ช่วง 3 เดือนหลังนี้ ถือว่าเป็นช่วงทองของชีวิตการปฏิบัติธรรมของผมจริงๆ
ในปฏิปทาทั้ง 4 ตามลิ้งค์
http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=154
ผมค้นพบเทคนิควิธี ที่ทั้งง่ายและไว ตามในข้อ 4 สุขา ปฏิปทา ขิปปาภิญญา
จริงๆ ผมเคยพูดไปแล้ว เรื่องที่ว่า การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องง่ายสุดๆ
ช่วงนี้ ชีวิตมีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างไว แม้แต่คนรอบข้างก็เห็น
จนได้รับเชิญไปสอนเรื่องนี้ที่ ม. จุฬาฯ (จากคนที่ no name ไม่มี profile ใดๆ เลย)
คนทั่วไป ที่ไม่ได้สนใจศาสนา เขาก็เริ่มเข้าใจตรงนี้ แถมเข้าใจได้ง่ายกว่าด้วย
เพราะในหัวเขาไม่มีทฤษฏี ความรู้อะไรมากมายมาบังสัจธรรม
ยิ่งเด็กๆ ยิ่งรับรู้ได้ง่าย ....อนุสัยยังน้อย
ผมเคยได้ยินครูบาอาจารย์กล่าวถึง สภาพจิตไม่ลงความเห็นว่า ดีชั่ว ถูกผิด สุขทุกข์ อยู่เหนือสิ่งเหล่านี้
ผมก็ได้สัมผัสเมื่อปีนี้เอง...
เป็นสภาวะที่อธิบายให้เข้าใจไม่ได้แล้ว ...คือ ต้องเป็นกับคนที่มีประสบการณ์เดียวกันเท่านั้น จึงจะเก็ท
คนทั่วไป จิตยังตัดสินในความผิด ถูก / ชอบ ชัง อยู่ จึงเกิดความทุกข์
หากจิตไปพ้นของคู่ได้ ก็จะพบภาวะที่ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีคำอธิบาย
แม้จะยังไม่ถึงที่สุด แต่ผมก็หมดความกังขาในเส้นทางนี้ รู้ชัดว่า ต้องเดิน “ทางนี้” แหละ
สมกับชื่อ User ที่ผมตั้งมาหลายปี
ต่อให้ใครมาบอกผมว่า คุณเดินผิดทาง ผมก็ไม่สนนะครับ
ไม่ใช่ว่าผมดื้อ ถือทิฏฐิ แต่ถ้ามาสัมผัสจุดนี้ได้ คุณจะรู้ว่า มันจะผิดได้อย่างไร ในเมื่อมันไม่มีอะไร “ถูก”
เล่าเรื่องภาวนา 2
ในปฏิปทาทั้ง 4 ตามลิ้งค์
http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=154
ผมค้นพบเทคนิควิธี ที่ทั้งง่ายและไว ตามในข้อ 4 สุขา ปฏิปทา ขิปปาภิญญา
จริงๆ ผมเคยพูดไปแล้ว เรื่องที่ว่า การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องง่ายสุดๆ
ช่วงนี้ ชีวิตมีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างไว แม้แต่คนรอบข้างก็เห็น
จนได้รับเชิญไปสอนเรื่องนี้ที่ ม. จุฬาฯ (จากคนที่ no name ไม่มี profile ใดๆ เลย)
คนทั่วไป ที่ไม่ได้สนใจศาสนา เขาก็เริ่มเข้าใจตรงนี้ แถมเข้าใจได้ง่ายกว่าด้วย
เพราะในหัวเขาไม่มีทฤษฏี ความรู้อะไรมากมายมาบังสัจธรรม
ยิ่งเด็กๆ ยิ่งรับรู้ได้ง่าย ....อนุสัยยังน้อย
ผมเคยได้ยินครูบาอาจารย์กล่าวถึง สภาพจิตไม่ลงความเห็นว่า ดีชั่ว ถูกผิด สุขทุกข์ อยู่เหนือสิ่งเหล่านี้
ผมก็ได้สัมผัสเมื่อปีนี้เอง...
เป็นสภาวะที่อธิบายให้เข้าใจไม่ได้แล้ว ...คือ ต้องเป็นกับคนที่มีประสบการณ์เดียวกันเท่านั้น จึงจะเก็ท
คนทั่วไป จิตยังตัดสินในความผิด ถูก / ชอบ ชัง อยู่ จึงเกิดความทุกข์
หากจิตไปพ้นของคู่ได้ ก็จะพบภาวะที่ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีคำอธิบาย
แม้จะยังไม่ถึงที่สุด แต่ผมก็หมดความกังขาในเส้นทางนี้ รู้ชัดว่า ต้องเดิน “ทางนี้” แหละ
สมกับชื่อ User ที่ผมตั้งมาหลายปี
ต่อให้ใครมาบอกผมว่า คุณเดินผิดทาง ผมก็ไม่สนนะครับ
ไม่ใช่ว่าผมดื้อ ถือทิฏฐิ แต่ถ้ามาสัมผัสจุดนี้ได้ คุณจะรู้ว่า มันจะผิดได้อย่างไร ในเมื่อมันไม่มีอะไร “ถูก”