คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ต้องแยกให้ออกว่าเป็นสมัยไหน
ก่อน ๒๕๕๔ (เนวิน, ตานฉ่วย มีอำนาจเต็ม)
- พม่าใช้กำลังทางบก เป็นหลัก
- พม่าเอนเอียงไปทางจีนกับเกาหลีเหนือ และละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำให้สหรัฐและพันธมิตร คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ,การเมืองและการทหาร
- กองกำลังชนกลุ่มน้อยได้รับความช่วยเหลืออย่างลับ ๆ จากบางประเทศ
หลัง ๒๕๕๔ (ตานฉ่วย วางมือ, เตงเส่ง เป็นประธานาธิบดี)
- สองปีก่อน ทหารพม่าศึกษาวิธีที่ศรีลังกา ปราบปรามกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ ได้สำเร็จ ๑๙ พ.ค.๕๒
- ผบ.ทหารสูงสุด ขอเวลา ๒ ปี เพื่อปราบปราม ชนกลุ่มน้อย ตามแบบศรีลังกา แต่เตงเส่ง ขอให้มีการเจรจาสันติภาพแทน ตานฉ่วยเห็นด้วย
- หลายประเทศออกเงินให้พม่า จัดการเจรจาสันติภาพ มีการเจรจาเป็นระยะประมาณ ๒ ปี จนในที่สุด มีข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) แต่มีเพียง ๘ กลุ่มที่ลงนาม อีก ๑๔ กลุ่ม ไม่ได้ลงนาม
- หลายประเทศที่เคยสนับสนุนกองกำลังชนกลุ่มน้อย เริ่มลดการสนับสนุน เพราะได้เข้าไปลงทุนในพม่าแล้ว
- ระหว่างเจรจาก็ยังมีการสู้รบกันอยู่ ทหารพม่าเริ่มใช้การโจมตีทางอากาศ ต่อกะฉิ่น เป็นกลุ่มแรก เมื่อเห็นว่าได้ผล ก็ขยายไปถึงกลุ่มอื่น ด้วย สามารถยึดพื้นที่ กลับเป็นของรัฐบาล ได้มากขึ้น เป็นลำดับ
- ต้น ก.พ.๕๘ กลุ่มโกก้าง บุกยึดเมืองเอกในเขตโกก้าง ทำให้ทหารพม่าได้โอกาส ทดลองการปราบปรามตามแบบศรีลังกา โดยใช้กำลังทางอากาศ เป็นหลัก ปิดพื้นที่ ปิดข่าว ใช้เวลา ๙ เดือน ปราบโกก้างได้เด็ดขาด อีกด้านหนึ่ง พม่าก็ให้ผลประโยชน์จีน จนจีนเลิกสนับสนุน สั่งให้ผู้นำโกก้าง ออกไปจากจีน
- ช่วงปลายปี ๒๕๕๘ กลุ่มอาระกัน ที่ไปฝึกกับกะฉิ่น เริ่มปฏิบัติการในรัฐอาระกัน (ยะไข่) ทหารพม่าจึงใช้วิธีปิดพื้นที่ ปิดข่าว ปราบปรามกลุ่มอาระกัน อยู่ในเวลานี้ (ไม่มีข่าวออกสู่โลกภายนอก ซีเอนเอน บีบีซี เอเอฟพี รอยเตอร์ส ไม่รู้เรื่องทั้งนั้น)
ปัจจุบัน พรรค NLD ของนางซูจี ได้เป็นรัฐบาล แต่อำนาจทางทหาร หรือความมั่นคง อยู่ในมือ ผบ.ทหารสูงสุด
- จากการมีข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ ทำให้มีการเจรจาทางการเมืองต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ ๕ ปี
- สิ่งที่ชนกลุ่มน้อยต้องการ คือ การปกครองแบบสหพันธรัฐ และ มี กองทัพสหพันธรัฐ (แต่ละรัฐ มีกำลังของตัวเอง ไม่มีทหารพม่า) ซึ่งต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่การแก้รัฐธรรมนูญ ต้องใช้เสียงในสภา ๗๕% ซึ่งยากที่จะได้
- ผบ.ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ต่างประเทศ หลายครั้งว่า ยังไม่ถึงเวลาแก้รัฐธรรมนูญ ฉะนั้น สิ่งที่ชนกลุ่มน้อยต้องการ จึงไม่มีวันเป็นจริง
ในที่สุด เมื่อถึงทางตัน ก็จะกลับมารบกันอีก ซึ่งจะหนักกว่าเดิม เพราะทหารพม่ามีประสบการณ์แล้วว่า จะต้องทำอย่างไรจึงจะชนะ และจะต้องดำเนินการทางการเมืองอย่างไร สหรัฐจึงจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
ก่อน ๒๕๕๔ (เนวิน, ตานฉ่วย มีอำนาจเต็ม)
- พม่าใช้กำลังทางบก เป็นหลัก
- พม่าเอนเอียงไปทางจีนกับเกาหลีเหนือ และละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำให้สหรัฐและพันธมิตร คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ,การเมืองและการทหาร
- กองกำลังชนกลุ่มน้อยได้รับความช่วยเหลืออย่างลับ ๆ จากบางประเทศ
หลัง ๒๕๕๔ (ตานฉ่วย วางมือ, เตงเส่ง เป็นประธานาธิบดี)
- สองปีก่อน ทหารพม่าศึกษาวิธีที่ศรีลังกา ปราบปรามกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ ได้สำเร็จ ๑๙ พ.ค.๕๒
- ผบ.ทหารสูงสุด ขอเวลา ๒ ปี เพื่อปราบปราม ชนกลุ่มน้อย ตามแบบศรีลังกา แต่เตงเส่ง ขอให้มีการเจรจาสันติภาพแทน ตานฉ่วยเห็นด้วย
- หลายประเทศออกเงินให้พม่า จัดการเจรจาสันติภาพ มีการเจรจาเป็นระยะประมาณ ๒ ปี จนในที่สุด มีข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) แต่มีเพียง ๘ กลุ่มที่ลงนาม อีก ๑๔ กลุ่ม ไม่ได้ลงนาม
- หลายประเทศที่เคยสนับสนุนกองกำลังชนกลุ่มน้อย เริ่มลดการสนับสนุน เพราะได้เข้าไปลงทุนในพม่าแล้ว
- ระหว่างเจรจาก็ยังมีการสู้รบกันอยู่ ทหารพม่าเริ่มใช้การโจมตีทางอากาศ ต่อกะฉิ่น เป็นกลุ่มแรก เมื่อเห็นว่าได้ผล ก็ขยายไปถึงกลุ่มอื่น ด้วย สามารถยึดพื้นที่ กลับเป็นของรัฐบาล ได้มากขึ้น เป็นลำดับ
- ต้น ก.พ.๕๘ กลุ่มโกก้าง บุกยึดเมืองเอกในเขตโกก้าง ทำให้ทหารพม่าได้โอกาส ทดลองการปราบปรามตามแบบศรีลังกา โดยใช้กำลังทางอากาศ เป็นหลัก ปิดพื้นที่ ปิดข่าว ใช้เวลา ๙ เดือน ปราบโกก้างได้เด็ดขาด อีกด้านหนึ่ง พม่าก็ให้ผลประโยชน์จีน จนจีนเลิกสนับสนุน สั่งให้ผู้นำโกก้าง ออกไปจากจีน
- ช่วงปลายปี ๒๕๕๘ กลุ่มอาระกัน ที่ไปฝึกกับกะฉิ่น เริ่มปฏิบัติการในรัฐอาระกัน (ยะไข่) ทหารพม่าจึงใช้วิธีปิดพื้นที่ ปิดข่าว ปราบปรามกลุ่มอาระกัน อยู่ในเวลานี้ (ไม่มีข่าวออกสู่โลกภายนอก ซีเอนเอน บีบีซี เอเอฟพี รอยเตอร์ส ไม่รู้เรื่องทั้งนั้น)
ปัจจุบัน พรรค NLD ของนางซูจี ได้เป็นรัฐบาล แต่อำนาจทางทหาร หรือความมั่นคง อยู่ในมือ ผบ.ทหารสูงสุด
- จากการมีข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ ทำให้มีการเจรจาทางการเมืองต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ ๕ ปี
- สิ่งที่ชนกลุ่มน้อยต้องการ คือ การปกครองแบบสหพันธรัฐ และ มี กองทัพสหพันธรัฐ (แต่ละรัฐ มีกำลังของตัวเอง ไม่มีทหารพม่า) ซึ่งต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่การแก้รัฐธรรมนูญ ต้องใช้เสียงในสภา ๗๕% ซึ่งยากที่จะได้
- ผบ.ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ต่างประเทศ หลายครั้งว่า ยังไม่ถึงเวลาแก้รัฐธรรมนูญ ฉะนั้น สิ่งที่ชนกลุ่มน้อยต้องการ จึงไม่มีวันเป็นจริง
ในที่สุด เมื่อถึงทางตัน ก็จะกลับมารบกันอีก ซึ่งจะหนักกว่าเดิม เพราะทหารพม่ามีประสบการณ์แล้วว่า จะต้องทำอย่างไรจึงจะชนะ และจะต้องดำเนินการทางการเมืองอย่างไร สหรัฐจึงจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
แสดงความคิดเห็น
เหตุใดกองทัพเมียนมาร์ถึงไม่สามารถปราบชนกลุ่มน้อยเพื่อรวมประเทศให้เป็นหนึ่งได้
กำลังไม่พอหรือ?