ในขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในแนวรบด้านตะวันออก กองทัพโซเวียตต้องเผชิญหน้ากับกองทัพยานเกราะของนาซีเยอรมนี (Panzer) ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก
.
1. ความจำเป็นที่โหดร้าย
ในช่วงต้นสงคราม โซเวียตขาดแคลนอาวุธต่อต้านรถถังที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะหยุดยั้งรถถังเยอรมัน
ด้วยความสิ้นหวัง พวกเขาก็ได้คิดค้นวิธีการต่อต้านรถถังที่แปลกประหลาดและน่าสลดใจ นั่นคือการใช้สุนัขติดระเบิด
.
2. การฝึกฝนที่น่าเศร้า
สุนัขถูกฝึกให้วิ่งใต้ท้องรถถัง โดยมีอาหารวางอยู่ใต้รถถังเป็นสิ่งล่อใจ เพื่อให้สุนัขคุ้นเคยกับการวิ่งเข้าไปในจุดที่ปลอดภัยที่สุดจากกระสุน
เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริง ระเบิดจะถูกติดไว้บนหลังของสุนัข โดยมีไม้ค้ำ (Detonator Lever) ยื่นขึ้นมาเหนือระเบิดเล็กน้อย
สุนัขที่ผ่านการฝึกจะถูกปล่อยออกไปเมื่อรถถังข้าศึกเข้ามาใกล้ เมื่อสุนัขวิ่งเข้าไปใต้ท้องรถถัง ไม้ค้ำจะกระแทกกับท้องรถถัง ทำให้ระเบิดทำงาน และสุนัขก็เสียชีวิตพร้อมกับความพยายามที่จะทำลายรถถัง
.
3. ผลลัพธ์ในสมรภูมิ
ในทางทฤษฎี วิธีนี้ฟังดูน่ากลัว แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ค่อยได้ผลดีนัก
สุนัขหลายตัวถูกฝึกโดยรถถังโซเวียต ซึ่งมีน้ำมันดีเซล ทำให้พวกมันสับสนเมื่อต้องเผชิญกับรถถังเยอรมันที่ใช้น้ำมันเบนซิน
เสียงปืนใหญ่และเสียงเครื่องยนต์ของสนามรบทำให้สุนัขตื่นกลัวและบางตัวก็วิ่งกลับไปยังแนวรบของโซเวียตแทน ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามต่อทหารโซเวียตเอง
ทหารเยอรมันเมื่อเห็นสุนัขวิ่งเข้ามาก็มักจะยิงพวกมันทิ้งก่อนที่จะถึงตัวรถถัง
มีรายงานว่ามีสุนัขต่อต้านรถถังจำนวนหนึ่งสามารถทำลายรถถังเยอรมันได้จริง แต่โดยรวมแล้วถือว่าไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียสุนัขจำนวนมาก และประสิทธิภาพก็ไม่สูงพอ
กองทัพโซเวียตได้ยุติโครงการสุนัขต่อต้านรถถังนี้ในที่สุด เมื่อมีอาวุธต่อต้านรถถังที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ปืนไรเฟิลต่อต้านรถถัง หรือระเบิดแม่เหล็ก ถูกนำมาใช้
.
เรื่องราวของสุนัขต่อต้านรถถังเป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ที่น่าเศร้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามที่มนุษย์ต้องพึ่งพาทุกวิถีทาง แม้กระทั่งการเสียสละสัตว์ผู้บริสุทธิ์เพื่อความอยู่รอด
นี่เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ที่น่าหดหู่แต่ก็สำคัญในการเรียนรู้ครับ
ขอขอบคุณเพจตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่องจากเฟซบุ๊คที่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลนะครับ
ตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่อง
🐶 สุนัขต่อต้านรถถังของโซเวียต: วีรบุรุษที่ถูกลืม (Anti-Tank Dogs)
.
1. ความจำเป็นที่โหดร้าย
ในช่วงต้นสงคราม โซเวียตขาดแคลนอาวุธต่อต้านรถถังที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะหยุดยั้งรถถังเยอรมัน
ด้วยความสิ้นหวัง พวกเขาก็ได้คิดค้นวิธีการต่อต้านรถถังที่แปลกประหลาดและน่าสลดใจ นั่นคือการใช้สุนัขติดระเบิด
.
2. การฝึกฝนที่น่าเศร้า
สุนัขถูกฝึกให้วิ่งใต้ท้องรถถัง โดยมีอาหารวางอยู่ใต้รถถังเป็นสิ่งล่อใจ เพื่อให้สุนัขคุ้นเคยกับการวิ่งเข้าไปในจุดที่ปลอดภัยที่สุดจากกระสุน
เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริง ระเบิดจะถูกติดไว้บนหลังของสุนัข โดยมีไม้ค้ำ (Detonator Lever) ยื่นขึ้นมาเหนือระเบิดเล็กน้อย
สุนัขที่ผ่านการฝึกจะถูกปล่อยออกไปเมื่อรถถังข้าศึกเข้ามาใกล้ เมื่อสุนัขวิ่งเข้าไปใต้ท้องรถถัง ไม้ค้ำจะกระแทกกับท้องรถถัง ทำให้ระเบิดทำงาน และสุนัขก็เสียชีวิตพร้อมกับความพยายามที่จะทำลายรถถัง
.
3. ผลลัพธ์ในสมรภูมิ
ในทางทฤษฎี วิธีนี้ฟังดูน่ากลัว แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ค่อยได้ผลดีนัก
สุนัขหลายตัวถูกฝึกโดยรถถังโซเวียต ซึ่งมีน้ำมันดีเซล ทำให้พวกมันสับสนเมื่อต้องเผชิญกับรถถังเยอรมันที่ใช้น้ำมันเบนซิน
เสียงปืนใหญ่และเสียงเครื่องยนต์ของสนามรบทำให้สุนัขตื่นกลัวและบางตัวก็วิ่งกลับไปยังแนวรบของโซเวียตแทน ซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามต่อทหารโซเวียตเอง
ทหารเยอรมันเมื่อเห็นสุนัขวิ่งเข้ามาก็มักจะยิงพวกมันทิ้งก่อนที่จะถึงตัวรถถัง
มีรายงานว่ามีสุนัขต่อต้านรถถังจำนวนหนึ่งสามารถทำลายรถถังเยอรมันได้จริง แต่โดยรวมแล้วถือว่าไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียสุนัขจำนวนมาก และประสิทธิภาพก็ไม่สูงพอ
กองทัพโซเวียตได้ยุติโครงการสุนัขต่อต้านรถถังนี้ในที่สุด เมื่อมีอาวุธต่อต้านรถถังที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ปืนไรเฟิลต่อต้านรถถัง หรือระเบิดแม่เหล็ก ถูกนำมาใช้
.
เรื่องราวของสุนัขต่อต้านรถถังเป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ที่น่าเศร้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามที่มนุษย์ต้องพึ่งพาทุกวิถีทาง แม้กระทั่งการเสียสละสัตว์ผู้บริสุทธิ์เพื่อความอยู่รอด
นี่เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ที่น่าหดหู่แต่ก็สำคัญในการเรียนรู้ครับ
ขอขอบคุณเพจตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่องจากเฟซบุ๊คที่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลนะครับ
ตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่อง