรจึงจะได้เข้าไปอยู่ในสวรรค์นั้นได้ เมื่อคุณหมดลมหายใจไปจากโลกใบนี้ โดยในหนังสือนี้เค้าจะยกตัวอย่างตัวละครมา 6 ตัวหลักๆ เพื่อให้เข้าใจอย่างถูกต้องว่าเราควรใช้ชีวิตอย่างไรบนโลกใบนี้
*************ซึ่งมาตราฐานการตัดสินบนแผ่นดินสวรรค์ไม่ได้เหมือนโลก ซึ่งจะอธิบายต่อไปว่าเกณฑ์การตัดสินเป็นอย่างไร******************
       การที่จะมีชีวิตนิรันทร์บนสวรรค์ของพระเจ้านั้น อย่างแรกคือคุณต้องยอมรับในพระเยซู เชื่ออย่างจริงใจว่าพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ท่านได้ตายบนไม้กางเขนเพื่อชำระบาปแทนเรา ดังนั้นเราจึงไม่ต้องตกนรกเพราะความบาปของเรา บาปของเราได้รับการล้างหมดแล้วแม้ว่ามันจะหนักหนาแค่ไหน พระเยซูเป็นเหมือนคนเฝ้าประตูสวรรค์ เมื่อคุณตายไปหากคุณรู้จักกับพระเยซู คุณก็จะสามารถเข้าประตูสวรรค์ได้ แล้วเมื่อเข้าไปในสวรรค์ได้แล้วต่อไปก็คือบำเหน็จที่เราจะได้ในสวรรค์
        บำเหน็จคือรางวัลที่มนุษย์ทุกคนได้กระทำเพื่อพระเยซูบนโลกใบนี้ ซึ่งได้แก่ บ้านหรือที่พักที่เราจะอยู่ไปจนถึงนิรันกาล ตำแหน่งหน้าที่ในสวรรค์สามารถแบ่งได้ตั้งแต่ชนชั้นปกครอง ไปจนถึงชนชั้นกรรมกร ไม่ได้เกี่ยวว่าในโลกใบนี้คุณเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงเป็นนายก แล้วจะได้อยู่เป็นชนชั้นสูงในสวรรค์ พระเจ้าดูจากการกระทำในโลกใบนี้ว่าทำเพื่อพระองค์หรือเปล่า แม้ว่าคุณอาจจะเป็นแค่ภารโรงหรือยาม แต่คุณทำทุกอย่างเพื่อพระเยซู เมื่อตายไปบนสวรรค์ คุณก็อาจจะเป็นชนชั้นการปกครองเลยก็ได้ บำเหน็จอีกอย่างคือบริเวณที่คุณจะได้อยู่ใกล้หรือไกลจากบัลลังค์ของพระเจ้า หากคนที่ทำทุกอย่างเพื่อพระเจ้ามากก็จะได้อยู่ใกล้บัลลังค์ของพระเจ้า ได้นมัสการและสรรเสริญพระองค์ในแถวหน้าสุด ได้เจอพระเยซูบ่อย ได้เจอพระเยซูทุกวัน
        หากคนที่มาเชื่อพระเยซูเฉยๆ แต่ชีวิตในโลกใบนี้ไม่ได้ทำอะไรเพื่อพระองค์เลย เขาก็จะได้รับความรอด คือได้ไปอยู่บนสวรรค์ แต่เขาจะไม่ได้รางวัลอะไรเลย และสถานที่ที่เขาอยู่นั้นก็จะห่างใกลจากบัลลังค์ เปรียบเสมือนบ้านนอกนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นชนชั้นกรรมกรทำงานหนัก ถึงยังไงแม้แต่คนที่ต่ำต้อยที่สุดบนแผ่นดินสวรรค์ ก็จะมีสันติสุขที่โลกนี้เกินจะบรรยายได้ เราจะร้องเพลงนมัสการพระเจ้าเป็นส่วนใหญ่ เราจะอ่อนวัยตลอดเวลา ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีความสุข มีแต่เสียงหัวเราะ
         มาพูดถุงหนังสือกันนะคะ สำหรับตัวละครทั้งหกตัวนี้ ถึงเกณฑ์การตัดสินจากพระเจ้า
ในหนังสือจะมีการใช้คำทับศัพท์ที่ให้ดูเหมือนนิทาน
1. นายอิสรภาพ
     นายอิสรภาพเป็นมนุษย์ที่ไม่เชื่อพระเยซู เขาใช้ชีวิตเพื่อตอบสนองความสุขทางเนื้อหนังสูงสุด เขาทำทุกอย่างที่เขาคิดว่าเขาทำแล้วมีความสุข ถ้าเปรียบเทียบในโลกใบนี้ เขาเป็นคนอธรรม ที่มุ่งแสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเอง เขาใช้ชีวิตแบบอิสรเสรี และปฏิเสธพระเยซู.... หลายอย่างเขามีชีวิตที่ตามใจฉัน เขามีความสุขที่เขาเป็นแบบนั้น อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีใครมาห้ามเค้าได้ ในโลกใบนี้เขามีชีวิตที่ประสบความสำเร็จ มีเงินเยอะ มีอำนาจ
    แต่เมื่อเขาตายไป เขาไปยืนอยู่บนบัลลังค์การพิพากษา เมื่อพระเยซูถามทูตสวรรค์ว่ามีชื่อของนายอิสรภาพอยู่ในหนังสือนิรันดร์นั้นหรือไม่ คำตอบก็คือ "ไม่" เพราะเขาปฏิเสธพระเยซูตั้งแต่แรกแล้ว อีกทั้งเขายังมีชีวิตที่ไม่ได้ติดตามพระเจ้าเลย เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่เขาต้องใช้เวลาที่เหลือในนรก ทูตสวรรค์นำเขาไปขังอยู่ในคุก เพื่อรอให้ตัวละครอีกสามตัวถัดไปพิพากษาเสร็จ แล้วเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในดินแดนมรณาตลอดทั้งกลางวันกลางคือ มีแต่เสียงร้องไห้ ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน
     - เอเฟซัส 2 : 8-9
       8เพราะ‍ว่า​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​ได้​รับ​ความ​รอด​แล้ว​ด้วย​พระ‍คุณ​โดย​ทาง​ความ​เชื่อ ความ​รอด​นี้​ไม่​ใช่​มา​จาก​ตัว​ท่าน แต่​เป็น​ของ‍ประ‌ทาน​จาก​พระ‍เจ้า 9ไม่​ใช่​   มา​จาก​การ​กระ‌ทำ เพื่อ​ไม่‍ให้​ใคร​อวด​ได้
    จะอธิบายได้ว่า คนที่ปฏิเสธและไม่ยอมรับพระเยซูว่าเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและตายไถ่บาปเพื่อเราทุกคน จะไม่ได้รับความรอด และต้องอยู่ในนรกชั่วนิรันทร์ ซึ่งไม่ได้หมายความเฉพาะคนที่ไม่ดีเท่านั้น คนดีๆที่มีชีวิตเพื่อคนอื่น หากไม่เชื่อพระเยซูก็ตกนรก เมื่อถึงบัลลังค์การพิพากษา ความดีไม่สามารถช่วยอะไรเราได้ มีแต่พระเยซูคริสต์เท่านั้น
2. นายหลอกลวง
     นายหลอกลวงนั้นเขาเป็นคริสเตียน เขาเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด เขามาโบสถ์และมานมัสการพระเจ้าเป็นประจำ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาทำพลาดคือ เขามีชีวิตที่ไม่ได้กลับใจจากความบาปของเขาจริงๆ เขายังคงทำบาป ไปโกง ไปหลอกลวงคนอื่น ยังทำบาปตลอดเหมือนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเมื่อมาถึงบัลลังค์การพิพากษาแล้ว กลับไม่มีชื่อเขาอยู่ในหนังสือชีวิต เขาจึงต้องใช้ชีวิตที่เหลือของเขาอยู่ในนรก
     ถึงตรงนี้ ทุกคนจะถามว่า "อ้าว ไหนบอกว่าเชื่อพระเยซูก็สามารถไปสวรรค์ได้แล้วไง" ไม่ใช่ค่ะ เพราะในพระคัมภีร์ มีเขียนไว้ว่า
      - มัทธิว 7 : 21
       21 "ไม่​ใช่​ทุก‍คน​ที่​เรียก​เรา​ว่า ‘องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า’ จะ​ได้​เข้า​ใน​แผ่น‍ดิน​สวรรค์ แต่​ผู้​ที่​ปฏิ‌บัติ​ตาม​พระ‍ทัย​พระ‍บิดา​ของ​เรา ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​จึง​จะ​เข้า​ได้ 22เมื่อ​ถึง​วัน‍นั้น​จะ​มี​คน​จำ‌นวน​มาก​ร้อง​แก่​เรา​ว่า ‘องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า ข้า‍พระ‍องค์​ได้​เผย‍พระ‍วจนะ​ใน​พระ‍นาม​ของ​พระ‍องค์ และ​ได้​ขับ‍ผี​ออก​ใน​พระ‍นาม​ของ​พระ‍องค์ และ​ได้​ทำ​การ​แห่ง​ฤทธา‌นุ‌ภาพ​มาก‍มาย​ใน​พระ‍นาม​ของ​พระ‍องค์​ไม่​ใช่​หรือ?’ 23เมื่อ​นั้น​เรา​จะ​กล่าว​แก่​พวก‍เขา​ว่า ‘เรา​ไม่​เคย​รู้‍จัก​พวก‍เจ้า​เลย เจ้า​ผู้​ทำ​ความ​ชั่ว จง​ไป​เสีย​ให้​พ้น‍หน้า​เรา’
       การกลับใจจากความบาปของคริสเตียนนั้น เป็นหลักการสำคัญมากๆของชีวิตคริสเตียน ในชีวิตประจำวันเราจะสามารถทำบาปได้ 2 อย่างคือ
       1. ทำบาปโดยตั้งใจ
       2. ทำบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ
       มนุษย์ทุกคนไม่สามารถที่จะสามารถช่วยเหลือตัวเองในทุกๆเรื่องได้ แม้แต่คนดีๆ หรือคนที่เราเห็นว่าเขาเป็นคนแข็งแกร่ง เมื่อเวลาเขาเจอปัญหา เขาก็แทบจะยืนไม่ไหวเหมือนกัน เราทุกคนก็เหมือนกันค่ะ ไม่มีใครสามารถที่จะเป็นคนดีได้100%ค่ะ แม้แต่คนที่พระเจ้าใช้อย่างมากในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ไม่ว่าจะเป็น โมเสส โนอาร์ ดาวิด เขาก็ทำบาปทั้งนั้น สิ่งสำคัญคือ มนุษย์ไม่บริสุทธิ์ อาจจะมีบ้างทีเราเผลอทำบาปโดยไม่รู้ตัว แต่สำหรับคริสเตียนที่ได้รับความรอด เมื่อเขาทำบาปแล้วเขากลับใจทันที เขาอธิษฐานขอพระเจ้ายกโทษบาป และเขาตั้งใจที่จะไม่กลับไปทำความบาปอีกโดยต้องขอฤทธิ์อำนาจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วย
        ยกตัวอย่างง่ายๆ พวกรักร่วมเพศ ไม่ว่าจะเป็นเกย์ ทอม เลสเบี้ยน ในศาสนาคริสต์ การรักเพศเดียวกัน ถือว่าเป็นความผิดบาป เพราะพระเจ้าสร้างมาแค่ 2 เพศเท่านั้น คือ ชายกับหญิง และเมื่อใดที่เขากลับใจมาเชื่อพระเยซู แล้วมีความตั้งใจว่าจะไม่กลับไปทำบาปอีก จะไม่กลับไปมีความรู้สึกกับเพศเดียวกันอีก เขาก็จะได้รับความรอดและไปอยู่กับพระเจ้าบนแผ่นดินสวรรค์ ที่ซึ่งมีแต่ความสันติสุขนิรันทร์ แม้ว่าบางครั้งเขาอาจจะมีเผลอมองเพศเดียวกันบ้าง เขาก็ต้องกลับมาอธิษฐานสารภาพบาปกับพระเยซู แต่ถ้าเมื่อใดเขาตั้งใจทำบาป ตั้งใจว่าฉันมีความสุขแบบนี้ฉันก็จะเป็นแบบนี้ และจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อเขาตายไป เขาก็ต้องไปใช้เวลาที่เหลืออยู่ของเขาในแดนมรณา
        ดังนั้นที่นายหลอกลวงไม่รอดเพราะเขาตั้งใจทำบาป และไม่ได้กลับใจจากความบาปจริงๆ
3. นางสาวใจอ่อน
      ขอเล่านิทานอย่างคร่าวๆว่านางสาวใจอ่อนเป็นคริสเตียนที่มีความเชื่อและติดตามพระเยซู แต่เมื่อเธอโดนการทดลอง เธอไม่ผ่าน เธอโดยเพื่อนคนหนึ่งกล่าวหาว่าร้ายเธอ และเธอไม่ได้ให้อภัย จิตใจเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และยังเก็บความข่มขื่นไว้ในใจและไม่จัดการกับความขมขื่นนั้น จนแล้ววันหนึ่งเธอได้มาเจอกับนายสองหน้า นายสองหน้าเป็นอาจารย์สอนพระคัมภีร์ในคริสตจักร ในหนังสือเดาว่า เขาอาจจะเป็นศิษยาภิบาล(คนที่เป็นหัวหน้าสูงสุดของคริสตจักร)เลยก็ได้ เขาตามจีบเธอแล้วก็สำเร็จ จากนั้นเขาและเธอได้ร่วมหลับนอนกันอย่างตั้งใจ นางสาวใจอ่อนเธอมีความสุขมากในระยะเวลานั้นจนลืมความข่มขื่นไป แต่หลังจากนั้นเพียง 4 เดือนนายสองหน้าได้ทิ้งเธอไปเพราะเบื่อ ทำให้นางสาวใจอ่อนกลับมีความข่มขื่นมากกว่าเดิม เธอไม่ให้อภัยเขา เธอกล่าวหาว่าที่ชีวิตเธอเป็นแบบนี้เพราะนายสองหน้า และเธอก็ได้ตัดสินใจเลิกติดตามพระเยซูไป
      เมื่อมาถึงบัลลังการพิพากษา เธอไม่ได้รับความรอด มาถึงตรงนี้ผู้อ่านคงจะคิดว่า อ้าว ทำไมอ่ะ ที่เธอต้องมาเป็นแบบนี้เพราะชีวิตนายสองหน้านะ คำตอบคือ"ไม่ใช่" ในชีวิตความเป็นจริงของคริสตเตียน คริสเตียนทุกคนต้องผ่านแบบทดสอบ และต้องมีความอดทนต่อบททดสอบนั้น เพื่อให้เราได้มีชีวิตที่ใกล้พระประสงค์ของพระเจ้ามากที่สุด ซาตานอยู่ในโลกใบนี้และพร้อมจะทดลองเราตลอดเวลา มันจะทำทุกอย่างเพื่อให้เรามีชีวิตที่ห่างจากพระเจ้า และต้องไปตกนรกร่วมกับมัน ดังนั้น คริสเตียนทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงกลอุบายของมารซาตานและการใช้ชีวิตติดตามพระเจ้าอย่างถูกต้อง ดังนั้นเราจึงต้องรู้พระคัมภีร์ เราเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำบาปหรือไม่ทำ เราต้องขอฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วย
      - มัทธิว  24 : 13 แต่​ใคร​สู้‍ทน​ถึง​ที่​สุด​ก็​จะ​ได้​รับ​การ​ช่วย​ให้​รอด
      อีกอย่างคือนางสาวใจอ่อนมีความขมขื่นใจ และไม่ให้อภัยต่อ เพื่อนที่กล่าวร้ายเขา และนายสองหน้า ในศาสนาคริสต์ถ้าเราไม่ให้อภัยคนที่ทำผิดต่อเรา พระเจ้าก็จะไม่ให้อภัยเราเช่นเดียวกัน ซึ่งการให้อภัยเป็นการตัดสินใจ เราต้องตัดสินใจที่จะให้อภัยเขา ไม่เกี่ยวว่าเขาจะเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่เพื่อตัวเราเองจะได้รับการปลดปล่อยและได้ไปอยู่กับพระเจ้า
       - มัทธิว 6 : 14-15 ว่า “เพราะว่าถ้าท่านยกความผิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะทรงโปรดยกความผิดของท่านด้วย แต่ถ้าท่านไม่ยกความผิดของเพื่อนมนุษย์ พระบิดาของท่านจะไม่ทรงโปรดยกความผิดของท่านเหมือนกัน”
       - มัทธิว 18 : 21 “องค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้า ข้า‍พระ‍องค์​ควร​ยก​โทษ​ให้​พี่‍น้อง​ที่​ทำ​ผิด​ต่อ​ข้า‍พระ‍องค์​สัก​กี่​ครั้ง? ถึง​เจ็ด​ครั้ง​เชียว​หรือ?” 22พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “เรา​ไม่‍ได้​บอก​ท่าน​ว่า​เจ็ด​ครั้ง​แต่​เจ็ด‍สิบ​ครั้ง​คูณ​เจ็ด
       หมายความว่าให้เรายกโทษกับคนอื่นอย่างไม่มีเงื่อนไข ในกรณีของนางสาวใจอ่อน เธอเลิกติดตามพระเจ้าในช่วงหลัง เพราะการไม่ให้อภัยและเธอมีความขมขื่น เธอจึงไม่ได้รับความรอด เธอต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ในแดนทุกข์ระทม เมื่อทุตสวรรค์นำเธอไปยังดินแดนมรณา เธอด่าและสาปแช่งพระเยซูตลอดทาง แสดงให้ถึงความทุกข์ของเธอที่ยังไม่ยอมให้อภัย แต่ก็สายไปเสียแล้ว
       ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 3 คน ยังเหลืออีกสามคนนะคะ อย่าเพิ่งเข้าใจว่าจะมีตัวอย่างของคนที่ตกนรกอย่างเดียว ตัวอย่างของคนที่ได้ขึ้นสวรรค์และรับบำเหน็จมากมาย ในกระทู้หน้า
>>>>>>>>กระทู้ที่ 2 นะคะ กดตามลิ้งค์เลยค่ะ>>>>>>>>>>> http://pantip.com/topic/34772315
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่