มีพ่อแม่ใครไหมที่ป่วยไม่สบาย แต่ไม่ยอมไปหาหมอ

พี่สาว จขทร โทรมาร้องไห้ บอกว่าพ่อไม่สบายมาก แต่ไม่ยอมไปหาหมอ ไม่ยอมไปรักษา บอกแต่ว่าตัวเองไม่ป่วย
พอวางสาย จขทร ก็เก็บของ ขับรถกลับบ้านทันที ระหว่างทางก็โทรหาพ่อ พ่อก็บอกไม่ได้เป็นไร มันดึกแล้วไม่ต้องมา ถ้าจะมา ก็มาพรุ่งนี้
(จขทร ทำงานอยู่กรุงเทพ แต่พ่อ แม่ และพี่สาว อยู่บ้านที่ต่างจังหวัดค่ะ โดยปกติทุกวันสำคัญก็จะกลับบ้านเป็นประจำ หรือไม่ก็อย่างน้อยสุดเดือนละครั้ง)

ขับรถไป ร้องไห้ไป ถามพี่ พี่ก็บอกไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร ถามแม่ แม่ก็บอกแค่ว่า พ่อป่วยแน่นอน ถามพ่อ พ่อก็บอกไม่เป็นไร (ยอมรับเลย 2.5 ชั่วโมง ใจแท้ปขาด)

ออกจากกรุงเทพ สองทุ่มกว่าๆ ถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน พอถึงบ้าน ภาพที่เราเห็น คือ แม่รอเปิดประตูบ้านให้ ส่วนพ่อ ยังไม่นอน รอจขทร เช่นกัน

สิ่งที่ จขทร เห็นคือ พ่อ ผอมลงไปเยอะมากๆๆๆ จากเมื่อก่อนพ่อหนัก 90 กว่าโลได้ สูง 170 นิด แต่ตอนนี้ พ่อดูเป็นคนหุ่นดีมาก แต่ใบหน้าดูรู้เลยว่าป่วย เพราะตูจะโหลๆ เพลียๆ และบทสนทนา ก็เริ่มขึ้น

จขทร : ป๋า ทำไมไม่ยอมไปหาหมอ
พ่อ จขทร : ก็ป๋าไม่ได้ป่วย
จขทร : แล้วทำไมผอมลงเยอะขนาดนี้ เวลาไม่ถึงเดือนน่ะ
พ่อ จขทร : ออกกำลังกายหนักหน่วงมาก
จขทร : มองบน 2 ที (เพลียตับมาก) พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลกัน
พ่อ จขทร : ไปไม ก็บอกไม่ได้ป่วย
จขทร : ไปตรวจสุขภาพประจำปีเฉยๆๆ นี่แหละ ซื้อ package ไว้แล้ว ไปใช้หน่อย
พ่อ จขทร : โอ้ย เปลืองเงิน ซื้อทำไม แพง ไม่ไป
จขทร : ไปเห้อ ไปหน่อยน๊า เด๋วพาไป shopping ต่อ
พ่อ จขทร : ตอบแบบไม่เต็มใจ ตื่นให้ทันน่ะ ไม่ตื่น ถือว่าโมฆะ แต่ต้องพาไป shopping อยู่ดี

แยกย้ายกันไปนอน จขทร หาข้อมูล และสันิฐานว่า ป๋า ต้องเป็นโรคตับ ปอด เบาหวาน บลาๆๆๆ (นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว)

วันถัดมา จขทร ตื่นแต่เช้า รีบพาพ่อไปโรงพยาบาล เพราะต้องงดน้ำ งดอาหาร (จากที่หาข้อมูลเมื่อคืนทั้งคืน)

ผลตรวจออกมาเป็นที่เรียบร้อยว่า พ่อ ของ จขทร เป็นเบาหวาน ค่ะ น้ำตาลขึ้น 300++

หลังจากทราบผล สิ่งที่ จขทร มองเห็นคือ สีหน้าของพ่อที่เปลี่ยนไป จากอารมณ์ดีๆ กลายเป็นซึมเศร้าทันที ง๋อยๆๆ

จขทร ก็เลยพูดไปว่า มันรักษาหาย งดของหวาน ทานยาที่หมอให้มา แป๊ปๆ ก็หาย ขึ้นแค่ 300+ เอง คนอื่นเค้าเป็น 1000++

และหลังจากนั้น เราสองคนพ่อลูก ก็พากันไปเดิน shopping ตามสมควร พ่อก็กระสิบเบาๆ แค่ว่า "ว้า แย่จัง ของเต็มมือ แต่เงินอยู่ครบ"


แต่สิ่งที่ จขทร อยากจะแชร์ คือ
หลายคนคงสงสัยว่าทำไม พ่อ ของ จขทร ถึงไม่ยอมไปหาหมอ

อันนี้เดานะคะ เพราะระหว่างที่เราไปโรงพยาบาลกับพ่อ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ระหว่างที่รอตรวจสุขภาพ พ่อกับ จขทร นั่งคุยกันตลอด ระหว่างนั้นก็มองรอบๆ มีหลายคนที่มาคนเดียว คนมีอายุ ก็นั่งเหงาๆ ไป คนหนุ่ม สาว ก็นั่งเล่นมือถือไป พอตรวจเสร็จ พยาบาลก็ไม่บอกอะไร ว่าต้องไปไหน ยังไง ยื่นเอกสารให้ แล้วจบ พ่อก็เดินมานั่นข้างๆ จขทร รอกันอยู่นาน ถามพ่อ รออะไร พ่อตอบไม่รู้ จน จขทร ต้องเดินไปถามว่าให้รอ หรือว่าทำอะไรต่อ พยาบาลถึงบอกว่า ให้ไปตรวจอีกห้อง คือตอนนั้น ปรี๊ดค่ะ ปรี๊ด คือไม่ถาม ก็ไม่บอก จะเหวี่ยงก็ไม่ได้มากับพ่อ จขทร ก็เดินจูงมือพ่อไป ตรวจอีกที ให้พ่อไปนั่ง จขทร ก็เอาเอกสารไปวางในตะกร้า ซึ่งไม่มี เจ้าหน้าที่แนะนำนะคะ อ่านป้ายเอา แล้ว เจ้าหน้าที่ก็นั่งเล่นมือถือกัน ไม่ได้ใส่ใจเอกสารอะไรในตะกร้าเลยสักนิด นั่งกันอยู่สักพัก จขทร ก็เดินไปถาม โทษนะคะ ทำยังไงต่อคะ เจ้าหน้าที่ก็เงยหน้ามามอง แล้ว หยิบเอกสารให้ พร้อมยื่นบัตรคิวมา (เห้อ มาถึงตรงนี้ ลุงๆ ป้าๆ ปู่ ย่ายาย คงดีใจ เพราะโดนเรียกรับบัตรคิวตามๆ กัน) อยากจะหันมาพูดกับพ่อมากว่า เห็นไหม บอกให้ไปที่โน่นก็ไม่ยอมไป ก็รอตรวจกันไป ตามวาะกรรม แล้วแต่จะเห็นสมควร

ลืมบอกไปว่าพ่อ จขทรไม่ยอมไปตรวจโรงพยาบาลเอกชน จะไปโรงบาลรัฐให้ได้ จน จขทร ต้องยอมแต่โดยดี

จขทร กลับบ้านมา ก็มานั่งคิดว่า พ่อ จขทร ก็คงไม่อยากไปโรงพยาบาลคนเดียวมั้ง เพราะถ้าพยาบาลถามอะไร หรือ เจ้าหน้าที่ถามอะไร ก็คงไม่รู้จะพูดอะไร จะถามอะไร คงได้แต่นั่งเงี้ยบๆ เหงาๆ อยู่คนเดียว เหมือนกับ ลุงๆ ป้าๆ ที่มาคนเดียว อย่างที่ จขทร มองดูรอบๆ

จขทร นั่งคุยกับแม่ กับพี่สาวเรื่องนี้ และเห็นด้วยกับแม่เป็นอย่างมากว่า แม่บอกว่า ก็เหมือนกับตอนพี่พวกเราเป็นเด็กๆ ก็ไปหาหมอคนเดียวไม่ได้ ทำอะไรคนเดียวไม่ได้ แม่เองเวลาไม่สบาย ก็จะมีพี่สาวไปด้วยตลอด แต่ก็ลืมคิดไปว่า พ่อคงไม่อยากไปหาหมอคนเดียว และแม่กับพี่สาว ก็ไม่ได้คิดข้อนี้ เพราะคิดว่า พ่อไปเองได้อยู่แล้วสบายๆ  แล้วเราก็ตกลงกันว่า ถ้าถึงเวลานัด พวกเราทุกคนในบ้าน จะพาพ่อไปหาหมอด้วยกัน ยกเว้นถ้าวันนัดไม่ตรงกับวันหยุดเรา

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นมา 2 เดือนกว่าๆ แล้วค่ะ ในความเจ็บป่วยของพ่อ มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น คือทำให้พวกเราทุกคน เจอกันบ่อยมาก ไปไหนมาไหนติดกันตลอด พ่อ กับแม่ ดูมีความสุขมากขึ้น เรากลับบ้านที่ ตจว ทุกอาทิตย์ และที่ตั้งกระทู้วันนี้ เพราะได้ข่าวดีจากพ่อว่า "น้ำตาลลดละนะลูกสาว" ตอนนี้ เหลือ 100 นิดๆ แล้วค่ะ ควบคุมได้ ใส่ใจอาหาร ออกกำลังกาย ทานยาตามที่หมอสั่ง เลือกทานอาหารที่ช่วยควบคุมน้ำตาลทุกชนิด shopping อาหาร supper-food กันสนุกสนาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่