หวัดดีทู้กคน เราชื่อมุ้ยนะอยากจะมาเล่าประสบการณ์ที่ได้มาฮาร์บิ้นให้ทุกคนฟังกัน
ตอนนี้เราอยู่ที่ประเทศจีน เมืองฮาร์บิ้น เป็นที่ที่ใครก็อยากมาเรียนหรือมาเที่ยวกันเราเป็นคนนึงที่อยากมาเรียนที่นี่มากๆ เพราะเราอยากมาเห็นหิมะ อยากมาสัมผัสอากาศหนาวของเมืองนี้ว่าจะหนาวสักแค่ไหน หึๆ
นอกเรื่องมานานเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าทู้กคนนน
ทำไมถึงอยากมาเรียนที่ฮาร์บิ้น??
ทำไมเราถึงอยากมาเรียนที่ฮาร์บิ้นอ่ะหรอ
ตอนแรกอ่ะก็วางแผนไว้ก่อนปิดเทอมแล้วแหละว่าอยากมาเรียนที่นี่เพราะอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับตัวเองและคิดว่าปิดเทอมแล้วไม่มีอะไรทำก็อยากหนีร้อนมาหาเย็นบ้าง แต่พอคิดไปคิดมาดันติดสอบมาไม่ได้เลยต้องยกเลิกไปเลยจ้า ความคิดที่จะได้อยู่หนาวๆ ฮืออ ตอนนั้นก็คิดว่าก็ดีปิดเทอมจะได้อยู่กับแฟนบ้างไรบ้าง ไปก็คงคิดถึงนางไม่ไปก็ดีละ แต่พอวันนึงเปิดเฟสขึ้นมาดูเหมือนเจอสวรรค์อ่ะ เจอเพจอันนึงชื่อ studyinharbin เห็นรูปแล้วน่าเรียนมากเลยกดเข้าไปดูเลย รีบเข้าไปอ่านข้อมูลอย่างรวดเร็ว พออ่านปุ๊บไลน์ถามพี่ที่ดูแลทันที ไลน์ถามแม่ถามน้องส่งรายละเอียดให้เรียบร้อยเลยว่าอยากไป จะไปให้ได้ ไปของพี่เค้าราคาไม่แพงจริงๆ ดูแล้วราคาราวๆ30,000-40,000 บาท รวมค่าตั๋ว ค่าหอ ค่าเรียน ค่าวีซ่าอะไรเรียบร้อยแล้ว และยังมีคอร์สเรียนระยะยาวจะอยู่ที่ 7300 หยวน หรือ36,500 บาท ค่าหออีก 600 หยวน หรือ 3,000 บาท ถูกจริงๆ พอเห็นแล้วถามเรื่องเรียนเรื่องกินเรื่องอยู่ทุกอย่าง พอแม่กับน้องโอเครก็รีบตอบตกลงจะไปทันที พี่ที่ดูแลเรื่องการไปเรียนของเราดูแลดีจิงๆนะ ตอนเราจะไปทำเอกสารพี่เค้าให้คำปรึกษาทุกอย่างเลย. เวลามีปัญหาอะไรก็โทรหาพี่เค้าได้ตลอดเลย คุยตอนแรกแล้วรู้สึกว่าพี่เค้าเฟรนลี่มากๆ ปรึกษาพี่เค้าได้ทุกเรื่องจริงๆ เพจเฟสบุ๊คอันนี้ดีจริงๆนะ น้องๆสามารถเข้าไปดูได้เเลย เค้ามีข้อมูลบอกครบถ้วน จะมีค่าเงินบอกหมด น้องคำนวณเงินหยวนได้เลยว่าตรงกับที่บอกรึป่าวเรามีเวลาทำเอกสารทุกอย่างภายใน1 อาทิตย์ เป็นอะไรที่เครียดมาก เพราะเราลืมดูว่าพาสปอตจะหมดอายุแล้วเลยต้องไปทำใหม่ ตอนนั้นวุ่นมากกลัวจะทำวีซ่าไม่ทันแล้วอดไป แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี เราได้ไปจ้าาาา. พูดถึงตอนไปเลยละกันเนอะ
การเตรียมเอกสารที่จะออกต่างประเทศต้องเตรียมให้เรียบร้อย ที่ขาดไม่ได้คือพาสปอตและดูก่อนว่าพาสปอตหมดอายุตอนไหน พาสปอตจะอยู่ได้ 6 เดือนนับจากวันที่เรากลับ เราจะต้องเช็คให้ดีๆะอีกอย่างที่สำคัญก็คือวีซ่า ก่อนไปขอวีซ่าเราจะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมเลยนะ เพระถ้าเอกสารไม่ครบทางกงสุลเค้าจะไม่ให้ทำเลย จะให้มาทำในวันถัดไป เราก็จะเสียเวลาไป 1 วันเลย ถ้าไม่อยากไปกงสุลน้องๆก็สามารถจ้างทำได้นะ ค่าจ้างทำประมาณ500 บาท แล้วก็บวกค่าวีซ่ามาตรฐานที่ทางกงสุลตั้งไว้เลย น้องๆสามารถเข้าไปดูค่าวีซ่าได้ในเน็ตเลยนะ ตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อยก่อนยื่นเอกสารนะคะ และถ้าน้องๆที่ิอายุไม่ถึง18ปีจะต้องขอเอกสารยินยอมการออกนอกประเทศที่เขต จะต้องให้พ่อและแม่ไปขอนะ เค้าออกกฏใหม่ ถ้าไม่มีเอกสารนี้น้องจะออกนอกประเทศไม่ได้นะ และน้องๆคนไหนที่จะมาเรียนที่ฮาร์บิ้น จะต้องมีพื้นฐานหน่อยนะไม่งั้นเค้าเห็นว่าถ้าอายุน้อยเกินไปแล้วมากันเองเค้าจะถามเราเป็นภาษาจีน เค้าจะดูว่าเราสามารถพูดสื่อสารกับเค้ารู้เรื่องมั้ย ถ้าน้องๆกลัวที่จะหลงทางน้องจะต้องเตรียมหนังสือ
ค่าครองชีพของที่ฮาร์บิ้นจะสูงกว่าไทยไม่มาก น้ำจะขวดละประมาณ 1-2 หยวน 5-10 บาท ข้าวโรงอาหารจะจานละประมาณ 7-10 หยวน 35-50 บาท แล้วแต่เราจะกิน ในมหาลัยจะมีร้านอาหารตามสั่งให้เราเลือกกินราคาจะประมาณ 10-20 หยวน 50-100 บาท แต่ถ้าซื้อพวกข้าวของเครื่องใช้จะราคาแพงหน่อยต่างกันไม่เท่าไหร่ เวลาซื้อของที่จีนสามารถต่อราคาได้เยอะมาก ถ้าเห็นของ 30 หยวนสามารถต่อได้ให้เหลือ 20-15 หยวนได้ แต่น้องๆต้องดูสถานที่นะว่าที่ไหนต่อได้ที่ไหนต่อไม่ได้ ตามตลาดสามารถต่อได้เลย
การเตรียมตัวก่อนมาฮาร์บิ้นก่อนเลย การเตรียมตัวมาฮาร์บิ้นเราต้องเตรียมตัวกันเป็นอย่างดี ต้องตรวจเช็คร่างกายอย่างดี เพราะอากาศที่เมืองนี้หนาวมาก ติดลบถึง30ก็มีมาแล้ว เราต้องเตรียมเสื้อผ้าหนาๆอุ่นๆ ให้เหมาะกับสภาพอากาศ
ก่อนเดินทางคือบอกแฟนกับแม่ก่อนเลยว่าไปถึงอาจจะยังติดต่อไม่ได้นะ จะได้คุยอีกวันนึงเพราะยังไม่ได้ซิม จะได้อีกวันนึงเพราะเราไปถึงก็ดึกแล้ว แต่โชคดีที่ข้างห้องเค้ามีwifiให้ใช้ก่อนเลยติดต่อได้เดิน
วันเดินทางของเราจะต้องต่อเครื่อง 3 ต่อ นั่งกันตูดแฉะไปเลย5555 เราไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ นั่งไปลงฉางชา ประมาณ3ชั่วโมง แล้วก็ไปรอต่อเครื่องอีก 2 ชั่วโมง ตอนต่อเครื่องเราจะต้องออกมาจากเกตและขึ้นลิฟท์ไปเช็คอินใหม่อีกรอบ คนไม่รู้ต้องสังเกตป้ายดีๆว่าต้องไปยัง หรือถามพนักงานก็ได้นะ ถ้าพูดจีนไม่ได้สปีคอิ้งใส่ไปเลยจ้า อันนี้คนไม่รู้จะต้องดูดีๆนะว่าจะไปลงไหนก่อนเพราะบางคนจะนึกถึงฉางชาแล้วจะไปถึงสนามบินฮาร์บิ้นเลย แต่ตอนเราไปจะต้องไปลงสนามบินเทียนจินก่อนแล้วค่อยไปฮาร์บิ้น ตอนลงจะมีพนักงานมารอข้างหน้าแล้วถามว่าจะไปฮาร์บิ้นต่อมั้ยถ้าไปเค้าจะแจกใบแดงๆยาวๆ 1 ใบแล้วให้เรารอประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วเค้าจะเรียกขึ้นเครื่องอีกรอบ ลงเครื่องแล้วห้ามไปไหนนะต้องฟังเค้าเรียกดีๆ พอถึงเวลาเค้าก็เรียกขึ้นเครื่อง นั่งไปอีก 2 ชั่วโมง วันนั้นก็ได้กินข้าวบนเครื่องไป 3 มื้อเลยจ้า ถึงฮาร์บิ้นประมาณสองทุ่ม ก็จะมีพี่ที่ดูแลมารับที่สนามบินเลย นั่งรถไปมหาลัยประมาณ 45 นาที
แล้วเราก็เข้าไปดูหอพัก หอพักดีมากๆ มีข้าวของเครื่องใช้ครบหมด มีห้องครัวให้ทำกับข้าวกินเอง มีเครื่องซักผ้า ตู้กดน้ำร้อน รู้สึกสะดวกสบายมากๆ ตอนแรกคิดว่าหอจะมีแต่เพื่อนคนไทย แต่พอมาเจอเพื่อนต่างชาติ เยอะมากๆ มีหลายสัญชาติเลย มีทั้ง ไทย เกาหลี รัสเซีย อีกเยอะแยะที่มาเรียนที่นี่ รู้สึกทุกคนเฟรนลี่ดีด้วย

มหาลัยที่เรียนชื่อ 哈尔滨工业大学Harbin Institute of Technology

ห็นครั้งแรกรู้สึกว่าที่นี่ดีมากๆลงจากรถแล้วเจอของกินเต็มจ้างทางเลย มีห้างใกล้มหาลัยเต็มไปหมด สถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก เวลาเรียนเสร็จว่างๆก็สามารถไปเที่ยวห้างได้สบาย แต่ของที่นี่ราคาไม่ค่อยต่างจากไทยมา

ข้างๆมหาลัยก็จะมีร้านขายของชำ

ร้านอาหารเกาหลี พอเห็นร้านอาหารเกาหลีก็นึกถึงแฟนอีกแล้วเพราะแฟนชอบไปเกาหลี มีตั๋วถูกทีไรชวนไปตลอด5555 ร้านอาหารมีให้เลือกกินเยอะ เลือกไม่ถูก

หมูย่างเกาหลีที่นี่คืออร่อยมากจริงๆ มันนุ่มมากๆเลย

วันนี้แหละได้เวลาเรียนสักที ก่อนไปเรียนเราจะต้องไปสอบวัดระดับก่อนว่าจะได้เรียนห้องไหน เราสอบมาได้อยู่ห้องบี สำหรับคนที่มีพื้นฐานมาอยู่บ้างแล้ว สามารถพูดได้ เขียนได้ ฟังออกรู้เรื่อง แต่เราฟังได้บ้างแหล

เพื่อนต่างชาติเต็มไปหมด ทุกคนเป็นมิตรมาก เฟรนลี่กันทุกคน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เราเข้าไปเรียนวันแรกทุกคนก็ทักทายด้วยคำว่า 你好! 5555เราก็ขำ ก็มีคนเกาหลีเข้ามาถามว่าเพิ่งมาหรอ ชื่ออะไร เป็นคนประเทศอะไร

เราเลยถามแฟนว่าจะมาเรียนด้วยกันมั้ย เพราะดูนางชอบอะไรที่ดูเกาหลีๆ จะได้ให้มาคุยกันเลย ภาษาไปด้วยแต่นางไม่รู้ภาษาจีนเลย กลัวเรียนไม่ได้เลยไม่มา บอกจะมาตอนปลายเมษานี้ไม่รู้ว่ายังอยากจะมามั้ย อยากให้มา

ถ้าอยากมาหาเพื่อนต่างชาติ หาความรู้เรื่องภาษาจีน อยากได้สำเนียงของคนจีนแท้ต้องมาที่ฮาร์บิ้นเลย เค้าสอนการพูดได้ดีมาก คนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเลยก็สามารถมาได้เหมือนกันนะ

เวลาไปซื้อของก็ต้องต่อราคาของเอง ไม่รู้ทางก็ต้องถามเค้าเป็นภาษาจีน มาที่นี่เหมือนได้ฝึกอะไรเราหลายๆอย่าง มาก็เหมือนมาหาปนะสบการณ์ให้กับตัวเอง ที่ฮาร์บิ้นเป็นที่ที่คนอยากมามากๆ มีอะไรที่เราไม่รู้จักอีก

ต้องมาที่นี่ให้ได้เลยแล้วเราจะได้อะไรกลับไปเยอะแยะมากมาย ที่สำคัญได้ภาษาที่ดีกลับไปด้วย ถ้ามีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้งก็อยากจะพาแฟนาด้วย เพราะรู้สึกว่าได้มาเที่ยวกับแฟนแล้วมีความสุข

เราบอกคำเดียวเลยว่าอาหารที่นี่อร่ิอยทุกอย่าง มันอาจจะจืดไปสำหรับคนไทยนะแต่ต้องมาลองจริงๆ ใครไม่มาลองก็จะถือว่าพลาดมากๆเลยแหละจะบอกให้

อันนี้เป็นเห็ดนางฟ้าทอดกรอบ มีผงคล้ายๆผงปาปีก้าให้จิ้มด้วย เราไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรนะ แต่ก็อร่อยเหมือนกัน
ฮาร์บินไม่ได้ มีดีแค่หน้าหนาว
ตอนนี้เราอยู่ที่ประเทศจีน เมืองฮาร์บิ้น เป็นที่ที่ใครก็อยากมาเรียนหรือมาเที่ยวกันเราเป็นคนนึงที่อยากมาเรียนที่นี่มากๆ เพราะเราอยากมาเห็นหิมะ อยากมาสัมผัสอากาศหนาวของเมืองนี้ว่าจะหนาวสักแค่ไหน หึๆ
นอกเรื่องมานานเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าทู้กคนนน
ทำไมถึงอยากมาเรียนที่ฮาร์บิ้น??
ทำไมเราถึงอยากมาเรียนที่ฮาร์บิ้นอ่ะหรอ
ตอนแรกอ่ะก็วางแผนไว้ก่อนปิดเทอมแล้วแหละว่าอยากมาเรียนที่นี่เพราะอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับตัวเองและคิดว่าปิดเทอมแล้วไม่มีอะไรทำก็อยากหนีร้อนมาหาเย็นบ้าง แต่พอคิดไปคิดมาดันติดสอบมาไม่ได้เลยต้องยกเลิกไปเลยจ้า ความคิดที่จะได้อยู่หนาวๆ ฮืออ ตอนนั้นก็คิดว่าก็ดีปิดเทอมจะได้อยู่กับแฟนบ้างไรบ้าง ไปก็คงคิดถึงนางไม่ไปก็ดีละ แต่พอวันนึงเปิดเฟสขึ้นมาดูเหมือนเจอสวรรค์อ่ะ เจอเพจอันนึงชื่อ studyinharbin เห็นรูปแล้วน่าเรียนมากเลยกดเข้าไปดูเลย รีบเข้าไปอ่านข้อมูลอย่างรวดเร็ว พออ่านปุ๊บไลน์ถามพี่ที่ดูแลทันที ไลน์ถามแม่ถามน้องส่งรายละเอียดให้เรียบร้อยเลยว่าอยากไป จะไปให้ได้ ไปของพี่เค้าราคาไม่แพงจริงๆ ดูแล้วราคาราวๆ30,000-40,000 บาท รวมค่าตั๋ว ค่าหอ ค่าเรียน ค่าวีซ่าอะไรเรียบร้อยแล้ว และยังมีคอร์สเรียนระยะยาวจะอยู่ที่ 7300 หยวน หรือ36,500 บาท ค่าหออีก 600 หยวน หรือ 3,000 บาท ถูกจริงๆ พอเห็นแล้วถามเรื่องเรียนเรื่องกินเรื่องอยู่ทุกอย่าง พอแม่กับน้องโอเครก็รีบตอบตกลงจะไปทันที พี่ที่ดูแลเรื่องการไปเรียนของเราดูแลดีจิงๆนะ ตอนเราจะไปทำเอกสารพี่เค้าให้คำปรึกษาทุกอย่างเลย. เวลามีปัญหาอะไรก็โทรหาพี่เค้าได้ตลอดเลย คุยตอนแรกแล้วรู้สึกว่าพี่เค้าเฟรนลี่มากๆ ปรึกษาพี่เค้าได้ทุกเรื่องจริงๆ เพจเฟสบุ๊คอันนี้ดีจริงๆนะ น้องๆสามารถเข้าไปดูได้เเลย เค้ามีข้อมูลบอกครบถ้วน จะมีค่าเงินบอกหมด น้องคำนวณเงินหยวนได้เลยว่าตรงกับที่บอกรึป่าวเรามีเวลาทำเอกสารทุกอย่างภายใน1 อาทิตย์ เป็นอะไรที่เครียดมาก เพราะเราลืมดูว่าพาสปอตจะหมดอายุแล้วเลยต้องไปทำใหม่ ตอนนั้นวุ่นมากกลัวจะทำวีซ่าไม่ทันแล้วอดไป แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี เราได้ไปจ้าาาา. พูดถึงตอนไปเลยละกันเนอะ
การเตรียมเอกสารที่จะออกต่างประเทศต้องเตรียมให้เรียบร้อย ที่ขาดไม่ได้คือพาสปอตและดูก่อนว่าพาสปอตหมดอายุตอนไหน พาสปอตจะอยู่ได้ 6 เดือนนับจากวันที่เรากลับ เราจะต้องเช็คให้ดีๆะอีกอย่างที่สำคัญก็คือวีซ่า ก่อนไปขอวีซ่าเราจะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมเลยนะ เพระถ้าเอกสารไม่ครบทางกงสุลเค้าจะไม่ให้ทำเลย จะให้มาทำในวันถัดไป เราก็จะเสียเวลาไป 1 วันเลย ถ้าไม่อยากไปกงสุลน้องๆก็สามารถจ้างทำได้นะ ค่าจ้างทำประมาณ500 บาท แล้วก็บวกค่าวีซ่ามาตรฐานที่ทางกงสุลตั้งไว้เลย น้องๆสามารถเข้าไปดูค่าวีซ่าได้ในเน็ตเลยนะ ตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อยก่อนยื่นเอกสารนะคะ และถ้าน้องๆที่ิอายุไม่ถึง18ปีจะต้องขอเอกสารยินยอมการออกนอกประเทศที่เขต จะต้องให้พ่อและแม่ไปขอนะ เค้าออกกฏใหม่ ถ้าไม่มีเอกสารนี้น้องจะออกนอกประเทศไม่ได้นะ และน้องๆคนไหนที่จะมาเรียนที่ฮาร์บิ้น จะต้องมีพื้นฐานหน่อยนะไม่งั้นเค้าเห็นว่าถ้าอายุน้อยเกินไปแล้วมากันเองเค้าจะถามเราเป็นภาษาจีน เค้าจะดูว่าเราสามารถพูดสื่อสารกับเค้ารู้เรื่องมั้ย ถ้าน้องๆกลัวที่จะหลงทางน้องจะต้องเตรียมหนังสือ
ค่าครองชีพของที่ฮาร์บิ้นจะสูงกว่าไทยไม่มาก น้ำจะขวดละประมาณ 1-2 หยวน 5-10 บาท ข้าวโรงอาหารจะจานละประมาณ 7-10 หยวน 35-50 บาท แล้วแต่เราจะกิน ในมหาลัยจะมีร้านอาหารตามสั่งให้เราเลือกกินราคาจะประมาณ 10-20 หยวน 50-100 บาท แต่ถ้าซื้อพวกข้าวของเครื่องใช้จะราคาแพงหน่อยต่างกันไม่เท่าไหร่ เวลาซื้อของที่จีนสามารถต่อราคาได้เยอะมาก ถ้าเห็นของ 30 หยวนสามารถต่อได้ให้เหลือ 20-15 หยวนได้ แต่น้องๆต้องดูสถานที่นะว่าที่ไหนต่อได้ที่ไหนต่อไม่ได้ ตามตลาดสามารถต่อได้เลย
การเตรียมตัวก่อนมาฮาร์บิ้นก่อนเลย การเตรียมตัวมาฮาร์บิ้นเราต้องเตรียมตัวกันเป็นอย่างดี ต้องตรวจเช็คร่างกายอย่างดี เพราะอากาศที่เมืองนี้หนาวมาก ติดลบถึง30ก็มีมาแล้ว เราต้องเตรียมเสื้อผ้าหนาๆอุ่นๆ ให้เหมาะกับสภาพอากาศ
ก่อนเดินทางคือบอกแฟนกับแม่ก่อนเลยว่าไปถึงอาจจะยังติดต่อไม่ได้นะ จะได้คุยอีกวันนึงเพราะยังไม่ได้ซิม จะได้อีกวันนึงเพราะเราไปถึงก็ดึกแล้ว แต่โชคดีที่ข้างห้องเค้ามีwifiให้ใช้ก่อนเลยติดต่อได้เดิน
วันเดินทางของเราจะต้องต่อเครื่อง 3 ต่อ นั่งกันตูดแฉะไปเลย5555 เราไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ นั่งไปลงฉางชา ประมาณ3ชั่วโมง แล้วก็ไปรอต่อเครื่องอีก 2 ชั่วโมง ตอนต่อเครื่องเราจะต้องออกมาจากเกตและขึ้นลิฟท์ไปเช็คอินใหม่อีกรอบ คนไม่รู้ต้องสังเกตป้ายดีๆว่าต้องไปยัง หรือถามพนักงานก็ได้นะ ถ้าพูดจีนไม่ได้สปีคอิ้งใส่ไปเลยจ้า อันนี้คนไม่รู้จะต้องดูดีๆนะว่าจะไปลงไหนก่อนเพราะบางคนจะนึกถึงฉางชาแล้วจะไปถึงสนามบินฮาร์บิ้นเลย แต่ตอนเราไปจะต้องไปลงสนามบินเทียนจินก่อนแล้วค่อยไปฮาร์บิ้น ตอนลงจะมีพนักงานมารอข้างหน้าแล้วถามว่าจะไปฮาร์บิ้นต่อมั้ยถ้าไปเค้าจะแจกใบแดงๆยาวๆ 1 ใบแล้วให้เรารอประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วเค้าจะเรียกขึ้นเครื่องอีกรอบ ลงเครื่องแล้วห้ามไปไหนนะต้องฟังเค้าเรียกดีๆ พอถึงเวลาเค้าก็เรียกขึ้นเครื่อง นั่งไปอีก 2 ชั่วโมง วันนั้นก็ได้กินข้าวบนเครื่องไป 3 มื้อเลยจ้า ถึงฮาร์บิ้นประมาณสองทุ่ม ก็จะมีพี่ที่ดูแลมารับที่สนามบินเลย นั่งรถไปมหาลัยประมาณ 45 นาที
แล้วเราก็เข้าไปดูหอพัก หอพักดีมากๆ มีข้าวของเครื่องใช้ครบหมด มีห้องครัวให้ทำกับข้าวกินเอง มีเครื่องซักผ้า ตู้กดน้ำร้อน รู้สึกสะดวกสบายมากๆ ตอนแรกคิดว่าหอจะมีแต่เพื่อนคนไทย แต่พอมาเจอเพื่อนต่างชาติ เยอะมากๆ มีหลายสัญชาติเลย มีทั้ง ไทย เกาหลี รัสเซีย อีกเยอะแยะที่มาเรียนที่นี่ รู้สึกทุกคนเฟรนลี่ดีด้วย
มหาลัยที่เรียนชื่อ 哈尔滨工业大学Harbin Institute of Technology
ห็นครั้งแรกรู้สึกว่าที่นี่ดีมากๆลงจากรถแล้วเจอของกินเต็มจ้างทางเลย มีห้างใกล้มหาลัยเต็มไปหมด สถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก เวลาเรียนเสร็จว่างๆก็สามารถไปเที่ยวห้างได้สบาย แต่ของที่นี่ราคาไม่ค่อยต่างจากไทยมา
ข้างๆมหาลัยก็จะมีร้านขายของชำ
ร้านอาหารเกาหลี พอเห็นร้านอาหารเกาหลีก็นึกถึงแฟนอีกแล้วเพราะแฟนชอบไปเกาหลี มีตั๋วถูกทีไรชวนไปตลอด5555 ร้านอาหารมีให้เลือกกินเยอะ เลือกไม่ถูก
หมูย่างเกาหลีที่นี่คืออร่อยมากจริงๆ มันนุ่มมากๆเลย
วันนี้แหละได้เวลาเรียนสักที ก่อนไปเรียนเราจะต้องไปสอบวัดระดับก่อนว่าจะได้เรียนห้องไหน เราสอบมาได้อยู่ห้องบี สำหรับคนที่มีพื้นฐานมาอยู่บ้างแล้ว สามารถพูดได้ เขียนได้ ฟังออกรู้เรื่อง แต่เราฟังได้บ้างแหล
เพื่อนต่างชาติเต็มไปหมด ทุกคนเป็นมิตรมาก เฟรนลี่กันทุกคน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เราเข้าไปเรียนวันแรกทุกคนก็ทักทายด้วยคำว่า 你好! 5555เราก็ขำ ก็มีคนเกาหลีเข้ามาถามว่าเพิ่งมาหรอ ชื่ออะไร เป็นคนประเทศอะไร
เราเลยถามแฟนว่าจะมาเรียนด้วยกันมั้ย เพราะดูนางชอบอะไรที่ดูเกาหลีๆ จะได้ให้มาคุยกันเลย ภาษาไปด้วยแต่นางไม่รู้ภาษาจีนเลย กลัวเรียนไม่ได้เลยไม่มา บอกจะมาตอนปลายเมษานี้ไม่รู้ว่ายังอยากจะมามั้ย อยากให้มา
ถ้าอยากมาหาเพื่อนต่างชาติ หาความรู้เรื่องภาษาจีน อยากได้สำเนียงของคนจีนแท้ต้องมาที่ฮาร์บิ้นเลย เค้าสอนการพูดได้ดีมาก คนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเลยก็สามารถมาได้เหมือนกันนะ
เวลาไปซื้อของก็ต้องต่อราคาของเอง ไม่รู้ทางก็ต้องถามเค้าเป็นภาษาจีน มาที่นี่เหมือนได้ฝึกอะไรเราหลายๆอย่าง มาก็เหมือนมาหาปนะสบการณ์ให้กับตัวเอง ที่ฮาร์บิ้นเป็นที่ที่คนอยากมามากๆ มีอะไรที่เราไม่รู้จักอีก
ต้องมาที่นี่ให้ได้เลยแล้วเราจะได้อะไรกลับไปเยอะแยะมากมาย ที่สำคัญได้ภาษาที่ดีกลับไปด้วย ถ้ามีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้งก็อยากจะพาแฟนาด้วย เพราะรู้สึกว่าได้มาเที่ยวกับแฟนแล้วมีความสุข
เราบอกคำเดียวเลยว่าอาหารที่นี่อร่ิอยทุกอย่าง มันอาจจะจืดไปสำหรับคนไทยนะแต่ต้องมาลองจริงๆ ใครไม่มาลองก็จะถือว่าพลาดมากๆเลยแหละจะบอกให้
อันนี้เป็นเห็ดนางฟ้าทอดกรอบ มีผงคล้ายๆผงปาปีก้าให้จิ้มด้วย เราไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรนะ แต่ก็อร่อยเหมือนกัน