[CR] CR นั่งเกราะเหล็กไปฮาร์บิ้น แบบไม่มีแผน เอาฮา เอามันอย่างเดียว

หลังจากสิงใน Pantip มานาน หาอ่านรีวิวท่องที่ยวไปเรื่อยๆ นี้เป็นกระทู้เเรกจริง ๆ ที่อยากลองรีวิวประสบการณ์ท่องเที่ยวของตัวเองบ้าง  ถ้าอ่านแล้ว งง ข้าเจ้าก็ขอโต๊ดเน้อ อิอิ แต่น่าจะงง เค้าเขียนเองยัง งง เองเลย  สืบเนื่องจาก จขกท เป็นเด็กเหนืออ้วน ๆ ๆ คนหนึ่งที่ชอบเที่ยวเป็นพิเศษ แต่แอบแฝงไว้ด้วยความขี้เกียจ  ตอนนี้ได้มีโอกาศไปเรียนปรับภาษาที่เมืองนอกเมืองนากับเค้า จึงถือโอกาศออกสำรวจ โลกกว้าง ๆ ดู โอ้โห้ >.< มันใหญ่จัง แถมยังไม่เห็นเหมือนที่เค้าลือกันด้วย  แตนแต๊นแต น นน  ~ ประเทศจีนนั้นเอง  เกริ่นนิด ๆ จริง ๆ แล้วประเทศจีนเป็นประเทศที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยมากประเทศหนึ่ง บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ผู้คนส่วนใหญ่ถ้าเห็นว่าเราเป็นต่างชาติก็ให้การต้อนรับดี โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ๆ การเดินทาง การคมนาคมถือว่าสะดวกสบายมาก ทั้งรถเมล์และรถไฟใต้ดิน ที่สำคัญถู๊กถูก (กว่าบ้านเรา) ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่เที่ยวได้อย่างอุ่นใจและปลอดภัยประเทศหนึ่ง (ไม่อวยนะ เท่าที่สัมผัสมา) แต่ด้วยคนจีนเป็นคนที่ดูเหมือนโพรงผาง พิมพ์ถูกเปล่าวาาา ถ้าเทียบกับบรรทัดฐานของคนไทยจึงเหมือนคนไม่มีมรรยาท แต่จริง ๆ ละเค้าเป็นยังงั้นแหละทั้งประเทศ พูดไปไกลถึงดาวพลูโตยังไม่เข้าเรื่องสักที พอ พอ



     ทริปนี้ จริง ๆ ก็เป็นทริปในฝันที่อยากไปสัมผัสคำว่าหนาว.นรก.ว่ามันเป็นยังไง เพราะเราเคยพูดกับป้าไว้ว้า มันหนาวจ๊นหูปุ๊ด เหมือนที่เค้าลือกันเปล่า  สืบเนื่องจาก จขกท เรียนภาษาจีน อยู่ที่เทียนจิน เมืองเล็ก ๆ ที่เป็นติ่งอยู่ใต้เมืองหลวงอย่างปักกิ่ง การเดินทางไปฮาร์บิ้น ครั้งนี้ของกระเหรียงเกือบสวยอย่างพวกเรา คือ นั่งเกราะเหล็กไป ปู๊ น นน น  น  ปู๊ น น น  จากเทียนจิน ไปฮาร์บิ้น เราใช้เวลาอยู่ในตู้เคลื่อนที่ประมาณ  16 ชั่วโมง ใช่ฟังไม่ผิด 16  ชั่วโมงจริง ๆ ประหนึ่งนั่งเครื่องบินไปอเมริกา  การซื้อตั๋วรถไฟในประเทศจีนนั้น ต้องมีพลาสปอร์ตแสดงก่อนซื้อตั๋วเสมอ อุปกรณ์การถ่ายภาพของ จขกท คือ ไอโฟน 5。。。 6 และ กล้องแบ๊ว ๆ  ๆ 2 ตัว ที่เค้าจำชื่อรุ่นไม่ได้ของเพื่อนร่วมทริปอีก 2 คน เดี๋ยวจะมาบอกว่ามีเทคนิคใช้โทรศัพท์ยังไงในอุณภูมิติดลบระดับ 20-30

     ว่าด้วยการเดินทางในรถไฟจีนเป็นสิ่งที่น่าลุ้นตลอดเวลา เพราะชาตินี้เป็นชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องการสูบจัด และมีกลิ่นตัว(ปาก)ขั้น....โดยเฉพาะหน้าหนาว (อยากจะซื้อลูกอมแจกจริง ๆ) ถ้าได้เพื่อนร่วมทางดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ส่วนตัวเราคิดว่า รถไฟสายไปฮาร์บิ้นจะดีกว่าสายทางใต้เยอะ เราเคยนั่งไปซีอัน เหม็นบุหรี่ขั้นรุนแรงมาก อาจเป็นเพราะสายนี้เป็นสายท่องเที่ยวและคนเดินทางส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาด้วย เสียดายที่ลบรูปในรถไฟไปหมด แฮ่ ๆ

จะสังเกตได้ว่าน้ำแข็งเกาะเข้ามาในกระจกด้านในกันเลยทีเดียว จขกท เลยใช้คำว่า เกราะเหล็ก ที่คอยป้องกันความหนาวสุดโหดด้านนอก ไม่ให้เราแข็งตายซะก่อนถึงฮาร์บิ้น (ในรถไฟถึงขั้นร้อนกันเลยทีเดียว)


จขกท ยังจำความรู้สึกแรกที่ออกมาสัมผัสอากาศที่แท้จริงตอนก้าวลงรถไฟได้ หน้าชาแบบยิ้มไม่ออกเลย หนาวทรหดมาก นี่คือบรรยากาศตอน 5 โมงตอนเราไปถึง มันก็มืดซะแล้ว


หมายเหตุตัวโต๊โต เวลาขึ้นแท็กซี่อย่าได้ตกใจถ้าคนขับยังจะจอดแวะรับไปเรื่อย ๆ จนกว่ารถจะเต็ม จขกท ไปครั้งแรกก็ช็อคเหมือนกัน ห้าห้าห้า บ้าไปแล้ว แท็กซี่ที่นี่ถ้าเห็นเป็นคนต่างชาติจะคิดราคาเหมาทันที ซึ่งเป็นอะไรที่โคตรอยุติธรรมซึ่งนิสัยคนไทยอย่างหนึ่งคือช่างมันเถ๊อะไง เหมือนเก๊าเลย โดนฟันไป 30 หยวน ที่เลือกจะให้ราคาเหมาเพราะตอนนั้นมันค่ำแล้วและเราก็ยังไม่รู้พิกัดโฮทเทลที่แน่ชัดจึงต้องจำยอม  เวลาขึ้นแท็กซี่ในจีนให้บอกสถานที่ๆเราจะไป เเล้วถามว่า 打票吗 ต่าเพี้ยวมา คือ กดมิเตอร์ป่ะ ถ้าแท็กซี่เยอะก็โบกใหม่เถ๊อะ มันต้องมีซักคันที่กดละน่าาา

    วันแรกเราเดินทางมากับเพื่อนอีก 1 คน แล้วอีก 6  คนจะตามมาในอีกวัน วันแรกที่ไปถึงก็พักโฮทเทล ในราคาคืนละ 60 หยวน ทำเลที่ตั้งถือว่าดีมากทีเดียว แต่เอาเป็นว่ามันคือที่ซุกหัวนอนละกัน เราเลือกเป็นโดมหญิง แจ็กพอตก็เลยแตกได้พักกับพนักงานของโฮทเทล เพราะเหลือสองเตียงพอดี คิดสภาพนะ คือเค้าอ้วนอะ ละต้องปีนขึ้นไปนอนบนชั้นสองที่มีพื้นที่เพียง 3.5  ฟุต โอ้โห้ ที่เท่าแมวดิ้นตาย จะพลิกทีก็กลัวเตียงเค้าจะหัก เราทั้งสองคนใช้ชีวิตบนพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร 1 คืน ด้วยความที่เป็นห้องของพนักงานสภาพห้องก็เลยเป็นอย่างที่เห็น แตกต่างจากโฮทเทลทั่วไป นี่เราพล่ามมากไปป่ะเนี้ยย  ระบ๊ายยระบาย อิอิ ตรงนั้นแหละคือพื้นที่ส่วนตัวของพวกเรา แต่การพักกับพนักงานดีอย่างคือเค้าพูดภาษาอังกฤษได้ และเคาเฟรนลี่มากทุกคน


    ตื่นเช้ามาด้วยอากาศสดไสยยยย ไสหัวเข้าผ้าห่มไป feel like -38 เราจึงพากันหลับต่อแล้วตื่นมาอีกทีตอน 10 โมง ออกไปเดินเล่นหาอะไรกินกันสักพักแล้วกลับเข้าโรงแรมมาเก็บของเพื่อที่จะย้ายไปอีกที่หนึ่ง เพราะมีเพื่อนตามมาอีก 6 สาวสวย เราจองเป็นอพาสเม้น ห้องหนึ่งนอนได้ 4 คน ที่นี่เราแนะนำนะ ทำเลดีมากเดินไปไหนก็ง่าย จองผ่าน booking เพราะไม่ต้องมีมัดจำไปจ่ายเอาดาบหน้าเลย ขออนุญาติบอกชื่อเลยละกัน ไม่รู้จะผิดกฎป่ะ แต่แนะนำจริง ๆ Rose Holiday Fashion Apartment  Building B, No. 61 Jinwei Street , Dao Li ที่ฮาร์บิ้นเวลาจะขึ้นแท็กซี่ให้บอกว่าไปเขตไหน ตึกหมายเลขอะไร ถนนอะไร อย่างอันนี้ก็ตึก 61 ถนน จินเว่ยต้าว ตึกจะเป็นตึกที่ไม่มีชื่อ เดินเข้าไปแล้วขึ้นลิฟกด
ชั้น 22 ห้อง 2208 คือฟรอนนั้นเอง เจ้าของจะเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่ารัก มีค่ามัดจำกุญแจ 100 หยวน ได้คืนตอนเช็คเอ้า ถ้าหารกัน 4 คนก็ถือว่าถูกเลยทีเดียวและเป็นส่วนตัวด้วย กฎข้อสำคัญของการเที่ยวไม่ใช่ว่าหาที่พักแค่ราคาถูก ทำเลที่ตั้งถือเป็นปัจจัยสำคัญเหมือนกัน

    จัดการกับที่พักเสร็จ ไอ่ลูกหมู กับ ไอ่ลูกหมี ก็พากันเดิน ๆ ๆ เราบอกคุณแล้วเราไม่มีแผนการใด ๆ ๆ ทั้งนั้น เราไปเที่ยวมั่ว ๆ กัน เพราะการที่ฮาร์บิ้นมันเป็นเมืองเล็ก ๆ มั้ง เมืองแช่แข็งเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงเรื่องความหนาวเย็น จนน้ำมันแข็งนี้แหละ ทำให้คนอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง จะใครละก็ จขกท เองแหละ 5 5 55 เราไม่รู้เลยว่าไอ่โบสถ์ที่สวย ๆ นั้นมันเรียกว่าอะไร ถ้ามองจากห้องพักของเราจะเห็นเหมือนมันอยู่ใกล้นิดเดียว นั้นแหละจุดหมายแรกของเรา แต่ แต่ แต่ ที่ไหนได้ เราไปไม่ถูก ทำไมตอนดูจากบนห้องมันเหมือนอยู่ใกล้จุง ไม่ได้การละ ไอ่ลูกหมูพุ่งเข้าไปหาคนกวาดขยะอย่างเร็วไว แล้วถามว่า จะไป วิหารเซนต์โซเฟีย ไปไงอะ เห้ย คนกวาดขยะเข้าใจเฟ้ย ตอบกลับมาว่า อ๋อถ้าจะไปไอ่ ย่าย่า (ฟังไม่ทัน) นี่ก็เดินตรงไปเดี๋ยวก็เจอ สรุปเราต้องเดินย้อนกลับเพราะ เดินผิดทิศ แป่ว ๆ ๆ  (แต่ถ้าหากพักที่เดียวกับ จขกท คือเดินออกประตูมาแล้วเลี้ยวซ้ายออกไปเจอมุมตึกที่เราพักก็เลี้ยวซ้าย เจอไฟแดงเลี้ยวขวา เดินตรงไป 2 บล็อค เลี้ยวซ้าย นั้นแหละ ข้างหน้านั้นเลย ใกล้นิดเดียว )

นี่คือแผนการเที่ยวในตัวเมืองของเรา



วันหิมะตก กับไม่ตก
ชื่อสินค้า:   ฮาร์บิน ประเทศจีน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่