ความเดิมตอนที่แล้ว
http://pantip.com/topic/34696042
================
โรค......ล้างโลก
บทที่ 4
===============
ผมใช้เวลาเดินทางไม่นานนักก็มาถึงจุดหมาย
สถานีโทรทัศน์ต้องสงสัยผู้คนปรากฏให้เห็นค่อนข้างน้อย แม้แต่เจ้าหน้าที่หรือยามรักษาการณ์ก็มีจำนวนไม่มาก แต่ละคนหน้าตาไม่หล่อไม่สวยทั้งนั้น ผมแอบเห็นบางคนใส่หน้ากากอุลตร้าแมนหรือหน้ากากกาโม่เดินตรวจอยู่ไปมา พวกนี้มันต้องใส่หน้าการกลบเกลื่อนบิดบังความหล่ออย่างแน่นอน ชักมีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว ความคิดนั้นยิ่งทำให้อยากเข้าไปสำรวจดูจนตัวสั่น
สถานีโทรทัศน์แห่งนี้ประกอบด้วยอาคารสามชั้น ขนาดไม่ใหญ่ไม่โตอย่างที่คาดคิดเอาไว้ คงจะเนื่องมาจากสภาพทางการเงินที่ขาดความคล่องตัว จนทำให้ต้องเฉือนตัวอาคารส่วนใหญ่ออกไปขายทอดตลาดหาเงินทุนหมุนเวียน
ผมซ่อนจักรยานยนต์ไว้มุมตึกใกล้กับทางเข้า หลังจากด้อมๆ มองๆ พักหนึ่ง ก็ตัดสินใจเดินเข้าไปแบบหน้าตาเฉยเพื่อทำตัวให้มีพิรุธน้อยที่สุด
ยามรักษาการณ์สองคนปรี่เข้าหาทันที แต่ละคนหน้าตาเหมือนโจรไม่มีผิด
“จะไปไหน”
ยามคนหนึ่งถามห้วนๆ มือข้างหนึ่งแตะอยู่ด้ามปืนห้อยเอวพกหราแบบมือปืนคาวบอยตะวันตกอยู่อย่างไม่เกรงใจใครซึ่งผิดวิสัยของยามรักษาการณ์ทั่วไปที่มักพกไฟฉายหรือไม้ตะบองเป็นอย่างมาก
“สวัสดีครับพี่” ผมยกมือไหว้ยามทั้งสองอย่างสุภาพเรียบร้อย แต่ไม่ดูดีเกินกว่าเหตุ
“ผมว่างก็อยากมาเดินดูเขาถ่ายละครทีวีครับ แหม..หน้าตาอย่างพวกพี่สองคนน่าจะไปเป็นพระเอกละครนะครับ ไม่หล่อและอุบาทว์ขนาดนี้ อนาคตรุ่งแน่”
ทั้งสองยิ้มแก้มปริทันทีเมื่อโดนชมระยะเผาขน คนหนึ่งหัวเราะอย่างถูกใจ ตบบ่าผมแรงๆ พลางพูดว่า
“ของมันไม่แน่ ไอ้น้องชาย... ไว้ให้ทุกอย่างเรียบร้อยเสียก่อน พวกเราจะเป็นพระเอกให้ดู แหม...พวกพระเอกในหนังเก่าๆ หล่อเสียจนคลื่นไส้ ไม่ไหวเลย มันต้องหน้าตาแบบพี่นี่ล่ะไอ้น้อง”
“ใช่ๆ...พวกหล่อๆ เห็นแล้วจะอ้วกแตกด้วยความหล่อ”
ยามอีกคนพลอยฟ้าพลอยฝนเห็นด้วย ผมมองหน้ายามทั้งสองแล้วยิ้ม ก่อนทำเป็นเอียงคอเข้าหากระซิบกระซาบด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับกำความลับของโลกเอาไว้
“นี่ๆ...อยากดูอะไรเจ๋งๆ ไหม จะให้พวกพี่ดู รับรองถูกใจแน่นอน”
“อะไรวะ” ทั้งสองตาโตด้วยความสงสัย คนแบบนี้จัดการได้ไม่ยาก ผมนึกในใจ ขณะดึงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างระมัดระวัง
มันเป็นมรดกซึ่งเพื่อนคนหนึ่งให้มาหลายปีแล้ว แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน แต่ยังมีคุณภาพคับกระเป๋า
พอยามสองคนก้มหน้าลงมองด้วยความสนใจผมก็เอาสิ่งนั้นยื่นให้พวกเขาดูเต็มตา
“อ้ากซ์....”
“โอย....”
ทันทีที่มองเห็นสิ่งของปริศนา ยามทั้งสองก็ใบหน้าบิดเบี้ยวแผดร้องโหยหวนผงะหงายหลังออกไปพร้อมกับอาการสั่นกระตุกอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้ออย่างไม่อาจควบคุมได้ ร่างหมุนคว้างราวกังหันต้องลม ยามคนหนึ่งหัวทิ่มลงกะถางดอกไม้ก่อนชักกระตุกไม่ขาดระยะ อีกคนหันหลังวิ่งโซเซไปสามสี่ก้าวก่อนเข่าอ่อนทรุดลงอาเจียนออกมาไม่หยุดยั้ง
พวกเขาเป็นโรคแพ้ความสวย... สิ่งที่ผมให้ดูคือหนังสือมีภาพหน้าปกเป็นภาพโป้ของผู้หญิงใบหน้าหวานปานน้ำผึ้งติดตราตรึงใจไม่รู้วันรู้คืนวางท่าสุดยั่วยวนกวนใจสุดสยิว เรือนร่างขาวโพลนเนียนนวลราบรื่นปราศจากอาภรณ์พัวพันกายแม้แต่ชิ้นเดียว เน้นส่วนโค้งส่วนเว้าตวัดเส้นสายสวยงามราวการสะบัดปลายพู่กันของจิตรกรมือหนึ่ง หน้าตาระดับนางเอกสัญลักษณ์แห่งพลังการขับเคลื่อนทางเพศของหนังสมัยโรคร้ายยังไม่ทันระบาด
แบบนี้จะเหลืออะไร....ยามสองคนเห็นเต็มตาขนาดนั้น ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะ
สื่อลามกหลากชนิดในบ้านในเมืองหาซื้อได้ง่ายมาก แค่เดินไปตามแหล่งขายหนังสือ หรือศูนย์รวมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในห้างใหญ่ ไม่นานก็จะมีพ่อค้ามืดมาดักหน้าดักหลัง “พี่ๆๆ โป้ไหมพี่ อายุ 12 เอง เอาป่ะ เล่มละ 20 แผ่นละ 100 ซื้อ สามแถมหนึ่ง ชอบแบบไหนบอกมา เดี๋ยวน้องจัดให้” อะไรประมาณนี้
ฉะนั้นถ้าท่านมาอยู่บ้านเมืองของผม ถ้ามีคนคนไหนบอกว่าจะปราบปรามสื่อลามกให้หายลับสาบสูญ คนที่นี่จะมองเป็นเรื่องตลกโจ๊กสภา หัวเราะกันจนเป็นบ้าไปข้างหนึ่งเลย ถ้าบอกว่าลิงออกลูกเป็นควาย ยังจะมีคนเชื่อมากกว่า
ผมวิ่งเข้าไปตามทางเดินมุ่งหน้าสู่ตึกด้านใน เสียงร้องเอะอะดังตามหลังมา ผมยิ้มในใจเพราะเตรียมแผนไว้รับมืออยู่แล้ว ใช้มือฉีกหนังสือทีละแผ่น ซึ่งแต่ละแผ่นล้วนมีรูปนวลนางในอ่างน้ำ หรือนุ่งลมห่มฟ้าท้าลมหนาว ทิ้งให้ภาพเหล่านั้นปลิวกระจัดกระจายรายเรียงไปตามทางเดิน
“นี่มันอะไร...”
“อย่าหยิบขึ้นมาดู อันตราย”
“โอ้ย...”
ได้ผลเกินคาด มีเสียงแผดร้องเจ็บปวดทรมานระงม พวกเจ้าบรรดาหน้าที่วิ่งตามมาคงจะคว้ากระดาษภาพวาบหวิวเหล่านั้นขึ้นดูอย่างบังเอิญหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นึกภาพพวกคนเคราะห์ร้ายเพราะแพ้ความสวยเหล่านั้นแล้วให้สมน้ำหน้าพวกมัน!....ภาพร้ายต้องตามหลอนสยองไปอีกนาน ทำให้การมุ่งหน้าไปสู่ด้านในของตัวตึกเป็นไปอย่างง่ายดายเพราะหนังสือหวิวเล่มเดียวแท้ๆ
ในขณะเผ่นขึ้นไปชั้นที่สองซึ่งคาดว่าอาจเป็นที่ตั้งของห้องส่ง เจ้าหน้าที่หลายคนพยายามเข้ามาขวางทาง แต่พอภาพหน้าปกหนังสือภาพโป้สยิวยกขึ้นโชว์ให้ดูแบบจะๆ คนพวกนั้นก็เผ่นกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางแบบคนสติแตก บางคนหนีไม่ทันก็ตาเหลือกตาค้างน้ำลายฟูมปากดิ้นชักกระตุกอยู่กับพื้น บางคนมองด้วยหางตาก่อนยอมพุ่งตัวทะลุกระจกหนีสุดชีวิตลงไปด้านล่างแบบลืมตาย
“เอ้ย...มีไอ้บ้าบุกเข้ามาในสถานี พวกเราหยุดมันเอาไว้ ผู้ต้องสงสัยมีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขอย้ำ...ผู้ต้องสงสัยมีอาวุธร้ายแรง”
เสียงประกาศดังก้องไปทั่วหมู่ตึก พวกมันรู้ตัวแล้ว
เสียงฝีเท้าวิ่งมาตามทางเดินด้านหน้าและด้านหลัง บางคนถือปืนมาด้วย แต่ยังไม่กล้ายิงคงเป็นเพราะเกรงว่ากระสุนจะไปโดนพวกเดียวกัน บางคนวิ่งพลางปิดตาพลางเพราะความเกรงกลัวอาวุธร้ายแรง สายตาผมมองเห็นห้องข้างด้านเปิดประตูแง้มอยู่ จึงไม่รีรอในการเปิดประตูกระโจนเข้าไปและจัดการล็อคประตูเรียบร้อยโดยเร็ว ไม่ลืมทิ้งโปสเตอร์ภาพสาวโป้เปลือยไว้หน้าห้องสองสามแผ่น เท่านี้ก็คงหยุดคนภายนอกได้ระยะหนึ่ง เพราะเสียงพวกเจ้าหน้าที่ร้องบอกต่อกันไปนอกห้องด้วยความระมัดระวังอันตายสุดแสน
“ระวังอย่าเข้าใกล้วัตถุต้องสงสัย ท่าทางมีอันตรายมาก อย่าเข้าใกล้อย่ามอง”
“หน่วยเก็บกู้วัตถุอันตรายอยู่ไหน รีบมาด่วน”
ส่วนภายในห้องเจ้าหน้าวัยกลางคนผู้กำลังง่วนอยู่กับอุปกรณ์พวกแผงไฟส่องเวทีหรืออะไรสักอย่างหันมามองอย่างตกใจเมื่อเห็นคนแปลกหน้าโผล่พรวดพรวดเข้ามาแบบกะทันหัน เขาทำท่าจะวิ่งหนีแต่ผมกระโดดกระชากแขนบิดไพล่หลังไว้อย่างรวดเร็ว
“ห้องควบคุมการส่งสัญญาณอยู่ที่ไหน”
ผมตะคอกข้างหู ขณะเหวี่ยงร่างของเจ้าหน้าที่ดวงซวยคว่ำลงกับพื้นแล้วเปลี่ยนมาเป็นท่าล็อคขาซึ่งจำมาจากรายการมวยปล้ำทางทีวี
“อ๊าก.......ผมไม่รู้...”
ร้องปฏิเสธเสียงลั่น พยายามตะเกียกตะกายหนีไปจับเชือก แต่ไม่มีทางรอด และแถวนี้ไม่มีเชือกและไม่มีกรรมการมาบอกแยก
“ปากแข็งใช่ไหม งั้นเจอนี่.....”
จัดการลากตัวออกมากลางห้อง พลิกตัวเปลี่ยนเป็นทางล็อคแบบ แองเกิ้ล ล็อค กะจะหักขาหมอนี้ให้หักเป็นท่อนถ้ายังปากแข็ง แต่ชายคนนี้ใจแข็งกว่าที่คิด
“อ๊าก.......ผมไม่รู้...ถึงรู้ผมก็ไม่มีวันบอกคุณหรอก ”
ไอ้หมอนี่ปากแข็งเกินไปเสียแล้ว เขาทนต่อท่าไม้ตายของยอดนักมวยปล้ำระดับโลกได้ขนาดนี้ ช่างมีวิญญาณและสามัญสำนึกต่อหน้าที่จริงๆ และท่าทางต่อให้แขนขาโดนหักทิ้งคงไม่ยอมพูดอะไรแน่ แบบนี้ต้องเจอไม้ตายสุภาพโหด ผมผละออกมายิ้มมุมปากก่อนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
“ถ้าไม่บอก ผมจะเอาภาพสาวสวยโป้ ทากาวแห้งเร็ว แล้วแปะติดหน้าผากคุณ”
ขู่พลางแกว่งภาพโป้ใบหนึ่งไปมาตรงหน้า เท่านั้นเอง เจ้าหน้าที่เคราะห์ร้ายก็ร้องสุดเสียงจนก้องไปทั่วตึกตาเหลือกตาค้างละล่ำละลักบอก
“โอ้ย...อย่า....ยอมแล้ว...ยอมแพ้แล้ว คุณเดินขึ้นทางเดินด้านข้างจะทะลุขึ้นไปชั้นสามแล้วมีตาก็มองหาเอง โอย........อยากดูแต่ดูไม่ได้..อ๊ากซซซซซ์....”
“หึหึ...เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง”
ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เคราะห์ร้ายซึ่งตอนนี้น้ำลายฟูมปากหมดสภาพไปชั่วคราว หันไปมองทางเดินเล็กๆ แต่ก็ชะงักเมื่อมองเห็นกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งอยู่บริเวณทางขึ้น ผมยิ้มในใจ รู้ว่าพวกคนข้างนอกกำลังสังเกตความเคลื่อนไหวของผมอยู่ กล้องวงจรปิดนี่ล่ะจะเป็นอาวุธร้ายแรงย้อนกลับไปจัดการกับพวกนั้น ผมทำเป็นเดินไม่รู้ไม่ชี้จนเข้าไปใกล้ และเอาภาพหน้าปกหนังสือวาบหวิว กางเต็มหน้ากล้อง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพนั้นจะถูกส่งกระจายไปทั่วตึกและสร้างความโกลาหลอลหม่านเพียงใด ไอ้พวกที่กำลังติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ป่านนี้คงชักตาตั้งน้ำลายฟูมปากกันไปแล้ว เพราะสองหูยังได้ยินเสียงร้องระงมดังแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะผมอาศัยจังหวะนั้นเดินไปตามเส้นทางลัดตัดตรงขึ้นไปยังชั้นสามทันที
พอขึ้นไปถึงชั้นที่สามร่างทะมึนของใครคนหนึ่งก็โผล่วูบมาขวางทางออกราวกับวิญญาณร้าย ด้วยสัญชาตญาณผมตวัดมือวูบหนึ่ง ภาพโป้หน้าแรกก็พุ่งวูบไปอย่างรวดเร็วดุดัน
แควกๆๆๆ!!
เสียงเสียดประสาทดังขึ้นถี่ยิบ กระดาษหนังสือภาพโป้พลันกระจัดกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเวียนว่อน ระหว่างใบหน้าอวบอูมผู้กำลังแสยะยิ้มอยู่ด้านหลัง ผมใจหายวาบ
นั่นเป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงร่างยักษ์อ้วนใหญ่ อาวุธร้ายแรงไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย
ใช่แล้ว... เรื่องง่ายๆ แค่นี้ ทำไมถึงนึกไม่ออกนะ.... ภาพสาวสวยวาบหวามบนกระดาษมันจะมีผลรุนแรงกับเพศตรงข้ามเท่านั้น ถ้าโรคนี้มีผลต่อเพศเดียวกันสถานการณ์คงย่ำแย่ไปกว่านี้มากมาย
ผมพยายามควานมือในกระเปาหาภาพผู้ชายหล่อแต่มือใหญ่กางคว้าวูบมาราวกับจะตะครุบคอหอยและบีบให้ละเอียด ผมเบี่ยงตัวหลบ รู้สึกลมพัดผ่านใบหูไปในระยะหวุดหวิดหวาดเสียวที่สุด
ผมพลิกตัวหันขวับ ยื่นหน้าไป ทำหน้าหล่อใสหนึ่งที
แต่ไม้ตายเคยจัดการตำรวจได้กลับไร้สมรรถภาพอย่างสิ้นเชิงกับหญิงร่างยักษ์คนนี้ กระทั่งหนังตายังไม่กระพริบ แถมยังเดินทื่อเข้ามาราวปีศาจร้าย ผมถอยหลังกรูดพยายามทำหน้าหล่อถี่ยิบราวปืนกลเข้าใส่หล่อนอย่างไม่คิดชีวิต
ไร้ผล....นี่มันอะไรกัน!
...........
โรค......ล้างโลก บทที่ 4
http://pantip.com/topic/34696042
================
โรค......ล้างโลก
บทที่ 4
===============
ผมใช้เวลาเดินทางไม่นานนักก็มาถึงจุดหมาย
สถานีโทรทัศน์ต้องสงสัยผู้คนปรากฏให้เห็นค่อนข้างน้อย แม้แต่เจ้าหน้าที่หรือยามรักษาการณ์ก็มีจำนวนไม่มาก แต่ละคนหน้าตาไม่หล่อไม่สวยทั้งนั้น ผมแอบเห็นบางคนใส่หน้ากากอุลตร้าแมนหรือหน้ากากกาโม่เดินตรวจอยู่ไปมา พวกนี้มันต้องใส่หน้าการกลบเกลื่อนบิดบังความหล่ออย่างแน่นอน ชักมีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว ความคิดนั้นยิ่งทำให้อยากเข้าไปสำรวจดูจนตัวสั่น
สถานีโทรทัศน์แห่งนี้ประกอบด้วยอาคารสามชั้น ขนาดไม่ใหญ่ไม่โตอย่างที่คาดคิดเอาไว้ คงจะเนื่องมาจากสภาพทางการเงินที่ขาดความคล่องตัว จนทำให้ต้องเฉือนตัวอาคารส่วนใหญ่ออกไปขายทอดตลาดหาเงินทุนหมุนเวียน
ผมซ่อนจักรยานยนต์ไว้มุมตึกใกล้กับทางเข้า หลังจากด้อมๆ มองๆ พักหนึ่ง ก็ตัดสินใจเดินเข้าไปแบบหน้าตาเฉยเพื่อทำตัวให้มีพิรุธน้อยที่สุด
ยามรักษาการณ์สองคนปรี่เข้าหาทันที แต่ละคนหน้าตาเหมือนโจรไม่มีผิด
“จะไปไหน”
ยามคนหนึ่งถามห้วนๆ มือข้างหนึ่งแตะอยู่ด้ามปืนห้อยเอวพกหราแบบมือปืนคาวบอยตะวันตกอยู่อย่างไม่เกรงใจใครซึ่งผิดวิสัยของยามรักษาการณ์ทั่วไปที่มักพกไฟฉายหรือไม้ตะบองเป็นอย่างมาก
“สวัสดีครับพี่” ผมยกมือไหว้ยามทั้งสองอย่างสุภาพเรียบร้อย แต่ไม่ดูดีเกินกว่าเหตุ
“ผมว่างก็อยากมาเดินดูเขาถ่ายละครทีวีครับ แหม..หน้าตาอย่างพวกพี่สองคนน่าจะไปเป็นพระเอกละครนะครับ ไม่หล่อและอุบาทว์ขนาดนี้ อนาคตรุ่งแน่”
ทั้งสองยิ้มแก้มปริทันทีเมื่อโดนชมระยะเผาขน คนหนึ่งหัวเราะอย่างถูกใจ ตบบ่าผมแรงๆ พลางพูดว่า
“ของมันไม่แน่ ไอ้น้องชาย... ไว้ให้ทุกอย่างเรียบร้อยเสียก่อน พวกเราจะเป็นพระเอกให้ดู แหม...พวกพระเอกในหนังเก่าๆ หล่อเสียจนคลื่นไส้ ไม่ไหวเลย มันต้องหน้าตาแบบพี่นี่ล่ะไอ้น้อง”
“ใช่ๆ...พวกหล่อๆ เห็นแล้วจะอ้วกแตกด้วยความหล่อ”
ยามอีกคนพลอยฟ้าพลอยฝนเห็นด้วย ผมมองหน้ายามทั้งสองแล้วยิ้ม ก่อนทำเป็นเอียงคอเข้าหากระซิบกระซาบด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับกำความลับของโลกเอาไว้
“นี่ๆ...อยากดูอะไรเจ๋งๆ ไหม จะให้พวกพี่ดู รับรองถูกใจแน่นอน”
“อะไรวะ” ทั้งสองตาโตด้วยความสงสัย คนแบบนี้จัดการได้ไม่ยาก ผมนึกในใจ ขณะดึงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างระมัดระวัง
มันเป็นมรดกซึ่งเพื่อนคนหนึ่งให้มาหลายปีแล้ว แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน แต่ยังมีคุณภาพคับกระเป๋า
พอยามสองคนก้มหน้าลงมองด้วยความสนใจผมก็เอาสิ่งนั้นยื่นให้พวกเขาดูเต็มตา
“อ้ากซ์....”
“โอย....”
ทันทีที่มองเห็นสิ่งของปริศนา ยามทั้งสองก็ใบหน้าบิดเบี้ยวแผดร้องโหยหวนผงะหงายหลังออกไปพร้อมกับอาการสั่นกระตุกอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้ออย่างไม่อาจควบคุมได้ ร่างหมุนคว้างราวกังหันต้องลม ยามคนหนึ่งหัวทิ่มลงกะถางดอกไม้ก่อนชักกระตุกไม่ขาดระยะ อีกคนหันหลังวิ่งโซเซไปสามสี่ก้าวก่อนเข่าอ่อนทรุดลงอาเจียนออกมาไม่หยุดยั้ง
พวกเขาเป็นโรคแพ้ความสวย... สิ่งที่ผมให้ดูคือหนังสือมีภาพหน้าปกเป็นภาพโป้ของผู้หญิงใบหน้าหวานปานน้ำผึ้งติดตราตรึงใจไม่รู้วันรู้คืนวางท่าสุดยั่วยวนกวนใจสุดสยิว เรือนร่างขาวโพลนเนียนนวลราบรื่นปราศจากอาภรณ์พัวพันกายแม้แต่ชิ้นเดียว เน้นส่วนโค้งส่วนเว้าตวัดเส้นสายสวยงามราวการสะบัดปลายพู่กันของจิตรกรมือหนึ่ง หน้าตาระดับนางเอกสัญลักษณ์แห่งพลังการขับเคลื่อนทางเพศของหนังสมัยโรคร้ายยังไม่ทันระบาด
แบบนี้จะเหลืออะไร....ยามสองคนเห็นเต็มตาขนาดนั้น ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะ
สื่อลามกหลากชนิดในบ้านในเมืองหาซื้อได้ง่ายมาก แค่เดินไปตามแหล่งขายหนังสือ หรือศูนย์รวมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในห้างใหญ่ ไม่นานก็จะมีพ่อค้ามืดมาดักหน้าดักหลัง “พี่ๆๆ โป้ไหมพี่ อายุ 12 เอง เอาป่ะ เล่มละ 20 แผ่นละ 100 ซื้อ สามแถมหนึ่ง ชอบแบบไหนบอกมา เดี๋ยวน้องจัดให้” อะไรประมาณนี้
ฉะนั้นถ้าท่านมาอยู่บ้านเมืองของผม ถ้ามีคนคนไหนบอกว่าจะปราบปรามสื่อลามกให้หายลับสาบสูญ คนที่นี่จะมองเป็นเรื่องตลกโจ๊กสภา หัวเราะกันจนเป็นบ้าไปข้างหนึ่งเลย ถ้าบอกว่าลิงออกลูกเป็นควาย ยังจะมีคนเชื่อมากกว่า
ผมวิ่งเข้าไปตามทางเดินมุ่งหน้าสู่ตึกด้านใน เสียงร้องเอะอะดังตามหลังมา ผมยิ้มในใจเพราะเตรียมแผนไว้รับมืออยู่แล้ว ใช้มือฉีกหนังสือทีละแผ่น ซึ่งแต่ละแผ่นล้วนมีรูปนวลนางในอ่างน้ำ หรือนุ่งลมห่มฟ้าท้าลมหนาว ทิ้งให้ภาพเหล่านั้นปลิวกระจัดกระจายรายเรียงไปตามทางเดิน
“นี่มันอะไร...”
“อย่าหยิบขึ้นมาดู อันตราย”
“โอ้ย...”
ได้ผลเกินคาด มีเสียงแผดร้องเจ็บปวดทรมานระงม พวกเจ้าบรรดาหน้าที่วิ่งตามมาคงจะคว้ากระดาษภาพวาบหวิวเหล่านั้นขึ้นดูอย่างบังเอิญหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นึกภาพพวกคนเคราะห์ร้ายเพราะแพ้ความสวยเหล่านั้นแล้วให้สมน้ำหน้าพวกมัน!....ภาพร้ายต้องตามหลอนสยองไปอีกนาน ทำให้การมุ่งหน้าไปสู่ด้านในของตัวตึกเป็นไปอย่างง่ายดายเพราะหนังสือหวิวเล่มเดียวแท้ๆ
ในขณะเผ่นขึ้นไปชั้นที่สองซึ่งคาดว่าอาจเป็นที่ตั้งของห้องส่ง เจ้าหน้าที่หลายคนพยายามเข้ามาขวางทาง แต่พอภาพหน้าปกหนังสือภาพโป้สยิวยกขึ้นโชว์ให้ดูแบบจะๆ คนพวกนั้นก็เผ่นกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางแบบคนสติแตก บางคนหนีไม่ทันก็ตาเหลือกตาค้างน้ำลายฟูมปากดิ้นชักกระตุกอยู่กับพื้น บางคนมองด้วยหางตาก่อนยอมพุ่งตัวทะลุกระจกหนีสุดชีวิตลงไปด้านล่างแบบลืมตาย
“เอ้ย...มีไอ้บ้าบุกเข้ามาในสถานี พวกเราหยุดมันเอาไว้ ผู้ต้องสงสัยมีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขอย้ำ...ผู้ต้องสงสัยมีอาวุธร้ายแรง”
เสียงประกาศดังก้องไปทั่วหมู่ตึก พวกมันรู้ตัวแล้ว
เสียงฝีเท้าวิ่งมาตามทางเดินด้านหน้าและด้านหลัง บางคนถือปืนมาด้วย แต่ยังไม่กล้ายิงคงเป็นเพราะเกรงว่ากระสุนจะไปโดนพวกเดียวกัน บางคนวิ่งพลางปิดตาพลางเพราะความเกรงกลัวอาวุธร้ายแรง สายตาผมมองเห็นห้องข้างด้านเปิดประตูแง้มอยู่ จึงไม่รีรอในการเปิดประตูกระโจนเข้าไปและจัดการล็อคประตูเรียบร้อยโดยเร็ว ไม่ลืมทิ้งโปสเตอร์ภาพสาวโป้เปลือยไว้หน้าห้องสองสามแผ่น เท่านี้ก็คงหยุดคนภายนอกได้ระยะหนึ่ง เพราะเสียงพวกเจ้าหน้าที่ร้องบอกต่อกันไปนอกห้องด้วยความระมัดระวังอันตายสุดแสน
“ระวังอย่าเข้าใกล้วัตถุต้องสงสัย ท่าทางมีอันตรายมาก อย่าเข้าใกล้อย่ามอง”
“หน่วยเก็บกู้วัตถุอันตรายอยู่ไหน รีบมาด่วน”
ส่วนภายในห้องเจ้าหน้าวัยกลางคนผู้กำลังง่วนอยู่กับอุปกรณ์พวกแผงไฟส่องเวทีหรืออะไรสักอย่างหันมามองอย่างตกใจเมื่อเห็นคนแปลกหน้าโผล่พรวดพรวดเข้ามาแบบกะทันหัน เขาทำท่าจะวิ่งหนีแต่ผมกระโดดกระชากแขนบิดไพล่หลังไว้อย่างรวดเร็ว
“ห้องควบคุมการส่งสัญญาณอยู่ที่ไหน”
ผมตะคอกข้างหู ขณะเหวี่ยงร่างของเจ้าหน้าที่ดวงซวยคว่ำลงกับพื้นแล้วเปลี่ยนมาเป็นท่าล็อคขาซึ่งจำมาจากรายการมวยปล้ำทางทีวี
“อ๊าก.......ผมไม่รู้...”
ร้องปฏิเสธเสียงลั่น พยายามตะเกียกตะกายหนีไปจับเชือก แต่ไม่มีทางรอด และแถวนี้ไม่มีเชือกและไม่มีกรรมการมาบอกแยก
“ปากแข็งใช่ไหม งั้นเจอนี่.....”
จัดการลากตัวออกมากลางห้อง พลิกตัวเปลี่ยนเป็นทางล็อคแบบ แองเกิ้ล ล็อค กะจะหักขาหมอนี้ให้หักเป็นท่อนถ้ายังปากแข็ง แต่ชายคนนี้ใจแข็งกว่าที่คิด
“อ๊าก.......ผมไม่รู้...ถึงรู้ผมก็ไม่มีวันบอกคุณหรอก ”
ไอ้หมอนี่ปากแข็งเกินไปเสียแล้ว เขาทนต่อท่าไม้ตายของยอดนักมวยปล้ำระดับโลกได้ขนาดนี้ ช่างมีวิญญาณและสามัญสำนึกต่อหน้าที่จริงๆ และท่าทางต่อให้แขนขาโดนหักทิ้งคงไม่ยอมพูดอะไรแน่ แบบนี้ต้องเจอไม้ตายสุภาพโหด ผมผละออกมายิ้มมุมปากก่อนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
“ถ้าไม่บอก ผมจะเอาภาพสาวสวยโป้ ทากาวแห้งเร็ว แล้วแปะติดหน้าผากคุณ”
ขู่พลางแกว่งภาพโป้ใบหนึ่งไปมาตรงหน้า เท่านั้นเอง เจ้าหน้าที่เคราะห์ร้ายก็ร้องสุดเสียงจนก้องไปทั่วตึกตาเหลือกตาค้างละล่ำละลักบอก
“โอ้ย...อย่า....ยอมแล้ว...ยอมแพ้แล้ว คุณเดินขึ้นทางเดินด้านข้างจะทะลุขึ้นไปชั้นสามแล้วมีตาก็มองหาเอง โอย........อยากดูแต่ดูไม่ได้..อ๊ากซซซซซ์....”
“หึหึ...เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง”
ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เคราะห์ร้ายซึ่งตอนนี้น้ำลายฟูมปากหมดสภาพไปชั่วคราว หันไปมองทางเดินเล็กๆ แต่ก็ชะงักเมื่อมองเห็นกล้องวงจรปิดตัวหนึ่งอยู่บริเวณทางขึ้น ผมยิ้มในใจ รู้ว่าพวกคนข้างนอกกำลังสังเกตความเคลื่อนไหวของผมอยู่ กล้องวงจรปิดนี่ล่ะจะเป็นอาวุธร้ายแรงย้อนกลับไปจัดการกับพวกนั้น ผมทำเป็นเดินไม่รู้ไม่ชี้จนเข้าไปใกล้ และเอาภาพหน้าปกหนังสือวาบหวิว กางเต็มหน้ากล้อง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพนั้นจะถูกส่งกระจายไปทั่วตึกและสร้างความโกลาหลอลหม่านเพียงใด ไอ้พวกที่กำลังติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ป่านนี้คงชักตาตั้งน้ำลายฟูมปากกันไปแล้ว เพราะสองหูยังได้ยินเสียงร้องระงมดังแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะผมอาศัยจังหวะนั้นเดินไปตามเส้นทางลัดตัดตรงขึ้นไปยังชั้นสามทันที
พอขึ้นไปถึงชั้นที่สามร่างทะมึนของใครคนหนึ่งก็โผล่วูบมาขวางทางออกราวกับวิญญาณร้าย ด้วยสัญชาตญาณผมตวัดมือวูบหนึ่ง ภาพโป้หน้าแรกก็พุ่งวูบไปอย่างรวดเร็วดุดัน
แควกๆๆๆ!!
เสียงเสียดประสาทดังขึ้นถี่ยิบ กระดาษหนังสือภาพโป้พลันกระจัดกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเวียนว่อน ระหว่างใบหน้าอวบอูมผู้กำลังแสยะยิ้มอยู่ด้านหลัง ผมใจหายวาบ
นั่นเป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงร่างยักษ์อ้วนใหญ่ อาวุธร้ายแรงไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย
ใช่แล้ว... เรื่องง่ายๆ แค่นี้ ทำไมถึงนึกไม่ออกนะ.... ภาพสาวสวยวาบหวามบนกระดาษมันจะมีผลรุนแรงกับเพศตรงข้ามเท่านั้น ถ้าโรคนี้มีผลต่อเพศเดียวกันสถานการณ์คงย่ำแย่ไปกว่านี้มากมาย
ผมพยายามควานมือในกระเปาหาภาพผู้ชายหล่อแต่มือใหญ่กางคว้าวูบมาราวกับจะตะครุบคอหอยและบีบให้ละเอียด ผมเบี่ยงตัวหลบ รู้สึกลมพัดผ่านใบหูไปในระยะหวุดหวิดหวาดเสียวที่สุด
ผมพลิกตัวหันขวับ ยื่นหน้าไป ทำหน้าหล่อใสหนึ่งที
แต่ไม้ตายเคยจัดการตำรวจได้กลับไร้สมรรถภาพอย่างสิ้นเชิงกับหญิงร่างยักษ์คนนี้ กระทั่งหนังตายังไม่กระพริบ แถมยังเดินทื่อเข้ามาราวปีศาจร้าย ผมถอยหลังกรูดพยายามทำหน้าหล่อถี่ยิบราวปืนกลเข้าใส่หล่อนอย่างไม่คิดชีวิต
ไร้ผล....นี่มันอะไรกัน!
...........