สวัสดีปี 2559 ปีลิงจั๊กๆ ^^ ผู้เขียนก็เกิดปีลิงตรงกับปีนี้พอดิบพอดีเลยแต่ดันตรงกับปีชงของตัวเอง…
ก็รู้สึกแปลกๆ เนะ ปีนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราตั้งเป้าหมายอยากจะทำ ก็เหมือนคนทั่วๆไปที่ตั้งเป้าไว้ว่า 10 อย่างที่จะทำในปีนี้ เราเองก็มีสิ่งที่อยากทำมากมายเช่น อยากทำบุญเยอะๆ อยากทำงานเก่งๆกว่านี้ อยากมีเงินส่งให้แม่เยอะๆ อยากออกกำลังกายเยอะๆ อยากลดน้ำหนักซัก 10 กิโลกรัม บลา บลา บลา
แต่สิ่งแรกที่เราตั้งใจจะทำตอนนี้คือ เราอยากไปทำบุญ เราอยากทำใจให้สงบ อยากเลยว้าววุ่น ทั้งเรื่องงานและเรื่องความร๊ากกกกที่ดูงงๆ
พอความอยากเกิดขึ้น แพลนในหัวก็ตามมา อย่างที่บอกไปแล้วว่าปีนี้ปีลิงตรงกับปีเกิดเราและดันเป็นปีชงของเรา75เปอร์เซ็น บวกกับช่วงนี้เรารู้สึกเครียดๆในชีวิตหลายๆอย่างหลายๆเรื่อง หาทางออกให้ตัวเองไม่ค่อยเจอดูอึนๆ มึนๆ เลยอยากไปทำบุญทำทานบางให้ใจมันสงบมากขึ้น เราเลยเลือกที่จะไปทำบุญแก้ปีชงก่อนที่ วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ อย่างใครหลายๆคนรู้ว่าวัดนี้โด่งดังเรื่องไหว้องค์ไท้ส่วยแก้ปีชง เราเริ่มจากถามพี่ที่ทำงานที่เค้าเคยไปว่าวัดนี้เป็นวัดยังไงต้องทำยังไงไหว้แบบไหนเดินทางไปยังไงพี่เค้าก็ตอบนะแต่เรางงเลย เลยนั่งเปิดเข้าGoogle ค้นหาข้อมูลการเดินทางต่างๆ การไหว้ ไหว้แบบไหน อะไรยังไง พอเราดูข้อมูลเรียบร้อยคิดละอ่ะ มันเป็นแบบนี้ๆ
เช้าวันเสาร์ที่ 30 มกราคม 2559 เวลา 08.30 น. เราก็ตัดสินใจออกเดินทางโดยเลือกเดินทางโดย นั่งสองแถวจากแถวศรีวรา(พอดีเราอยู่แถวทาวน์อินทาวน์)ไปลงMRT ห่วยขวาง รอรถนานพอสมควร วันนี้ไม่ค่อยมีแดดนะแต่ก็ร้อนอยู่ดีนี่ละน้า กทม ^^’

เรานั่ง MRTห้วยขวาง ไปลงที่ สถานีหัวลำโพง จากนั้นเราก็เริ่มเปิด Google map ในมือถือ ซึ่งมันก็บอกทางปกติละมั่ง สงสัยเน็ตเราจะช้าเองเลยไปแบบช้า เดิน เดิน เดิน ซิครับอะไร เดินตรงมาเรื่อยๆ รู้สึกไกลอยู่พอสมควร หิวก็หิวตั้งแต่เช้ากินกล้วยหอมมาหนึ่งลูกเพราะคิดว่าแถวๆ MRT ห้วยขวางหรือไม่ก็หัวลำโพงคงมีร้าน ต้มเลือดหมู สักร้านเราจะแวะกิน เราเดินมาไกลพอสมควร

ดีใจมากเจอร้านต้มเลือดหมูแล้ว
เย้ เย้ แม้น่าตาจะดูจืดๆ แต่รสชาติก็โอเคอยู่น๊า กิน กิน กิน จะได้ออกเดินทางต่อ กินเสร็จเราก็ถามทางพี่เค้า เค้าก็บอกให้เราเดินไปเรื่อยๆ ไม่ไกลหรอกไม่ต้องนั่งรถ ตรงไปเรื่อยๆ วัดจะอยู่ด้านซ้ายมือนะ โอเค

เราก็เดินไปเรื่อย…. กว่าจะถึงก็ไกลพอสมควร คนเยอะมาก เพราะตลอกเส้นทางเค้าขายของอยู่บนฟุตบาทกันทั้งขนมไหว้ ขนมแบบจีนๆ เครื่องไหว้ ผลไม้ต่างๆ คนก็เดินเยอะจนแน่นแทบจะขี่คอกันอยู่แล้ว

ในที่สุดเราก็เดินทางถึงวัด พอเดินเข้าไป อืม…เราก็ทำหน้างงๆ เหมือนวันนี้เค้าจัดงานอะไรสักอย่างที่วัดเราก็ไม่แน่ใจเพราะเราก็กำลังมองหาต่อว่าจะทำยังไงต่อ ต้องซื้อของอะไรยังไงไหว้ยังไง ที่อ่านๆมาลืมหมดแล้ว แต่ตลกตัวเองตรงที่ว่าพอเดินเข้าวัดมาก็ยังไม่แน่ใจนะว่าใช่วัดนี้หรือปล่าว ค้นหาในกลูเกิลอีกจนแน่ใจ 555
เราเห็นเค้าขายของอยู่ด้านหน้าวัดขวามือเขียนว่า ชุดไหว้แก้ปีชง 120 เราก็นึกว่า อ่อคงอันนี้แหล๊ะ เราก็ซื้อมาแต่ปรากฏว่าไม่ใช่ง่ะ เป็นชุดไหว้เฉยๆ เราเดินเข้ามาด้านไหนศาล โอ้โห้!!!! คนเยอะมากกก ^o^ เราก็พยายามดูว่าเค้าทำยังไง ไหว้กันยังไง ไปซื้อกระดาษสีแดงมาเขียนชื่อแก้ปีชงตรงไหน ยืนๆ อ่านๆ มองๆ อยู่สักพัก เราก็เลยลองถามพี่คนที่นั่งอยู่ข้างตู้บริจาคดู อ่อ ต้องเดินไปตรงโน่นซื้อกับพระท่านขายอยู่ด้านในอีกที

เราก็เดินไปซื้อใบแก้ปีชงมาเขียนชื่อๆ แต่ของไหว้ที่ซื้อมาก็ยังไงไม่ได้ไหว้นะ เยอะแยะเต็มมือไปหมด เราก็กำลังงงกับอายุตัวเองอยู่เพราะในปฏิทินจีนเทียบ พ.ศ. กับอายุ มันไม่เท่าอายุเราตอนนี้ เราก็ทำหน้างงๆ จ้า เลยหันไปมองพี่ๆ กรุ๊ปข้างๆ เค้าทำยังไงกันเขียนแบบไหนเลยเขียนตามเค้า เลยเดินตามเค้าไปทำตามเค้าเลย แต่ทว่าด้วยความที่คนเยอะมาก เราก็มองไปมองมาหาเค้าไม่เจอแล้ว แต่เจอน้องผู้ชายคนนึง พอเค้าเห็นเราทำหน้างงๆ ยืนถือ ทั้งของไหว้ทั้งกระดาษแก้ปีชงเต็มไปหมดเลยบอกว่าเราทำยังไง


ให้เราแกะธูปกับเทียนออก แล้วเอาของไหว้ไปไหว้ตรงนี้นะ ธูปกับเทียนไปไหว้ด้านโน่น แล้วเอาธูปสามดอกกับใบแก้ชงที่เราเขียนชื่อแล้วมาไหว้ขอพรกับธูป3ดอกไหว้ตรงนี้ เราก็ทำตามๆ ที่น้องเค้าบอก

ไหว้เสร็จเราก็เดินไปไหว้เข้าแม่กวนอิม แล้วก็เสี่ยมเซียมซีสักนิดนึง ได้เลขสวยดีนะ 22 จากนั้นเราก็เดินดูรอบๆ นิดนึงแต่เดินได้ไม่เยอะหรอกเพราะคนเยอะมาก ควันธูปเต็มไปหมด น้ำตาไหลเลย เราหันไปไหว้อีกครั้งและเดินหันหลังกลับดีกว่าจะได้ให้คนอื่นๆที่เค้ามาเหมือนเราเข้าไปกราบไหว้บ้าง
สำเร็จไปหนึ่งสิ่งที่เราอยากทำ และสิ่งต่อไปที่เราตั้งใจอยากทำคือพรุ่งนี้เป็นวันพระเราอยากไปทำบุญตักบาตรให้ปู่ ตา ยาย ของเราที่เสียไปแล้ว พวกท่านเป็นคนที่เรารักมากผูกพันมากเช่นกัน เราคิดอยู่ในหัวเลยว่าเราอยากทำเมนูไข่พะโล้ไปทำบุญ แล้วก็ขนมปังนุ่มๆ และนมถั่วเหลืออร่อยๆ ไปทำบุญให้พวกท่าน เราเลยโทรชวนน้าเราเลยว่าพรุ่งนี้ไปทำบุญกันนะ หนูอยากไปทำบุญให้ยายคิดถึงยายมากๆ อยากทำพะโล้ไปให้ท่าน เดี๋ยวพลอยไปหาแล้วเราทำพะโล้ไว้ไปทำบุญพรุ่งนี้กันนะ น้าเราก็ตกปากรับคำโอเคได้เลย
แต่ก่อนจะไปถึงบ้านน้า อยากแวะๆไปไหว้ย่านาค ที่วัดมหาบุศย์ ก่อนเพราะช่วงนี้รู้สึกสับสับนิดหน่อย เราก็นั่งรถเมย์สาย 507 จากแถวๆวันเล่งเน่ยยี่ ไปเลยจนถึงอ่อนนุช นั่งสองแถวเข้าไปอ่อนนุชซอย7 เป็นครั้งแรกที่เรามาที่นี่ เราเดินเข้าไปในวัดก็มีพระท่านนั่งคอยรับสังฆทานจากญาติโยมที่มาทำบุญ และมีศาลาของหลวงพ่อยิ้มอยู่เราเลยเข้าไปไหว้สักการะ ก่อนที่จะเดินไปศาลย่านาค เราเดินวนไปวนมาอยู่หลายๆรอบกว่าจะเจอ ตลกตัวเองไปถึงที่แต่กว่าจะหาเจอนี่นานมาก พอเราเจอเราก็เดินเข้าไปซื้อดอกไม้ไหว้สัการะท่าน และไปกระซิบขอพรท่านเรื่องความรักสักนิดนึง (แบบว่าหนูไม่รีบนะคะ ขอแบบช้าๆ แต่ชัวค่ะ หนูเหนื่อย 5555 )

พอเราไหว้ย่านาคเสร็จเราก็เดินไปแถวริมน้ำ เพื่อที่จะแวะไปดูดวงกับหมอดูท่าหนึ่งที่เราถามพี่คนที่เคยาที่นี่เพราะที่นี่เค้าโด่งดังเรื่องดูดวงมากอีกแห่งหนึ่ง เราเลือกดูกับหมอชื่อปองปาน เราก็ดูเรื่องทั่วๆไปที่คนเค้าดูกันแหล๊ะ เรื่องงานต้องมาก่อนเลย ^-^ ต่อด้วยเรื่องเงิน เรื่องครอบครัว เรื่องอนาคตอยากมีร้านอาหารเพื่อสุขภาพเป็นของตัวเอง และมาจบที่เรื่องความรัก สักหน่อยน่ะ มาถึงขนาดนี้แล้ว 5555
ดูดวงเสร็จก็ดี รู้สึกปลงชีวิตดี 5555 ชั่งมันเถอะจะเป็นยังไงก็ปล่อยมันไปเถอะ ใช้ชีวิตปกติตามเวรตามกรรมกันไป…. ทำงานเยอะๆจะได้เก่งๆรวยๆ ครอบครัวจะสบายเนะ ^_^
จบทริปวันนี้กลับบ้านน้าไปทำไข้พะโล้ไปทำบุญพรุ่งนี้ดีกว่า คิดถึงน้องชายสองแสบแล้วซื้อไอติมไปฝากน้องดีกว่า น้องคนดีใจ….
พอถึงบ้านน้าดีจุงอาหารโปรดมาแล้ว “ส้มตำปูปลาร้า” แซ่บคร้า คนร้อยเอ็ดตำ อร่อยตั้งแต่ปลาร้ายไม้ต้องใส่ชูรสไม้ต้องใส่น้ำเพราะมันปรุงมาในปลาร้าแล้ว 555

เย็นแล้วไปวิ่งเล่นสวยลุมซะหน่อย… ^_^
พอกลับมาจากสวนลุมน้าเราไม่อยุ่บ้านเราต้องอยู่บ้านกับน้องชาย 3 คน น้องอยากกินข้าวจี่เพราะน้าเรานึ่งข้าวเหนียวไว้ให้ ประเด็นคือเราก่อไฟไม่เป็นอ่ะ แต่เราก็คิดนะว่ามันไม่ยากหรอก ลองทำดูไม่เคยทำเหมือนกัน โอ้แม่เจ้า!!!! ควันเต็มตึกไปหมด น้องเรานั่งน้ำตาไหลเลย มันนั่งปั่นข้าวเหนียวรอก็แล้ว ตีไข่รอก็แล้ว ทาเกลือรอก็แล้ว เราก็ยังก่อไฟไม่ติด 5555 พี่ขอโทด ^^’

เวลาผ่านไป 1 ชม. เย้ๆ ไฟติดแย้ววว ดีใจแทบร้องรีบถ่ายรูปส่งให้แม่ดูอย่างไวเลย เพราะเราไม่เคยก่อได้ 5555 #รู้สึกดรใจอย่างประหลากที่ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำแล้วได้ด้วยอ่ะ ^^
สรุปน้องได้กินข้าวจี่อิ่มเรียบร้อย เราก็พาน้องอาบน้ำเก็บของเข้านอนกัน

ตื่นตี 5 ครึ่งมาหุงข้าว ปั่นจักยานไปซื้อดอกไม้ปากซอยแล้วไปทำบุญให้ยายกัน โอเคมากเลยเราทำภารกิจที่อยากทำของอาทิตย์นี้จบแล้ว ^-^
บ๊ะบายค่ะ ขอบคุณน้าค่ะที่อ่านเรื่องราวของเด็กอ้วนมาจนจบ ไว้ทริปหน้าเรามาแชร์ประสบการณ์เปิ่นๆ ให้ฟังอีกนะคะ ^^
เรื่องราวการเปิ่นๆ ของเด็กไทยที่อยากลองไปทำบุญที่วัดจีน.... #วัดเล่งเน่ยยี่
ก็รู้สึกแปลกๆ เนะ ปีนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราตั้งเป้าหมายอยากจะทำ ก็เหมือนคนทั่วๆไปที่ตั้งเป้าไว้ว่า 10 อย่างที่จะทำในปีนี้ เราเองก็มีสิ่งที่อยากทำมากมายเช่น อยากทำบุญเยอะๆ อยากทำงานเก่งๆกว่านี้ อยากมีเงินส่งให้แม่เยอะๆ อยากออกกำลังกายเยอะๆ อยากลดน้ำหนักซัก 10 กิโลกรัม บลา บลา บลา
แต่สิ่งแรกที่เราตั้งใจจะทำตอนนี้คือ เราอยากไปทำบุญ เราอยากทำใจให้สงบ อยากเลยว้าววุ่น ทั้งเรื่องงานและเรื่องความร๊ากกกกที่ดูงงๆ
พอความอยากเกิดขึ้น แพลนในหัวก็ตามมา อย่างที่บอกไปแล้วว่าปีนี้ปีลิงตรงกับปีเกิดเราและดันเป็นปีชงของเรา75เปอร์เซ็น บวกกับช่วงนี้เรารู้สึกเครียดๆในชีวิตหลายๆอย่างหลายๆเรื่อง หาทางออกให้ตัวเองไม่ค่อยเจอดูอึนๆ มึนๆ เลยอยากไปทำบุญทำทานบางให้ใจมันสงบมากขึ้น เราเลยเลือกที่จะไปทำบุญแก้ปีชงก่อนที่ วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ อย่างใครหลายๆคนรู้ว่าวัดนี้โด่งดังเรื่องไหว้องค์ไท้ส่วยแก้ปีชง เราเริ่มจากถามพี่ที่ทำงานที่เค้าเคยไปว่าวัดนี้เป็นวัดยังไงต้องทำยังไงไหว้แบบไหนเดินทางไปยังไงพี่เค้าก็ตอบนะแต่เรางงเลย เลยนั่งเปิดเข้าGoogle ค้นหาข้อมูลการเดินทางต่างๆ การไหว้ ไหว้แบบไหน อะไรยังไง พอเราดูข้อมูลเรียบร้อยคิดละอ่ะ มันเป็นแบบนี้ๆ
เช้าวันเสาร์ที่ 30 มกราคม 2559 เวลา 08.30 น. เราก็ตัดสินใจออกเดินทางโดยเลือกเดินทางโดย นั่งสองแถวจากแถวศรีวรา(พอดีเราอยู่แถวทาวน์อินทาวน์)ไปลงMRT ห่วยขวาง รอรถนานพอสมควร วันนี้ไม่ค่อยมีแดดนะแต่ก็ร้อนอยู่ดีนี่ละน้า กทม ^^’
เย้ เย้ แม้น่าตาจะดูจืดๆ แต่รสชาติก็โอเคอยู่น๊า กิน กิน กิน จะได้ออกเดินทางต่อ กินเสร็จเราก็ถามทางพี่เค้า เค้าก็บอกให้เราเดินไปเรื่อยๆ ไม่ไกลหรอกไม่ต้องนั่งรถ ตรงไปเรื่อยๆ วัดจะอยู่ด้านซ้ายมือนะ โอเค
เราเห็นเค้าขายของอยู่ด้านหน้าวัดขวามือเขียนว่า ชุดไหว้แก้ปีชง 120 เราก็นึกว่า อ่อคงอันนี้แหล๊ะ เราก็ซื้อมาแต่ปรากฏว่าไม่ใช่ง่ะ เป็นชุดไหว้เฉยๆ เราเดินเข้ามาด้านไหนศาล โอ้โห้!!!! คนเยอะมากกก ^o^ เราก็พยายามดูว่าเค้าทำยังไง ไหว้กันยังไง ไปซื้อกระดาษสีแดงมาเขียนชื่อแก้ปีชงตรงไหน ยืนๆ อ่านๆ มองๆ อยู่สักพัก เราก็เลยลองถามพี่คนที่นั่งอยู่ข้างตู้บริจาคดู อ่อ ต้องเดินไปตรงโน่นซื้อกับพระท่านขายอยู่ด้านในอีกที
สำเร็จไปหนึ่งสิ่งที่เราอยากทำ และสิ่งต่อไปที่เราตั้งใจอยากทำคือพรุ่งนี้เป็นวันพระเราอยากไปทำบุญตักบาตรให้ปู่ ตา ยาย ของเราที่เสียไปแล้ว พวกท่านเป็นคนที่เรารักมากผูกพันมากเช่นกัน เราคิดอยู่ในหัวเลยว่าเราอยากทำเมนูไข่พะโล้ไปทำบุญ แล้วก็ขนมปังนุ่มๆ และนมถั่วเหลืออร่อยๆ ไปทำบุญให้พวกท่าน เราเลยโทรชวนน้าเราเลยว่าพรุ่งนี้ไปทำบุญกันนะ หนูอยากไปทำบุญให้ยายคิดถึงยายมากๆ อยากทำพะโล้ไปให้ท่าน เดี๋ยวพลอยไปหาแล้วเราทำพะโล้ไว้ไปทำบุญพรุ่งนี้กันนะ น้าเราก็ตกปากรับคำโอเคได้เลย
แต่ก่อนจะไปถึงบ้านน้า อยากแวะๆไปไหว้ย่านาค ที่วัดมหาบุศย์ ก่อนเพราะช่วงนี้รู้สึกสับสับนิดหน่อย เราก็นั่งรถเมย์สาย 507 จากแถวๆวันเล่งเน่ยยี่ ไปเลยจนถึงอ่อนนุช นั่งสองแถวเข้าไปอ่อนนุชซอย7 เป็นครั้งแรกที่เรามาที่นี่ เราเดินเข้าไปในวัดก็มีพระท่านนั่งคอยรับสังฆทานจากญาติโยมที่มาทำบุญ และมีศาลาของหลวงพ่อยิ้มอยู่เราเลยเข้าไปไหว้สักการะ ก่อนที่จะเดินไปศาลย่านาค เราเดินวนไปวนมาอยู่หลายๆรอบกว่าจะเจอ ตลกตัวเองไปถึงที่แต่กว่าจะหาเจอนี่นานมาก พอเราเจอเราก็เดินเข้าไปซื้อดอกไม้ไหว้สัการะท่าน และไปกระซิบขอพรท่านเรื่องความรักสักนิดนึง (แบบว่าหนูไม่รีบนะคะ ขอแบบช้าๆ แต่ชัวค่ะ หนูเหนื่อย 5555 )
ดูดวงเสร็จก็ดี รู้สึกปลงชีวิตดี 5555 ชั่งมันเถอะจะเป็นยังไงก็ปล่อยมันไปเถอะ ใช้ชีวิตปกติตามเวรตามกรรมกันไป…. ทำงานเยอะๆจะได้เก่งๆรวยๆ ครอบครัวจะสบายเนะ ^_^
จบทริปวันนี้กลับบ้านน้าไปทำไข้พะโล้ไปทำบุญพรุ่งนี้ดีกว่า คิดถึงน้องชายสองแสบแล้วซื้อไอติมไปฝากน้องดีกว่า น้องคนดีใจ….
พอถึงบ้านน้าดีจุงอาหารโปรดมาแล้ว “ส้มตำปูปลาร้า” แซ่บคร้า คนร้อยเอ็ดตำ อร่อยตั้งแต่ปลาร้ายไม้ต้องใส่ชูรสไม้ต้องใส่น้ำเพราะมันปรุงมาในปลาร้าแล้ว 555
พอกลับมาจากสวนลุมน้าเราไม่อยุ่บ้านเราต้องอยู่บ้านกับน้องชาย 3 คน น้องอยากกินข้าวจี่เพราะน้าเรานึ่งข้าวเหนียวไว้ให้ ประเด็นคือเราก่อไฟไม่เป็นอ่ะ แต่เราก็คิดนะว่ามันไม่ยากหรอก ลองทำดูไม่เคยทำเหมือนกัน โอ้แม่เจ้า!!!! ควันเต็มตึกไปหมด น้องเรานั่งน้ำตาไหลเลย มันนั่งปั่นข้าวเหนียวรอก็แล้ว ตีไข่รอก็แล้ว ทาเกลือรอก็แล้ว เราก็ยังก่อไฟไม่ติด 5555 พี่ขอโทด ^^’
สรุปน้องได้กินข้าวจี่อิ่มเรียบร้อย เราก็พาน้องอาบน้ำเก็บของเข้านอนกัน
บ๊ะบายค่ะ ขอบคุณน้าค่ะที่อ่านเรื่องราวของเด็กอ้วนมาจนจบ ไว้ทริปหน้าเรามาแชร์ประสบการณ์เปิ่นๆ ให้ฟังอีกนะคะ ^^