กระทู้เตือนภัย ไกลผี...อย่าคอมเพลนมาก เมื่อยังอยู่ในโรงแรม มิเช่นนั้น อาจเป็นเช่นนี้..

กระทู้สนทนา
จริง ๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับบี น่าจะ 2 ปีได้แล้วล่ะค่ะ แต่ทุกครั้งที่บีไปเที่ยว โดยเฉพาะไปเที่ยวคนเดียว ก็มักจะมีคนชอบถามว่า
“ไปคนเดียวไม่กลัวผีเหรอ?” “ไม่เคยเจอผีเหรอ?”
ก็เลยขอมาเล่าในกระทู้นี้ไว้เลย เผื่อใครถามอีก จะได้ส่งลิงค์ให้อ่านไปเลย ว่า
“กลัวค่ะ แต่กลัวไม่ได้เที่ยวมากกว่า” และ การเจอผี 2 ครั้ง 2 ครา แบบจัดหนัก จัดเต็มนั้น ทำให้เข้าใจว่า
“คุณผีเนี่ย เวลาเค้าจะมาหาใครที เค้ามีจุดประสงค์นะ ไม่ได้มาแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกเล่นๆขำๆ”

กระทู้นี่ขอมาเล่าเรื่องเดียวก่อนนะ
คำเตือน :::: ไม่ต้องหลังไมค์ หน้าไมค์ ใต้เตียงมาถามนะคะ ว่าโรงแรมอะไร
ม่ายยยยยบอกค่ะ กลัวโดนฟ้อง แต่บอกเลยว่ามีพยานบุคคล
เพราะครั้งนี้ไปกันสามคน เจอกันสามคน คนละนิดละหน่อยแบบ combo set เลยเชียว

แม้เรื่องจะเกิดมาแล้ว 2 ปี แต่บีก็ไม่เคยลืม
เริ่ม!

เริ่มจากบีดูหนังเรื่องนึง มีโรงแรมนี้เป็น location อยู่ในหนัง รู้สึกชอบมากกก อยากไป
พอเห็นโฆษณา agoda บอกว่าลดราคาโรงแรมนี้อยู่ ก็เลยชวนเพื่อนไปกัน
ชักแม่น้ำทั้ง 5 หารีวิว(ที่ไม่ค่อยจะมี) หารูปในเนตไปขาย proposal เพื่อน จนนางๆรำคาญใจ จึงตอบตกลงยอมไปด้วยกัน

ทริปนี้ไปกันสามคน ชะนี ทอม ดี้ (ซึ่งจะใช้เป็นสรรพนามในกระทู้นี้ด้วยนะคะ)
เช่ารถขับกันเอง วันแรกพักที่นิมมานฯ วันที่สอง ขับรถมาพักที่โรงแรมนี้ 1 คืน และวันสุดท้ายก็เข้าเมืองเพื่อเตรียมขึ้นเครื่องกลับบางกอก

จริง ๆ ความหฤหรรษ์ ก็เกิดตั้งแต่บี (ชะนี) ซึ่งเป็นผู้ปัดหมุด GPS บอกทางให้ทอมไปโรงแรมนี้แล้วล่ะ
เราก็ขับทางที่ GPS บอก รู้สึกว่าเห้ย ทางมันใช่เหรอ มันดูบุกป่าฝ่าดง เข้าพง เข้านายังไงไม่รู้ จนต้องโทรถามทางที่โรงแรมตลอด ก็มีพนักงานผู้ชายรับบอกทางตลอด
แต่เราก็ยังหลงกัน จนกว่าจะถึงโรงแรมก็ได้เวลาโพล้เพล้
และก็ขับเลยโรงแรมไปเกือบ 100 เมตร เพราะป้าย เก่ามากกก ผุผังมาก ดั่งป้ายในหนังเรื่องลัดดาแลนด์
เมื่อเจ้าดี้เห็นป้ายเท่านั้นแหละ ก็กรีดร้อง งอแง ไม่อยากพักที่นี่เลย กรีดร้องจะกลับนิมมาน อยู่ดีๆนางก็มีเซนท์กลัวผีขึ้นมา
แต่ชะนีก็โหยหวนกลับว่า “นี่แกร มันหักบัตรฯชั้นไปแล้ว พัก! เราต้องพักที่นี่! กลัวอะไร อยู่กันตั้งสามคน”
เมื่อเลี้ยวเข้าไปที่ลานจอดรถ ชะนีก็วิ่งลงไปเอากุญแจห้องที่รีเซฟชั่น และขึ้นรถมาเพื่อขับรถไปยังบ้านพักอีกที
ตรงรีเซฟชั่นก็ดูเก่า และมืดๆ หยากไย่ๆ มาก
เมื่อถึงห้องพัก เปิดเข้าไป สภาพห้องพักที่ทำมาจากไม้ล้วน เก่าๆนิดนึงเวลาเดินก็ดังอ้อดแอ้ดๆ ทำให้ทุกคนบ่นเป็นหมีกินผึ้งว่ามันเก่ากว่าในรูปหนักมาก ภายนอกห้องพักที่เป็นต้นไม้ก็ดูรกๆ น่ากลัวๆ
แต่...ไม่เป็นไรน่า  เรามาสามคน
วางของ เปลี่ยนชุดว่ายน้ำ และออกไปว่ายน้ำที่สระกัน
ขณะว่ายน้ำ เราก็สั่งอาหารกับพนักงานให้เอามาเสริฟข้างสระ เล่นน้ำไป กินอาหารไป คอมเพลนโรงแรมกันไป (อย่างหนัก) ค่ำๆมืดๆแบบนั้นแหละ บรรยากาศก็วังเวงๆ เพราะมีเราแค่ 3 คน
พอว่ายน้ำเสร็จ ก็กลับเข้าห้อง
ชะนีกับทอม เสียสละให้ดี้อาบน้ำก่อน สักพัก.....ดี้ก็ตะโกนออกมาว่า “เข้ามาเลย ไม่ได้ล๊อค”
ชะนีกับทอมที่เก็บของอยู่ตรงเตียงหันหน้ามองกัน ??!!??
ดี้ตะโกนอีก....เอ้า จะเข้าก็เข้ามาสิ
จนนางออกมาจากห้องน้ำ แล้วถามว่าบิดลูกบิดประตูแล้วทำไมไม่เข้าไป
ชะนีกับทอมบอกว่า ไม่ได้บิดไรเลย จัดของอยู่......นั่นทำให้ดี้ยิ่งหลอนขึ้นไปอีก

รายต่อไป.. เอ้ย คนต่อไป
ชะนีเข้าไปอาบน้ำ
ชะนีอาบน้ำอยู่ใน shower ซึ่งปกติโรงแรมอื่น ๆ จะเป็นกระจกใส แต่ที่นี่เป็นไม้ทึบ 4 ด้าน
อาบน้ำไป ก็ได้ยินเสียงอ๊อดแอ๊ดๆ เหมือนมีใครยืนอยู่ตรงอ่างล่างมือ ในใจก็คิดว่า อ่า....คิวกูแล้วสินะ
แต่ก็ใจดีสู้ผี อาบน้ำจนสะอาด แล้วออกมา ไม่เจออะไรที่อ่างล้างหน้า...อ่ะ ดี รอด เตรียมเข้านอน

เตียงก็จะมีเตียงใหญ่ ลักษณะมีมุ้งๆพันอยู่ด้านบน สามารถคลี่ออกมาคลุมเตียงได้ เตียงใหญ่ ทอมกับดี้นอนด้วยกัน
และแน่ล่ะ ชะนีไม่มีที่อยู่ ต้องนอนเตียงเสริม ข้างๆโต๊ะ เก้าอี้วางของ

ทอม ไม่ได้เอามุ้งลงคลุมเตียง คืนนั้น ทอมตื่นกลางดึก เห็นมุ้งที่พันอยู่หมุนติ้วๆๆๆๆๆ ทั้งๆทีตรงนั้นไม่ใช่ที่ๆแอร์เป่าด้วยซ้ำ
พอทอมหันมาทางเตียงเสริมของชะนี สิ่งที่ทอมเห็นคือ เห็นเงาผู้ชายตัวใหญ่ นั่งเก้าอี้อยู่ที่หัวเตียงที่ชะนีนอนอยู่

เช้ารุ่งขึ้น พวกเราตื่นกันเช้ามากกกกก ประมาณ 8 โมง ตื่นมารีบเอาของมาใส่รถ กุญแจห้องวางไว้ในห้อง
ออกมาทาน breakfast ระหว่างที่ทาง breakfast กันอยู่
ทอมก็ถามชะนีว่า “หลับสบายไหม”
ชะนีบอกว่า “ไม่สบายว่ะ ปกติชั้นชอบนอนหงาย แต่เมื่อคืนกลัว เลยนอนตะแคงมาทางพวกแกตลอดเลย เลยเมื่อยๆ ไม่สบายตัว”
ทอมบอกว่า “เออ..ดีแล้ว เดี๋ยวออกไปเดี๋ยวอะไรเล่าอะไรให้ฟัง”
เท่า นั้น แหละ  ทั้งหมดรีบรวบซ้อมมีด พุ่งตรงไปที่รถ ขับออกไปอย่างไว โดยทอมและชะนีแวะแจ้งที่รีเซฟชั่นว่า check out แล้วนะคะ ส่วนกุญแจอยู่ในห้องค่า (ไม่กล้าเข้าไปเอาแล้ว)
ส่วนดี้นั่งกลัวผีอยู่ในรถ

ตอนที่ทอม กับชะนีไป check out ที่ตรงรีเซฟชั่นที่เมื่อวานเก่า ๆ หยากไย่ ๆ วันนี้ติดไฟส้มสวยงาม ดูสะอาดสะอ้านมาก จนเราคิดว่า สงสัยวันนี้มีงานแต่ง
เรา check out กับพนักงานผู้หญิง หน้าซีดขาว พริ้มเพรา ตามสไตล์สาวเหนือ เธอยื่นแบบสอบถามทางให้เราเอามากรอก
เข้า ทาง ล่ะ
ทอมจัด “ควรปรับปรุง” ให้ทุกข้อที่ถามมา

เมื่อขับรถออกมา จนเที่ยงๆ ถึงนิมมานกันแล้ว
ชะนีเพิ่งนึกได้ว่า “เฮ้ยยย ลืมจ่ายค่าอาหารที่สั่งมากินเมื่อวานที่สระว่ายน้ำนี่นา”
ก็เลยโทรเข้าโรงแรม เพื่อจะขอเลขที่บัญชีโอนตามไป
พนักงานผู้ชายคนที่บอกทาง และคนที่รับ check in เป็นคนรับสาย
เมื่อเราบอกว่า เราออกมาแล้ว โดยแจ้งพนักงานผู้หญิงไว้ว่า check out และยังบอกไว้เลยว่ากุญแจอยู่ในห้อง
พนักงานผู้ชายคนนั้น แลดูงงๆ และไม่บอกเลขที่บัญชีเราในทันที แต่กลับบอกว่าจะโทรกลับมาใหม่

สักพักพนักงานผู้ชายคนนั้นก็โทรกลับมาใหม่ว่า “check out กับพนักงานผู้หญิงเหรอครับ ใช่แม่บ้านหรือเปล่า”
เราบอกว่า “ไม่ใช่ค่ะ เพราะตอนออกมา ยังเห็นแม่บ้านอยู่แถวๆหน้าห้อง”
พนักงานวางสายไปอีกที และดูตื่นเต้นๆ
จนทอมเอะใจมาก จึงโทรกลับไปเพื่อถามว่า “ตกลงที่นั่นมีพนักงานผู้หญิงมั้ย”
พนักงานผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาว่า “ที่นี่ไม่มีพนักงานผู้หญิง”

เราสามคนเงิบบบบ กันอยู่ตรงนั้น และเริ่มคิดย้อนกลับไปว่า
เออ จริง พอเรากรอกแบบสอบถาม แล้วเงยหน้ามา พนักงานหญิงได้หายไปแล้ว เราจึงกลับออกมาเลย เพราะไม่มีใครคิดค่าใช้จ่ายค่าอาหารของเรา
ทอมระลึกได้แอดวานซ์กว่าคือ พนักงานหญิงคนนั้นหน้าตาเหมือนคนที่อยู่ในรูปบนกำแพงหลังโต๊ะรีเซฟชั่น...ว่าไปนั่น

คือเรามาสรุปเอง เออเองแหละ ว่าเค้าคงเป็นเจ้าที่ หรือเจ้าของ หรือบรรพบุรุษ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่อยากปรับปรุงโรงแรมนี้ให้ดีขึ้น
เพราะตอนที่เราไปนั้น มันทั้งเก่า รกร้าง ต้นไม้ขึ้นรกไปหมด  
ส่วนที่มานั่งอยู่ข้างเตียงเรา....ก็ไม่รู้สินะ บรื๋ออออออ



ปล.บีมีแฟนเพจแล้วนะคะ ฝากติดตามด้วยเน้อ
https://www.facebook.com/beebugslollipop
หวังว่าจะมีแต่รีวิวท่องเที่ยวน้า รีวิวขุ่นผีไม่เอาแล้วโน๊ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่