สวัสดีคะ นี่เป็นกระทู้รีวิวที่ 2 ของเรานะคะ
กระทู้แรกเป็นเรื่องการลบรอยสักเฉพาะหางคิ้ว ใครสนใจตามไปอ่านได้นะคะ >>>
http://pantip.com/topic/34700755
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2558 เราได้คิวศัลยกรรมปากกระจับที่สถาบันเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท โดยเราได้นัดทำและปรึกษาหมอภายในวันเดียวกัน เนื่องจากมีคนเคยรีวิวไว้ว่าหากมาปรึกษาก่อนวันทำ จะต้องเสียค่าปรึกษา 500 เราจึงตัดสินใจปรึกษาหมอและทำไปเลยทีเดียว เนื่องจากตัดสินใจไว้อยู่แล้วว่าอยากจะทำที่นี่ เพราะคิวไม่ยาว แถมรีวิวใน Facebook และ IG มีแต่รีวิวสวยๆจาก Net Idol ทั้งนั้น และสถาบันความงามแห่งนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่โด่งดังมาก เราจึงเชื่อใจ และตัดสินใจทำที่นี่แม้ราคาจะสูงมากก็ตาม (25,000บาท)
โดยเริ่มแรกเราได้พบคุณหมอ คุณหมอดูจากทรงปากเดิมและบอกว่า ปากเรามีเนื้อเยอะ และทำได้ทั้งทรงปากกระจับแบบบาง และทรงปากกระจับแบบไม่บางโดยเน้นกระจับปังๆ เราจึงตัดสินใจว่าทำแบบกระจับไม่บางและปังๆดีกว่า เพราะถ้าผิดพลาดก็จะมีเนื้อเหลือให้แก้ได้
หลังจากนั้นก็รอคิว และก่อนเข้าห้องผ่าตัด พนง.ขายก็ได้มาคุยกับเราว่าทำไมไม่ยกมุมปากไปด้วยเลยจะได้ดูยิ้มๆน่ารัก เราก็แบบว่าไหนๆก็ทำแล้วอยากเจ็บตัวทีเดียวเลยตัดสินใจทำยกมุมปากไปด้วย (ราคา 9,000บาท)
ก่อนทำก็จะมีพนง.มาถ่ายรูปก่อนทำ นี่คือรูปปากก่อนทำคะ
ตอนรออยู่หน้าห้องผ่าตัดเราก็เน้นย้ำกับคุณหมอว่าอยากได้ปากกระจับแบบกระจับปังๆนะคะ ขอแบบถ้าคนอื่นเห็นต้องทักว่าปากสวยไปทำมาที่ไหน ตอนเข้าห้องผ่านตัดก็มีพยาบาลมาทำความสะอาดเตรียมให้ ตอนฉีดยาชาก็ไม่เจ็บมากคะคุณหมอมือเบา ตอนตัดคุณหมอก็ถามตลอดว่าเจ็บรึเปล่า โดยระยะเวลาในการทำประมาณไม่เกิน1ชม.
พอเสร็จแล้วเราก็ส่องกระจกดู คือค่อนข้างบวม แต่ทรงก็ดูโอเคร(มั้งนะ) เราจึงขับรถกลับคอนโด และตั้งตารอให้มันยุบ เราปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดด้วยความที่อยากให้หายไวๆ ทานยา ทานแต่อาหารอ่อนๆ เช็ดทำความสะอาดอย่างดี ไม่ล้วง แคะ แกะ เกา ถึงเวลาตัดไหมก็ไปตัดไหม และนี่คือรูปตั้งแต่หลังทำทันที และวันที่1ถึงวันที่12
เมื่อปากเริ่มยุบ และระยะเวลาผ่านไปประมาณ 18 วัน เราก็ได้ส่งรูปให้พนง.ที่ดูแลเราดูเพื่อแจ้งว่าทรงมันเบี้ยวๆ กระจับเริ่มน้อยลง และมุมปากด้านซ้ายมีปัญหา พนง.ก็บอกว่าให้รอก่อนมันยังยุบไม่หมด นี่คือรูปคะ
และเมื่อผ่านไปอีกจนถึง 24 วัน เราก็ได้แจ้งพนง.เหมือนเดิมและแจ้งปัญหาหลักๆคือ มุมปากด้านซ้ายมันดูปลิ้นๆ และลอกตลอดเวลา คล้ายแผล พนง.จึงคุยกับคุณหมอ และนัดเวลาให้เราเข้าไปพบคุณหมอ เมื่อเราไปถึงเราก็นั่งรอคุณหมอประมา1ชม. คุณหมอมาก็จับๆและบอกว่ามันอาจเกิดขึ้นได้ หากอยากให้มันยุบเร็วก็ฉีดยาลดคีลอยด์ แต่เรากลัวเจ็บจึงยังไม่ฉีดรอดูก่อนถ้าไม่ยุบจริงๆจะมาฉีด ซึ่งคุณหมอคุยกับเราประมาณ 5 นาทีและจากไป นี่คือรูปคะ
และเมื่อผ่านไปอีกจนถึงวันที่ 50 หรือ 1เดือน20วัน เราก็แจ้งพนง.อีกว่ามุมปากยังไม่ยุบและลอกเป็นแผลตลอดเลย พนง.ก็บอกว่าเดียวมันจะยุบ ให้รอ เราจึงถามว่าหากปากไม่โอเครจะแก้ต้องรอกี่เดือน พนง.บอกต้องรอ3เดือน เราจึงรอ เพราะไม่อยากเข้าไปให้เสียเวลา เข้าไปรอคุณหมอหลายชม.และคุณหมอมาดูแค่ไม่ถึง5นาทีและบอกว่าให้รอเหมือนเดิม นี่คือรูปคะ
เมื่อระยะเวลาผ่านไปเรื่อยๆกระจับที่ปากเราก็หายไปตามกาลเวลา... ซึ่งเราก็รอให้ครบ3เดือนเพื่อให้ปากเข้าที่จะได้ไปพบคุณหมออีกครั้ง รอ รอ รอ .... แต่ด้วยความที่เราไปผ่าฟันคุดมา2ซี่ และกระดูกฟันก็คาที่แผลคุณหมอฟันเอาออกไม่หมดทำให้หน้าเราบวมไป2อาทิตย์ได้ นี่คือรูปหน้าบวมๆคะ คือบวมมากและเจ็บมากอ้าปากไม่ขึ้นเลย >.<
จึงทำให้เราเข้าไปพบคุณหมอเลทไปหนึ่งเดือน สรุปว่าเราเข้าไปพบคุณหมอตอนผ่านไปแล้ว4เดือน แต่ตอน3เดือนครึ่งก่อนผ่าฟันเราได้ส่งรูปปากให้พนง.ดูแล้ว และแจ้งกับพนง.ไปแล้วด้วยว่าต้องการนัดหมอ โดยเราไม่คิดว่าการผ่าฟันจะทำให้หน้าบวมได้ขนาดนั้น จึงต้องขอรอให้หน้าหายบวมก่อนจึงจะเข้าไปพบ พนง.ก็บอกว่าได้เดียวจะคุยกับคุณหมอให้ และนี่คือรูปตอน 3 เดือนครึ่งคะ
เมื่อถึงวันนัดเราได้ไปพบพนง.ที่ดูแลเราก่อน เค้าบอกว่าเค้าจะคุยกับคุณหมอให้ เพราะปากเรากระจับไม่ชัดจริงๆ ไม่ได้ตามที่เราแจ้งไปตอนแรก เค้าบอกว่าอาจได้แก้ฟรี หรืออาจคือเงินให้ เราก็ใจชื้นขึ้นหน่อย ทำผิดพลาดแล้วรับผิดชอบ.... แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย เมื่อเราเข้าไปพบคุณหมอ คุณหมอแอบตำหนิว่าเราเข้ามาเช็คเลทไปตั้ง1เดือน คือแบบก่อนหน้าที่เราเข้ามาก่อน3เดือนมันไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย เราก็บอกไปว่าคือหนูไปผ่าฟันคุดมาคะแล้วมันบวมมาก คุณหมอก็บอกว่ามันไม่เกี่ยวกับหน้าบวม อ้าว...เห้ย!! ก็หน้าบวมมากอ้าปากยังไม่ได้ ปากก็เอียงไปตามการบวมของหน้าด้วย คือตอนนี้ทำอะไรก็ผิดคะ และเมื่อคุณหมอเห็นปากเรา(ตามรูปด้านบน) คุณหมอบอกว่า
“สวยมากๆ” เรานี่แบบเอิ่ม...นี่คือสวยแล้ว???? เราก็แจ้งกับคุณหมอว่ากระจับมันไม่ชัดเลย แถมไม่เท่ากันด้วย คุณหมอบอกชัดแล้ว ที่ดูไม่เท่าเพราะปากเราไม่เท่ากัน เอิ่ม... คือเข้าใจคะปากเราที่ไม่เท่ากันคือมุมปากด้านบน ไม่ใช่ตรงกลางกระจับปะ??? เราจึงคุยกับคุณหมอว่าอยากแก้ คุณหมอบอกว่าปากเราบางแล้ว ถ้าแก้อีกจะทำให้ปากบางมากๆ อาจโดนเส้นประสาท และอาจทำให้ไม่มีความรู้สึกไปตลอดชีวิต (คือชาตลอดชีวิต) และคุณหมอเสนอว่าให้เราฉีดฟิลเลอร์ตรงกระจับแทน กระจับจะได้ปังๆ เราก็บอกไปว่าเราอยากแก้เพราะถ้าฉีดฟิลเลอร์ก็ต้องฉีดเรื่อยๆมันไม่ถาวร (และค่าฟิลเลอร์ของที่นี่แพงมากๆ) และทรงที่ได้ตอนนี้มันไม่โอเครเลย (น้ำตาจะไหล) คุณหมอบอกว่า
ถ้าอยากแก้คุณหมอแก้ให้ได้แต่เราต้องเซ็นใบยินยอมว่าหากเกิดอะไรขึ้นคุณหมอจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น เราก็อึ่ง นี่คือคำขู่ใช่มั้ย....พูดสิพูด และคุณหมอยังพูดต่อไปว่า
เราควรยกมุมปากนะ... เห้ย!!! เรานี่อึ่ง!!! พนง.รีบบอกว่าคุณหมอคะนี่ยกมุมปากแล้วคะทำพร้อมกับปากกระจับ คุณหมอจึงหันมาพูดกับเราต่อว่าอ้อ...สวยแล้วแหละ หลังจากนั้นเราก็พูดต่อไปว่าคุณหมอคะตรงมุมปากก็ยังไม่ยุบนะคะ คุณหมอจึงฉีดยาลดคีลอยด์ให้ และบอกว่ามันจะยุบและหายไปเอง เมื่อคุณหมอออกไปพนง.จึงบอกว่าให้เรากลับไปตัดสินใจ
คืนนั้นเรานอนไม่หลับทั้งคืนเลยคือเครียด คิดอยู่นาน เช้าอีกวันเราจึงไลน์ไปคุยกับพนง.ว่าตัดสินใจได้แล้วคะ เราต้องการแก้ พนง.จึงบอกว่าเดียวจะไปคุยกับคุณหมอให้ เราก็รอ ตอนเย็นพนง.โทรกลับมาบอกว่า
แก้ได้แต่ต้องจ่ายเพิ่ม 5,000 บาท เราแบบช็อค... สรุปว่าสถาบันเสริมความงามแห่งนี้ทั้งราคาแพง รีวิวจอมปลอมเพราะปากสวยๆมีอยู่ที่หน้าม้าอย่างเดียว คนธรรมดาจะได้ปากพลาดๆไปคะ แถมมีการข่มขู่ลูกค้า อีกทั้งไม่มีความรับผิดชอบอีกด้วย สรุปว่าเราคงไม่กล้าไปแก้ที่เดิมนะคะ เพราะกลัวจะแย่ไปกว่านี้ ขอจบเพียงเท่านี้ดีกว่า เจ็บใจมากกก เสียแพง แถมคุณภาพต่ำ
ข้อดีของสถาบันเสริมความงามแห่งนี้มีอย่างเดียวเลยคะ คือ คุณหมอเย็บแผลสวยมากๆ
ข้อเสียคือเยอะมากๆตามที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นเราได้ส่งรูปไปติดต่อขอแก้ไขกับสภาบันเสริมความงามหลายแห่ง ทุกสถาบันตอบกลับมาว่าปากน้องหรือน้อยมากตอนนี้ทำปากกระจับไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงปากบางธรรมดาเท่านั้น ... คือร้องไห้หนักมากกก อุตส่าต์เลือกที่ราคาแพง เป็นที่น่าเชื่อถือ เพราะปากเรามีปากเดียว และเพื่อความสบายใจ สรุปได้ความทุกข์ใจมาแทนจากราคาแพงๆคุณภาพต่ำๆ
จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมา6เดือนแล้ว นี่คือรูปปัจจุบันคะ
ส่วนนี่คือรูปก่อนและหลังคะ
ปล.หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ใครอยากสอบถามอะไรเพิ่มเติมรบกวนหลังไมค์มานะคะ
ใครมีสถานที่แก้ปากสวยๆโปรดแนะนำด้วยนะคะ
ที่ตั้งกระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาดีสเครดิต แค่ต้องการเล่าประสบการณ์ตรงที่เจอมากับตัวเองเท่านั้น
[CR] [Review] ปากกระจับปังๆ ยกมุมสวยๆ ราคาสูงหลิ้ว คุณภาพต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
กระทู้แรกเป็นเรื่องการลบรอยสักเฉพาะหางคิ้ว ใครสนใจตามไปอ่านได้นะคะ >>> http://pantip.com/topic/34700755
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2558 เราได้คิวศัลยกรรมปากกระจับที่สถาบันเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท โดยเราได้นัดทำและปรึกษาหมอภายในวันเดียวกัน เนื่องจากมีคนเคยรีวิวไว้ว่าหากมาปรึกษาก่อนวันทำ จะต้องเสียค่าปรึกษา 500 เราจึงตัดสินใจปรึกษาหมอและทำไปเลยทีเดียว เนื่องจากตัดสินใจไว้อยู่แล้วว่าอยากจะทำที่นี่ เพราะคิวไม่ยาว แถมรีวิวใน Facebook และ IG มีแต่รีวิวสวยๆจาก Net Idol ทั้งนั้น และสถาบันความงามแห่งนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่โด่งดังมาก เราจึงเชื่อใจ และตัดสินใจทำที่นี่แม้ราคาจะสูงมากก็ตาม (25,000บาท)
โดยเริ่มแรกเราได้พบคุณหมอ คุณหมอดูจากทรงปากเดิมและบอกว่า ปากเรามีเนื้อเยอะ และทำได้ทั้งทรงปากกระจับแบบบาง และทรงปากกระจับแบบไม่บางโดยเน้นกระจับปังๆ เราจึงตัดสินใจว่าทำแบบกระจับไม่บางและปังๆดีกว่า เพราะถ้าผิดพลาดก็จะมีเนื้อเหลือให้แก้ได้
หลังจากนั้นก็รอคิว และก่อนเข้าห้องผ่าตัด พนง.ขายก็ได้มาคุยกับเราว่าทำไมไม่ยกมุมปากไปด้วยเลยจะได้ดูยิ้มๆน่ารัก เราก็แบบว่าไหนๆก็ทำแล้วอยากเจ็บตัวทีเดียวเลยตัดสินใจทำยกมุมปากไปด้วย (ราคา 9,000บาท)
ก่อนทำก็จะมีพนง.มาถ่ายรูปก่อนทำ นี่คือรูปปากก่อนทำคะ
ตอนรออยู่หน้าห้องผ่าตัดเราก็เน้นย้ำกับคุณหมอว่าอยากได้ปากกระจับแบบกระจับปังๆนะคะ ขอแบบถ้าคนอื่นเห็นต้องทักว่าปากสวยไปทำมาที่ไหน ตอนเข้าห้องผ่านตัดก็มีพยาบาลมาทำความสะอาดเตรียมให้ ตอนฉีดยาชาก็ไม่เจ็บมากคะคุณหมอมือเบา ตอนตัดคุณหมอก็ถามตลอดว่าเจ็บรึเปล่า โดยระยะเวลาในการทำประมาณไม่เกิน1ชม.
พอเสร็จแล้วเราก็ส่องกระจกดู คือค่อนข้างบวม แต่ทรงก็ดูโอเคร(มั้งนะ) เราจึงขับรถกลับคอนโด และตั้งตารอให้มันยุบ เราปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดด้วยความที่อยากให้หายไวๆ ทานยา ทานแต่อาหารอ่อนๆ เช็ดทำความสะอาดอย่างดี ไม่ล้วง แคะ แกะ เกา ถึงเวลาตัดไหมก็ไปตัดไหม และนี่คือรูปตั้งแต่หลังทำทันที และวันที่1ถึงวันที่12
เมื่อปากเริ่มยุบ และระยะเวลาผ่านไปประมาณ 18 วัน เราก็ได้ส่งรูปให้พนง.ที่ดูแลเราดูเพื่อแจ้งว่าทรงมันเบี้ยวๆ กระจับเริ่มน้อยลง และมุมปากด้านซ้ายมีปัญหา พนง.ก็บอกว่าให้รอก่อนมันยังยุบไม่หมด นี่คือรูปคะ
และเมื่อผ่านไปอีกจนถึง 24 วัน เราก็ได้แจ้งพนง.เหมือนเดิมและแจ้งปัญหาหลักๆคือ มุมปากด้านซ้ายมันดูปลิ้นๆ และลอกตลอดเวลา คล้ายแผล พนง.จึงคุยกับคุณหมอ และนัดเวลาให้เราเข้าไปพบคุณหมอ เมื่อเราไปถึงเราก็นั่งรอคุณหมอประมา1ชม. คุณหมอมาก็จับๆและบอกว่ามันอาจเกิดขึ้นได้ หากอยากให้มันยุบเร็วก็ฉีดยาลดคีลอยด์ แต่เรากลัวเจ็บจึงยังไม่ฉีดรอดูก่อนถ้าไม่ยุบจริงๆจะมาฉีด ซึ่งคุณหมอคุยกับเราประมาณ 5 นาทีและจากไป นี่คือรูปคะ
และเมื่อผ่านไปอีกจนถึงวันที่ 50 หรือ 1เดือน20วัน เราก็แจ้งพนง.อีกว่ามุมปากยังไม่ยุบและลอกเป็นแผลตลอดเลย พนง.ก็บอกว่าเดียวมันจะยุบ ให้รอ เราจึงถามว่าหากปากไม่โอเครจะแก้ต้องรอกี่เดือน พนง.บอกต้องรอ3เดือน เราจึงรอ เพราะไม่อยากเข้าไปให้เสียเวลา เข้าไปรอคุณหมอหลายชม.และคุณหมอมาดูแค่ไม่ถึง5นาทีและบอกว่าให้รอเหมือนเดิม นี่คือรูปคะ
เมื่อระยะเวลาผ่านไปเรื่อยๆกระจับที่ปากเราก็หายไปตามกาลเวลา... ซึ่งเราก็รอให้ครบ3เดือนเพื่อให้ปากเข้าที่จะได้ไปพบคุณหมออีกครั้ง รอ รอ รอ .... แต่ด้วยความที่เราไปผ่าฟันคุดมา2ซี่ และกระดูกฟันก็คาที่แผลคุณหมอฟันเอาออกไม่หมดทำให้หน้าเราบวมไป2อาทิตย์ได้ นี่คือรูปหน้าบวมๆคะ คือบวมมากและเจ็บมากอ้าปากไม่ขึ้นเลย >.<
จึงทำให้เราเข้าไปพบคุณหมอเลทไปหนึ่งเดือน สรุปว่าเราเข้าไปพบคุณหมอตอนผ่านไปแล้ว4เดือน แต่ตอน3เดือนครึ่งก่อนผ่าฟันเราได้ส่งรูปปากให้พนง.ดูแล้ว และแจ้งกับพนง.ไปแล้วด้วยว่าต้องการนัดหมอ โดยเราไม่คิดว่าการผ่าฟันจะทำให้หน้าบวมได้ขนาดนั้น จึงต้องขอรอให้หน้าหายบวมก่อนจึงจะเข้าไปพบ พนง.ก็บอกว่าได้เดียวจะคุยกับคุณหมอให้ และนี่คือรูปตอน 3 เดือนครึ่งคะ
เมื่อถึงวันนัดเราได้ไปพบพนง.ที่ดูแลเราก่อน เค้าบอกว่าเค้าจะคุยกับคุณหมอให้ เพราะปากเรากระจับไม่ชัดจริงๆ ไม่ได้ตามที่เราแจ้งไปตอนแรก เค้าบอกว่าอาจได้แก้ฟรี หรืออาจคือเงินให้ เราก็ใจชื้นขึ้นหน่อย ทำผิดพลาดแล้วรับผิดชอบ.... แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย เมื่อเราเข้าไปพบคุณหมอ คุณหมอแอบตำหนิว่าเราเข้ามาเช็คเลทไปตั้ง1เดือน คือแบบก่อนหน้าที่เราเข้ามาก่อน3เดือนมันไม่มีความหมายเลยใช่มั้ย เราก็บอกไปว่าคือหนูไปผ่าฟันคุดมาคะแล้วมันบวมมาก คุณหมอก็บอกว่ามันไม่เกี่ยวกับหน้าบวม อ้าว...เห้ย!! ก็หน้าบวมมากอ้าปากยังไม่ได้ ปากก็เอียงไปตามการบวมของหน้าด้วย คือตอนนี้ทำอะไรก็ผิดคะ และเมื่อคุณหมอเห็นปากเรา(ตามรูปด้านบน) คุณหมอบอกว่า “สวยมากๆ” เรานี่แบบเอิ่ม...นี่คือสวยแล้ว???? เราก็แจ้งกับคุณหมอว่ากระจับมันไม่ชัดเลย แถมไม่เท่ากันด้วย คุณหมอบอกชัดแล้ว ที่ดูไม่เท่าเพราะปากเราไม่เท่ากัน เอิ่ม... คือเข้าใจคะปากเราที่ไม่เท่ากันคือมุมปากด้านบน ไม่ใช่ตรงกลางกระจับปะ??? เราจึงคุยกับคุณหมอว่าอยากแก้ คุณหมอบอกว่าปากเราบางแล้ว ถ้าแก้อีกจะทำให้ปากบางมากๆ อาจโดนเส้นประสาท และอาจทำให้ไม่มีความรู้สึกไปตลอดชีวิต (คือชาตลอดชีวิต) และคุณหมอเสนอว่าให้เราฉีดฟิลเลอร์ตรงกระจับแทน กระจับจะได้ปังๆ เราก็บอกไปว่าเราอยากแก้เพราะถ้าฉีดฟิลเลอร์ก็ต้องฉีดเรื่อยๆมันไม่ถาวร (และค่าฟิลเลอร์ของที่นี่แพงมากๆ) และทรงที่ได้ตอนนี้มันไม่โอเครเลย (น้ำตาจะไหล) คุณหมอบอกว่าถ้าอยากแก้คุณหมอแก้ให้ได้แต่เราต้องเซ็นใบยินยอมว่าหากเกิดอะไรขึ้นคุณหมอจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น เราก็อึ่ง นี่คือคำขู่ใช่มั้ย....พูดสิพูด และคุณหมอยังพูดต่อไปว่าเราควรยกมุมปากนะ... เห้ย!!! เรานี่อึ่ง!!! พนง.รีบบอกว่าคุณหมอคะนี่ยกมุมปากแล้วคะทำพร้อมกับปากกระจับ คุณหมอจึงหันมาพูดกับเราต่อว่าอ้อ...สวยแล้วแหละ หลังจากนั้นเราก็พูดต่อไปว่าคุณหมอคะตรงมุมปากก็ยังไม่ยุบนะคะ คุณหมอจึงฉีดยาลดคีลอยด์ให้ และบอกว่ามันจะยุบและหายไปเอง เมื่อคุณหมอออกไปพนง.จึงบอกว่าให้เรากลับไปตัดสินใจ
คืนนั้นเรานอนไม่หลับทั้งคืนเลยคือเครียด คิดอยู่นาน เช้าอีกวันเราจึงไลน์ไปคุยกับพนง.ว่าตัดสินใจได้แล้วคะ เราต้องการแก้ พนง.จึงบอกว่าเดียวจะไปคุยกับคุณหมอให้ เราก็รอ ตอนเย็นพนง.โทรกลับมาบอกว่าแก้ได้แต่ต้องจ่ายเพิ่ม 5,000 บาท เราแบบช็อค... สรุปว่าสถาบันเสริมความงามแห่งนี้ทั้งราคาแพง รีวิวจอมปลอมเพราะปากสวยๆมีอยู่ที่หน้าม้าอย่างเดียว คนธรรมดาจะได้ปากพลาดๆไปคะ แถมมีการข่มขู่ลูกค้า อีกทั้งไม่มีความรับผิดชอบอีกด้วย สรุปว่าเราคงไม่กล้าไปแก้ที่เดิมนะคะ เพราะกลัวจะแย่ไปกว่านี้ ขอจบเพียงเท่านี้ดีกว่า เจ็บใจมากกก เสียแพง แถมคุณภาพต่ำ
ข้อดีของสถาบันเสริมความงามแห่งนี้มีอย่างเดียวเลยคะ คือ คุณหมอเย็บแผลสวยมากๆ
ข้อเสียคือเยอะมากๆตามที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
หลังจากเกิดเรื่องขึ้นเราได้ส่งรูปไปติดต่อขอแก้ไขกับสภาบันเสริมความงามหลายแห่ง ทุกสถาบันตอบกลับมาว่าปากน้องหรือน้อยมากตอนนี้ทำปากกระจับไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงปากบางธรรมดาเท่านั้น ... คือร้องไห้หนักมากกก อุตส่าต์เลือกที่ราคาแพง เป็นที่น่าเชื่อถือ เพราะปากเรามีปากเดียว และเพื่อความสบายใจ สรุปได้ความทุกข์ใจมาแทนจากราคาแพงๆคุณภาพต่ำๆ
จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมา6เดือนแล้ว นี่คือรูปปัจจุบันคะ
ส่วนนี่คือรูปก่อนและหลังคะ
ปล.หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ใครอยากสอบถามอะไรเพิ่มเติมรบกวนหลังไมค์มานะคะ
ใครมีสถานที่แก้ปากสวยๆโปรดแนะนำด้วยนะคะ
ที่ตั้งกระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาดีสเครดิต แค่ต้องการเล่าประสบการณ์ตรงที่เจอมากับตัวเองเท่านั้น