กติกา Review เปรียบเทียบ โชว์พลังดูดเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้อยู่ปัจจุบัน กับ Samsung POWERbot
การรีวิวครั้งนี้ จะริวิวจากการใช้งานจริงหลีกเลี่ยงการอ่านข้อมูลในคู่มือหรือข้างกล่อง (ที่เป็นวิชาการและการตลาดที่ทำให้ผู้ใช้สับสน ในภาษา)
หุนยนต์ดูดฝุ่นในท้องตลาด ที่มาทำการ เปรียบเทียบดังนี้
ชนิดที่ 1.robot sweeperสีเขียว เป็นเครื่องกวาดบ้านแรงลมน้อยดูดผมหรือขนสัตว์ ยิ่งถ้าเป็นขนสัตว์ที่อยู่บนพรมไม่มีแรงลมดึงออกมาได้
**แต่ VR9000ด้วยลม 60เท่า(เท่าเครื่องดูดฝุ่นจริง) แรงพอดึงสิ่งสกปรกในพรมอกมาได้
วิดีโอแสดงพลังดูด60เท่า ด้วยการดูดลูกโปลลิ่ง
ชนิดที่ 2.KL6 เครื่อง ดูดฝุ่นแรงลมเบา มีแขนกวาด มีsensor กันตก หลบหลีกใช้กระแทกสัมผัส จะมีเสียงดังในการกระแทก บางทีกระแทกประตูจนเข้าใจผิด มีคนมาทุบประตู ใช้ไปนานประตูมีรอยชน รวมถึงกำแพงบ้านและเป็นรอยตามแนว
SAMSAUNG VR9000 สามารถใช้งานดูดฝุ่นจริงๆเป็นเครื่องดูดฝุ่นแท้ๆและความสามารถแตกต่างทุกตัว ในท้องตลาด
ความสามารถของ vr9000
1.ฉลาด มีการจดจำ จำลอง ประมวลผลโดยใช้กล้องบนตัวเครื่อง รู้ว่าห้องไหนดูดแล้วและไม่เข้าไปดูด จากการสร้างภาพจำลองห้องต่างๆและจำในตัว นำเครื่องเข้าห้องที่ดูดไปแล้วเครื่องจะหมุนscan 2รอบเพื่อสร้างภาพจำลองเปรียบเทียบกับภาพในหน่วยความจำเทียบ ว่าทำดูดไปหรือยัง เลยไม่มีความกังวลว่าวิ่งเข้าดูดจะในห้องซ้ำซ้อน ทำให้เปลืองแบต
2.กังวลว่าเครื่องจะหลงไปห้องต่างๆ แล้วออกไม่ได้ เครื่องจดจำทางเดินที่ตัวเองเดินเข้า พอเข้าถึงห้องที่ดูดไปแล้ว ก็จะออกทางประตูที่เข้ามา ทำให้ระยะเวลาการใช้งานในmode auto เราสามารถใช้งานได้มากกว่า 300ตรม (กินพื้นที่ 7-8 ห้อง)
3.ข้ามสิ่งกีดขวางได้ถึง 15 มม. และได้สูงกว่าถ้าสิ่งกรีดขวางไม่ลื่น เช่นพรมสูง พรมยาง ด้วยล้อเครื่องใหญ่สุด ซ่อนรูปอย่างมิดชิดดอกยางที่หนืด ทำให้ปีนบ่ายได้ดี
4.ระบบจัดเก็บฝุ่นแบบเครื่องดูดฝุ่นจริง ไร้กังวล รั่วไหลของฝุ่น แยกออกจากตัวเครื่อง ถอดล้างได้ ไม่ต้องยกตัวเครื่องไปทำความสะอาด
5.เข้าชาร์จเองได้ เมื่อแบตหมด หรือ หยุดทำงานเมื่อได้ดูดครบทุก ตร.นิ้วแล้ว
6.สามารถตั้งเวลาได้ (อย่าลืมถ้าไม่อยู่บ้านนาน หรือไม่ต้องการให้ทำงาน กดปุ่มคั้งเวลานาน 3 วินาทีเพื่อยกเลิก)
7. visible wall ป้องกันหุ่นยนต์เข้าพื้นที่ ที่หวงห้าม (แต่ visible wall ไม่ทำงานใน mode บังคับด้วยรีโมท)
8.ที่มีในทุก mode คือสามารถชิดกำแพง โดยใช้ sensor โดนที่ตัวชิดกำแพง โดยตัวเครื่องไม่กระแทก กำแพงหรือสิ่งที่ติดอยู่กับกำแพง เช่น โต๊ะทำงาน กีต้าร์ที่แขวนอยู่ กรอบรูป ระยะห่าง 1-5 มม
**ถึงจะเป็นฟั่งชั้นมาตราฐานแต่ samsung VR9000 กลับสร้างมาตราฐานต่ำสุดให้สูงขึ้น และฟั่งชั้นสูงๆ VR9000 จะทำได้ไกลขนาดไหน
เครื่องมาพร้อม
เปรียบเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทีมี
1.ทดสอบกันตก หุนยนต์ ทั้ง 3 ผ่นการทดสอบ แต่ไม่ทุกครั้งทุกแบบ แต่ vr9000 ยังไม่มีการตกหล่นให้เห็น
2.ทดสอบการสัมผัส sensor ด้วยลูกโป่ง กับหุ่นยนต์อีกแบบไม่มี sensor แต่ใช้การชนสัมผัส หุ่นยนต์ยี่ห้ออื่น ใช้การวิ่งชนถึงจะรู้ว่ามีสิ่งกีดขวาง ทำให้ทั้งตัวเครื่องและสิ่งที่ชนเป็นรอย(ถึงล้มตกลงมา) แต่ VR9000 ไม่มีการชน ยังรักษาระยะห่าง ได้ดี
3.ทดลองพลังดูดด้วยแป้งเด็ก VR9000 มาดูดแป้งเด็กได้ครั้งเดียว
หุ่นยนต์ยี่ห้ออื่น 2ตัว ไม่สามารถดูดได้ ซ้ำยังกลายร่างจากเครื่องดูดฝุ่นเป็นเครื่องทาสี เลอะเทอะไปกว่าเดิม ต้องใช้ VR9000 เก็บฝุ่นแป้งเลอะเทอะไว้ ต้องดูด 2 รอบเพราะ ห่นยนต์ดูด 2ตัว ออกแรงกดแป้งทำให้ติดแน่นบนพื้น
4. การปีนป่าย หุ่นยนต์ยี่ห้ออื่นทั้ง 2 ตัวไม่ผ่าน เพราะใช้การชนสัมผัสเพื่อหลบหลีกทำให้ ชนสิ่งกีดขวางและหลบไป แต่ VR900 สามารถรู้ถึงความสูงของสิ่งกีดขวางได้ด้วย การใช้ sensor และสวิทต์สมัผัสทำงานร่วมกัน เพื่อตัดสินใจ จะข้ามหรือหลบหลีก
ปุ่มและMODE ต่างในการทำความสะอาด
A.ปุ่มMODE หลักบนเครื่องมี 4 MODE
1.AUTO MODE เครื่องจะ วิ่งเก็บเป็นทาง เหมือนหว่านเมล็ด
2.SPOT MODE วิ่งวนเป็นก้นหอย ออกจากจุดเริ่มต้น เหมาะสำหรับดูดสิ่งของที่ตกแตก หล่น และกระจายออกเป็นวงกว้าง ไม่เกิน 5ฟุต
3.LOOP MODE เดินเลอะกำแพง แล้ววนเข้ากลางห้อง MODE นี้ตรงข้ามกับMODE ที่1
เหมาะสำหรับทำความสะอาด โดยไม่รบกวน บุคคลทีทำงานอยู่กลางห้อง
4.MANUAL MODE บังคับทิศทางจากรีโมท เหมือนรถบังคับ MODE นี่เด็กๆชอบ
5.HOME กดเพื่อเข้าชาร์จ เครื่องจะหยุดดูดและวิ่งเข้าหาเครื่องชาร์จเอง
**ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าถึงจะไม่รีโมท การทำงานก็ยังทำได้ครบทุกฟั่งชั่น
ปุ่มบนตัวรีโมท ที่มีMODE อีก 3MODE
1.POINT MODE ชี้จุดด้วยเลเซอร์
2.SPOT MODE (เช่นเดียวกับกดบนตัวเครื่อง)
3.MAX MODE เครื่องทำงานต่อเนื่อง รักษาแรงลมตลอดเวลา
4.MANUAL MODE (เช่นเดียวกับกดบนตัวเครื่อง)
และปุ่มเอนกประสงค์อีกคือ
5.ลดเสียงรบกวน
6.ตรวจสอบฝุ่นที่ดูดไปแล้วควรนำไปทิ้งหรือยัง
7.ปุ่มตั้งเวลา/ยกเลิกและเริ่มดูดฝุ่น วันละครั้ง(กดค้าง 3วินาที)
8.ปุ่ม home กดเพื่อเช้าชาร์จ (เช่นเดียวกับกดบนตัวเครื่อง)
สรุปผลการทดลองเปรียบเทียบ
เมื่อเราอยากได้เครื่องดูดฝุ่น ก็ต้องเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีพลังดูดจริงๆ ยิ่งได้ความฉลาดของการเป็นหุ่นยนต์ และฉลาดที่สุดในท้องตลาดยิ่งช่วยงานได้มาก เครื่องดูดฝุ่นทั่วไปต้องใช้แรงคนช่วยในการทำงาน แต่ทุกวันนี้เวลาเป็นเงินเป็นทอง และหลายคนต้องการใช้เวลาที่เหลือพักผ่อนมากกว่า ที่จะต้องมานั่งทำงานต่อ ถึงจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือมา เครื่องถึงจะถูกแต่เมื่อไม่มีการใช้หรือเอามาใช้อาทิตย์หรือเดือนละครั้ง ก็อาจจะใช้ได้ใช้งานคุ่มเท่า
แต่ถ้าเป็นไปได้เพิ่มเงินเพื่ออัพเกรดให้เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น samsung VR9000 กลับกลายเราได้ใช้เงินอย่างคุ้มค่า เพราะการทำงานด้วยตัวมันเอง ออกมาทำงานได้บ่อย ห้องยิ่งสะอาดทุกวัน เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์ดูฝุ่นที่ตนมีอยู่ ถึงจะถูก แต่ก็แลกมาด้วยข้อด้อยมากมาย
ถามตนเองถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับเปลี่ยน จัดหา samsung VR9000 มาทดแทนที่มีอยู่
ถึงเวลาแจกจ่ายหุ่นยนต์ตัวเก่าแก่เพื่อนๆ ที่สนใจต่อไป
สำหรับการเข้าใจง่าย รีวิวมีหนังสั้น ดูเอาสนุก 1เรื่อง
[SR] Review เปรียบเทียบ กับ Samsung POWERbot VR9000
การรีวิวครั้งนี้ จะริวิวจากการใช้งานจริงหลีกเลี่ยงการอ่านข้อมูลในคู่มือหรือข้างกล่อง (ที่เป็นวิชาการและการตลาดที่ทำให้ผู้ใช้สับสน ในภาษา)
หุนยนต์ดูดฝุ่นในท้องตลาด ที่มาทำการ เปรียบเทียบดังนี้
ชนิดที่ 1.robot sweeperสีเขียว เป็นเครื่องกวาดบ้านแรงลมน้อยดูดผมหรือขนสัตว์ ยิ่งถ้าเป็นขนสัตว์ที่อยู่บนพรมไม่มีแรงลมดึงออกมาได้
**แต่ VR9000ด้วยลม 60เท่า(เท่าเครื่องดูดฝุ่นจริง) แรงพอดึงสิ่งสกปรกในพรมอกมาได้
วิดีโอแสดงพลังดูด60เท่า ด้วยการดูดลูกโปลลิ่ง
ชนิดที่ 2.KL6 เครื่อง ดูดฝุ่นแรงลมเบา มีแขนกวาด มีsensor กันตก หลบหลีกใช้กระแทกสัมผัส จะมีเสียงดังในการกระแทก บางทีกระแทกประตูจนเข้าใจผิด มีคนมาทุบประตู ใช้ไปนานประตูมีรอยชน รวมถึงกำแพงบ้านและเป็นรอยตามแนว
SAMSAUNG VR9000 สามารถใช้งานดูดฝุ่นจริงๆเป็นเครื่องดูดฝุ่นแท้ๆและความสามารถแตกต่างทุกตัว ในท้องตลาด
ความสามารถของ vr9000
1.ฉลาด มีการจดจำ จำลอง ประมวลผลโดยใช้กล้องบนตัวเครื่อง รู้ว่าห้องไหนดูดแล้วและไม่เข้าไปดูด จากการสร้างภาพจำลองห้องต่างๆและจำในตัว นำเครื่องเข้าห้องที่ดูดไปแล้วเครื่องจะหมุนscan 2รอบเพื่อสร้างภาพจำลองเปรียบเทียบกับภาพในหน่วยความจำเทียบ ว่าทำดูดไปหรือยัง เลยไม่มีความกังวลว่าวิ่งเข้าดูดจะในห้องซ้ำซ้อน ทำให้เปลืองแบต
2.กังวลว่าเครื่องจะหลงไปห้องต่างๆ แล้วออกไม่ได้ เครื่องจดจำทางเดินที่ตัวเองเดินเข้า พอเข้าถึงห้องที่ดูดไปแล้ว ก็จะออกทางประตูที่เข้ามา ทำให้ระยะเวลาการใช้งานในmode auto เราสามารถใช้งานได้มากกว่า 300ตรม (กินพื้นที่ 7-8 ห้อง)
3.ข้ามสิ่งกีดขวางได้ถึง 15 มม. และได้สูงกว่าถ้าสิ่งกรีดขวางไม่ลื่น เช่นพรมสูง พรมยาง ด้วยล้อเครื่องใหญ่สุด ซ่อนรูปอย่างมิดชิดดอกยางที่หนืด ทำให้ปีนบ่ายได้ดี
4.ระบบจัดเก็บฝุ่นแบบเครื่องดูดฝุ่นจริง ไร้กังวล รั่วไหลของฝุ่น แยกออกจากตัวเครื่อง ถอดล้างได้ ไม่ต้องยกตัวเครื่องไปทำความสะอาด
5.เข้าชาร์จเองได้ เมื่อแบตหมด หรือ หยุดทำงานเมื่อได้ดูดครบทุก ตร.นิ้วแล้ว
6.สามารถตั้งเวลาได้ (อย่าลืมถ้าไม่อยู่บ้านนาน หรือไม่ต้องการให้ทำงาน กดปุ่มคั้งเวลานาน 3 วินาทีเพื่อยกเลิก)
7. visible wall ป้องกันหุ่นยนต์เข้าพื้นที่ ที่หวงห้าม (แต่ visible wall ไม่ทำงานใน mode บังคับด้วยรีโมท)
8.ที่มีในทุก mode คือสามารถชิดกำแพง โดยใช้ sensor โดนที่ตัวชิดกำแพง โดยตัวเครื่องไม่กระแทก กำแพงหรือสิ่งที่ติดอยู่กับกำแพง เช่น โต๊ะทำงาน กีต้าร์ที่แขวนอยู่ กรอบรูป ระยะห่าง 1-5 มม
**ถึงจะเป็นฟั่งชั้นมาตราฐานแต่ samsung VR9000 กลับสร้างมาตราฐานต่ำสุดให้สูงขึ้น และฟั่งชั้นสูงๆ VR9000 จะทำได้ไกลขนาดไหน
เครื่องมาพร้อม
เปรียบเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทีมี
1.ทดสอบกันตก หุนยนต์ ทั้ง 3 ผ่นการทดสอบ แต่ไม่ทุกครั้งทุกแบบ แต่ vr9000 ยังไม่มีการตกหล่นให้เห็น
2.ทดสอบการสัมผัส sensor ด้วยลูกโป่ง กับหุ่นยนต์อีกแบบไม่มี sensor แต่ใช้การชนสัมผัส หุ่นยนต์ยี่ห้ออื่น ใช้การวิ่งชนถึงจะรู้ว่ามีสิ่งกีดขวาง ทำให้ทั้งตัวเครื่องและสิ่งที่ชนเป็นรอย(ถึงล้มตกลงมา) แต่ VR9000 ไม่มีการชน ยังรักษาระยะห่าง ได้ดี
3.ทดลองพลังดูดด้วยแป้งเด็ก VR9000 มาดูดแป้งเด็กได้ครั้งเดียว
หุ่นยนต์ยี่ห้ออื่น 2ตัว ไม่สามารถดูดได้ ซ้ำยังกลายร่างจากเครื่องดูดฝุ่นเป็นเครื่องทาสี เลอะเทอะไปกว่าเดิม ต้องใช้ VR9000 เก็บฝุ่นแป้งเลอะเทอะไว้ ต้องดูด 2 รอบเพราะ ห่นยนต์ดูด 2ตัว ออกแรงกดแป้งทำให้ติดแน่นบนพื้น
4. การปีนป่าย หุ่นยนต์ยี่ห้ออื่นทั้ง 2 ตัวไม่ผ่าน เพราะใช้การชนสัมผัสเพื่อหลบหลีกทำให้ ชนสิ่งกีดขวางและหลบไป แต่ VR900 สามารถรู้ถึงความสูงของสิ่งกีดขวางได้ด้วย การใช้ sensor และสวิทต์สมัผัสทำงานร่วมกัน เพื่อตัดสินใจ จะข้ามหรือหลบหลีก
ปุ่มและMODE ต่างในการทำความสะอาด
A.ปุ่มMODE หลักบนเครื่องมี 4 MODE
1.AUTO MODE เครื่องจะ วิ่งเก็บเป็นทาง เหมือนหว่านเมล็ด
2.SPOT MODE วิ่งวนเป็นก้นหอย ออกจากจุดเริ่มต้น เหมาะสำหรับดูดสิ่งของที่ตกแตก หล่น และกระจายออกเป็นวงกว้าง ไม่เกิน 5ฟุต
3.LOOP MODE เดินเลอะกำแพง แล้ววนเข้ากลางห้อง MODE นี้ตรงข้ามกับMODE ที่1
เหมาะสำหรับทำความสะอาด โดยไม่รบกวน บุคคลทีทำงานอยู่กลางห้อง
4.MANUAL MODE บังคับทิศทางจากรีโมท เหมือนรถบังคับ MODE นี่เด็กๆชอบ
5.HOME กดเพื่อเข้าชาร์จ เครื่องจะหยุดดูดและวิ่งเข้าหาเครื่องชาร์จเอง
**ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าถึงจะไม่รีโมท การทำงานก็ยังทำได้ครบทุกฟั่งชั่น
ปุ่มบนตัวรีโมท ที่มีMODE อีก 3MODE
1.POINT MODE ชี้จุดด้วยเลเซอร์
2.SPOT MODE (เช่นเดียวกับกดบนตัวเครื่อง)
3.MAX MODE เครื่องทำงานต่อเนื่อง รักษาแรงลมตลอดเวลา
4.MANUAL MODE (เช่นเดียวกับกดบนตัวเครื่อง)
และปุ่มเอนกประสงค์อีกคือ
5.ลดเสียงรบกวน
6.ตรวจสอบฝุ่นที่ดูดไปแล้วควรนำไปทิ้งหรือยัง
7.ปุ่มตั้งเวลา/ยกเลิกและเริ่มดูดฝุ่น วันละครั้ง(กดค้าง 3วินาที)
8.ปุ่ม home กดเพื่อเช้าชาร์จ (เช่นเดียวกับกดบนตัวเครื่อง)
สรุปผลการทดลองเปรียบเทียบ
เมื่อเราอยากได้เครื่องดูดฝุ่น ก็ต้องเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีพลังดูดจริงๆ ยิ่งได้ความฉลาดของการเป็นหุ่นยนต์ และฉลาดที่สุดในท้องตลาดยิ่งช่วยงานได้มาก เครื่องดูดฝุ่นทั่วไปต้องใช้แรงคนช่วยในการทำงาน แต่ทุกวันนี้เวลาเป็นเงินเป็นทอง และหลายคนต้องการใช้เวลาที่เหลือพักผ่อนมากกว่า ที่จะต้องมานั่งทำงานต่อ ถึงจะซื้อเครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือมา เครื่องถึงจะถูกแต่เมื่อไม่มีการใช้หรือเอามาใช้อาทิตย์หรือเดือนละครั้ง ก็อาจจะใช้ได้ใช้งานคุ่มเท่า
แต่ถ้าเป็นไปได้เพิ่มเงินเพื่ออัพเกรดให้เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น samsung VR9000 กลับกลายเราได้ใช้เงินอย่างคุ้มค่า เพราะการทำงานด้วยตัวมันเอง ออกมาทำงานได้บ่อย ห้องยิ่งสะอาดทุกวัน เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์ดูฝุ่นที่ตนมีอยู่ ถึงจะถูก แต่ก็แลกมาด้วยข้อด้อยมากมาย
ถามตนเองถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับเปลี่ยน จัดหา samsung VR9000 มาทดแทนที่มีอยู่
ถึงเวลาแจกจ่ายหุ่นยนต์ตัวเก่าแก่เพื่อนๆ ที่สนใจต่อไป
สำหรับการเข้าใจง่าย รีวิวมีหนังสั้น ดูเอาสนุก 1เรื่อง