ต้องบอกว่าเขียนไว้อย่างนั้นก็เพราะรู้สึกอย่างนั้น หลังจากติดตามรับชมละคร ตามรักคืนใจตั้งแต่ตอนแรกจนกระทั่งถึงตอนจบบริบูรณ์ แล้วได้ความรู้สึกว่าละครเรื่องนี้ได้ทำหน้าที่ของตัวมันเองได้อย่างดีที่สุดเท่าที่สามารถทำได้แล้ว คือสร้างความสุขอิ่มเอมให้กับคนดูตามนิยามของละคร Feel good ได้อย่างสมบูรณ์แบบบรรลุวัตถุประสงค์ของผู้สร้างอย่างแท้จริงทุกประการ
ปลายปี 57 เคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับละครเรื่อง ตามรักคืนใจ ครั้งแรก
ตามรักคืนใจ" ละครที่มาถูกที่ถูกเวลาพอดีสำหรับพัฒนาการของ ณเดชน์ (ความเห็นส่วนตัว)
http://pantip.com/topic/32639936
เพราะสนใจติดตามบทนายสิงห์ของ ณเดชน์ จึงติดตามดูละคร ตามรักคืนใจตั้งแต่ตอนแรก แล้วก็อย่างที่รู้กันแล้วตอนนี้ ณเดชน์ ในบทนายสิงห์ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้กับแฟนผลงานของเขาเช่นเคย และ การแสดงของ มิว นิษฐา ในบทหนูนา นางเอกของเรื่องก็สร้างความประหลาดใจให้เช่นกัน สิ่งสุดท้ายที่ประทับใจอีกอย่างคืองานละเอียดของผู้สร้างและผู้กำกับที่ดูก็รู้เลยว่าละเอียดกับงานชิ้นนี้มาก แต่ถ้าจะให้พูดถึงละครเรื่องนี้ทั้งเรื่องคงได้ว่ากันยาวหลายสิบหน้ากระดาษ แต่ละหัวข้อมี Story ให้พูดถึงมากมาย เพราะของเขา “แน่น” จริงอะไรจริง ฉะนั้นตามประสาแฟนคลับดารามิใช่นักวิจารณ์ละคร หัวข้ออื่นที่ไม่เกี่ยวกับณเดชน์ จะนิยามไว้สั้นๆ พอสังเขปพอละกันนะ
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ ตามรักคืนใจ ประสบความสำเร็จ
1.บทประพันธ์ที่เป็นที่ยอมรับ
ละครที่มาจากบทประพันธ์ที่เป็นที่ยอมรับของนักอ่านย่อมเท่ากับผ่านการกกลั่นกรองระดับมหาชนมาแล้วว่าเรื่องราวต้องน่าสนใจและเป็นที่ยอมรับระดับหนึ่ง แล้วยิ่งถ้าเป็นของนักประพันธ์รุ่นเก๋าด้วยแล้วมักจะร้อยเรียงเรื่องราวได้สละสลวยสวยงามแทบทุกตัวอักษร มีความชัดเจนของบุคลิกลักษณะตัวละคร ถึงไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนแต่คนดูก็รู้ว่า นายสิงห์นอกจากจะมีหนวดแล้ว ยังมีแผลเป็นใต้คาง ชอบกุมคางเวลาครุ่นคิด และ ชอบจับหัว บีบจมูกหนูนาตัวน้อยเล่นเวลาหมั่นเขี้ยว ขณะที่นึกแทบไม่ออกว่าอะไรคือบุคลิกเฉพาะตัวของ ริว โอนิซึกะ ? อีกทั้งยังสร้างตัวละครแวดล้อมรอบตัวเอกที่มีบทบาทลดหลั่นกันอย่างเป็นระบบ เปรียบเหมือนการจัดสวน ที่มีไม้ประธานแล้วก็ต้องมีไม้ประดับ ไม้ใบ ไม้ดอก ไม้พุ่ม ไม้แคระ ไล่เรียงกันไปจนกระทั่งถึงเศษหินดินหญ้า ก้อนกรวด เม็ดทราย จึงจะเป็นสวนที่งามตา เราจึงได้เห็นตัวละครที่รายล้อมนายสิงห์ ไม่ว่าจะเป็น คุณน้อง น้าราม สาวัตรกช เชษฐ์ แม่ไข่ บุญตา น้าก้อน พวง แป้น หนุ่มสาวชาวไร่ คนงาน แม่ครัว ฯ กอปรขึ้นเป็นครอบครัวไร่บัวขาวที่ดูมีวิถีชีวิตของคนแต่ละชั้นรวมกันอยู่ ณ ที่แห่งนั้น บางคนออกมาแค่เล็กๆน้อยๆ ไม่กี่ครั้งแต่ก็มีตัวตน มีที่ทางของตัวเองในไร่ นี่คือความสวยงามของนักประพันธ์สมัยก่อนที่ไม่ใช่สักแต่สร้างตัวเอก แต่สร้างโลกน้อยๆขึ้นมาทั้งใบให้ตัวละครอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งเป็นส่วนนักประพันธ์ยุคใหม่ที่ชอบแต่งนิยายลูกกวาดมักพลาดไป ชอบวางไม้ประธาน พระเอกหล่อสุดๆ นางเอกสวยสุดๆ โปรไฟล์เริ่ด แล้วก็สร้างตัวละครอื่นๆมีหน้าที่รองรับการกระทำของพระเอกนางเอกแบบใช้แล้วทิ้งหาที่มาที่ไปไม่ได้ ไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง พอมาทำละครจึงไม่ละมุนตา ตอนจบนี้ยิ่งวังเวงเหลือแต่พระนางสองคน ถ้าให้เปรียบกับการจัดสวนก็เหมือน วางกระถางต้นกุหลาบไว้บนลานคอนกรีตอย่างนั้นเลย ละครที่ทำจากบทประพันธ์ที่ดีจึงนับว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
2.ทีมเขียนบท
ไม่ได้เปิดดูเลยครับว่ามือเขียนบทละครตามรักคืนใจชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร เคยเขียนเรื่องอะไรมาบ้าง แต่ที่แน่ๆสามารถปรับบทจากนิยาย เป็นละครที่มีความยาวถึง 14 ตอนได้โดยคนดูรู้สึกว่ายืด หรือ มีตอนที่น่าเบื่อซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่ ทั้งยังต้องคอยรักษาบุคลิก อุปนิสัยใจคอของตัวละครหลักไม่ให้ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ สำหรับเหตุการณ์ที่ขยายออกไป ทั้งยังเขียนบทสนทนาได้เข้าปากตัวละครมาก นับตั้งแต่ดูมาแทบไม่เจอประโยคที่ให้ความรู้สึกว่ายัดเยียด หรือเป็นส่วนเกินแม้แต่น้อย แม้แต่บทของเหล่าตัวประกอบชาวไร่ซึ่งเป็นการขยายกลุ่มคนดูเพื่อให้เป็นมิตรกับกลุ่มคนดูภูธรมากขึ้น แต่อาจสร้างความรำคาญเล็กๆให้กับคนดูในเขตเมืองสำหรับตัวละครสีสันต์เหล่านี้ คนเขียนบทก็ยังม้วนกวาดเข้าที่เข้าทางเสียเรียบร้อยจนเรียบไม่มีปล่อยให้เกะกะลูกกะตา
ถ้าสังเกตให้ดีบทพูดของตัวละครในตามรักคืนใจนี้ไม่มีตัวละครที่พูดจาฟุ่มเฟือยเลย ทั้งตัวละครใหญ่ ตัวละครเล็ก พูดแต่เพียงพอดีจำเป็นตามบทบาทของตัวเองเท่านั้นจริงๆ แม้กระทั่งประโยคท่องอุดมการณ์รักษ์ป่าของนายสิงห์ซึ่งใช้คำว่าป่าคือลมหายใจ ดูตอนนี้เสียวแว๊บ Flash Back ไปถึงตอนดูพี่อาทิจในธรณีนี้ใครครองที่ออกจะใช้คำว่ารักผืนแผ่นดินผ่านทางบทพูดที่ดูยัดเยียดเข้าปากไปเสียหน่อย แต่เรื่องนี้กลับไม่อย่างนั้น นายสีหนาทแสดงอุดมการณ์รักษ์ป่าผ่านการกระทำให้เห็นชัดเจนจะๆแบบพูดน้อยต่อยหนักกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการแบ่งน้ำหนักระหว่างเรื่องราวความรักของพ่อลูก และ ความรักของหนุ่มสาวได้อย่างลงตัวไม่เบียดทับกัน และ บาลานซ์น้ำหนักของเรื่องได้พอดิบพอดีราวกับตาชั่ง เพราะถ้าเน้นเรื่องพ่อลุกเกินไปก็คงกลายเป็นละครดราม่าหนักๆไปคนดูขาจิ้น ขาฟีลกู้ดก็คงเซ็ง แต่ถ้าให้นายสิงห์ไล่จีบหนูนาทั้งวันเนื้อเรื่องก็คงเบาไป กลายเป็นละครลูกกวาดไปได้ง่ายๆ การสับเปลี่ยนไปมาระหว่างเรื่องพ่อลูก หนุ่มสาว และ อุดมการณ์และการขัดแย้งผลประโยชน์ในการณรักษ์ป่า สอดแทรกการทำงานทำการในไร่ แบ่งสัดส่วนแต่ละส่วนได้อย่างลงตัวพอดิบพอดี และละครในแต่ละครก็มีอีเว้นต์ ที่น่าติดตามอันเนื่องมากจากตัวนิยายเองที่แน่นอยู่แล้วและที่เสริมเพิ่มเติมอีเว้นต์ดีๆอย่างการบวชป่าเข้าไปเป็นต้น ทำให้ผู้ชมสามารถติดตามได้อย่างเพลิดเพลินในทุกตอน ที่แยบคายสุดๆคือบทพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างนายสิงห์และหนูนาที่เริ่มจากคนแปลกหน้าที่แปลกหน้าจริงๆ ไม่มีความรู้สึกใดๆต่อกันพัฒนาต่อเนื่องมาตามวาระจนรักกันโดยใช้เวลานับ 10 ตอน นี้มันมหกรรมทุบกระท้อนแล้วค่อยทานชัดๆทำให้คนดูหลังจากเอาใจช่วยนายสิงห์มาเนิ่นนาน พอหนูนามีสัญญาณรักตอบเท่านั้นแหละความหวานที่มันไม่รู้หลบซ่อนอยู่ซอกไหนมุมไหนไหลเอ่อล้นทะลักไร่บัวขาวเป็นฤดูรักหลากกันไปเลย นับเป็นหมากที่ร้ายกาจและแยบคายสุดๆ ในการสร้างอารมณ์ร่วมของคนดูไปกับละครตลอดเรื่อง แล้วที่ต้องยกนิ้วให้ทีมเขียนเลยในการเรียบเรียงบทสนทนาก็คือซีนบอกความจริงกับพ่อ เจ้าก้านไม้ขีดไฟอันลือลั่นนั่นแหละ เริ่มจากเบาไปหาหนักจนกระทั่ง Climax น้ำตาแตกกันทั้งประเทศ ต้องบอกว่าทีมเขียนบทเรื่องนี้สุดยอดจริงๆ ทำให้ละครเรื่องนี้ออกมากลมกล่อมตั้งแต่หัวเรื่องจรดท้ายเรื่องเลยทีเดียว
4.ผู้จัดที่รู้ขอบเขต และ ผู้กำกับที่มีภาพที่ชัดเจนของตัวละคร และเคี่ยวทุกเม็ด
ถ้าจะให้นิยามละครของพี่ดา กับ ป้าแจ๋ว คำว่า “สูตรคุณยาย” น่าจะเป็นคำนิยามที่ตรงที่สุดแล้วล่ะ เพราะคนดูละครก็คงคุ้นเคยกับรสมือแกกันมานานแล้วบางคนดูตั้งแต่เด็กยันโต บางคนกินจนเรียกว่าหลับตาชิมก็รู้แล้วว่าใครทำ กินบ่อยๆเบื่อๆก็อยากหาอะไรแปลกๆกินบ้างแต่สุดท้ายก็กลับไปตายรังที่ “สูตรคุณยาย” ทุกที คำนิยามพื้นๆแบบนี้จึงเหมาะสมที่สุดกับสิ่งที่บางคนอาจมองว่าง่าย เป็นสูตรสำเร็จ แต่กว่าจะรู้สึกตัวเป็นสิ่งที่มีค่าและทำยากกว่าที่ตาเห็นก็ต่อเมื่อไม่มีคุณยายทำให้กินแล้วนั่นแหละ มองผู้จัดช่อง 3 ในปัจจุบันเห็นจะมีแต่พี่แอนเท่านั้นที่มีแววเดินตามทางแนวทางนี้ได้ สำหรับการทำละครตามรักคืนใจนี้ ผู้จัด ผู้กำกับดูเหมือนจะตกผลึกแนวทางการทำงานที่ชัดเจนมาแล้วเป็นอย่างดี และ สามารถควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามที่มุ่งหมายไว้ ผู้กำกับอย่างป้าแจ๋ว ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมือเจียระไนเพชรประดับวงการมาแล้วนับไม่ถ้วน ดาราคนไหนแววดีขอเพียงผ่านมือแก อาจได้เป็นซุปตาร์เพียงชั่วข้ามคืน ป้าแกดึงศักภาพทางการแสดงสูงสุด ความหล่อความสวยสูงสุด โดยไม่ยอมปล่อยให้ส่วนด้อยหลุดออกมาง่ายๆ อย่างณเดชน์ชอบติดห่อไหล่ มาแสดงละครของป้าแจ๋วนี้ไม่มีหลุดมาเลย อกผายไหล่ผึ่งทุกตอน และ สำหรับละครเรื่องนี้ป้าแกก็ได้เจียระไนเพชรเม็ดงามชื่อ มิว นิษฐา ให้เปล่งประกายได้อีกดวงจริงๆ การกำกับผู้กำกับมักจะมีภาพเป้าหมายอยู่ในใจอยู่แล้ว ขึ้นกับว่าจะใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในมือยังไงให้ไปถึงเป้าหมายนั้น อย่างดาราแต่ละคนก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนกัน ป้าแจ๋วนับเป็นผู้กำกับที่แม่นเป้ามากคนนึง แกไม่ปล่อยให้นักแสดงแสดงสะเปะสะปะออกมาเองแล้วเห็นว่าดีค่อยเอาอะไรทำนองนั้นแกชัดเจนในตัวเองมากว่าในแต่ละฉากแกอยากจะได้อะไร ชัดขนาดทำให้ดูได้ละกัน และที่เซอไพร้ส์มากคือนอกเหนือจากงานฟินที่แกถือเป็นมือระดับปรมาจารย์อยู่แล้วและป้าก็ปล่อยของออกมาได้สมราคาระดับตำนาน แฟนละครได้ดูบทกุ๊กกิ๊กพระ-นาง จิ้นจิกหมอนกันสมใจอยากป้าแกช่างครีเอทฉากฟินๆได้อย่างน่ารักน่าชังเหลือเชื่อชนิดหนึ่งไม่มีสองจริงๆคนนี้ แม้จะมีฉากทิ้งตัวที่เป็นลายเซ็นของป้าโผล่มาบ้างแต่เมื่อเทียบกับความยาวของละครทั้ง 14 ตอนแล้วถือว่าน้อยมากพอเป็น ลายเซ็น เท่านั้นเอง ส่วน คิวบู๊ ซึ่งมีไม่น้อยของเรื่องนี้ป้าแจ๋วก็ทำออกมาได้ ดุเดือดตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้ผู้กำกับสายบู๊แท้ๆเลยทีเดียว ขณะที่ทางผู้จัดเองก็ชัดเจนแนวทางที่จะทำละครฟอร์มธรรมดา ในสเกลเล็กที่ถนัด แต่ชัดเจนในวัตถุประสงค์ เพิ่มเติมเน้นหนักในเรื่องของความรักของพ่อลูก และ ความรักระหว่างคนในครอบครัว ที่นอกจากจะทำให้คนดูเพลิดเพลินแล้ว ยังได้ข้อคิดดีๆไปใช้ในครอบครัวได้อีกด้วย ทำให้เป็นละครที่ดูแล้วอารมณ์ดี และ มีคุณค่าในตัวเอง ด้วยความชัดเจนจากทีมงานผู้สร้าง ทำให้ละครฟีลกู้ดสูตรคุณยายเรื่องนี้ขึ้นทำเนียบละครที่ดี และน่าจดจำหนึ่งในหลายๆเรื่องของผู้จัดและผู้กำกับเป็นที่เรียบร้อย และสุดท้าย “ละครรักสูตรคุณยาย” ก็ยังคงเป็นสูตรคุณยาย ยังรักษาเอกลักษณ์ที่ยากจะหาใครมาลอกเลียนแบบไว้ได้
5.ทีมงาน Production เบื้องหลังที่แข็งแรง
เสื้อผ้าหน้าผมของนักแสดงเรื่องนี้ทุกอย่างผ่านมาก ทุกฉากทุกตอน ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งขัดหูขัดตาเลย แม้กระทั่งกิ่งไม้ใบหญ้ายันไรหนวดของนายสิงห์ที่ต้องติดกันทีละเส้น ซึ่งอาจสร้างเป็นบรรทัดฐานหนวดปลอมใหม่ของละครไทยไปเลยก็ได้ กลางวันคือกลางวัน กลางคืนคือกลางคืน ทีมจัดแสงเรื่องนี้ดีงาม ทีมกล้องถ่ายภาพสวยทีมโลเคชั่นก็ช่างแสวงหาโลเคชั่นงามๆ มาเป็นกำไรให้ผู้ชม แม้ต้องตระเวนถ่ายทำกันหลายจังหวัดมาก แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะทำละครให้เป็นละครคุณภาพกันตั้งแต่ทีมงานเบื้องหลังเลยจริงๆ ฉากที่ต้อง setup ขึ้นมาก็ทำได้ดูลงทุนทุทุกฉาก เช่นงานประจำจังหวัด งานบวชป่า ฯ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆและความต่อเนื่องเก็บได้เรียบร้อยดี เป็นละครที่พระนางผมเผ้ากระเซอะกระเซิงบ่อยมาก แต่ก็ดูธรรมชาติดี แม้แต่ฉากเล็กๆอย่างฝายกั้นน้ำโดนวางระเบิดแล้วต้องซ่อมก็ยังขนทั้งคนทั้งอุปกรณ์ยังเซตมาให้น่าเชื่อถือ เพื่ออกอากาศแค่ไม่กี่วินาที กระทั่งกิ่งไม้ให้พระเอกหักทำไม้เท้ายังเตรียมไว้ได้เนียนๆ เรียกว่าละเอียดลออกันทุกชิ้นทุกอัน เวลาดูความละเอียดของทีม Production ต้องดูจากซีนเล็กๆนี้แหละครับ ถ้าแม้แต่เล็กๆน้อยๆยังจัดมาซะใส่ใจรายละเอียด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Production ของละครทั้งเรื่องถึงได้กลมกลืนเป็นเนื้องานเดียวกันทั้งหมด นี้ไม่นับงานตัวประกอบที่จัดมาเข้าฉากได้ตามความเหมาะสม ไม่ขาดไม่เกิน ขนาดคุณตายังมีผู้บริหารมือซ้ายมือขวาตามประกบ ให้สมกับเป็นนายแบ้งค์ใหญ่ มีการจัดลำดับชั้นยศของลูกน้อง ทั้ง เหล่าลูกน้องของฝั่งพระเอก ลูกสมุนของฝั่งผู้ร้ายก็ขนกันมาคับคั่ง ให้ลูกพี่เลือกใช้สอยตามยศตามฐานะแบบไม่เป็นที่ขัดตา กระทั่งทีมนายตำรวจของสารวัตร ก็ทำได้สมน้ำสมเนื้อ ไม่ดูเหยาะแหยะเวลาออกปฎิบัติงาน ดูมีหลักมีการทำงานแบบตำรวจมากกว่าที่เห็นบ่อยๆในเรื่องอื่นๆ ไม่นับทีมผู้ร้ายที่ฉลาดกว่าที่เขาไม่ได้มาเล่นๆเป็นกระสอบทรายให้อัด จัดมาครบมาเต็มแบบที่เรียกว่าทำดีก็ต้องชมกันเลยทีเดียว
ตามรักคืนใจ 2015/2016 นาฏกรรมสุดประทับใจแห่ง ราชสีห์กับหนู ณ ไร่บัวขาว
ต้องบอกว่าเขียนไว้อย่างนั้นก็เพราะรู้สึกอย่างนั้น หลังจากติดตามรับชมละคร ตามรักคืนใจตั้งแต่ตอนแรกจนกระทั่งถึงตอนจบบริบูรณ์ แล้วได้ความรู้สึกว่าละครเรื่องนี้ได้ทำหน้าที่ของตัวมันเองได้อย่างดีที่สุดเท่าที่สามารถทำได้แล้ว คือสร้างความสุขอิ่มเอมให้กับคนดูตามนิยามของละคร Feel good ได้อย่างสมบูรณ์แบบบรรลุวัตถุประสงค์ของผู้สร้างอย่างแท้จริงทุกประการ
ปลายปี 57 เคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับละครเรื่อง ตามรักคืนใจ ครั้งแรก
ตามรักคืนใจ" ละครที่มาถูกที่ถูกเวลาพอดีสำหรับพัฒนาการของ ณเดชน์ (ความเห็นส่วนตัว)
http://pantip.com/topic/32639936
เพราะสนใจติดตามบทนายสิงห์ของ ณเดชน์ จึงติดตามดูละคร ตามรักคืนใจตั้งแต่ตอนแรก แล้วก็อย่างที่รู้กันแล้วตอนนี้ ณเดชน์ ในบทนายสิงห์ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้กับแฟนผลงานของเขาเช่นเคย และ การแสดงของ มิว นิษฐา ในบทหนูนา นางเอกของเรื่องก็สร้างความประหลาดใจให้เช่นกัน สิ่งสุดท้ายที่ประทับใจอีกอย่างคืองานละเอียดของผู้สร้างและผู้กำกับที่ดูก็รู้เลยว่าละเอียดกับงานชิ้นนี้มาก แต่ถ้าจะให้พูดถึงละครเรื่องนี้ทั้งเรื่องคงได้ว่ากันยาวหลายสิบหน้ากระดาษ แต่ละหัวข้อมี Story ให้พูดถึงมากมาย เพราะของเขา “แน่น” จริงอะไรจริง ฉะนั้นตามประสาแฟนคลับดารามิใช่นักวิจารณ์ละคร หัวข้ออื่นที่ไม่เกี่ยวกับณเดชน์ จะนิยามไว้สั้นๆ พอสังเขปพอละกันนะ
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ ตามรักคืนใจ ประสบความสำเร็จ
1.บทประพันธ์ที่เป็นที่ยอมรับ
ละครที่มาจากบทประพันธ์ที่เป็นที่ยอมรับของนักอ่านย่อมเท่ากับผ่านการกกลั่นกรองระดับมหาชนมาแล้วว่าเรื่องราวต้องน่าสนใจและเป็นที่ยอมรับระดับหนึ่ง แล้วยิ่งถ้าเป็นของนักประพันธ์รุ่นเก๋าด้วยแล้วมักจะร้อยเรียงเรื่องราวได้สละสลวยสวยงามแทบทุกตัวอักษร มีความชัดเจนของบุคลิกลักษณะตัวละคร ถึงไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนแต่คนดูก็รู้ว่า นายสิงห์นอกจากจะมีหนวดแล้ว ยังมีแผลเป็นใต้คาง ชอบกุมคางเวลาครุ่นคิด และ ชอบจับหัว บีบจมูกหนูนาตัวน้อยเล่นเวลาหมั่นเขี้ยว ขณะที่นึกแทบไม่ออกว่าอะไรคือบุคลิกเฉพาะตัวของ ริว โอนิซึกะ ? อีกทั้งยังสร้างตัวละครแวดล้อมรอบตัวเอกที่มีบทบาทลดหลั่นกันอย่างเป็นระบบ เปรียบเหมือนการจัดสวน ที่มีไม้ประธานแล้วก็ต้องมีไม้ประดับ ไม้ใบ ไม้ดอก ไม้พุ่ม ไม้แคระ ไล่เรียงกันไปจนกระทั่งถึงเศษหินดินหญ้า ก้อนกรวด เม็ดทราย จึงจะเป็นสวนที่งามตา เราจึงได้เห็นตัวละครที่รายล้อมนายสิงห์ ไม่ว่าจะเป็น คุณน้อง น้าราม สาวัตรกช เชษฐ์ แม่ไข่ บุญตา น้าก้อน พวง แป้น หนุ่มสาวชาวไร่ คนงาน แม่ครัว ฯ กอปรขึ้นเป็นครอบครัวไร่บัวขาวที่ดูมีวิถีชีวิตของคนแต่ละชั้นรวมกันอยู่ ณ ที่แห่งนั้น บางคนออกมาแค่เล็กๆน้อยๆ ไม่กี่ครั้งแต่ก็มีตัวตน มีที่ทางของตัวเองในไร่ นี่คือความสวยงามของนักประพันธ์สมัยก่อนที่ไม่ใช่สักแต่สร้างตัวเอก แต่สร้างโลกน้อยๆขึ้นมาทั้งใบให้ตัวละครอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งเป็นส่วนนักประพันธ์ยุคใหม่ที่ชอบแต่งนิยายลูกกวาดมักพลาดไป ชอบวางไม้ประธาน พระเอกหล่อสุดๆ นางเอกสวยสุดๆ โปรไฟล์เริ่ด แล้วก็สร้างตัวละครอื่นๆมีหน้าที่รองรับการกระทำของพระเอกนางเอกแบบใช้แล้วทิ้งหาที่มาที่ไปไม่ได้ ไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง พอมาทำละครจึงไม่ละมุนตา ตอนจบนี้ยิ่งวังเวงเหลือแต่พระนางสองคน ถ้าให้เปรียบกับการจัดสวนก็เหมือน วางกระถางต้นกุหลาบไว้บนลานคอนกรีตอย่างนั้นเลย ละครที่ทำจากบทประพันธ์ที่ดีจึงนับว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
2.ทีมเขียนบท
ไม่ได้เปิดดูเลยครับว่ามือเขียนบทละครตามรักคืนใจชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร เคยเขียนเรื่องอะไรมาบ้าง แต่ที่แน่ๆสามารถปรับบทจากนิยาย เป็นละครที่มีความยาวถึง 14 ตอนได้โดยคนดูรู้สึกว่ายืด หรือ มีตอนที่น่าเบื่อซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่ ทั้งยังต้องคอยรักษาบุคลิก อุปนิสัยใจคอของตัวละครหลักไม่ให้ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ สำหรับเหตุการณ์ที่ขยายออกไป ทั้งยังเขียนบทสนทนาได้เข้าปากตัวละครมาก นับตั้งแต่ดูมาแทบไม่เจอประโยคที่ให้ความรู้สึกว่ายัดเยียด หรือเป็นส่วนเกินแม้แต่น้อย แม้แต่บทของเหล่าตัวประกอบชาวไร่ซึ่งเป็นการขยายกลุ่มคนดูเพื่อให้เป็นมิตรกับกลุ่มคนดูภูธรมากขึ้น แต่อาจสร้างความรำคาญเล็กๆให้กับคนดูในเขตเมืองสำหรับตัวละครสีสันต์เหล่านี้ คนเขียนบทก็ยังม้วนกวาดเข้าที่เข้าทางเสียเรียบร้อยจนเรียบไม่มีปล่อยให้เกะกะลูกกะตา
ถ้าสังเกตให้ดีบทพูดของตัวละครในตามรักคืนใจนี้ไม่มีตัวละครที่พูดจาฟุ่มเฟือยเลย ทั้งตัวละครใหญ่ ตัวละครเล็ก พูดแต่เพียงพอดีจำเป็นตามบทบาทของตัวเองเท่านั้นจริงๆ แม้กระทั่งประโยคท่องอุดมการณ์รักษ์ป่าของนายสิงห์ซึ่งใช้คำว่าป่าคือลมหายใจ ดูตอนนี้เสียวแว๊บ Flash Back ไปถึงตอนดูพี่อาทิจในธรณีนี้ใครครองที่ออกจะใช้คำว่ารักผืนแผ่นดินผ่านทางบทพูดที่ดูยัดเยียดเข้าปากไปเสียหน่อย แต่เรื่องนี้กลับไม่อย่างนั้น นายสีหนาทแสดงอุดมการณ์รักษ์ป่าผ่านการกระทำให้เห็นชัดเจนจะๆแบบพูดน้อยต่อยหนักกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการแบ่งน้ำหนักระหว่างเรื่องราวความรักของพ่อลูก และ ความรักของหนุ่มสาวได้อย่างลงตัวไม่เบียดทับกัน และ บาลานซ์น้ำหนักของเรื่องได้พอดิบพอดีราวกับตาชั่ง เพราะถ้าเน้นเรื่องพ่อลุกเกินไปก็คงกลายเป็นละครดราม่าหนักๆไปคนดูขาจิ้น ขาฟีลกู้ดก็คงเซ็ง แต่ถ้าให้นายสิงห์ไล่จีบหนูนาทั้งวันเนื้อเรื่องก็คงเบาไป กลายเป็นละครลูกกวาดไปได้ง่ายๆ การสับเปลี่ยนไปมาระหว่างเรื่องพ่อลูก หนุ่มสาว และ อุดมการณ์และการขัดแย้งผลประโยชน์ในการณรักษ์ป่า สอดแทรกการทำงานทำการในไร่ แบ่งสัดส่วนแต่ละส่วนได้อย่างลงตัวพอดิบพอดี และละครในแต่ละครก็มีอีเว้นต์ ที่น่าติดตามอันเนื่องมากจากตัวนิยายเองที่แน่นอยู่แล้วและที่เสริมเพิ่มเติมอีเว้นต์ดีๆอย่างการบวชป่าเข้าไปเป็นต้น ทำให้ผู้ชมสามารถติดตามได้อย่างเพลิดเพลินในทุกตอน ที่แยบคายสุดๆคือบทพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างนายสิงห์และหนูนาที่เริ่มจากคนแปลกหน้าที่แปลกหน้าจริงๆ ไม่มีความรู้สึกใดๆต่อกันพัฒนาต่อเนื่องมาตามวาระจนรักกันโดยใช้เวลานับ 10 ตอน นี้มันมหกรรมทุบกระท้อนแล้วค่อยทานชัดๆทำให้คนดูหลังจากเอาใจช่วยนายสิงห์มาเนิ่นนาน พอหนูนามีสัญญาณรักตอบเท่านั้นแหละความหวานที่มันไม่รู้หลบซ่อนอยู่ซอกไหนมุมไหนไหลเอ่อล้นทะลักไร่บัวขาวเป็นฤดูรักหลากกันไปเลย นับเป็นหมากที่ร้ายกาจและแยบคายสุดๆ ในการสร้างอารมณ์ร่วมของคนดูไปกับละครตลอดเรื่อง แล้วที่ต้องยกนิ้วให้ทีมเขียนเลยในการเรียบเรียงบทสนทนาก็คือซีนบอกความจริงกับพ่อ เจ้าก้านไม้ขีดไฟอันลือลั่นนั่นแหละ เริ่มจากเบาไปหาหนักจนกระทั่ง Climax น้ำตาแตกกันทั้งประเทศ ต้องบอกว่าทีมเขียนบทเรื่องนี้สุดยอดจริงๆ ทำให้ละครเรื่องนี้ออกมากลมกล่อมตั้งแต่หัวเรื่องจรดท้ายเรื่องเลยทีเดียว
4.ผู้จัดที่รู้ขอบเขต และ ผู้กำกับที่มีภาพที่ชัดเจนของตัวละคร และเคี่ยวทุกเม็ด
ถ้าจะให้นิยามละครของพี่ดา กับ ป้าแจ๋ว คำว่า “สูตรคุณยาย” น่าจะเป็นคำนิยามที่ตรงที่สุดแล้วล่ะ เพราะคนดูละครก็คงคุ้นเคยกับรสมือแกกันมานานแล้วบางคนดูตั้งแต่เด็กยันโต บางคนกินจนเรียกว่าหลับตาชิมก็รู้แล้วว่าใครทำ กินบ่อยๆเบื่อๆก็อยากหาอะไรแปลกๆกินบ้างแต่สุดท้ายก็กลับไปตายรังที่ “สูตรคุณยาย” ทุกที คำนิยามพื้นๆแบบนี้จึงเหมาะสมที่สุดกับสิ่งที่บางคนอาจมองว่าง่าย เป็นสูตรสำเร็จ แต่กว่าจะรู้สึกตัวเป็นสิ่งที่มีค่าและทำยากกว่าที่ตาเห็นก็ต่อเมื่อไม่มีคุณยายทำให้กินแล้วนั่นแหละ มองผู้จัดช่อง 3 ในปัจจุบันเห็นจะมีแต่พี่แอนเท่านั้นที่มีแววเดินตามทางแนวทางนี้ได้ สำหรับการทำละครตามรักคืนใจนี้ ผู้จัด ผู้กำกับดูเหมือนจะตกผลึกแนวทางการทำงานที่ชัดเจนมาแล้วเป็นอย่างดี และ สามารถควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามที่มุ่งหมายไว้ ผู้กำกับอย่างป้าแจ๋ว ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมือเจียระไนเพชรประดับวงการมาแล้วนับไม่ถ้วน ดาราคนไหนแววดีขอเพียงผ่านมือแก อาจได้เป็นซุปตาร์เพียงชั่วข้ามคืน ป้าแกดึงศักภาพทางการแสดงสูงสุด ความหล่อความสวยสูงสุด โดยไม่ยอมปล่อยให้ส่วนด้อยหลุดออกมาง่ายๆ อย่างณเดชน์ชอบติดห่อไหล่ มาแสดงละครของป้าแจ๋วนี้ไม่มีหลุดมาเลย อกผายไหล่ผึ่งทุกตอน และ สำหรับละครเรื่องนี้ป้าแกก็ได้เจียระไนเพชรเม็ดงามชื่อ มิว นิษฐา ให้เปล่งประกายได้อีกดวงจริงๆ การกำกับผู้กำกับมักจะมีภาพเป้าหมายอยู่ในใจอยู่แล้ว ขึ้นกับว่าจะใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในมือยังไงให้ไปถึงเป้าหมายนั้น อย่างดาราแต่ละคนก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนกัน ป้าแจ๋วนับเป็นผู้กำกับที่แม่นเป้ามากคนนึง แกไม่ปล่อยให้นักแสดงแสดงสะเปะสะปะออกมาเองแล้วเห็นว่าดีค่อยเอาอะไรทำนองนั้นแกชัดเจนในตัวเองมากว่าในแต่ละฉากแกอยากจะได้อะไร ชัดขนาดทำให้ดูได้ละกัน และที่เซอไพร้ส์มากคือนอกเหนือจากงานฟินที่แกถือเป็นมือระดับปรมาจารย์อยู่แล้วและป้าก็ปล่อยของออกมาได้สมราคาระดับตำนาน แฟนละครได้ดูบทกุ๊กกิ๊กพระ-นาง จิ้นจิกหมอนกันสมใจอยากป้าแกช่างครีเอทฉากฟินๆได้อย่างน่ารักน่าชังเหลือเชื่อชนิดหนึ่งไม่มีสองจริงๆคนนี้ แม้จะมีฉากทิ้งตัวที่เป็นลายเซ็นของป้าโผล่มาบ้างแต่เมื่อเทียบกับความยาวของละครทั้ง 14 ตอนแล้วถือว่าน้อยมากพอเป็น ลายเซ็น เท่านั้นเอง ส่วน คิวบู๊ ซึ่งมีไม่น้อยของเรื่องนี้ป้าแจ๋วก็ทำออกมาได้ ดุเดือดตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้ผู้กำกับสายบู๊แท้ๆเลยทีเดียว ขณะที่ทางผู้จัดเองก็ชัดเจนแนวทางที่จะทำละครฟอร์มธรรมดา ในสเกลเล็กที่ถนัด แต่ชัดเจนในวัตถุประสงค์ เพิ่มเติมเน้นหนักในเรื่องของความรักของพ่อลูก และ ความรักระหว่างคนในครอบครัว ที่นอกจากจะทำให้คนดูเพลิดเพลินแล้ว ยังได้ข้อคิดดีๆไปใช้ในครอบครัวได้อีกด้วย ทำให้เป็นละครที่ดูแล้วอารมณ์ดี และ มีคุณค่าในตัวเอง ด้วยความชัดเจนจากทีมงานผู้สร้าง ทำให้ละครฟีลกู้ดสูตรคุณยายเรื่องนี้ขึ้นทำเนียบละครที่ดี และน่าจดจำหนึ่งในหลายๆเรื่องของผู้จัดและผู้กำกับเป็นที่เรียบร้อย และสุดท้าย “ละครรักสูตรคุณยาย” ก็ยังคงเป็นสูตรคุณยาย ยังรักษาเอกลักษณ์ที่ยากจะหาใครมาลอกเลียนแบบไว้ได้
5.ทีมงาน Production เบื้องหลังที่แข็งแรง
เสื้อผ้าหน้าผมของนักแสดงเรื่องนี้ทุกอย่างผ่านมาก ทุกฉากทุกตอน ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งขัดหูขัดตาเลย แม้กระทั่งกิ่งไม้ใบหญ้ายันไรหนวดของนายสิงห์ที่ต้องติดกันทีละเส้น ซึ่งอาจสร้างเป็นบรรทัดฐานหนวดปลอมใหม่ของละครไทยไปเลยก็ได้ กลางวันคือกลางวัน กลางคืนคือกลางคืน ทีมจัดแสงเรื่องนี้ดีงาม ทีมกล้องถ่ายภาพสวยทีมโลเคชั่นก็ช่างแสวงหาโลเคชั่นงามๆ มาเป็นกำไรให้ผู้ชม แม้ต้องตระเวนถ่ายทำกันหลายจังหวัดมาก แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะทำละครให้เป็นละครคุณภาพกันตั้งแต่ทีมงานเบื้องหลังเลยจริงๆ ฉากที่ต้อง setup ขึ้นมาก็ทำได้ดูลงทุนทุทุกฉาก เช่นงานประจำจังหวัด งานบวชป่า ฯ รายละเอียดเล็กๆน้อยๆและความต่อเนื่องเก็บได้เรียบร้อยดี เป็นละครที่พระนางผมเผ้ากระเซอะกระเซิงบ่อยมาก แต่ก็ดูธรรมชาติดี แม้แต่ฉากเล็กๆอย่างฝายกั้นน้ำโดนวางระเบิดแล้วต้องซ่อมก็ยังขนทั้งคนทั้งอุปกรณ์ยังเซตมาให้น่าเชื่อถือ เพื่ออกอากาศแค่ไม่กี่วินาที กระทั่งกิ่งไม้ให้พระเอกหักทำไม้เท้ายังเตรียมไว้ได้เนียนๆ เรียกว่าละเอียดลออกันทุกชิ้นทุกอัน เวลาดูความละเอียดของทีม Production ต้องดูจากซีนเล็กๆนี้แหละครับ ถ้าแม้แต่เล็กๆน้อยๆยังจัดมาซะใส่ใจรายละเอียด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Production ของละครทั้งเรื่องถึงได้กลมกลืนเป็นเนื้องานเดียวกันทั้งหมด นี้ไม่นับงานตัวประกอบที่จัดมาเข้าฉากได้ตามความเหมาะสม ไม่ขาดไม่เกิน ขนาดคุณตายังมีผู้บริหารมือซ้ายมือขวาตามประกบ ให้สมกับเป็นนายแบ้งค์ใหญ่ มีการจัดลำดับชั้นยศของลูกน้อง ทั้ง เหล่าลูกน้องของฝั่งพระเอก ลูกสมุนของฝั่งผู้ร้ายก็ขนกันมาคับคั่ง ให้ลูกพี่เลือกใช้สอยตามยศตามฐานะแบบไม่เป็นที่ขัดตา กระทั่งทีมนายตำรวจของสารวัตร ก็ทำได้สมน้ำสมเนื้อ ไม่ดูเหยาะแหยะเวลาออกปฎิบัติงาน ดูมีหลักมีการทำงานแบบตำรวจมากกว่าที่เห็นบ่อยๆในเรื่องอื่นๆ ไม่นับทีมผู้ร้ายที่ฉลาดกว่าที่เขาไม่ได้มาเล่นๆเป็นกระสอบทรายให้อัด จัดมาครบมาเต็มแบบที่เรียกว่าทำดีก็ต้องชมกันเลยทีเดียว