ทำไมช่วงนี้มีกลุ่มคนที่คอยเสี้ยมให้พี่น้องชาวไทยพุทธกับชาวไทยมุสลิมขุ่นเคืองกันครับ

สวัสดีครับ ทุกๆท่าน วันนี้ผมอยากจะมาแสดงความคิดเห็นหน่อยในฐานะชาวไทยมุสลิม เลือดไทย ผมรู้สึกแปลกใจที่มีคนคอยเสี้ยมให้เกิดความบาดหมางกันระหว่างชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม  ผมขอคนที่ได้อ่าน ได้ดูสิ่งที่ผมนำเสนอแล้วเรามาคุยหารือกันอย่างบริสุทธิ์ใจ เพื่อร่วมกันหาทางออกนะครับ  
ผมขอยกเป็นข้อๆแล้วกันครับ

1.เรื่องชาวไทยมุสลิมจะยึดครองประเทศไทย  ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยครับ คนมุสลิมเข้ามาในไทยก็ตั้งแต่สมัย อโยธยา และบาทหลวงชาวคริสต์ก็เข้ามาในสมัยอยุธยา(ขออนุญาติอ้างอิงถึงชาวคริสต์นะครับ) มุสลิมเข้ามาก็มีการค้าขาย  ฝรั่งที่เป็นคริสต์ก็เข้ามาค้าขายและก็เผยแพร่ศาสนา นับจากวันนั้นถึงวันนี้ 90% ก็ยังมีคนนับถือพระพุทธศาสนาอยู่  มุสลิมและชาวคริสต์ก็ยังมีน้อยเหมือนเดิม ไหนจะชาวฮินดูที่เข้ามา ก็มาตั้งขายผ้าแถวพาหุรัดอีกก็ยังมีส่วนน้อยในไทย  
https://www.youtube.com/watch?v=1aPR3TsxH9s   ผมอยากให้ทุกท่านดูคลิปของคุณ จอนห์นะครับ  ท่านควรจะปฏิรูปองค์กรของท่านก่อนและหาวิธีเผยแพร่ศาสนาพุทธด้วยวิธีการที่ดีดีกว่า ถ้าใครชอบเขาก็จะศรัทธาเอง ดูอย่างชาวคริสต์มาแจกไบเบิ้ล แจกใบปลิวแถวมัสยิดบ้านผมด้วยซ้ำ  ผมก็รับมาอ่านแลกเปลี่ยนกันไป ไม่ใช่กลัวคนเลิกนับถือพุทธ แก้ปัญหาโดยฆ่าคนศาสนาอื่นโดยการสร้างมูลเหตุขึ้นมาเพื่ออ้างความชอบธรรม  แบบนี้ไม่มีในพระพุทธศาสนา ไม่มีในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน ที่สอนๆกันอยู่คือ พระคุณเจ้าต่างๆที่พูดที่สอน  ท่านชาวพุทธก็คิดเอาแล้วกันครับ ท่านเชื่อในคำสอนศาสดาของท่าน หรือจะเชื่อในพระสงฆ์ที่พวกท่านไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง แต่ที่แน่ๆในพระไตรปิฎกนั้นเป็นคำสอนของศาสดาท่าน ท่านเคยไปเปิด เคยอ่านด้วยตาตัวเองหรือเปล่า สำนวนไทยนี้ยังใช้ได้อยู่ อย่าไว้ใจทางอย่าว่างใจคน  อย่าคิดว่าเพราะเขาเป็นพระคุณเจ้า หรือ เขาเป็นผู้รู้กว่าเรา เราเลยไว้วางใจในคำพูดของเขา จนไมไ่ด้คิดใตร่ตรองให้ดี ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เชื่อคำพูดของผู้รู้ในศาสนาผมเลย ผมยังต้องคิด ใตร่ตรองก่อนเลย ว่านี้มาจากศาสนาหรือมาจากความคิดส่วนตัว

2.บางคนอ้างพวกแขก มันไม่เคยทำประโยชน์ให้ประเทศไทยเลยมีแต่มาสร้างภาระ ขอโทษนะครับ ยุคโลกาภิวัฒน์มันไม่ได้ช่วยให้พวกคุณหลุดออกจากกะลาแลนด์เลยหรอครับ  ท่านเคยสืบค้นไหมข้อมูลบางไหมว่าชาวมุสลิมไทยช่วยประเทศไทยอะไรเอาไว้บ้าง
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5_(%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%94)  นี่คือสหายผู้รับใช้ของพระเจ้าตากสิน ทำให้พวกท่านและเรามีแผ่นดินกันอยู่ทุกวันนี้  แต่มันก็โทษกันไม่ได้เพราะในตอนผมเรียน สมัย ประถม มัธยม กระทรวงไม่ได้ลงรายละเอียดไว้ด้วย

3. นี้ช่วงสมัย สงครามโลก ท่านแช่ม พรหมยงค์ มีชื่อและนามสกุลเดิม ว่า ซำซุดดีน มุสตาฟา เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444 ที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ บิดาชื่อฮัจยีมุสตาฟา(ครูจำปา) เป็นโต๊ะอิหม่าม แห่งมัสยิดดารอสสอาดะห์ บ้านปากลัด พระประแดง จบการศึกษาด้านอิสลามจากมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยมี นายบรรจง ศรีจรูญ เป็นเพื่อนสนิทซึ่งศึกษาอยู่ในเวลาเดียวกัน และนายบรรจง ก็ได้ชักชวน นายแช่ม ให้เข้าเป็นสมาชิกคณะราษฎรด้วย

ในวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ นายแช่มและ นายบรรจง ทำหน้าที่ควบคุมตัวเจ้านายและ พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง ให้เข้าประทับในพระที่นั่งอนันตสมาคม และทำหน้าที่แจกใบปลิวเพื่อทำความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยแก่ราษฎร ในทาง การเมือง นายแช่ม พรหมยงค์ มีความสนิทสนมและนับถือนายปรีดี พนมยงค์ หัวหน้าคณะราษฎรฝ่ายมันสมองเป็นอย่างมาก บ้างว่าเป็นเหตุให้มีเปลี่ยนนามสกุลเป็น พรหมยงค์ เพื่อให้คล้ายคลึงกับ พนมยงค์ นามสกุลของนายปรีดี อีกด้วย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เข้าเป็นสมาชิกขบวนการเสรีไทย และได้รับ การแต่งตั้งเป็นจุฬาราชมนตรีคนที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

เมื่อปี พ.ศ. 2488 ภายหลังสงครามสงบหลังเหตุการณ์รัฐประหารในปี พ.ศ. 2490 นายแช่ม ต้องลี้ภัยการเมืองไปพร้อมกับ นายปรีดีพนมยงค์ ยังสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา และท้ายสุดไปอยู่ที่มาเลเซียซึ่งขณะนั้นเป็นดินแดนในอารักขาของอังกฤษ จนกระทั่งเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2497 ได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทยเมื่อทางรัฐบาลขณะนั้นอภัยโทษให้ และมาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายจนกระทั่งถึงแก่กรรมได้กลับไปสู่ความเมตตาแห่งอัลลอฮฺ ซุบฮานาฮูวะตะอาลา รวมอายุได้ 88 ปี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2532

ที่มา : หนังสือพิมพ์กัมปง ประจำเดือน มุฮัรรอม-ซอฟัร ฮ.ศ.1430

3. บางคน อาการหนักมาก สนับสนุน พระคุณเจ้าที่อยู่ในพม่าที่ทำการล้างโครตมุสลิมโรหิงยาให้มาทำที่ไทย  เอ่อผมก็ยอมรับพวก isis มันมีส่วนแหละนะแต่นักวิชาการมุสลิมและคนมุสลิมส่วนใหญ่ เขาก็ไม่เอาด้วยกับพวกนี้ พวกนี้ถือเป็นพวกนอกรีตเป็นมารศาสนาโดยแท้จริง บางคนตั้งคำถาม ทำไมไม่เห็นคนอิสลามไปจัดการกับพวก isis ผมขอตอบแทนพี่น้องชาวไทยมุสลิมแล้วกัน ขอโทษนะครับทุกวันนี้แค่เลี้ยงตัวเองยังยากเลยครับ ยุคข้าวหยากหมากแพง สถานการณ์การเมืองไม่มั่นคง อีกอย่างชาวไทยมุสลิมก็คนธรรมดาครับไม่ใช่ หน่วยนาวิกโยธิน หน่วยรบพิเศษจะได้เบิกกระสุนแล้วขึ้นเครื่องบินไปรบ ทุกวันนี้รบกับฝุ่นกับควันตามท้องถนน และความเครียด 555  

ปล. ที่ผมตั้งกระทู้ขึ้นมาอยากให้ทุกคนลองเปิดใจ ลองศึกษาศาสนาอิสลามบ้าง วิถีชีวิต เหมือนที่ผมศึกษาวิถีชาวพุทธมาตั้งแต่สมัยประถม วิชาพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ฟังจากสื่อว่าอิสลามหัวรุนแรงอย่างงั้น ยังงี้  แต่อิสลามอีกจำนวนมากที่เขาไม่ได้เป็นอย่าง isis ล่ะ เขาก็เหมือนพวกท่าน ขับรถยนต์ นั่งรถไฟฟ้า กินข้าวกล่อง ไปดูหนัง ไปท่องเที่ยว มีครอบครัวมีลูก อยากสวดมนต์(ละหมาด) วันละห้าเวลา ก็แค่นั้นแหละ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ความเห็นท่าน จขกท ก็ดูอารมณ์ดี มองโลกในแง่ดีอยู่
ความเห็นเราต่อความเห็นท่าน มีเท่านี้ เพราะเราก็ตื้นเขินเรื่องศาสนาอื่นอยู่มาก

เรามาสะดุดใจตอนที่เถียงกันเรื่องสังฆราช แต่มีท่านผู้หนึ่งกล่าวว่า
ถ้าแผ่นดินไทยไม่ได้เป็นแผ่นดินพุทธ จะเป็นสังฆราชไปทำไม



... แง่มุมที่ผมเกิดความคิดขึ้นมาในเวลานี้ก็คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



มองพุทธมณฑลปัตตานี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



ศาสนาที่มีเหตุผล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 4
มุสลิมชาวบ้านธรรมดา หาเช้ากินค่ำอย่างคุณ ไม่มีใครไปต่อต้านหรอกครับ
แต่มันมีองค์กรมุสลิม ที่ชอบเอาประเด็นความขัดแย้งต่างๆ มาสร้างความเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย
และพยายามขยายอำนาจของอิสลามเข้ามาในระบบการปกครองของไทย
พยายามเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนประชากรในหลายๆทาง
ทำให้ชาวพุทธบางส่วนรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ถึงกับจะแก้ปัญหาโดยการฆ่าคนศาสนาอื่นหรอกครับ
เรื่องนั้นน่าจะเป็นที่พวกคุณพยายามสร้างความเกลียดชังกันขึ้นมาเอง
ความคิดเห็นที่ 1
ท่าน จขกท มีความเห็นอย่างไรต่อกรณีนี้

ความคิดเห็นที่ 7
เพราะมุสลิมจำนวนหนึ่ง จิตใจคับ และเห็นแก่ตัวจนไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่มีคนจากหลากหลายศาสนาอยู่ร่วมกัน  ผลในวันนี้ จึงมีความขัดแย้งกันมากขึ้นระหว่างคนพุทธกับมึมุสลิม
    คุณเจ้ากระทู้ต้องการให้คุณพุทธกับมุสลิมอยู่อย่างปรองดอง และสมัคคีกัน  ผมว่าคุณลองไปถามชาวมุสลิมที่มีปัญหาหน่อยว่าพวกเขายอมได้ไหม ที่จะลดความเคร่งบางอย่าง  เพื่อไม่ให้ไปลิดรอนสิทธิเสรีภาพของคนในศานาอื่น  ไม่ใช่คอยจะเอาโน้นเอานี่  โดยไม่มองว่าคุณได้  แต่คนอื่นเขาเสีย  คุณเชื่ออย่างนี้  แต่คนอื่นเขาไม่ได้เชื่อเหมือนคุณ คือกะให้ทุกคนยอมพวกคุณอย่างเดียว มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือครับ
ความคิดเห็นที่ 3
ประเด็นคือ มุสลิมมีลักษณะชาตินิยมทางศาสนา หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่า เห็นแก่พวกตัวเองทางศาสนา อย่างไม่เกรงใจใคร
จนทำให้คนที่รู้ ไม่พอใจ เกิดปฎิกิริยาต่อต้าน

ส่วนคนไม่รู้ ก็ดิ้นรนหางานทำ  ไม่ได้สนใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่