“ในหลวง”ทรงห่วงต่างชาติฮุบที่นา ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

“องคมนตรี” เผย “ในหลวง” ทรงห่วงปัญหาต่างชาติฮุบที่นาไทย วอนเกษตรกรอย่าขายที่ทำกิน พร้อมระบุ”พระเทพฯ”ทรงแนะการศึกษาไทยควรมุ่งเน้นให้คนในท้องถิ่นรู้จักตนรเอง ไม่ควรมุ่งแต่ใช่หลักสูตรแกนกลาง

ชี้ภัยแล้งเป็นเรื่องความเป็นความตายของคนชนบท ชี้”ศก.ทุนนิยมทำให้ไทยมีคนจน-คนรวยห่างชั้นกันมากที่สุดในโลก

        เมื่อวันที่ 26 มี.ค.55 ที่สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีการจัดเสวนาเรื่อง “พัฒนาชนบท ปลดล็อกประเทศ” จัดโดยชมรมสื่อบ้านนอก ร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ โดย นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรีและประธานมูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ

กล่าวในหัวข้อ “ชนบทในมุมมองข้าพเจ้า” ว่า หลายประเทศได้คิดกันมานานแล้วถ้าปล่อยให้โครงสร้างเศรษฐกิจเป็นแบบทุนนิยมอย่างนี้ต่อไป คนจะมาอยู่แต่ในเมืองใหญ่ เพราะมีความสะดวกสบายกว่า

แต่หลายประเทศจะไม่ยอมให้มีช่องว่างระหว่างคนในเมืองกับชนบท ประเทศไทยกลับต่างกันมากราวกับฟ้ากะดิน ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยห่างกันมากที่สุดในโลกถึง 18 เท่า แต่ของจีนแค่ 8 เท่า

สาเหตุทำไมถึงเป็นอย่างนี้มาจากการพัฒนาการศึกษาพื้นฐานที่ไม่ตอบโจกย์ความยากลำบากของคนในชนบท ที่ต้องเอาตัวรอดดิ้นรนสู้ชีวิตให้รอดไปได้เพียงปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

เช่น หน้าแล้งหน้าฝนต้องดิ้นรนให้รอดไปปีหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเป็นเรื่องความเป็นความตายของคนชนบท เขาเริ่มที่การศึกษาก่อนเพราะจะต่อยอดไปอย่างอื่นได้ง่ายในการพัฒนาคุณภาพชีวิต

        นพ.เกษม กล่าวว่า ประเทศที่พัฒนาทางเทคโนโลยีสูงๆ เพราะการเมืองของเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาเป็นอันดับแรกของประเทศ ขณะนี้เกาหลีใต้ สิงค์โปร์ ขึ้นไปอยู่กลุ่มประเทศที่ 1 ของโลกเพราะพัฒนาการศึกษาพื้นฐานก่อนเอาดิจิตอลเทคโนโลยีใส่เข้าไป

แต่ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มที่ 2 เพราะคนในชนบทยังย่ำแย่มาก มันอยู่ที่โอกาส เราจะฟื้นพลังชนบท ต้องให้โอกาสทั้งเด็ก ผู้ใหญ่และคนสูงวัย เพราะการศึกษาของเราหลงทาง

และไม่เข้าไปทำการศึกษาจากในชนบท  ว่าเขาต้องการอะไรพร้อมกับกระตุ้นให้ชุมชนเข็มแข็งอย่างไรที่จะเกิดพลังอย่างยั่งยืน นำไปสู่การร่วมใจกันรักษาแผ่นดินเกิดอย่างแท้จริง เราต้องเห็นความสำคัญของคนรุ่นปู่ย่าตายายเป็นมรดกของแผ่นดิน ไม่ใช่ให้คนดิ้นรนไปหาการศึกษาข้างนอก

หากไม่ทำอะไรเลยช่องว่างห่างกันทุกทีพูดกันไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้ หลังจากปฏิรูปการศึกษา 2546  มีแต่หลักสูตรแกนกลาง ไม่มีหลักสูตรท้องถิ่น เพราะพวกนักบริหารการศึกษาไม่เข้าใจหลักสูตรที่ดี  ต้องมี 30 เปอร์เซนต์ต้องให้คนรู้จักตนเอง รู้จักท้องถิ่นตัวเอง

         “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตรัสว่าพอพ้นประตูโรงเรียนก็เป็นหลักสูตรท้องถิ่น แต่น่าเสียดายครูไม่เอาไปสอน เข้าป่าหาของกินไม่เป็น รักษาป่าไม่เป็น แต่ละพื้นที่มาทำหลักสูตรกันเอง เด็กสกลนครรักสกลนคร เด็กเชียงรายรักเชียงราย เกิดความรู้สึกเป็นคนเชียงราย กลับไปพัฒนาบ้านเมืองตนเอง

เรากำลังเตรียมคนรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาชนบท  เริ่มต้นอาชีพที่ทำให้ชุมชนเข็มแข็ง กลับมาทำนาชนบทไทยมีความพร้อมสร้างความเข้มแข็งให้ชนบทได้ แต่มันไม่ทำกันจริง ทั้งที่ไม่ใช่ของใหม่วิเศษวิโสอะไร ถ้าคนไทยช่วยกัน”


นพ.เกษม กล่าวต่อว่า พระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัว  เคยตรัสกับเกษตรกรที่สกลนคร  ว่า  ขอให้หวงแหนที่ดินทำกินอย่าขาย ให้ทำการเกษตรไปเรื่อยๆ จะเจริญเอง  ขณะนี้พวกตะวันออกกลางไปไล่ซื้อที่นาบ้าง  เช่าบ้าง  คนที่เคยเป็นเจ้าของที่ต้องมาเป็นกรรมกรโรงงาน  แต่เวลาน้ำท่วมทีโรงงานก็ต้องปิดเอาที่ที่ไหนอยู่ที่ไหนทำกินก็เจ๊งกันหมดประเทศ  ต้องเตือนคนไทยอย่าโลภ  ไปร่วมมือกับต่างชาติ  มากว้านซื้อที่นาตน  ต้องเร่งมีกฎหมายออกมาป้องกันคนต่างชาติมาซื้อหรือมาเช่าที่เป็นหมื่นไร่ล้านไร่  คนไทยต้องช่วยกันป้องกันต่างชาติมาฮุบที่ดินของเกษตรกรไทย  เพราะขณะนี้ช่องว่างเมืองกับชนบทห่างจริงๆ  ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันมากขึ้น  จำเป็นต้องยกคุณภาพชนบทมาใกล้ในเมือง  เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำให้คนไทยมีแผ่นดินอยู่

*ขอขอบคุณ สยามรัฐ  อ่านโดยตรงจากลิ้งนี้ http://www.chaoprayanews.com/2012/03/27/%E2%80%9C%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E2%80%9D%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95