1. หมอใจดี แนะนำการรักษาปฏิบัติตนที่เหมาะสมและดีที่สุด
โดยให้ทางเลือกแก่คนไข้ แต่หากคนไข้ปฏิเสธวิธีที่ดี
ก้ตามใจ ถือเป็นสิทธิคนไข้ต้องเคารพ และเป็นผู้ใหญ่แล้ว
แต่บันทึกไว้หรือให้เซ็นปฏิเสธ
เพื่อไม่ให้ถูกฟ้องเวลาเกิดอะไรขึ้นภายหลัง
ผลที่ตามมา คือคนไข้ชอบหมอใจดี ตามใจ
แต่ผลต่อสุขภาพอาจแย่ บางครั้งโทษหมอในภายหลัง
ว่าทำไมไม่ให้สิ่งที่ดีที่สุด และมักจำไม่ได้ว่าเคยปฏิเสธ
หรือบางคนอาจฟ้อง ถ้าหมอไม่บันทึกไว้ก้ซวย
2.หมอดุ แนะนำการรักษาปฏิบัติตนแก้คนไข้เช่นกัน
แต่ออกแนวแกมบังคับ ถ้าเชื่อก้ใจดีรักษาตามปกติ
แต่ถ้าไม่เชื่อจะดุหรือว่ากล่าว เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อตัวคนไข้
ผลที่ตามมา คนไข้บ่น ไม่ชอบหมอคนนี้ ดราม่าลงโซเชียล
แต่ผลต่อสุขภาพในอนาคตคือดี แต่คนไข้มักไม่รู้สึก
รู้แค่ว่าก้เฉยๆ ไม่ได้มีอะไรเปรียบเทียบว่าจริงๆแล้วดี
เนื่องจากเป็นเรื่องของความเสี่ยงที่ลดลง แต่มองไม่เห็นภาพ
แต่ถ้าซวย คือความเสี่ยงนั้นบังเอิญเกิดขึ้น ถึงแม้ลดลงแล้วก้ตาม
หมอก้จะโดนด่าเป็นเท่าทวีคูณ
นี้คืออยากทราบในภาพรวม จากที่เคยเจอหมอหลายๆท่าน
หรือมีข้อเสนอแนะแนวทางอื่นๆ เพิ่มเติมได้ครับ
ขอบคุณครับ
คุณอยากได้หมอแบบไหนครับ ระหว่างหมอใจดีกับหมอดุ
โดยให้ทางเลือกแก่คนไข้ แต่หากคนไข้ปฏิเสธวิธีที่ดี
ก้ตามใจ ถือเป็นสิทธิคนไข้ต้องเคารพ และเป็นผู้ใหญ่แล้ว
แต่บันทึกไว้หรือให้เซ็นปฏิเสธ
เพื่อไม่ให้ถูกฟ้องเวลาเกิดอะไรขึ้นภายหลัง
ผลที่ตามมา คือคนไข้ชอบหมอใจดี ตามใจ
แต่ผลต่อสุขภาพอาจแย่ บางครั้งโทษหมอในภายหลัง
ว่าทำไมไม่ให้สิ่งที่ดีที่สุด และมักจำไม่ได้ว่าเคยปฏิเสธ
หรือบางคนอาจฟ้อง ถ้าหมอไม่บันทึกไว้ก้ซวย
2.หมอดุ แนะนำการรักษาปฏิบัติตนแก้คนไข้เช่นกัน
แต่ออกแนวแกมบังคับ ถ้าเชื่อก้ใจดีรักษาตามปกติ
แต่ถ้าไม่เชื่อจะดุหรือว่ากล่าว เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อตัวคนไข้
ผลที่ตามมา คนไข้บ่น ไม่ชอบหมอคนนี้ ดราม่าลงโซเชียล
แต่ผลต่อสุขภาพในอนาคตคือดี แต่คนไข้มักไม่รู้สึก
รู้แค่ว่าก้เฉยๆ ไม่ได้มีอะไรเปรียบเทียบว่าจริงๆแล้วดี
เนื่องจากเป็นเรื่องของความเสี่ยงที่ลดลง แต่มองไม่เห็นภาพ
แต่ถ้าซวย คือความเสี่ยงนั้นบังเอิญเกิดขึ้น ถึงแม้ลดลงแล้วก้ตาม
หมอก้จะโดนด่าเป็นเท่าทวีคูณ
นี้คืออยากทราบในภาพรวม จากที่เคยเจอหมอหลายๆท่าน
หรือมีข้อเสนอแนะแนวทางอื่นๆ เพิ่มเติมได้ครับ
ขอบคุณครับ