[CR] 3 วัน 2 คืน : ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิต "ภูกระดึง" ดึ๋ง ดึ๋ง

ครั้งหนึ่งในชีวิตเราต้องขึ้นไปพิชิต "ภูกระดึง" ให้ได้!!!! เป็นคำกล่าวที่เราตั้งไว้มานานมากแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ไปสักที 5555
แต่ครั้งนี้เหมือนทุกอย่างเป็นใจ... ในที่สุด "เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของพวกเราทั้ง 5 คน ยิปปี้ ประหลาดใจ



ถือว่าเป็นการเล่าประสบการณ์ในการขึ้นภูกระดึงครั้งแรกของเจ้าของกระทู้และผองเพื่อน รูปที่นำมาให้ชมนั้นถ่ายเองทั้งหมดด้วยฝีมืออันน้อยนิด 55555 แต่ก็อยากให้ทุกคนได้ชม หากผิดพลาดประการใด ตรงไหน อะไรยังไง ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย สาวแว่น พวกเราไปภูกระดึงกัน ในวันที่ 9-11 มกราคม 2559


- Day 1 -

เราเดินทางกันวันที่ 9 มกราคม 2559 ออกจากเชียงคานในตอนเช้าโดยรถยนต์ส่วนตัวของเพื่อน 5555 ระหว่างทางมีหมอกเต็มไปหมด อากาศกำลังเย็นสบาย ขับกันมาได้สักพัก..นั่นไง!!!! เห็นแล้วววววววว ภูเขาลูกนั่นที่พวกเราจะไปพิชิตกัน แท่นแท๊นนน


แค่เห็นภูเขาก็ตื่นเต้นแล้ว มือเย็น ใจสั่น ยิ่งกว่าตอนลุ้นผลแอดมิดชั่นอีก 5555555 โอ๊ยตื่นเต้นมาก!!! ขับกันต่อเรื่อยๆจนในที่สุดก็เข้าเขตอุทยานแล้ว โดยรถยนต์จะเสียค่าบริการในการเข้าอุทยานคันละ 30 บาท




จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยก็ขับต่อไปจ้า สักพักเราก็ถึงอุทยานจริงๆแล้ว ไปหาที่จอดรถกันเลย ที่จอดรถเลือกกันได้ตามใจชอบมาก คือใครอยากจอดตรงไหนก็จอดอ่ะเอาง่ายๆ 5555 แต่ก็จอดกันได้เป็นระเบียบมาก พวกเราเลือกที่จอดใต้ต้นไม้เพื่อความร่มเย็น



จอดรถเสร็จก็จัดการเตรียมของใช้สัมภาระที่จะแบกขึ้นภู และเตรียมตัว เตรียมใจให้พร้อม แค่นั้นจริงๆ ก่อนจะไปที่จุดจองเต้นท์ ใครที่นำรถยนต์มาจะต้องไปลงบันทึกที่เจ้าหน้าที่อุทยานก่อน และจะได้รับบัตรจอดรถมา เก็บบัตรนี้ให้ดีๆเพราะตอนลงจากภูเราจะต้องคืนบัตรจอดรถให้เจ้าหน้าที่



พวกเราพร้อมแล้ว!!!! จากนั้นเราก็เดินเข้าไปข้างในจะมีจุดให้จองเต้นท์สำหรับคนที่ไม่ได้จองจากในเว็ป ราคาเช่าเต้นท์ต่อคืนก็ตกคืนละ 225 บาท เต้นท์หนึ่งนอนได้ 3 คน ส่วนใครที่เอาเต้นท์มากางเองก็จะมาชำระค่าบริการกันตรงนี้ไหมนะ ไม่แน่ใจ 555555555 ใช่แหละ เจ้าของกระทู้เริ่มงง Facepalm



จองเต้นท์อะไรเสร็จเรียบร้อย ก็เดินเข้าไปข้างในต่อ ในส่วนต่อไปจะเป็นที่สำหรับจ้างลูกหาบแบกกระเป๋าขึ้นภู และจุดเอ่อจะเรียกว่าอะไรดี จุดตรวจเช็คซองขนมกับขวดน้ำไรงี้ คือจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่เช็คซองขนม ขวดน้ำ อาหารกระป๋อง เพื่อจะให้เราวางค่ามัดจำไว้ และตอนเราลงมาจากภูก็สามารถมารับค่ามัดจำคืน ป้องกันการทิ้งขยะไม่เป็นที่อะไรประมาณนั้น คือเอาขึ้นไปเท่าไหร่ต้องเอากลับลงมาเท่านั้น งงม่ะ!! เออ จขกท.ก็เริ่มงงกับตัวเองเหมือนกัน 55555555 ในส่วนของจ้างลูกหาบแบกกระเป๋า จะคิดเป็นกิโล กิโลละ 30 บาท ค่าบัตรติดกระเป๋า 5 บาท จขกท.โดนไป 6 กิโล 180 บาท ตังค์ค่อยขึ้นไปจ่ายกับลูกหาบเองตอนไปรับกระเป๋าบนภูนะจ๊ะ เคลียทุกอย่างเสร็จก็ไปกันเลยยยยยยย pompom



ก่อนขึ้นภูจะต้องชำระค่าบริการคนละ 40 บาท



จะเริ่มแล้วนะ พร้อมยัง!!!?? ระวังงงงงง ไปปปป!! เดี๋ยววววววววว แค่เห็นป้ายก็เหนื่อยแล้ว ร้องไห้



เอาว่ะ!! ไหนๆก็มาถึงแล้ว แค่ 9 กิโลเองงงงงง ลุย!!!!!!






และแล้วเราก็ลากกันจนมาถึงปางกกค่า ทุกคนหันมองหน้ากันแล้วพูดว่า "ตูมาทำอะไรกันที่นี่" 5555555555555 นี่ขนาดยังไม่ถึงซำแรกเลยนะ แต่ละคนรีบโกยออกซิเจนเข้าปอดกันใหญ่ อยากจะบอกว่าทางขึ้นไปซำแรกโหดจริงๆ ได้มาเจอกับตัวเอง หลังจากที่อ่านรีวิวมาจากหลายๆกระทู้ ในที่สุดก็ได้รับรู้ความโหดนั้นเป็นเช่นไร 5555555 คือระหว่างทางนี่เพื่อนเราแบบ เห่ยกูลงไปรอข้างล่างได้มั้ยว่ะ 555555 ตอนเดินขึ้นแรกๆนี่โห้คุยกันเจี๊ยวจ๊าว เดินไปสักพักเท่านั้นแหละเสียงคุยเริ่มหาย 555555555 ทำไมขำ แต่ตอนเดินขึ้นตอนนั้นขำไม่ออกจริงๆ คือไหนๆก็ลากสังขารกันมาขนาดนี้แล้วก็ต้องไปให้ถึงงง คือเราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน คอยบอกเพื่อนว่า อีกนิดเดียว แต่ในใจจริงๆก็รู้ว่า อีกไกล 5555555555555 เอาเว้ยย ภูกระดึงจ๋าาาาาาา



ในที่สุดดดดดดดดดดด!! อยากจะกรี๊ดดังๆ ถึงแล้วซำแรก ที่มีชื่อว่า "ซำแฮก" คือแฮกจริงๆ ทุกคนพร้อมใจกันปลดสัมภาระที่เป็นภาระจริงๆออก 55555 แล้วถอนหายใจ เฮ้อออออออออ!! เหนื่อยวัวตายควายล้มมากนี่แค่กิโลเมตรแรกเอ๊งงงง แต่วิวซำนี้ก็ทำให้หายเหนื่อย วิวสวยมากจริงๆ



ยังไหวววววววววววว




ซำนี้พวกเราพักกันนานทีเดียว เพราะมีเพื่อนจะอ้วก 5555555  แต่ละคนนี่ซัดแตงโม น้ำแข็งใสกันไปอิ่มหนำ แต่ไม่ค่อยสำราญเท่าไหร่ 555555 แตงโมกับน้ำแข็งใสถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ กินแล้วสดชื่น รู้สึกมีพลังในการเดินต่อ ในแต่ละซำจะมีร้านค้าเหมือนกันหมด ค่าของนั้นก็จะแพงขึ้นตามความสูง ความชันของซำนั้น



หลังจากพักกันให้หายเหนื่อยแล้วก็เดินทางต่อ... และระหว่างทางก็จะมีเสียงพูดแต่ประโยคที่ว่า "กูลงไปรอข้างล่างนะ" ปากก็บ่นนะ แต่เท้าก็ก้าวฉับ ฉับ 555555555555




ระหว่างทางเราก็จะพบเจอกับลูกหาบที่แข็งแรงมาก พูดเลยว่าสตรอง!!หนักมาก และในระหว่างทางที่เราเดินขึ้นภูนั้นก็จะมีคนที่เดินสวนลงมา และเดินขึ้นไป เราจะได้กำลังใจจากคนที่ไม่รู้จักกันที่นี่ บางคนถึงกับจับเข่านั่งคุยกันเลย ใครมาคนเดียว รับรองไม่มีเหงา มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่จริงๆ ยิ้ม





คือมาถึงตรงนี้ไม่มีใครพูดคุยอะไรกันเลย 55555555555555555 ได้ยินแต่เสียงหอบแฮกๆของทุกคน เหนื่อยจริงๆ เหนื่อยมาก ขาก็เริ่มปวด แนะนำว่าถ้าหากเหนื่อยจริงๆต้องการพัก อยากให้พักแค่แปปเดียว เพราะหากพักนานจะทำให้ขาไม่มีแรงจะเดินต่อ จริงๆนะ คือพักแบบ 2 นาทีไรงี้ เหมือนเครื่องกำลังร้อนแล้วมาหยุดนานๆ ต้องเริ่มสตาร์ทใหม่ คราวนี้เหนื่อยกว่าเดิมอีก เอ้ออ!! ไปต่อ...




มาถึงซำกกโดน ซำนี้คนจะแวะพักกันเยอะ เพราะวิวซำนี้ค่อนข้างสวย แต่ช็อตที่เหนื่อยมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปวิวสวยๆมาฝาก ได้แต่นั่งมองวิวให้ชื่นใจพร้อมกับลมพัดเย็นๆ โอ้วววววววว สุดจริงๆ คือตอนนี้อยากกินอะไรซ่าๆเย็นๆ คงหนีไม่พ้นเป๊ปซี่ใส่ถุง จัดไป 30 บาท เอาหล่ะ!! อีกแค่ซำเดียวก็จะถึงหลังแปแล้ว ฮึบ ฮึบ!!




ซำแคร่คนก็แวะพักเยอะเหมือนกัน เอาง่ายๆคือซำไหนมีร้านขายของคือแวะทุกซำ 5555555555



อยากจะบอกทุกคนว่าด่านต่อไปก็โหดใช่เล่น คือด่านที่จะเดินขึ้นไปหลังแป ทั้งชัน ทั้งหิน ทั้งบันได โหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน และเป็นเช่นเดิมไม่มีแรงแม้กระทั้งหยิบกล้องออกมาถ่ายรูป ในใจคิดเมื่อไหร่กูจะถึงหลังแป ไม่ไหวแล้วววววววววววววววว



และในที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดด...เราก็ฝ่าฟันมาได้จนถึงหลังแป ีใจยิ่งกว่าถูกหวยก็ถึงหลังแปนี่แหละครัช 5555555555


พวกกระเป๋าที่เราจ้างหาบ พี่ลูกหาบเค้าจะมาเปลี่ยนใส่รถเข็นกันที่นี่


อย่าเพิ่งดีใจไป เหลือทางราบอีก 3 กิโลเว้ย 55555555 ในเสียงหัวเราะนี้ปนไปด้วยคราบน้ำตา 5555555 ไป!!!!




ถึงแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย







อากาศบนภูค่อนข้างเย็นสบาย เหมาะแก่การนอน 555555 เดี๋ยว!! ถึงภูแล้วก็นำใบเสร็จที่จองเต้นท์มาจากข้างล่างไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ ที่จุดรับ-คืนเต้นท์อะไรสักอย่างนั่นแหละ แล้วก็ไปเช่าพวกแผ่นรองนอน หมอน ถุงนอน ผ้าห่มที่ข้างในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว นอนกี่คืนก็เช่าตามนั้น แต่ตอนจขกท.ไป หมอนหมด เลยเอากระเป๋าเนี่ยแหละทำเป็นหมอนแทน จริงๆแค่ถุงนอนก็เอาอยู่แล้ว 5555 หรอว่ะ แต่ตอนกลางคืนหนาวจริงๆ หลังจากจัดการอะไรทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าเก็บของในเต้นท์ อ้อ!!! สำหรับเต้นท์คือเดินเลือกได้ตามใจชอบ ถูกใจเต้นท์ไหนก็จับจองได้เลย อิอิ ส่วนคนที่จ้างลูกหาบแบกกระเป๋าขึ้นมา จะมีลานหน้าจุดยืมเต้นท์อ่ะ คือพี่ลูกหาบเค้าจะเข็นมากองไว้แล้วให้เราเดินหากระเป๋าของตัวเอง แต่อาจจะมาช้าหน่อยไม่เป็นไรเนอะ เพราะเราก็เห็นว่าพี่ลูกหาบคนนึงแบกขึ้นมาตั้งหลายกิโล ระหว่างรอกระเป๋าเราก็ไปเดินเล่นกันให้สบายใจก่อนแล้วค่อยกลับมาดูใหม่ ในส่วนนี้จะเป็นพื้นที่กางเต้นท์สำหรับคนที่นำเต้นท์มาเอง
ชื่อสินค้า:   ภูกระดึง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่