เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่1 (คืนวันที่ 2/12/2015)
http://pantip.com/topic/34731843
เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่2 (วันที่ 2/12/2015)
http://pantip.com/topic/34732064
เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่ 3 (วันที่ 3/12/2015)
http://pantip.com/topic/34732423
เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่ 4 (วันที่ 4/12/2015)
http://pantip.com/topic/34739683
เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่ 5 (5/12/2015)
http://pantip.com/topic/34766836
อีกครั้งที่เราตั้งใจจะกลับไปฮ่องกงเพื่อเก็บตกในสถานที่ ที่เรายังไม่ได้ไปกันอีกรอบ แต่คราวนี้เนื่องจากเราพอรู้วิธีการเดินทางในฮ่องกงแล้ว เราจึงเพิ่มมาเก๊าเข้าไปเป็นของแถมอีกหนึ่งวัน
เนื่องจากครั้งที่แล้วเราเดินทางกัน 3วัน 2คืน(ตามมาตรฐานของทัวร์ฮ่องกง) แต่เราลืมนึกไปว่าเราต้องเดินทางกันเอง แม้ฮ่องกงจะมีการคมนาคมสะดวกสบายแค่ไหนก็ตาม แต่การเที่ยวเองนั้นจำเป็นต้องเผื่อเวลาไว้หลายๆอย่าง(อีกอย่างเราเป็นคนขี้เกียจ ชอบเที่ยว แต่ไม่ชอบเหนื่อย เอ๊ะ!ยังไง) ทริปนี้เราจึงไปกัน 4วัน 3คืน และยอมจ่ายค่าโรงแรมแพงอีกนิดนึง เพื่อให้ได้โลเคชั่นในการเดินทางที่สะดวกที่สุด
ตั๋วเครื่องบินในครั้งนี้ เราจองล่วงหน้ากันตั้ง 5เดือน เนื่องจากคราวที่แล้วเราจองล่วงหน้าแค่ 2เดือน(แม้ใครๆจะบอกว่าเราได้ตั๋วถูกแล้ว) แต่เราก็ยังอยากได้ตั๋วที่ถูกลงกว่าปีที่แล้วอีก เมื่อเห็นราคาของฮ่องกงแอร์ไลน์ เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่เคยเดินไปด้วยเมื่อครั้งก่อน ราคาถูกกว่าปีที่แล้วประมาณพันนิดๆ นิ้วมือเราจึงทำงานในการจองตั๋วอย่างรวดเร็ว และแล้วเราก็ได้ตั๋วเดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ)-ฮ่องกงมาในราคาคนละ 5,100 บาท (รวมทุกอย่างแล้ว) (ยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ)
ในเมื่อตั๋วพร้อมแล้วกำหนดการเดินทางจึงมีโอกาสมากกว่า 99% (บังคับคนข้างกายได้แล้ว เพราะมีตั๋วแล้วไง ไม่ไปได้ไงเสียดายค่าตั๋วนะ อิอิ) การจองโรงแรมจึงเริ่มขึ้น...จริงๆแล้วในฮ่องกงมีโรงแรมในเลือกจองมากมายทั้งแบบโฮสเทลและโรงแรมมีระดับ แต่กุ้งฝอยอย่างเราคงได้แค่โรงแรมระดับกลางๆ หลักในการเลือกของเราคือ ไม่เอาโฮสเทล(คุณแฟนขอมา) 3ดาวขึ้นไป โลเคชั่นใกล้รถไฟฟ้า ความจริงก็มีหลายที่นะ แต่เราเลือกที่ Butterfly on Victoria ซึ่งมีรีวิว(ที่คนอื่นทำ)ไว้มากมาย (เราไม่ได้ถ่ายรูปโรงแรมมาเลย...เก๋าขอโต้ด) โรงแรมนี้ราคาค่อนข้างสูงพอใช้ได้ ถ้าเทียบกับโรงแรม 3 ดาวอื่นๆ แต่จุดพีคที่ทำให้เราจองโรงแรมนี้ก็คือโลเคชั่น แม้โรงแรมนี้จะไม่อยู่ในโซนของสถานที่ท่องเที่ยวมากนัก แต่ก็ถือว่าไม่ไกลเลย เพราะการคมนาคมที่ฮ่องกงสะดวกมากจริงๆ โรงแรมนี้อยู่ใก้ลทั้งสถานีรถไฟฟ้า Tin Hau(ทินเหา) ป้ายรถเมล์(สำหรับไปรีพัลเบย์) ป้ายรถราง(สำหรับนั่งชมบรรยากาศ) และป้ายรถเมล์สำหรับแบกกระเป๋าใบเขื่องขึ้นรถเมล์สาย A11 ไปสนามบินได้ด้วยนะ แม้ร้านอาหารแถวโรงแรมจะเป็นร้านอาหารไทย(ราคาแพง)ซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีร้านอาหารทานเล่นให้เลือกพอสมควร และแมคโดนัลล์ที่เปิด 24ชั่วโมง เดินข้ามถนนไปก็จะเจอคาเฟ่ เดอ โครอลร้านอาหารท้องถิ่นที่มีสาขาอยู่ทั่วไป(คล้ายยำแซ่บบ้านเรา)
เอาละ! พูดเรื่องเรื่องเตรียมตัวมาซะเยอะแล้ว เราพร้อมไปขึ้นเครื่องกันเลยดีกว่า Let's Go
เรามารอกันตั้งแต่ 3ทุ่มครึ่ง แต่เครื่องดีเลย์ถึงตี3 นั่งรอไปสิ แต่ไม่กลัวเพราะว่า....
เนื่องจากได้สิทธิวันเกิดให้อัพเกรดไปนั่งเล้าจ์พรีเมี่ยมของคิงเพาเวอร์และรับเครื่องดื่มฟรี 1แก้ว แต่อาหารอย่างอื่นในเล้าจ์ก็มีให้กินฟรีนะ อาจจะไม่เยอะมากแต่ก็คุ้มค่าอยู่ ของฟรีจะเอาอะไรเนอะ ของก็ไม่เคยซื้อเขา...อุ้ย! หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าทำไงถึงจะได้เข้าเล้าจ์พวกนี้ ความจริงเล้าจ์ในสนามบินมีหลายประเภทนะ แต่เอาเท่าที่เรารู้ก็คือจะมีเล้าจ์สำหรับคนที่ซื้อตั๋วเฟิร์สคลาส,บิสซิเนสคลาสพวกนี้ ก็จะมีเล้าจ์ของสายการบินให้บริการ กับเล้าจ์ที่ใช้สิทธิจากบัตรเครดิตไฮโซโก้เก๋ต่างๆ ซึ่งกุ้งฝอยไม่มีบัตรพวกนี้ แล้วกุ้งฝอยทำยังไงถึงได้เข้าเล้าจ์ ก็ไปสมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์จ๊ะ ที่รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ตามสาขาของเขาหรือที่สนามบินก็ได้(มั้ง?) แต่เราไปสมัครที่ศรีวารีตอนสมัครไม่เสียค่าอะไรเลยนะได้ฟรีๆเลย แต่เขาจะส่งบัตรจริงมาให้ทีหลัง แล้วเราก็เดินสวยๆเข้าเล้าจ์คิงเพาวเวอร์ไปเลยจ๊ะ ข้างในก็จะมีที่นั่งพัก ปลั๊กไฟไว้ชาร์จแบต เครื่องดื่มจำพวกน้ำอัดลม เบียร์ วอดก้าก็มีนะ อาหารก็เป็นพวกเบาๆ แซนวิส เบเกอรี่ต่างๆ และก็มีไลน์สลัดนิดหน่อย เอาเป็นคุ้มค่าคุ้มราคา กินฟรีอยู่ฟรีอย่าคิดมากเนอะ

หลังจากนั่งรอ นอนรอ เกือบหลับรอแล้ว แต่กลัวตกเครื่องเลยตื่นรอละกัน ก็ได้ขึ้นเครื่องซะที สงสารคุณแอร์จัง มาถึงแปปเดียวก็ต้องบริการผู้โดยสารต่อ ครั้งนี้เราใช้บริการสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์เช่นเดิม เนื่องจากนางเป็นสายการบินฟูล...อะไรสักอย่างนี้แหละ คือมีน้ำหนักกระเป๋าให้คนละ 20 กิโลกรัมและมีอาหารฟรีบนเครื่องน่ะ เออ...นั่นแหละ คือไม่ใช่สายการบินโลว์คอตว่างั้น แม้นางอาจจะยังไม่มีชื่อเสียงในเมืองไทยสักเท่าไหร่ แต่นางก็น่ารักด้วยราคาและกำลังเพิ่มเส้นทางการบินอีกหลายสาย แต่ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะว่าฮ่องกงแอร์ไลน์ เพราะฉะนั้นหลายๆสายก็ต้องต่อเครื่องที่ฮ่องกงนะแจ๊ะ

ถึงแม้จะราคาถูกก็อย่าให้ใครดูถูก(เกี่ยวกันมะ?) ฮ่องกงแอร์ไลน์นอกจากราคาน่ารักน่าจับต้องแล้ว นางยังมีเครื่องเล่นเหมือนนครชัยแอร์ด้วย(แหม...เปรียบเทียบซะ) จอสารพัดนึก คือนึกอะไรไม่ออกก็กดจอเล่นไว้ก่อนแล้วกัน แต่คราวนี้เราเตรียมตัวมาอย่างดี เรามีแท็บเล็ตที่โหลด The Face Thailand มาแล้วเรียบร้อย อิอิ แต่ขากลับเราก็ดูมินเนี่ยนจากจอนี้นะ ก็เพลินดี จอนี้มันก็มีเพลง มีภาพยนต์ มีรายการTV(ส่วนใหญ่เป็นการท่องเที่ยวฮ่องกง) มีข้อมูลการบินต่างๆ อุณภูมิภายนอก แรงลม ระยะทาง เส้นทาง บลาๆๆ แต่เนื่องจากทั้งไฟล์ไปและกลับเป็นไฟล์ดึก เราจึงได้อาหารแค่ขนมปังกลิ่นประหลาดกับซอฟต์ดริ้งแค่นั้นเอง(รู้สึกไม่คุ้มก็ตรงนี้แหละ แต่ตีสามจะให้เขาเสิร์ฟข้าวหน้าไก่หรือยังไง?ฮ่วย) อ้อ! อย่าลืมขอหมอนจากคุณแอร์ด้วยนะ ส่วนผ้าห่มมีให้ที่ที่นั่ง(อย่านั่งทับจนลืมล่ะ)
[CR] เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่1 (คืนวันที่ 2/12/2015)
http://pantip.com/topic/34731843
เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่2 (วันที่ 2/12/2015)
http://pantip.com/topic/34732064
เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่ 3 (วันที่ 3/12/2015)
http://pantip.com/topic/34732423
เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่ 4 (วันที่ 4/12/2015)
http://pantip.com/topic/34739683
เก็บตกที่ฮ่องกงและหนึ่งวันในมาเก๊า ตอนที่ 5 (5/12/2015)
http://pantip.com/topic/34766836
อีกครั้งที่เราตั้งใจจะกลับไปฮ่องกงเพื่อเก็บตกในสถานที่ ที่เรายังไม่ได้ไปกันอีกรอบ แต่คราวนี้เนื่องจากเราพอรู้วิธีการเดินทางในฮ่องกงแล้ว เราจึงเพิ่มมาเก๊าเข้าไปเป็นของแถมอีกหนึ่งวัน
เนื่องจากครั้งที่แล้วเราเดินทางกัน 3วัน 2คืน(ตามมาตรฐานของทัวร์ฮ่องกง) แต่เราลืมนึกไปว่าเราต้องเดินทางกันเอง แม้ฮ่องกงจะมีการคมนาคมสะดวกสบายแค่ไหนก็ตาม แต่การเที่ยวเองนั้นจำเป็นต้องเผื่อเวลาไว้หลายๆอย่าง(อีกอย่างเราเป็นคนขี้เกียจ ชอบเที่ยว แต่ไม่ชอบเหนื่อย เอ๊ะ!ยังไง) ทริปนี้เราจึงไปกัน 4วัน 3คืน และยอมจ่ายค่าโรงแรมแพงอีกนิดนึง เพื่อให้ได้โลเคชั่นในการเดินทางที่สะดวกที่สุด
ตั๋วเครื่องบินในครั้งนี้ เราจองล่วงหน้ากันตั้ง 5เดือน เนื่องจากคราวที่แล้วเราจองล่วงหน้าแค่ 2เดือน(แม้ใครๆจะบอกว่าเราได้ตั๋วถูกแล้ว) แต่เราก็ยังอยากได้ตั๋วที่ถูกลงกว่าปีที่แล้วอีก เมื่อเห็นราคาของฮ่องกงแอร์ไลน์ เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่เคยเดินไปด้วยเมื่อครั้งก่อน ราคาถูกกว่าปีที่แล้วประมาณพันนิดๆ นิ้วมือเราจึงทำงานในการจองตั๋วอย่างรวดเร็ว และแล้วเราก็ได้ตั๋วเดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ)-ฮ่องกงมาในราคาคนละ 5,100 บาท (รวมทุกอย่างแล้ว) (ยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ)
ในเมื่อตั๋วพร้อมแล้วกำหนดการเดินทางจึงมีโอกาสมากกว่า 99% (บังคับคนข้างกายได้แล้ว เพราะมีตั๋วแล้วไง ไม่ไปได้ไงเสียดายค่าตั๋วนะ อิอิ) การจองโรงแรมจึงเริ่มขึ้น...จริงๆแล้วในฮ่องกงมีโรงแรมในเลือกจองมากมายทั้งแบบโฮสเทลและโรงแรมมีระดับ แต่กุ้งฝอยอย่างเราคงได้แค่โรงแรมระดับกลางๆ หลักในการเลือกของเราคือ ไม่เอาโฮสเทล(คุณแฟนขอมา) 3ดาวขึ้นไป โลเคชั่นใกล้รถไฟฟ้า ความจริงก็มีหลายที่นะ แต่เราเลือกที่ Butterfly on Victoria ซึ่งมีรีวิว(ที่คนอื่นทำ)ไว้มากมาย (เราไม่ได้ถ่ายรูปโรงแรมมาเลย...เก๋าขอโต้ด) โรงแรมนี้ราคาค่อนข้างสูงพอใช้ได้ ถ้าเทียบกับโรงแรม 3 ดาวอื่นๆ แต่จุดพีคที่ทำให้เราจองโรงแรมนี้ก็คือโลเคชั่น แม้โรงแรมนี้จะไม่อยู่ในโซนของสถานที่ท่องเที่ยวมากนัก แต่ก็ถือว่าไม่ไกลเลย เพราะการคมนาคมที่ฮ่องกงสะดวกมากจริงๆ โรงแรมนี้อยู่ใก้ลทั้งสถานีรถไฟฟ้า Tin Hau(ทินเหา) ป้ายรถเมล์(สำหรับไปรีพัลเบย์) ป้ายรถราง(สำหรับนั่งชมบรรยากาศ) และป้ายรถเมล์สำหรับแบกกระเป๋าใบเขื่องขึ้นรถเมล์สาย A11 ไปสนามบินได้ด้วยนะ แม้ร้านอาหารแถวโรงแรมจะเป็นร้านอาหารไทย(ราคาแพง)ซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีร้านอาหารทานเล่นให้เลือกพอสมควร และแมคโดนัลล์ที่เปิด 24ชั่วโมง เดินข้ามถนนไปก็จะเจอคาเฟ่ เดอ โครอลร้านอาหารท้องถิ่นที่มีสาขาอยู่ทั่วไป(คล้ายยำแซ่บบ้านเรา)
เอาละ! พูดเรื่องเรื่องเตรียมตัวมาซะเยอะแล้ว เราพร้อมไปขึ้นเครื่องกันเลยดีกว่า Let's Go
เรามารอกันตั้งแต่ 3ทุ่มครึ่ง แต่เครื่องดีเลย์ถึงตี3 นั่งรอไปสิ แต่ไม่กลัวเพราะว่า....
เนื่องจากได้สิทธิวันเกิดให้อัพเกรดไปนั่งเล้าจ์พรีเมี่ยมของคิงเพาเวอร์และรับเครื่องดื่มฟรี 1แก้ว แต่อาหารอย่างอื่นในเล้าจ์ก็มีให้กินฟรีนะ อาจจะไม่เยอะมากแต่ก็คุ้มค่าอยู่ ของฟรีจะเอาอะไรเนอะ ของก็ไม่เคยซื้อเขา...อุ้ย! หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าทำไงถึงจะได้เข้าเล้าจ์พวกนี้ ความจริงเล้าจ์ในสนามบินมีหลายประเภทนะ แต่เอาเท่าที่เรารู้ก็คือจะมีเล้าจ์สำหรับคนที่ซื้อตั๋วเฟิร์สคลาส,บิสซิเนสคลาสพวกนี้ ก็จะมีเล้าจ์ของสายการบินให้บริการ กับเล้าจ์ที่ใช้สิทธิจากบัตรเครดิตไฮโซโก้เก๋ต่างๆ ซึ่งกุ้งฝอยไม่มีบัตรพวกนี้ แล้วกุ้งฝอยทำยังไงถึงได้เข้าเล้าจ์ ก็ไปสมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์จ๊ะ ที่รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ตามสาขาของเขาหรือที่สนามบินก็ได้(มั้ง?) แต่เราไปสมัครที่ศรีวารีตอนสมัครไม่เสียค่าอะไรเลยนะได้ฟรีๆเลย แต่เขาจะส่งบัตรจริงมาให้ทีหลัง แล้วเราก็เดินสวยๆเข้าเล้าจ์คิงเพาวเวอร์ไปเลยจ๊ะ ข้างในก็จะมีที่นั่งพัก ปลั๊กไฟไว้ชาร์จแบต เครื่องดื่มจำพวกน้ำอัดลม เบียร์ วอดก้าก็มีนะ อาหารก็เป็นพวกเบาๆ แซนวิส เบเกอรี่ต่างๆ และก็มีไลน์สลัดนิดหน่อย เอาเป็นคุ้มค่าคุ้มราคา กินฟรีอยู่ฟรีอย่าคิดมากเนอะ
หลังจากนั่งรอ นอนรอ เกือบหลับรอแล้ว แต่กลัวตกเครื่องเลยตื่นรอละกัน ก็ได้ขึ้นเครื่องซะที สงสารคุณแอร์จัง มาถึงแปปเดียวก็ต้องบริการผู้โดยสารต่อ ครั้งนี้เราใช้บริการสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์เช่นเดิม เนื่องจากนางเป็นสายการบินฟูล...อะไรสักอย่างนี้แหละ คือมีน้ำหนักกระเป๋าให้คนละ 20 กิโลกรัมและมีอาหารฟรีบนเครื่องน่ะ เออ...นั่นแหละ คือไม่ใช่สายการบินโลว์คอตว่างั้น แม้นางอาจจะยังไม่มีชื่อเสียงในเมืองไทยสักเท่าไหร่ แต่นางก็น่ารักด้วยราคาและกำลังเพิ่มเส้นทางการบินอีกหลายสาย แต่ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะว่าฮ่องกงแอร์ไลน์ เพราะฉะนั้นหลายๆสายก็ต้องต่อเครื่องที่ฮ่องกงนะแจ๊ะ
ถึงแม้จะราคาถูกก็อย่าให้ใครดูถูก(เกี่ยวกันมะ?) ฮ่องกงแอร์ไลน์นอกจากราคาน่ารักน่าจับต้องแล้ว นางยังมีเครื่องเล่นเหมือนนครชัยแอร์ด้วย(แหม...เปรียบเทียบซะ) จอสารพัดนึก คือนึกอะไรไม่ออกก็กดจอเล่นไว้ก่อนแล้วกัน แต่คราวนี้เราเตรียมตัวมาอย่างดี เรามีแท็บเล็ตที่โหลด The Face Thailand มาแล้วเรียบร้อย อิอิ แต่ขากลับเราก็ดูมินเนี่ยนจากจอนี้นะ ก็เพลินดี จอนี้มันก็มีเพลง มีภาพยนต์ มีรายการTV(ส่วนใหญ่เป็นการท่องเที่ยวฮ่องกง) มีข้อมูลการบินต่างๆ อุณภูมิภายนอก แรงลม ระยะทาง เส้นทาง บลาๆๆ แต่เนื่องจากทั้งไฟล์ไปและกลับเป็นไฟล์ดึก เราจึงได้อาหารแค่ขนมปังกลิ่นประหลาดกับซอฟต์ดริ้งแค่นั้นเอง(รู้สึกไม่คุ้มก็ตรงนี้แหละ แต่ตีสามจะให้เขาเสิร์ฟข้าวหน้าไก่หรือยังไง?ฮ่วย) อ้อ! อย่าลืมขอหมอนจากคุณแอร์ด้วยนะ ส่วนผ้าห่มมีให้ที่ที่นั่ง(อย่านั่งทับจนลืมล่ะ)