Microsoft ทดสอบ data centers ในมหาสมุทรแปซิฟิค

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Microsoft's underwater datacenter: Project Natick


.
Microsoft ได้นำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ลงไปในทะล
ถ้าคนทั่วไปทำแล้วคงกลายเป็นเรื่องของคนไม่ฉลาดเลย
แต่มีเรื่องราวเบื้องหลังปฏิบัติการของ Microsoft ในครั้งนี้
ที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับการนำ Data Centers
ไปไว้ใต้ท้องทะเล/ยังทำงานได้เป็นอย่างดีด้วย

Data centers โครงสร้างพื้นฐานประกอบด้วย
อุปกรณ์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์จำนวนมาก
มีระบบหลักภายในประกอบด้วย
Server Storage Network Power supply etc
เพื่อให้บริการด้านต่าง ๆ ของ Microsoft
ผ่านระบบ Cloud-based
และ Internet Provisions

แต่ปัญหาใหญ่ที่ตามมาในการใช้งาน
และบำรุงรักษา Data Centers
ให้ทำงานได้ตามปกติ คือ พลังงานไฟฟ้า
เฉพาะที่สหรัฐอเมริกาเพียงชาติเดียว
คาดว่าต้องใช้โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า
ที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินถึงจำนวน 34 โรง/ปี
เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ป้อนให้ Servers
ให้ทำงานได้ตามปกติในแต่ละวันตลอดทั้งปี

พลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่ใช้งาน
ต้องสูญเสียไปกับระบบ
ระบายความร้อนให้ Servers
แม้ว่าทีมงานวิศวกร/สถาปนิก/ช่างวิชาชีพ ฯลฯ
ต่างจะพยายามหาวิธีการต่าง ๆ
เพื่อลดความร้อนและอุณหภูมิ
ภายในห้องปฏิบัติการ
Servers/Data Centers
ไม่ให้มีความร้อนสูงเกินไป
เพราะจะมีปัญหากระทบกับระบบทำงาน

ระบบระบายความร้อนของ Servers
อาจใช้ น้ำ ของเหลว เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ
พร้อมกับพยายามนำความร้อน/ความเย็น
ภายในห้องกลับมาหมุนเวียนใช้งานอีกครั้ง
รวมทั้งหาวิธีการลดต้นทุนพลังงานด้วยวิธีต่าง ๆ
ก็ยังไม่สามารถลดต้นทุนรวมได้อย่างมีนัยสำคัญ
เป็นปัญหาที่ผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น
Facebook Google Microsoft Twitter IBM
ต่างต้องรับมือกับปัญหาเหล่านี้มาตลอด

จากปัญหาดังกล่าวนี้ทำให้ Microsoft
ต้องคิดใหม่ทำใหม่ด้วยการนำ Data Centers
ประสิทธิภาพเทียบเท่า Decktop PC 300 เครื่อง
ทำงานคู่ขนาน/พร้อมกัน
น้ำหนักรวม 38,000 ปอนด์
วางลงในทะเลระยะทาง 1 กิโลเมตร(0.62 ไมล์)
ห่างจากชายฝั่ง Central California
ใกล้กับ San Luis Obispo
ที่ความลึก 10 ฟุต/3.4 เมตร
ใน Video จะเห็นปูน้อยไต่รอบ ๆ เปลือกโลหะ

ปฏิบัติการดังกล่าวสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง
เพราะ Microsoft ไม่ต้องลงทุนในเรื่อง
ระบบระบายความร้อนให้กับ Data Centers
เพราะความเย็นของน้ำทะเลบริเวณนี้
ทำให้ Data Centers มีความเย็นที่ระดับ 24/7
ทำให้ลดต้นทุนในเรื่องระบบระบายความร้อน

Data Centers ของ Microsoft
ที่อยู่ในท้องทะเล ไม่ได้ทำให้อุณหภูมิ
ใต้ท้องทะเลหรือรอบ ๆ สูงขึ้นแต่อย่างใด
เพราะจากการตรวจสอบ
และตรวจวัดจากเรือปฏิบัติการ
ที่ลอยลำอยู่เหนือ Data Centers
พร้อมกับใช้นักประดาน้ำ
ดำน้ำลงไปทำการสำรวจ
และตรวจวัดอุณหภูมิโดยรอบแล้ว

Data Centers ในทะเลยังปลอดภัย
จากภัยคุกคามทางกายภาพ/จากคน
ตามมาตรฐานความปลอดภัยเบื้องต้น
.

.
เมื่อปีที่แล้ว Microsoft ได้ลงมือ
ทำโครงการนำร่อง Project Natick
โครงการดังกล่าวนี้ได้ใช้เครื่องต้นแบบ
ที่ตั้งชื่อว่า Leona Philpot
มาจากวิดีโอเกมส์ Halo Universe ใน Xbox

พร้อมกับตั้งเป้าหมายทดสอบนาน 90 วัน
ในเรื่องความสามารถ/เสถียรภาพ
ในการทำงาน Data Center ที่อยู่ใต้น้ำ
ภายใต้เงื่อนไข/การคาดการณ์ล่วงหน้า
เกี่ยวกับความเสี่ยง/ภัยพิบัติ
ที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ตาม Scenario
แต่ผลลัพธ์ที่ได้เกินความคาดหมายอย่างแรง
เพราะมันสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
มีประสิทธิภาพกับประสิทธิผลดีมาก
ตลอดระยะเวลา 105 วันที่ผ่านมา
ทำให้ประมาณการว่า Data Centers ตัวนี้
จะสามารถใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 10 ปีขึ้นไป

ในช่วงการทดลองดังกล่าว
ไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นเลย
ไม่มีปัญหาทางด้าน
Softwares/Hardwares

ทำให้การมองโลกในแง่ร้ายว่า
ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นอาจจำเป็นต้อง
ให้นักประดาน้ำลงไปทำงานใต้น้ำ
เพื่อบำรุงรักษาซ่อมแซม
เท่าที่ทำได้ในเวลากลางวัน
หรือต้องดึงขึ้นมาเพื่อทำการซ่อมแซม
ทั้ง 2 เหตุการณ์เลวร้ายนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย

ในทุก ๆ เดือนจะมีนักประดาน้ำ
ดำน้ำลงไปสำรวจ Data Centers
แล้วทำการบำรุงรักษา
ตามมาตรฐานปฏิบัติงาน

ส่วนบนภาคพื้นดินและบนเรือปฏิบัติงาน
จะมีเจ้าหน้าที่/พนักงานส่วนหนึ่ง
ทำงานผ่าน Remote Control
เพื่อดูแลและบำรุงรักษา Data Centers

ผลสำเร็จจากโครงการ Project Natick
ทำให้ Microsoft ได้ลงมือขยายอัตราส่วน
Data Centers จากตัวต้นแบบ Leona Philpot
ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมกว่า 3 เท่า
จากขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเดิม 7 ฟุต
พร้อมกับจะทำให้มีระบบประมวลผล
ที่มีความเร็วสูงกว่าเดิมถึง 20 เท่า
คาดว่าจะรองรับผู้ใช้งาน
ได้มากกว่า 3,500 ล้านคน
โดยมีอายุการใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 10 ปี

Microsoft ได้วางแผนไว้ว่า
จะใช้เวลาน้อยกว่า 90 วัน
ในการติดตั้งทดสอบระบบ
Data Centers ตัวใหม่ที่สร้างเสร็จแล้ว
นับตั้งแต่วันที่นำ Data Centers ลงเรือ
ไปยังจุดที่ฐานปฏิบัติการแห่งใหม่
ในมหาสมุทรแปซิฟิคที่ระยะทาง
125 ไมล์ห่างจากชายฝั่งทะเล
แล้วหย่อน Data Centers ลงในทะเล

เขตน่านน้ำแต่ละประเทศ
จะไม่เกิน 12 ไมล์ทะเล
แต่มีบางประเทศประกาศ
เขตน่านน้ำถึง 200 ไมล์ทะเล
Microsoft ระบุว่าจะตั้ง
Data Bases ห่างจากชายฝั่ง 125 ไมล์
จึงถือว่าอยู่ในดินแดน
และเขตคุ้มครองของสหรัฐอเมริกา

Microsoft ยังจะใช้ประโยชน์
จากกระแสน้ำทะเล/คลื่นในท้องทะเล
ทำการผลิตกระแสไฟฟ้า
เพื่อนำมาใช้งานกับ Data Centers บางส่วน
ช่วยทดแทนพลังงานไฟฟ้าจากกังหันลม
เป็นการลดต้นทุนพลังงานส่วนหนึ่งด้วย

เมื่อเปรียบเทียบกับการติดตั้ง
ทดสอบระบบ Data Centers
บนพื้นดิน/บนบก จะต้องก่อสร้าง
อาคารสถานที่รองรับการใช้งาน
พร้อมกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านต่าง ๆ (Infrastructures)
ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป
ต้นทุนการลงทุน/ต้นทุนค่าใช้จ่าย
จะมากกว่าการติดตั้งในทะเล

การติดตั้ง Data Centers ไว้ในทะเล
ทำให้ Microsoft ประหยัด
ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
ไม่ต้องก่อสร้างอาคารสถานที่ทำงาน
ไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ
(Infrastructures) มากมาย
หรือต้องจัดหาบริเวณที่ดิน
ที่เหมาะสม/ถูกต้องตามกฎหมาย
รวมทั้งราคาที่ดิน
ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือเช่าที่ดิน

Microsoft จึงสามารถใช้
อาคารสถานที่/พื้นที่เดิมที่มี
ไปพัฒนาทำประโยชน์อย่างอื่นได้มากกว่า
ทั้งยังมีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
นำไปพัฒนาในด้านอื่น ๆ ได้อีก
เพื่อแสวงหากำไรได้ในระยะยาว

อีกอย่างคือ เรื่องความปลอดภัย
จากภัยคุกคามที่มาจากคน
หรือจากภัยพิบัติประเภทต่าง ๆ
ที่อาจทำลาย Data Centers
ที่ติดตั้งบนบก/พื้นดินได้

Microsoft สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
รวมทั้งลดระยะเวลาในการติดตั้งใช้งาน
มีผลกับความสามารถ
ในการหารายได้และทำกำไรสุทธิ
การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ด้วยระบบ Data Centers ใต้ทะเล
จะเหนือกว่าคู่แข่งในตอนนี้

Microsoft เริ่มมีทิศทางทำธุรกิจ
มุ่งไปที่ระบบ Cloud-based
และ Internet Provisions
มากกว่าการผลิต/ขาย Softwares
เหมือนที่เคยทำมาในอดีต
.

.
Microsoft ยังได้รายงานว่า
การติดตั้งใช้งาน Data Centers
ในอนาคตจะใช้เวลาน้อยกว่า 30 วัน
นับตั้งแต่ขนส่ง Data Centers
ลงเรือแล้วไปยังจุดที่ทำการติดตั้ง

จะมีส่วนช่วยเหลือประเทศที่มีภ้ยพิบัติ
จากแผ่นดินไหว ซูนามิ อัคคีภัย ฯลฯ
ให้สามารถใช้งานและเชื่อมต่อเครือข่าย
ในการทำงานทดแทนระบบเดิมที่สูญเสียไป
ด้วยระยะเวลาที่น้อยกว่าเดิมมาก

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนต่างยอมรับว่า
วิธีการดังกล่าวถือว่าดีมาก/เหมาะสมมาก
กับการใช้งานของคนจำนวนมากในปัจจุบัน
ที่ต่างหลั่งไหลเข้ามาใช้งาน Internet
ราวกับพายุโหมกระหน่ำทุกทิศทาง หรือ
ราวกับคลื่นมหาชนในมหกรรมกีฬาระดับโลก

แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่า
ยิ่งระบบ Data Centers มีเสถียรภาพ
และสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น
จะมีผลกระทบต่อโรงงานผลิตสินค้า
ด้านการซื้อ/การผลิตจะลดลงไปจากเดิม
ตลาดแรงฝีมือจำนวนหลายราย
อาจจะต้องตกงานหรือเปลี่ยนอาชีพ
ในระยะยาวได้เลยทีเดียว
.

ครบ 105 วัน แล้วดึงขึ้นมา




.
" เรื่องสำคัญที่สุดคือ
ในวันหนึ่งข้างหน้า
อุปกรณ์ชิ้นนี้จะถูกทำให้ปฏิบัติงาน
ร่วมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ
สามารถใช้งานและเดินเครื่องได้เลย

การผจญภัยใต้ท้องทะเลลึก
กลายเป็นงานประจำวัน
ของคนที่ทำงานแล้ว

การใช้งานใต้ทะเลลึก
ช่วยระบายความร้อน
เป็นพลังงานทดแทนแบบใหม่
และรักษาสภาพแวดล้อมด้วย

เทคโนโลยีที่พิเศษเหนือชั้นนี้
มาจากความรู้สึก
ที่นำไปสู่แนวคิดที่ดี
(แล้วนำมาสร้างขึ้นจริง)
มันจะเปลี่ยนแปลงระบบ
เศรษฐศาสตร์ธุรกิจไปเลย "

Norm Whitaker หัวหน้าโครงการพิเศษ
Microsoft Research NExT
เคยเขียนไว้ใน Website Microsoft

Microsoft เพิ่งจะรายงานผลประกอบการ
ที่ได้รับอย่างดีเกินคาดกับ Wall Street
ถึงชัยชนะจากการทำธุรกิจ Internet-cloud
โดยทำกำไรสุทธิได้ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
และรายได้มากกว่า  23.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ในรอบสามเดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว

Software ที่ให้บริการทางด้าน Internet-cloud
คือเป้าหมายธุรกิจหลักของ Microsoft
ที่จะยกระดับธุรกิจจากเดิมมาทดแทน
การผลิต Software สำเร็จรูปขายในท้องตลาด
ที่มีคู่แข่งขันทั้งรายเล็กรายใหญ่จำนวนมาก
ที่มีทั้งของฟรีและของละเมิดลิขสิทธิ์

ระบบ Cloud-computing ของ Microsoft
จะทำให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้ Internet
ในการทำงาน/ประมวลผล
รวมทั้งการเก็บข้อมูลต่าง ๆ
ได้อย่างมากมายมหาศาล
โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม Storage
เหมือนในอดีตแต่อย่างใด

“ ธุรกิจทุกหนทุกแห่งกำลังใช้ Microsoft Cloud
เป็น Digital Platform ในการขับเคลื่อนธุรกิจ
ภายใต้ภาวะการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบาก

โอกาสของธุรกิจ Cloud มหาศาลมาก ”

Satya Nadella ผู้บริหารระดับสูง(CEO)
ของ Microsoft
ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในเรื่องนี้

.
เรียบเรียง/ที่มา

http://goo.gl/ulJrH1
http://goo.gl/Elodu9
http://goo.gl/0McnDR
http://goo.gl/FMtgyy
http://goo.gl/uNrkRf
.



.
Data Center ในที่ต่าง ๆ
.

ระบบระบายความร้อน Data Center
ที่ท่าเรือ Strasbourg ฝรั่งเศส
.

Indiana University Data Center
ที่ Bloomington รัฐ Indiana
.

Racks ของอุปกรณ์โทรคมนาคม
ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Data Center
.

CRAC Air Handler
.

Under Floor Cable Runs
.

คลังเก็บแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
ของ Data Center เพื่อใช้เป็นไฟฟ้าสำรอง
ก่อนเครื่องปั่นไฟฟ้าดีเซลจะเริ่มทำงาน
.

FM200 Fire Suppression Tanks
(ที่เก็บอุปกรณ์ดับไฟ)
.

Google Data Center
ที่ The Dalles รัฐ Oregon
.

ตัวอย่างของ "rack mounted" Servers
.

Portable Modular Data Center ขนาด 40 ฟุต
.

Server-rack อีกรูปแบบหนึ่ง
มักจะพบเห็นกันทั่วไป
.

ช่องทางเดินกลางระหว่าง Cab
ใน Data Center
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่