รีวิว Backpack in seoul 2016 9 DAY 8 NIGHT
อันยองอาเซโย 2016 ด้วยนะคะ นี่เป็นรีวิวกระทู้แรกของของ จขกท. หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ จขกท.รวบรัดเลยนะค่ะทั้ง 9 วัน คือจะเล่าประสบการณ์มากกว่าค่ะในแต่ละวัน เพราะ จขกท.ได้จัดเพลนเที่ยวไว้ทั้ง 9 วัน แต่ก็ไม่ได้เที่ยวตามนั้นเลยค่ะ ตื่นปุ๊ปคือถามเพื่อนว่าวันนี้ไปไหนดี และเอกสารที่เตรียมมาไม่ได้ใช้อะไรสักอย่าง ใช้แค่แผนที่ของ IN 1 GUIDE อย่างเดียว อาจจะทำการบ้านมาดีหรือไม่ก็ความจำดีมั้งค่ะว่าเดินทางไปยังไง 555 เริ่มกันเลยค่ะ ต้นปีที่ผ่านมา เรากับเพื่อนไปเที่ยวเกาหลีใต้กันมาค่ะ ไปกันสองคนสองสาว ตามสไตล์สาวโสด และแน่นอนต้องมีการเก็บภาพบรรยากาศในโซลและอาหารเกาหลีอันน่าโช้ยมาฝาก รอบนี้เราไปกัน 8 คืน 9 วัน วันที่ 8-16 มกราคม 2559 (เวลาที่เกาหลีใต้เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง)
ค่าใช้จ่ายน่ะเหรอ ตามนี้เลยค่ะ บอกเลยถูกมากย้ำนะค่ะราคานี้ 9 วัน
- ค่าตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ รวมทุกอย่าง) ภูเก็ต-ดอนเมือง 2,300 บาท
- ค่าตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ รวมทุกอย่าง) กรุงเทพ – อินชอน 7,500 บาท
- ค่าที่พัก 4,050 บาท
- ค่ากิน + ของฝาก +ช็อปนิดหน่อย จขกท.แลกเงินไป 12,000 บาท
- ค่าเดินทางทั้งทริปจขกท.ใช้บัตร T-money ล้วนๆเลยค่ะ เติมไว้ 50,000 วอน เงินไทย 1,500 บาท
รวม ราคานี้ต่อคนนะค่ะ 27,350 บาทปล.จขกท.เอาบัตรเครดิตไปด้วย เลยแลกไปน้อยๆกลัวหาย
***อย่าลืมโหลดแอพSubway ของเกาหลี
***บัตร T-Money มีประโยชน์มากค่ะ ไปถึงอินชอนก็ซื้อตาม CU ที่สนามบินพกไว้ เติมเงินก็ให้พนง.เติมให้ไปเลย ใช้ได้ทั้งรถไฟ รถเมล์ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อได้ด้วย
***ส่วน WIFI นี่ เราไม่ได้เช่านะค่ะ พึ่งWIFIในที่พักกับในสถานีรถไฟใต้ดินเอาค่ะ
***ใครสงสัยอะไรเพิ่มเติม หรืออยากรู้อะไร คอมเม้นถามหรือหลังไมค์มาได้เลยคะ
เราจองตั๋วโปรโมชั่นของ Air Asia ที่ออกมาช่วงปลายๆปีที่แล้ว กดออกมาได้ราคา 7,500 ต่อคน เป็นเครื่องบินแบบ 3-3-3 (ราคานี้รวมน้ำหนักกระเป๋าคนละ 20 กิโลทั้งขาไปและกลับ) โดยรวมก็โอเคนะคะในระดับ low cost แอร์บริการโอเคใช้ได้ สุภาพดี นั่งไปสี่ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงค่ะ ขาไปนี่เร็วค่ะ ไปถึงก่อนเวลา ส่วนอาหารกับที่นั่งเราไม่ได้ซื้อ เดินทางวันที่ 8-16 มกราคม 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งอากาศทั้งทริปก็ติดลบ เสื้อผ้าจัดเต็มค่ะ
ออกเดินทางที่ดอนเมืองเที่ยวบิน XJ700 เวลา 02.25 น. เราไปถึงดอนเมือง 23.00 น. เคาร์เตอร์เปิดให้เช็คอินพอดี เช็คอินก่อนเครื่องออกล่วงหน้า 3 ชั่วโมงนะค่ะ เอ้าเริ่ม >>> จิบ้าตาย สแกนกระเป๋า เพื่อนเราดันลืมเอาแบตสำรองคอมพิวเตอร์ออก เอาไงล่ะค่ะ เปิดซิค่ะ พนง.บอก Open >> HE ถามว่าคนเกาหลีป่าว ถามเพื่อนนะไม่ได้ถามเรา เราหน้าตาไม่ให้ เพื่อนเราก็บอกคนไทย อายคนมากบอกเลย มองกันใหญ่ หลังจากที่เปิดกระเป๋าอะไรเสร็จก็เข้าแถวต่อแถวเช็คอิน เอาอีก !!!!!!!!!! No No No!!!!!! น้ำหนักกระเป๋าเกินอีกจ้า คือจองไว้คนละ 20 กก. ขนาดแชร์กันละนะ ยังเกิน เปิดอีกรอบ สแกนประเป๋าใหม่อีกรอบ หลาบค้า !!!!!หลังจากเช็คอินโหลดเป๋าไรเสร็จ พนง.หน้าเคาร์เตอร์ก็ให้ Boarding Pass และ ใบขาออก ถือไว้ให้มั่นพร้อมด้วยพาสปอร์ตค่าาผ่านด่านต่างๆเข้าไปเรื่อยๆ จนไปถึงก่อนเข้าเกต พอขึ้นเครื่องก็จัดหาที่นั่งกัน เครื่องบินลำนี้ที่นั่งจะเป็น 3-3-3 ไม่กว้างและไม่แคบ จขกท.เป็นคนตัวใหญ่นั่งได้สบาย ถือว่าโอเครเลยค่ะ เมื่อเครื่องบินบินใกล้ถึงอินชอนพนักงานต้อนรับก็นำเอกสารใบผ่านศุลกากร - ใบตรวจคนเข้าเมือง (Arrival Card) ที่ต้องให้ ตม.เกาหลีกรอกเอกสารกันโล้ดเลยค่ะ
ถึงสนามบิน Incheon แล้วไปไงต่อ?หลังจากเครื่องแลนดิ้งลงสู่สนามบินอินชอน เราก็เดินออกมาตามทางเรื่อยๆ แต่ว่ามันก็จะมีเป็นทางให้เดินไปเรื่อยๆเลยค่ะ ถ้าไปไม่ถูกยังไงก็เดินตามผู้โดยสารคนอื่นไปนะค่ะ เพราะพอลงจากเครื่องแล้วต้องเดินไปขึ้น shuttle train เข้าไปอาคารผู้โดยสารอีกที
หลังจากมาถึงอาคารผู้โดยสาร ก็ไปผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตม.เกาหลีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เราเลือกแถวที่ดูผ่านไปเร็วๆ แต่เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรเลย แค่ให้เอานิ้วทาบกับเครื่องแสกนนิ้วมือ แล้วก็มองกล้องเพื่อถ่ายรูป (หากท่านใดที่กลัวว่าไม่ผ่านตม.ก็เตรียมเอกสารไว้ดีดีนะค่ะ หากเค้าถามก็ตอบไปอย่างมั่นใจ หากเราไม่ได้เข้าเมืองเค้าแบบผิดๆก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะค่ะ) จบหลังจากผ่าน ตม. เสร็จแล้วก็มารับกระเป๋า โดยดูจากป้ายที่จะบอกว่าเครื่องที่เราขึ้นนั้นที่รับกระเป๋าอยู่หมายเลขเท่าไหร่หลังจากรับกระเป๋าเสร็จแล้วก็จะเดินผ่านโซนที่ให้ส่งใบผ่านศุลกากร
V
V
V
สัมภาระของเราทั้งสองคน คนละ 2 ใบ + กล้องอีกคนละตัว แบกหน้าแบกหลัง หนักมาก จากสนามบิน Incheon ไป Hongdaeเราจะเดินทางด้วยรถAirport Bus เพราะสัมภาระเยอะและหนักด้วย สะดวกสบาย ไม่ต้องแบกกระเป๋าอันหนักหน่วงขึ้นลงสถานีใต้ดิน ราคารถ Airport Bus ไปยังHongdaeหมายเลข 6002 ราคาคนละ 10000 วอนหรือ 300 บาทไทย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะได้ตั๋วมาแบบนี้ (ใบสีขาว) แล้วก็ตอนขึ้นรถ คีชังนีมก็จะติดหมายเลขกระเป๋าใต้ท้องรถให้ ตอนลงก็เอาให้แก (ใบสีแดงอ่ะ)
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จเราก็ตรงดิ่งเข้าไปยังเซเว่นในสนามบินเพื่อซื้อบัตร t-money บัตรที่เอาไว้ใช้จ่ายทั้งเวลาขึ้นรถไฟใต้ดิน รถบัส เข้าเซเว่น หรือร้านอะไรก็ตามแต่ที่มีสัญลักษณ์ t-money นี้ โดยถ้าใช้บัตร t-money จ่ายค่าโดยสารเวลาขึ้นรถก็จะได้รับส่วนลดอีกด้วย
บัตร t-money ราคาใบละ 2500 วอน เราเติมเงินไป 50,000 วอน ถ้าเหลือยังไงสามารถเอากลับได้ หรือ ถ้าใครจะเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย ระลึก ก็ได้ หรือจะเก็บไว้ใช้รอบหน้าก็ได้เช่นกันเพราะบัตร T-money ใช้ได้ตลอดชีพ อ่อๆๆเผื่ออีกนิด หากเงินในบัตร t-money ไม่พอ สามารถใช้เงินสดแทนได้ค่ะ(สำหรับท่านที่ไม่ได้ซื้อตั๋วที่เคาร์เตอร์) และหากเงินในบัตรหมดสามารถเติมได้ที่ตู้ทุกสถานี วิธีเติมง่ายโคตรๆ
เมื่อมาถึงจุดหยุดรถก็เดินหาที่พักกัน มีคนเกาหลีเข้ามาถามว่าเราจะไปไหนกัน เค้าก็ช่วยเราอธิบายอ่ะนะ อันที่จิง ฉันรู้ว่าไปทางไหน เค้าคงมีน้ำใจ เห็นเราลากกระเป๋ากัน นางก็ชี้ทางให้ คัมซามีดะกันโล้ดเลยเรา พร้อมโค้งคำนับให้เค้า พอเดินตรงเกือบใกล้ถึงก็มีโอปป้าสองคนมาถามอีก คือเหมือนนางจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ นางบอก Follow Me พร้อมกับจับกระเป๋าของเราสองคนและลากไปถึงที่พักให้ พอถึงที่พัก นางก็ Bye Byeคือกูตกใจ คือเมิงไปแล้ว กูว่าจะเลี้ยงน้ำซะหน่อย เลยถามนางว่ารีบหรือเปล่า ปั๊ลลี่ ปั๊ลลี่ นางบอก นางมีเรียน ไม่ได้ถ่ายรูปไรไว้ ID LINE ก็อด จบ .....
เราพักกันที่ Patio 59 Hongdaeลงที่ Subway Honglikทางออกประตู 1 ที่นี่สะอาด สภาพห้องยังใหม่อยู่เลย ที่นี่ห้องพักจะอยู่ชั้นสองและสามค่ะ ส่วน จขกท.จะอยู่ชั้นสอง ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะค่ะ แบกค่ะแบกกระเป๋าน่ะ แต่คุณยุนเจ้าของมาแบกขึ้นไปให้ค่ะ รอดตายไป เราจองห้องแบบเตียงสองเตียง มีกาต้มน้ำร้อน ตู้เย็น ทีวี แอร์ ห้องน้ำในตัวค่ะ มีเครื่องซักผ้าแต่จะอยู่ชั้นสามโซนห้องครัว มีอาหารเช้าเป็นขนมปังกับแยม คือสามารถทำอาหารได้นะค่ะ ทุกอย่างบริการตัวเอง ใช้จานต่างๆเสร็จแล้ว กรุณาล้างด้วยค่ะ (ปล. 8 คืน เราได้ทานอาหารเช้ามื้อเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอ เที่ยวทุกคืนกลับห้องก้อห้าโมงเช้า ตื่นอีกทีก็บ่ายสอง บ่ายสาม 5555) Staff ใจดีมากค่ะ พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก ไม่ต้องกลัวในการสื่อสารค่ะ สำหรับที่นี่ การเข้าออก เขาจะให้เราตั้งรหัสผ่านเองค่ะ ส่วนประตูส่วนกลางเขาจะบอกรหัสเราค่ะ เรา OK กับที่นี่นะ สามารถจองผ่าน Booking ได้เลยค่ะ ส่วนราคาน่ะเหรอ 8 คืน คุณคิดว่าราคาเท่าไรกันค่ะ บอกได้เลยค่ะ ถูกโคตรๆๆๆ ราคารวมสองคนคิดเป็นเงินเกาหลี270,000 วอน คิดเป็นเงินไทย 8,100 บาท ตกคนละ 4,050 บาท
หลังจากเก็บข้างของ จ่ายเงิน อะไรเสร็จ ก็มานั่งหน้าเซ่เว่นข้างที่พักกัน คือกูหิว มาม่าก่อนเลย
เอ๊าเริ่มกันเลย
8/1/59 กว่าจะเสร็จก็เวลาประมาณ จะสามทุ่มล่ะ เราก็เดินเที่ยวกันใน Hongdaeเจอร้านข้างทางเป็นจาจังเมียน อร่อยดี คือจะหลบหนาวสักหน่อย จัดกันไปคนละถ้วย ราคาก็ประมาณ 4,000 วอนมีเครื่องเคียงเป็นหัวไซเท้าดองสีเหลืองมั้งค่ะ 555 เราชอบอ่ะ
หลังจากกินจาจังเมียนเสร็จเราก็เดินไปที่ ม.ฮงอิก (Hongik Univ.)มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของกรุงโซล ตึกด้านหน้านี้ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างนึงของที่นี่บริเวณถนนฝั่งตรงข้ามกับ ม.ฮงอิก จะมีเหล่าศิลปินรุ่นเล็กรุ่นใหญ่นำภาพวาด งานศิลป์อาร์ตๆ ของตนออกมาอวดโฉม (จขกท.ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย)
จขกท.จะเล่าแบบว่าไปที่ไหนมาแล้วเป็นยังไงบ้างล่ะกันนะค่ะ มือใหม่หัดเขียนรีวิว คิคิ
คืนนี้เราจะเข้าผับ COCOOL CLUBกัน
เพราะคืนนี้คือคืนวันศุกร์ วัยรุ่น นักศึกษาจะเยอะ ขึ้นจากใต้ดินทางออก9 เดินผ่านวัตสัน พอสุดทาง(ทางแยก2)เลี้ยวขวาเดินไปตามทางเรื่อยๆจนเห็น New Balance ที่อยู่ทางซ้ายมือ เดินข้ามถนนเข้าซอยที่อยู่ตรงข้ามกับNew Balance นั่นแหละ เดินเข้าจะเจอวัตสันอยู่ในซ้ายมือ เดินตรงมาอีกค่ะ และจะเจอกับ Etude เลี้ยวเข้าซอยนั้นเลย มองสูงนะค่ะ ป้าย COCOOL CLUBตัวใหญ๋ใหญ่ คนต่อแถวกันตรึมเลย รอไรล่ะค่ะต่อแถวสิ ยาวโคตรๆๆ ต่างชาติก็ใช้ Passport นะค่ะ ราคาก่อนเที่ยงคืนราคา 15,000 วอน หลังเที่ยงคืนราคา 20,000 วอน ผับนี้แนว Hip hop วัยรุ่นต้องเยอะมากเป็นธรรมดาค่ะ เข้าไปแล้วต้องลงไปชั้นใต้ดินเพื่อที่จะ ฝากเสื้อฝากของ ค่าฝาก 3 พันวอนค่ะ ส่วนเวลาจะเอาเสื้อคืนต้องขึ้นไปชั้นบน ตรงห้องน้ำผญ. เข้ามาแล้วจะได้แลกฟรี 1 drink แค่โซจูก่อนเข้าผับก็มึนแล้ว(เราไปนั่งกินโซจูมา 2 ขวด ก่อนเข้าผับ) ฮ่าๆ
ทีเด็ดที่นี่จะเล่าให้ฟังค้า 55 18+ ที่นี่คือเวลาอปป้าเค้าเต้น เค้าจะเต้นแบบหลุดโลก บางทีกูยืนดู กูขำหนักมาก และที่นี่อปป้าจะจู่โจมแบบชนิดว่าตั้งตัวไม่ทัน จู่โจมยังไงน่ะหรอ เข้าโอบเอวเรา แบบนัวเนียอ่ะ คือตกใจนะ แต่ถ้าเราไม่ชอบก็สะบัดมือนางซะ ถ้าชอบก็เต้นกับนาง สำหรับที่นี่ที่เข้ามาจู่โจมจุดประสงค์หลักๆก็เรื่อง......
และเมื่อเราเต้นๆๆกันผ่านไปจนเวลาเกือบตี 5 เต้นจนปวดเอวแล้ว ก็เดินออกมาจะกลับที่พัก เหนื่อยจุง เดินออกมาอยู่ข้างหน้า CLUB ได้ 2 นาที >จุดปรี๊ดเลยค่ะ มีคนมาโอบเอวจากข้างหลัง คือกูตกใจ นึกในใจใครว่ะ เมื่อตอนนี้เพื่อนกุนั่งอยู๋ข้างหน้ากู ใคร ใคร ?? WHO ?WHO? หันหน้าเกือบจะชกมันล่ะ อิดอกนิกโกลดำๆสูงสูง 2 คน มันก็ถามว่า มาจากไหน จะไปไหนกันต่อ คือประมาณจะชวนไปต่อ กูก็ตอบว่า No NoNo คือกูตอบแบบตะโกนลั่นเลยอ่ะ จนคนมอง มันบอกว่ามันก็มาสองคน เราก็สองคน คือจะชวนไปกับมันอย่างเดียวเลย>
มันยังรุกต่อ ถอดหมวกแล้วบอกว่า Handsome เมิงมั่นหน้ามากว่าหล่อ >เพื่อนมันอีกคนเข้าไปจะจับมือ โอบเอว เพื่อนเราตะโกนด่า มีอปป้าอยู่กลุ่มนึงกำลังจะเข้ามาช่วย แต่เราวิ่งหนีมันทันหือๆ
[CR] รีวิว Backpack in seoul 2016 9 DAY 8 NIGHT
อันยองอาเซโย 2016 ด้วยนะคะ นี่เป็นรีวิวกระทู้แรกของของ จขกท. หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ จขกท.รวบรัดเลยนะค่ะทั้ง 9 วัน คือจะเล่าประสบการณ์มากกว่าค่ะในแต่ละวัน เพราะ จขกท.ได้จัดเพลนเที่ยวไว้ทั้ง 9 วัน แต่ก็ไม่ได้เที่ยวตามนั้นเลยค่ะ ตื่นปุ๊ปคือถามเพื่อนว่าวันนี้ไปไหนดี และเอกสารที่เตรียมมาไม่ได้ใช้อะไรสักอย่าง ใช้แค่แผนที่ของ IN 1 GUIDE อย่างเดียว อาจจะทำการบ้านมาดีหรือไม่ก็ความจำดีมั้งค่ะว่าเดินทางไปยังไง 555 เริ่มกันเลยค่ะ ต้นปีที่ผ่านมา เรากับเพื่อนไปเที่ยวเกาหลีใต้กันมาค่ะ ไปกันสองคนสองสาว ตามสไตล์สาวโสด และแน่นอนต้องมีการเก็บภาพบรรยากาศในโซลและอาหารเกาหลีอันน่าโช้ยมาฝาก รอบนี้เราไปกัน 8 คืน 9 วัน วันที่ 8-16 มกราคม 2559 (เวลาที่เกาหลีใต้เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง)
ค่าใช้จ่ายน่ะเหรอ ตามนี้เลยค่ะ บอกเลยถูกมากย้ำนะค่ะราคานี้ 9 วัน
- ค่าตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ รวมทุกอย่าง) ภูเก็ต-ดอนเมือง 2,300 บาท
- ค่าตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ รวมทุกอย่าง) กรุงเทพ – อินชอน 7,500 บาท
- ค่าที่พัก 4,050 บาท
- ค่ากิน + ของฝาก +ช็อปนิดหน่อย จขกท.แลกเงินไป 12,000 บาท
- ค่าเดินทางทั้งทริปจขกท.ใช้บัตร T-money ล้วนๆเลยค่ะ เติมไว้ 50,000 วอน เงินไทย 1,500 บาท
รวม ราคานี้ต่อคนนะค่ะ 27,350 บาทปล.จขกท.เอาบัตรเครดิตไปด้วย เลยแลกไปน้อยๆกลัวหาย
***อย่าลืมโหลดแอพSubway ของเกาหลี
***บัตร T-Money มีประโยชน์มากค่ะ ไปถึงอินชอนก็ซื้อตาม CU ที่สนามบินพกไว้ เติมเงินก็ให้พนง.เติมให้ไปเลย ใช้ได้ทั้งรถไฟ รถเมล์ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อได้ด้วย
***ส่วน WIFI นี่ เราไม่ได้เช่านะค่ะ พึ่งWIFIในที่พักกับในสถานีรถไฟใต้ดินเอาค่ะ
***ใครสงสัยอะไรเพิ่มเติม หรืออยากรู้อะไร คอมเม้นถามหรือหลังไมค์มาได้เลยคะ
เราจองตั๋วโปรโมชั่นของ Air Asia ที่ออกมาช่วงปลายๆปีที่แล้ว กดออกมาได้ราคา 7,500 ต่อคน เป็นเครื่องบินแบบ 3-3-3 (ราคานี้รวมน้ำหนักกระเป๋าคนละ 20 กิโลทั้งขาไปและกลับ) โดยรวมก็โอเคนะคะในระดับ low cost แอร์บริการโอเคใช้ได้ สุภาพดี นั่งไปสี่ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงค่ะ ขาไปนี่เร็วค่ะ ไปถึงก่อนเวลา ส่วนอาหารกับที่นั่งเราไม่ได้ซื้อ เดินทางวันที่ 8-16 มกราคม 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งอากาศทั้งทริปก็ติดลบ เสื้อผ้าจัดเต็มค่ะ
ออกเดินทางที่ดอนเมืองเที่ยวบิน XJ700 เวลา 02.25 น. เราไปถึงดอนเมือง 23.00 น. เคาร์เตอร์เปิดให้เช็คอินพอดี เช็คอินก่อนเครื่องออกล่วงหน้า 3 ชั่วโมงนะค่ะ เอ้าเริ่ม >>> จิบ้าตาย สแกนกระเป๋า เพื่อนเราดันลืมเอาแบตสำรองคอมพิวเตอร์ออก เอาไงล่ะค่ะ เปิดซิค่ะ พนง.บอก Open >> HE ถามว่าคนเกาหลีป่าว ถามเพื่อนนะไม่ได้ถามเรา เราหน้าตาไม่ให้ เพื่อนเราก็บอกคนไทย อายคนมากบอกเลย มองกันใหญ่ หลังจากที่เปิดกระเป๋าอะไรเสร็จก็เข้าแถวต่อแถวเช็คอิน เอาอีก !!!!!!!!!! No No No!!!!!! น้ำหนักกระเป๋าเกินอีกจ้า คือจองไว้คนละ 20 กก. ขนาดแชร์กันละนะ ยังเกิน เปิดอีกรอบ สแกนประเป๋าใหม่อีกรอบ หลาบค้า !!!!!หลังจากเช็คอินโหลดเป๋าไรเสร็จ พนง.หน้าเคาร์เตอร์ก็ให้ Boarding Pass และ ใบขาออก ถือไว้ให้มั่นพร้อมด้วยพาสปอร์ตค่าาผ่านด่านต่างๆเข้าไปเรื่อยๆ จนไปถึงก่อนเข้าเกต พอขึ้นเครื่องก็จัดหาที่นั่งกัน เครื่องบินลำนี้ที่นั่งจะเป็น 3-3-3 ไม่กว้างและไม่แคบ จขกท.เป็นคนตัวใหญ่นั่งได้สบาย ถือว่าโอเครเลยค่ะ เมื่อเครื่องบินบินใกล้ถึงอินชอนพนักงานต้อนรับก็นำเอกสารใบผ่านศุลกากร - ใบตรวจคนเข้าเมือง (Arrival Card) ที่ต้องให้ ตม.เกาหลีกรอกเอกสารกันโล้ดเลยค่ะ
ถึงสนามบิน Incheon แล้วไปไงต่อ?หลังจากเครื่องแลนดิ้งลงสู่สนามบินอินชอน เราก็เดินออกมาตามทางเรื่อยๆ แต่ว่ามันก็จะมีเป็นทางให้เดินไปเรื่อยๆเลยค่ะ ถ้าไปไม่ถูกยังไงก็เดินตามผู้โดยสารคนอื่นไปนะค่ะ เพราะพอลงจากเครื่องแล้วต้องเดินไปขึ้น shuttle train เข้าไปอาคารผู้โดยสารอีกที
หลังจากมาถึงอาคารผู้โดยสาร ก็ไปผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ตม.เกาหลีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เราเลือกแถวที่ดูผ่านไปเร็วๆ แต่เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรเลย แค่ให้เอานิ้วทาบกับเครื่องแสกนนิ้วมือ แล้วก็มองกล้องเพื่อถ่ายรูป (หากท่านใดที่กลัวว่าไม่ผ่านตม.ก็เตรียมเอกสารไว้ดีดีนะค่ะ หากเค้าถามก็ตอบไปอย่างมั่นใจ หากเราไม่ได้เข้าเมืองเค้าแบบผิดๆก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะค่ะ) จบหลังจากผ่าน ตม. เสร็จแล้วก็มารับกระเป๋า โดยดูจากป้ายที่จะบอกว่าเครื่องที่เราขึ้นนั้นที่รับกระเป๋าอยู่หมายเลขเท่าไหร่หลังจากรับกระเป๋าเสร็จแล้วก็จะเดินผ่านโซนที่ให้ส่งใบผ่านศุลกากร
V
V
V
สัมภาระของเราทั้งสองคน คนละ 2 ใบ + กล้องอีกคนละตัว แบกหน้าแบกหลัง หนักมาก จากสนามบิน Incheon ไป Hongdaeเราจะเดินทางด้วยรถAirport Bus เพราะสัมภาระเยอะและหนักด้วย สะดวกสบาย ไม่ต้องแบกกระเป๋าอันหนักหน่วงขึ้นลงสถานีใต้ดิน ราคารถ Airport Bus ไปยังHongdaeหมายเลข 6002 ราคาคนละ 10000 วอนหรือ 300 บาทไทย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะได้ตั๋วมาแบบนี้ (ใบสีขาว) แล้วก็ตอนขึ้นรถ คีชังนีมก็จะติดหมายเลขกระเป๋าใต้ท้องรถให้ ตอนลงก็เอาให้แก (ใบสีแดงอ่ะ)
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จเราก็ตรงดิ่งเข้าไปยังเซเว่นในสนามบินเพื่อซื้อบัตร t-money บัตรที่เอาไว้ใช้จ่ายทั้งเวลาขึ้นรถไฟใต้ดิน รถบัส เข้าเซเว่น หรือร้านอะไรก็ตามแต่ที่มีสัญลักษณ์ t-money นี้ โดยถ้าใช้บัตร t-money จ่ายค่าโดยสารเวลาขึ้นรถก็จะได้รับส่วนลดอีกด้วย
บัตร t-money ราคาใบละ 2500 วอน เราเติมเงินไป 50,000 วอน ถ้าเหลือยังไงสามารถเอากลับได้ หรือ ถ้าใครจะเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย ระลึก ก็ได้ หรือจะเก็บไว้ใช้รอบหน้าก็ได้เช่นกันเพราะบัตร T-money ใช้ได้ตลอดชีพ อ่อๆๆเผื่ออีกนิด หากเงินในบัตร t-money ไม่พอ สามารถใช้เงินสดแทนได้ค่ะ(สำหรับท่านที่ไม่ได้ซื้อตั๋วที่เคาร์เตอร์) และหากเงินในบัตรหมดสามารถเติมได้ที่ตู้ทุกสถานี วิธีเติมง่ายโคตรๆ
เมื่อมาถึงจุดหยุดรถก็เดินหาที่พักกัน มีคนเกาหลีเข้ามาถามว่าเราจะไปไหนกัน เค้าก็ช่วยเราอธิบายอ่ะนะ อันที่จิง ฉันรู้ว่าไปทางไหน เค้าคงมีน้ำใจ เห็นเราลากกระเป๋ากัน นางก็ชี้ทางให้ คัมซามีดะกันโล้ดเลยเรา พร้อมโค้งคำนับให้เค้า พอเดินตรงเกือบใกล้ถึงก็มีโอปป้าสองคนมาถามอีก คือเหมือนนางจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ นางบอก Follow Me พร้อมกับจับกระเป๋าของเราสองคนและลากไปถึงที่พักให้ พอถึงที่พัก นางก็ Bye Byeคือกูตกใจ คือเมิงไปแล้ว กูว่าจะเลี้ยงน้ำซะหน่อย เลยถามนางว่ารีบหรือเปล่า ปั๊ลลี่ ปั๊ลลี่ นางบอก นางมีเรียน ไม่ได้ถ่ายรูปไรไว้ ID LINE ก็อด จบ .....
เราพักกันที่ Patio 59 Hongdaeลงที่ Subway Honglikทางออกประตู 1 ที่นี่สะอาด สภาพห้องยังใหม่อยู่เลย ที่นี่ห้องพักจะอยู่ชั้นสองและสามค่ะ ส่วน จขกท.จะอยู่ชั้นสอง ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะค่ะ แบกค่ะแบกกระเป๋าน่ะ แต่คุณยุนเจ้าของมาแบกขึ้นไปให้ค่ะ รอดตายไป เราจองห้องแบบเตียงสองเตียง มีกาต้มน้ำร้อน ตู้เย็น ทีวี แอร์ ห้องน้ำในตัวค่ะ มีเครื่องซักผ้าแต่จะอยู่ชั้นสามโซนห้องครัว มีอาหารเช้าเป็นขนมปังกับแยม คือสามารถทำอาหารได้นะค่ะ ทุกอย่างบริการตัวเอง ใช้จานต่างๆเสร็จแล้ว กรุณาล้างด้วยค่ะ (ปล. 8 คืน เราได้ทานอาหารเช้ามื้อเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอ เที่ยวทุกคืนกลับห้องก้อห้าโมงเช้า ตื่นอีกทีก็บ่ายสอง บ่ายสาม 5555) Staff ใจดีมากค่ะ พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก ไม่ต้องกลัวในการสื่อสารค่ะ สำหรับที่นี่ การเข้าออก เขาจะให้เราตั้งรหัสผ่านเองค่ะ ส่วนประตูส่วนกลางเขาจะบอกรหัสเราค่ะ เรา OK กับที่นี่นะ สามารถจองผ่าน Booking ได้เลยค่ะ ส่วนราคาน่ะเหรอ 8 คืน คุณคิดว่าราคาเท่าไรกันค่ะ บอกได้เลยค่ะ ถูกโคตรๆๆๆ ราคารวมสองคนคิดเป็นเงินเกาหลี270,000 วอน คิดเป็นเงินไทย 8,100 บาท ตกคนละ 4,050 บาท
หลังจากเก็บข้างของ จ่ายเงิน อะไรเสร็จ ก็มานั่งหน้าเซ่เว่นข้างที่พักกัน คือกูหิว มาม่าก่อนเลย
เอ๊าเริ่มกันเลย
8/1/59 กว่าจะเสร็จก็เวลาประมาณ จะสามทุ่มล่ะ เราก็เดินเที่ยวกันใน Hongdaeเจอร้านข้างทางเป็นจาจังเมียน อร่อยดี คือจะหลบหนาวสักหน่อย จัดกันไปคนละถ้วย ราคาก็ประมาณ 4,000 วอนมีเครื่องเคียงเป็นหัวไซเท้าดองสีเหลืองมั้งค่ะ 555 เราชอบอ่ะ
หลังจากกินจาจังเมียนเสร็จเราก็เดินไปที่ ม.ฮงอิก (Hongik Univ.)มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของกรุงโซล ตึกด้านหน้านี้ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างนึงของที่นี่บริเวณถนนฝั่งตรงข้ามกับ ม.ฮงอิก จะมีเหล่าศิลปินรุ่นเล็กรุ่นใหญ่นำภาพวาด งานศิลป์อาร์ตๆ ของตนออกมาอวดโฉม (จขกท.ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย)
จขกท.จะเล่าแบบว่าไปที่ไหนมาแล้วเป็นยังไงบ้างล่ะกันนะค่ะ มือใหม่หัดเขียนรีวิว คิคิ
คืนนี้เราจะเข้าผับ COCOOL CLUBกัน
เพราะคืนนี้คือคืนวันศุกร์ วัยรุ่น นักศึกษาจะเยอะ ขึ้นจากใต้ดินทางออก9 เดินผ่านวัตสัน พอสุดทาง(ทางแยก2)เลี้ยวขวาเดินไปตามทางเรื่อยๆจนเห็น New Balance ที่อยู่ทางซ้ายมือ เดินข้ามถนนเข้าซอยที่อยู่ตรงข้ามกับNew Balance นั่นแหละ เดินเข้าจะเจอวัตสันอยู่ในซ้ายมือ เดินตรงมาอีกค่ะ และจะเจอกับ Etude เลี้ยวเข้าซอยนั้นเลย มองสูงนะค่ะ ป้าย COCOOL CLUBตัวใหญ๋ใหญ่ คนต่อแถวกันตรึมเลย รอไรล่ะค่ะต่อแถวสิ ยาวโคตรๆๆ ต่างชาติก็ใช้ Passport นะค่ะ ราคาก่อนเที่ยงคืนราคา 15,000 วอน หลังเที่ยงคืนราคา 20,000 วอน ผับนี้แนว Hip hop วัยรุ่นต้องเยอะมากเป็นธรรมดาค่ะ เข้าไปแล้วต้องลงไปชั้นใต้ดินเพื่อที่จะ ฝากเสื้อฝากของ ค่าฝาก 3 พันวอนค่ะ ส่วนเวลาจะเอาเสื้อคืนต้องขึ้นไปชั้นบน ตรงห้องน้ำผญ. เข้ามาแล้วจะได้แลกฟรี 1 drink แค่โซจูก่อนเข้าผับก็มึนแล้ว(เราไปนั่งกินโซจูมา 2 ขวด ก่อนเข้าผับ) ฮ่าๆ
ทีเด็ดที่นี่จะเล่าให้ฟังค้า 55 18+ ที่นี่คือเวลาอปป้าเค้าเต้น เค้าจะเต้นแบบหลุดโลก บางทีกูยืนดู กูขำหนักมาก และที่นี่อปป้าจะจู่โจมแบบชนิดว่าตั้งตัวไม่ทัน จู่โจมยังไงน่ะหรอ เข้าโอบเอวเรา แบบนัวเนียอ่ะ คือตกใจนะ แต่ถ้าเราไม่ชอบก็สะบัดมือนางซะ ถ้าชอบก็เต้นกับนาง สำหรับที่นี่ที่เข้ามาจู่โจมจุดประสงค์หลักๆก็เรื่อง......
และเมื่อเราเต้นๆๆกันผ่านไปจนเวลาเกือบตี 5 เต้นจนปวดเอวแล้ว ก็เดินออกมาจะกลับที่พัก เหนื่อยจุง เดินออกมาอยู่ข้างหน้า CLUB ได้ 2 นาที >จุดปรี๊ดเลยค่ะ มีคนมาโอบเอวจากข้างหลัง คือกูตกใจ นึกในใจใครว่ะ เมื่อตอนนี้เพื่อนกุนั่งอยู๋ข้างหน้ากู ใคร ใคร ?? WHO ?WHO? หันหน้าเกือบจะชกมันล่ะ อิดอกนิกโกลดำๆสูงสูง 2 คน มันก็ถามว่า มาจากไหน จะไปไหนกันต่อ คือประมาณจะชวนไปต่อ กูก็ตอบว่า No NoNo คือกูตอบแบบตะโกนลั่นเลยอ่ะ จนคนมอง มันบอกว่ามันก็มาสองคน เราก็สองคน คือจะชวนไปกับมันอย่างเดียวเลย>
มันยังรุกต่อ ถอดหมวกแล้วบอกว่า Handsome เมิงมั่นหน้ามากว่าหล่อ >เพื่อนมันอีกคนเข้าไปจะจับมือ โอบเอว เพื่อนเราตะโกนด่า มีอปป้าอยู่กลุ่มนึงกำลังจะเข้ามาช่วย แต่เราวิ่งหนีมันทันหือๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น