สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เราอยากจะขอเล่าถึงชีวิตการเป็นแม่ค้าของเรา แม่ค้าที่ยิ่งทำยิ่งสนุกแต่ไม่ยักกะรวยสักที 555
มีพี่ที่รู้จักบอกว่าก็เอ็งเล่นขายดะไปทั่ว จับจุดไม่ถูกเลย มั่วไปหมด ตอนนี้ก็ยังทำงานประจำ ขายมั่วๆเสริมค่ะ
เราอายุ 33 ย่างไป 34 เยอะแล้วล่ะ เงินเดือนก็พอใช้ได้แต่ไม่ได้ใช้เพราะเป็นคนวางแผนการเงินไม่เป็นเลย
ทำให้มีหนี้ เลยเป็นเหตุให้ต้องดิ้นรนหาอาชีพเสริม เริ่มเลยดีกว่า
เริ่มเข้าวงการ น่าจะอายุประมาณ 5 ขวบ ยายปลูกผักเอง ทำผักเป็นกำให้ไปขาย สมัยนั้นก็เริ่มที่ 50 สตางค์/กำ
จริงๆช่วงนี้เราเป็นตัวประกอบ คนขายคือพี่สาว เราซ้อนจักรยานช่วยถือตะกร้ากับดราม่าเอาส่วนแบ่ง 555
ระยะ 2 ช่วงประถม ที่บ้านเป็นชาวนา จะมีบัวขึ้นในสระน้ำ พ่อก็จะเอาเม็ดบัวอ่อนๆมาทุกวัน แม่มัดให้ไปขาย
จำได้ว่าเริ่มขาย 5 ฝัก 1 บาท ขายไปเรื่อยๆช่วงที่มีเม็ดบัวจนถึง ม.6 จบที่กำละ 10 บาท(ขายบนรถสองแถว
หมดก่อนถึงโรงเรียนทุกวัน) สมัยนั้นค่ารถ 1 บาท(แก่ 5555)
ระยะที่ 3 มัธยมต้น น้าเห็นว่าชอบขายก็เลยไปรับกะหรี่ปั๊บมาให้วันละ 50 ตัว ขายตัวละ 1 บาท ส่วนมากจะขายหมด
มีโปรด้วยจ้าาาา ซื้อ 5 แถม 1 บางวันรับมา 100 ตัว ขายเพลินเลย ขายตั้งแต่ก้าวขาขึ้นรถ 2 แถว จนถึงโรงเรียน
(โรงเรียนห่างจากบ้าน 10 กิโลเมตร) ตัวนี้ขายถึง ม.4 ครูที่ทำขนมส่งเป็นมะเร็งเลยต้องหยุดทำ เสียดายมาก
จบ ม.3 รวมเงินที่ได้ไถ่ทองให้แม่ 5000 บาท (ภูมิใจมาก) ช่วงนั้นพี่ 2 คนเรียนหนังสือแม่เลยต้องแปลงทองเป็นทุน
ช่วง ม.ปลายก็ขายอะไรไม่ค่อยมีหลักเท่าไหร่ ครูไม่ให้ขาย ต้องแอบ 555
แล้วก็เว้นช่วงมาเรื่อยๆ จบ ม.ปลาย เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ช่วงนั้นจะเป็นทำกับข้าวเลี้ยงเพื่อนมากกว่า
เฮฮาประสาเด็กมหาวิทยาลัย ช่วยเพื่อนทำโมเดล(เราเรียนบริหารแต่เพื่อนสนิทเรียนสถาปัตย์)
จนเรียนจบก็ยังไม่ขายอะไร ทำงานมาเรื่อยๆ ถึงช่วงหนึ่งขายหวยในโรงงาน ก็ได้งวด 5 หมื่นขึ้น
แต่ๆๆๆๆ มาซวยตรงที่ ไม่มีการวางแผนใดๆทั้งสิ้น อยากได้ไรซื้อ อยากกินอะไรกินเลย ไม่มีเงินเก็บ
จบที่คนส่งหวยเบี้ยวเงิน กดบัตรมาหมุน ช่วงนั้นชีวิตตกเหวมาก มีหนี้ประมาณ 5-6 แสนแต่ยังไม่สำนึก
ก็จมอยู่กับวงจรหนี้ หวย เงินก็ หนี้บัตรมาเรื่อยๆๆๆๆๆๆ ตามจิกหนี้ จมอยู่ตรงนั้น 3 ปีได้
ตัดใจย้ายงานใหม่(ไม่ได้หนีหนี้นะ ยังใช้หนี้ปกติแต่รู้สึกต้องประหยัดมากๆๆๆๆๆๆ)
พอย้ายงานมาใหม่ชีวิตแม่ค้าได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง 5555 ที่ทำงานที่ 2 เป็นบริษัทขนส่งและจะขนส่งแบบส่งออก
เราก็จะมีโอกาสได้ซื้อของราคาโรงงาน จนเรามาเจอสินค้าชนิดหนึ่งที่คนนิยมมาก รับของขนาด 100 g. มา 25 บาท
ขายส่ง 50 ขายปลีก 75-100 ขายดีมาก ตัวนี้ช่วยปลดหนี้บัตรใบแรก แต่ชีวิตก็ไม่ได้มีขึ้นอย่างเดียว พอลงก็ตั้งตัวบ่ทัน
เด็กที่ดูแลของตกเกรดที่โรงงานนี้เชิดเงินจ้า(เฉพาะเราซื้อครั้งละ 5000-10000 บาท) ทางโรงงานก็เลยเลิกขายให้คนนอก

ไม่เป็นไร ขายอย่างอื่นก็ด่ะ (ช่วงนี้เริ่มเรียน ป.โท ลู่ทางก็เริ่มมา) ก็จับแพะชนแกะไปเรื่อย กำไรหลักสิบหลักร้อยเราเอาหมด
มาต่อนะคะ
ช่วงที่เริ่มเรียนโท ก่อนหน้านั้นเราก็มีลงทุนในหุ้นบ้าง เล่นแบบว่าตามใจฉันมาก 555 นึกอยากซื้อก็ซื้อ อยากขายก็ขาย
ไม่ดูลมดูทิศอะไรทั้งนั้น แต่ส่วนมากจะกำไร ตอนนั้นก็ไม่มีหนี้เงินกู้แล้ว หนี้บัตรก็ปิดหมด เข็ดมากมาย ก็ถือว่าเป็นช่วงชีวิต
ที่รู้สึกคุ้มค่ามาก ทำงานเป็นกะ ออกกะมาเรียน(เรียนอาทิตย์วันเดียว) ขายของจะเพลาๆลง ขาดหายจากชีวิตไปพักหนึ่งเลย
แต่ชีวิตมักจะมีจุดหักเหอีกแล้ว ถือว่าเป็นช่วงที่แย่มากที่สุดในชีวิต ที่บ้านมีปัญหา เริ่มเป็นหนี้ ต้องสอบจบ ทุกอย่างรุ่มเร้ามาก
จนเรารู้สึกเบื่อมาก มันสุดๆแล้ว ตัดสินใจลาออกจากงานโดยที่ไม่มีงานใหม่รองรับ กลับไปอยู่บ้านก็ยังเทรดหุ้นบ้าง พอได้ตังค์กินขนม
มาหยุดเด็ดขาดตอนที่เทรดพลาด หุ้นในพอร์ตขาดทุนมากกว่า 50% (ตอนนี้ขาดทุน 98% 55555 แต่ก็เฉยๆไม่ใช้เงินเยอะแยะอะไร


ตอนนั้นตกงานอยู่ 3 เดือน จนพี่สาวทนไม่ไหวฝากงานให้ ทำงานไปสักพักเริ่มกลับมาขายหวยอีกละ(แย่จริงๆ ไม่เคยจะจำ)
แล้วก็ไปรู้จักน้องสาวของคนที่เราจีบอยู่ ชวนขายครีม ก็ครีมกิโลนั่นแหละ ทำได้แป็บเดียวเลิกสิคะ ไม่ใช่ทาง ไม่ชอบหลอกลวง
แต่ก็ทำให้ได้เจอสินค้าหลายตัว ก็ไปถามเพื่อนๆว่าใครอยากได้อะไรบอกนะ ที่ฮิต ขายถูกๆราคากันเอง บางทีไปเจออะไรใหม่ๆ
จับมาลองขาย ก็ขายได้แฮะ ตัวนี้ก็ยังคงขายมาจนปัจจุบัน แต่ก็ขายตามอารมณ์ พอได้ค่ารถไปเอาของ
แม่ค้าขนมจีน เรียกว่าอาชีพคงไม่ได้เพราะบังเอิญได้ขาย พี่ข้างบ้านได้บูธของเขต เค้าหาคนขายอาหารในงานโขน เลยจองพี่เขา 1 วัน
ตรงกับวันอาทิตย์ เตรียมของเหนื่อยมากแต่ดีที่เราชอบทำกับข้าว ชอบเดินตลาดสด เลยมีความสุขมากที่ได้ทำ ก่อนไปก็ลุ้นมากจะขายได้ป่าวน๊า
ตื่นมาเตรียมของตั้งแต่ตี 4 เริ่มขาย 8 โมงนิดๆ จำบรรยากาศได้ว่า ตอนไปถึง จัดโต๊ะ คนไม่มีเล้ยยยยย ก็แอบคิดกลัวว่าของเหลือบานแน่ๆ
วันนั้นจบที่ ขายเสร็จตั้งแต่ 10 โมงนิดๆ ขายดีมากกกกก รู้สึกได้กำไรมา 2,000 บาท ดีใจเวอร์ๆ ของเหลือครึ่งหนึ่งเพราะคำนวณผิด
หลังจากแถมลูกค้าคนท้ายๆ ก็ยังมีอีกเยอะก็เอามาแจกคนแถวบ้าน แจกเพื่อน หลังจากนั้นก็ยังไม่มีโอกาสได้ขายแนวนี้อีก
มีทำส่งเพื่อนบ้างในบางเวลา
งานขายต่อมา คือ ขายประกัน ตัวนี้สอบให้พี่ที่สนิทกัน ขายเพื่อนสนิทคนเดียว รู้สึกไม่ใช่ทาง ไม่ชอบอธิบาย ไม่ชอบดูแลใครมาก
แต่ก็ยังขายได้เรื่อยๆ ส่วนมากเพื่อนจะมาถามซื้อ
ขายเล็กๆน้อยๆก็มี ทอดถั่วขาย ทอดเม็ดมะม่วงขาย ซึ่งไม่ค่อยคุ้มค่าแรง จบลงในเวลาอันรวดเร็ว
ต่อมาก็ขายเพชร ตัวนี้ช่วยเป็นตัวกลาง ได้ลูกค้าคนเดียวคือเพื่อนสนิท นางทำแหวานแต่งงาน ตัวนี้เพื่อนเลี้ยงเป็ดปักกิ่งตอนแทน
หลายๆงานเราก็ยินดีทำฟรี แต่เพื่อนมันรู้ว่าเห็นแก่กิน จัดสมนาคุณตลอดจนจะกลิ้งได้อยู่แล้ว 555
ตัวที่ทำแล้วรู้สึกว่าเห็นเงินที่สุดคือ คุ๊กกี้ปีใหม่
บันทึก แม่ค้า
มีพี่ที่รู้จักบอกว่าก็เอ็งเล่นขายดะไปทั่ว จับจุดไม่ถูกเลย มั่วไปหมด ตอนนี้ก็ยังทำงานประจำ ขายมั่วๆเสริมค่ะ
เราอายุ 33 ย่างไป 34 เยอะแล้วล่ะ เงินเดือนก็พอใช้ได้แต่ไม่ได้ใช้เพราะเป็นคนวางแผนการเงินไม่เป็นเลย
ทำให้มีหนี้ เลยเป็นเหตุให้ต้องดิ้นรนหาอาชีพเสริม เริ่มเลยดีกว่า
เริ่มเข้าวงการ น่าจะอายุประมาณ 5 ขวบ ยายปลูกผักเอง ทำผักเป็นกำให้ไปขาย สมัยนั้นก็เริ่มที่ 50 สตางค์/กำ
จริงๆช่วงนี้เราเป็นตัวประกอบ คนขายคือพี่สาว เราซ้อนจักรยานช่วยถือตะกร้ากับดราม่าเอาส่วนแบ่ง 555
ระยะ 2 ช่วงประถม ที่บ้านเป็นชาวนา จะมีบัวขึ้นในสระน้ำ พ่อก็จะเอาเม็ดบัวอ่อนๆมาทุกวัน แม่มัดให้ไปขาย
จำได้ว่าเริ่มขาย 5 ฝัก 1 บาท ขายไปเรื่อยๆช่วงที่มีเม็ดบัวจนถึง ม.6 จบที่กำละ 10 บาท(ขายบนรถสองแถว
หมดก่อนถึงโรงเรียนทุกวัน) สมัยนั้นค่ารถ 1 บาท(แก่ 5555)
ระยะที่ 3 มัธยมต้น น้าเห็นว่าชอบขายก็เลยไปรับกะหรี่ปั๊บมาให้วันละ 50 ตัว ขายตัวละ 1 บาท ส่วนมากจะขายหมด
มีโปรด้วยจ้าาาา ซื้อ 5 แถม 1 บางวันรับมา 100 ตัว ขายเพลินเลย ขายตั้งแต่ก้าวขาขึ้นรถ 2 แถว จนถึงโรงเรียน
(โรงเรียนห่างจากบ้าน 10 กิโลเมตร) ตัวนี้ขายถึง ม.4 ครูที่ทำขนมส่งเป็นมะเร็งเลยต้องหยุดทำ เสียดายมาก
จบ ม.3 รวมเงินที่ได้ไถ่ทองให้แม่ 5000 บาท (ภูมิใจมาก) ช่วงนั้นพี่ 2 คนเรียนหนังสือแม่เลยต้องแปลงทองเป็นทุน
ช่วง ม.ปลายก็ขายอะไรไม่ค่อยมีหลักเท่าไหร่ ครูไม่ให้ขาย ต้องแอบ 555
แล้วก็เว้นช่วงมาเรื่อยๆ จบ ม.ปลาย เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ช่วงนั้นจะเป็นทำกับข้าวเลี้ยงเพื่อนมากกว่า
เฮฮาประสาเด็กมหาวิทยาลัย ช่วยเพื่อนทำโมเดล(เราเรียนบริหารแต่เพื่อนสนิทเรียนสถาปัตย์)
จนเรียนจบก็ยังไม่ขายอะไร ทำงานมาเรื่อยๆ ถึงช่วงหนึ่งขายหวยในโรงงาน ก็ได้งวด 5 หมื่นขึ้น
แต่ๆๆๆๆ มาซวยตรงที่ ไม่มีการวางแผนใดๆทั้งสิ้น อยากได้ไรซื้อ อยากกินอะไรกินเลย ไม่มีเงินเก็บ
จบที่คนส่งหวยเบี้ยวเงิน กดบัตรมาหมุน ช่วงนั้นชีวิตตกเหวมาก มีหนี้ประมาณ 5-6 แสนแต่ยังไม่สำนึก
ก็จมอยู่กับวงจรหนี้ หวย เงินก็ หนี้บัตรมาเรื่อยๆๆๆๆๆๆ ตามจิกหนี้ จมอยู่ตรงนั้น 3 ปีได้
ตัดใจย้ายงานใหม่(ไม่ได้หนีหนี้นะ ยังใช้หนี้ปกติแต่รู้สึกต้องประหยัดมากๆๆๆๆๆๆ)
พอย้ายงานมาใหม่ชีวิตแม่ค้าได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง 5555 ที่ทำงานที่ 2 เป็นบริษัทขนส่งและจะขนส่งแบบส่งออก
เราก็จะมีโอกาสได้ซื้อของราคาโรงงาน จนเรามาเจอสินค้าชนิดหนึ่งที่คนนิยมมาก รับของขนาด 100 g. มา 25 บาท
ขายส่ง 50 ขายปลีก 75-100 ขายดีมาก ตัวนี้ช่วยปลดหนี้บัตรใบแรก แต่ชีวิตก็ไม่ได้มีขึ้นอย่างเดียว พอลงก็ตั้งตัวบ่ทัน
เด็กที่ดูแลของตกเกรดที่โรงงานนี้เชิดเงินจ้า(เฉพาะเราซื้อครั้งละ 5000-10000 บาท) ทางโรงงานก็เลยเลิกขายให้คนนอก
ไม่เป็นไร ขายอย่างอื่นก็ด่ะ (ช่วงนี้เริ่มเรียน ป.โท ลู่ทางก็เริ่มมา) ก็จับแพะชนแกะไปเรื่อย กำไรหลักสิบหลักร้อยเราเอาหมด
มาต่อนะคะ
ช่วงที่เริ่มเรียนโท ก่อนหน้านั้นเราก็มีลงทุนในหุ้นบ้าง เล่นแบบว่าตามใจฉันมาก 555 นึกอยากซื้อก็ซื้อ อยากขายก็ขาย
ไม่ดูลมดูทิศอะไรทั้งนั้น แต่ส่วนมากจะกำไร ตอนนั้นก็ไม่มีหนี้เงินกู้แล้ว หนี้บัตรก็ปิดหมด เข็ดมากมาย ก็ถือว่าเป็นช่วงชีวิต
ที่รู้สึกคุ้มค่ามาก ทำงานเป็นกะ ออกกะมาเรียน(เรียนอาทิตย์วันเดียว) ขายของจะเพลาๆลง ขาดหายจากชีวิตไปพักหนึ่งเลย
แต่ชีวิตมักจะมีจุดหักเหอีกแล้ว ถือว่าเป็นช่วงที่แย่มากที่สุดในชีวิต ที่บ้านมีปัญหา เริ่มเป็นหนี้ ต้องสอบจบ ทุกอย่างรุ่มเร้ามาก
จนเรารู้สึกเบื่อมาก มันสุดๆแล้ว ตัดสินใจลาออกจากงานโดยที่ไม่มีงานใหม่รองรับ กลับไปอยู่บ้านก็ยังเทรดหุ้นบ้าง พอได้ตังค์กินขนม
มาหยุดเด็ดขาดตอนที่เทรดพลาด หุ้นในพอร์ตขาดทุนมากกว่า 50% (ตอนนี้ขาดทุน 98% 55555 แต่ก็เฉยๆไม่ใช้เงินเยอะแยะอะไร
ตอนนั้นตกงานอยู่ 3 เดือน จนพี่สาวทนไม่ไหวฝากงานให้ ทำงานไปสักพักเริ่มกลับมาขายหวยอีกละ(แย่จริงๆ ไม่เคยจะจำ)
แล้วก็ไปรู้จักน้องสาวของคนที่เราจีบอยู่ ชวนขายครีม ก็ครีมกิโลนั่นแหละ ทำได้แป็บเดียวเลิกสิคะ ไม่ใช่ทาง ไม่ชอบหลอกลวง
แต่ก็ทำให้ได้เจอสินค้าหลายตัว ก็ไปถามเพื่อนๆว่าใครอยากได้อะไรบอกนะ ที่ฮิต ขายถูกๆราคากันเอง บางทีไปเจออะไรใหม่ๆ
จับมาลองขาย ก็ขายได้แฮะ ตัวนี้ก็ยังคงขายมาจนปัจจุบัน แต่ก็ขายตามอารมณ์ พอได้ค่ารถไปเอาของ
แม่ค้าขนมจีน เรียกว่าอาชีพคงไม่ได้เพราะบังเอิญได้ขาย พี่ข้างบ้านได้บูธของเขต เค้าหาคนขายอาหารในงานโขน เลยจองพี่เขา 1 วัน
ตรงกับวันอาทิตย์ เตรียมของเหนื่อยมากแต่ดีที่เราชอบทำกับข้าว ชอบเดินตลาดสด เลยมีความสุขมากที่ได้ทำ ก่อนไปก็ลุ้นมากจะขายได้ป่าวน๊า
ตื่นมาเตรียมของตั้งแต่ตี 4 เริ่มขาย 8 โมงนิดๆ จำบรรยากาศได้ว่า ตอนไปถึง จัดโต๊ะ คนไม่มีเล้ยยยยย ก็แอบคิดกลัวว่าของเหลือบานแน่ๆ
วันนั้นจบที่ ขายเสร็จตั้งแต่ 10 โมงนิดๆ ขายดีมากกกกก รู้สึกได้กำไรมา 2,000 บาท ดีใจเวอร์ๆ ของเหลือครึ่งหนึ่งเพราะคำนวณผิด
หลังจากแถมลูกค้าคนท้ายๆ ก็ยังมีอีกเยอะก็เอามาแจกคนแถวบ้าน แจกเพื่อน หลังจากนั้นก็ยังไม่มีโอกาสได้ขายแนวนี้อีก
มีทำส่งเพื่อนบ้างในบางเวลา
งานขายต่อมา คือ ขายประกัน ตัวนี้สอบให้พี่ที่สนิทกัน ขายเพื่อนสนิทคนเดียว รู้สึกไม่ใช่ทาง ไม่ชอบอธิบาย ไม่ชอบดูแลใครมาก
แต่ก็ยังขายได้เรื่อยๆ ส่วนมากเพื่อนจะมาถามซื้อ
ขายเล็กๆน้อยๆก็มี ทอดถั่วขาย ทอดเม็ดมะม่วงขาย ซึ่งไม่ค่อยคุ้มค่าแรง จบลงในเวลาอันรวดเร็ว
ต่อมาก็ขายเพชร ตัวนี้ช่วยเป็นตัวกลาง ได้ลูกค้าคนเดียวคือเพื่อนสนิท นางทำแหวานแต่งงาน ตัวนี้เพื่อนเลี้ยงเป็ดปักกิ่งตอนแทน
หลายๆงานเราก็ยินดีทำฟรี แต่เพื่อนมันรู้ว่าเห็นแก่กิน จัดสมนาคุณตลอดจนจะกลิ้งได้อยู่แล้ว 555
ตัวที่ทำแล้วรู้สึกว่าเห็นเงินที่สุดคือ คุ๊กกี้ปีใหม่