ขอเอ่ยสวัสดีทุกท่านที่อ่านกระทู้ของป้านะจ๊ะ
เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน...
ณ เกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ตั้งอยู่กลางทะเลโดยมีสะพานชื่อ "สารสิน" เป็นตัวเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ได้มีชะนี(ญ)วัยกลางคนค่อนไปทางปลายนางหนึ่งอาศัยอยู่ นางอพยพจากเมืองหลวงเพื่อมาทำงานที่บริษัทเล็กๆ บน "เกาะภูเก็ต" แห่งนี้
ณ ที่บริษัทแห่งนี้ เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่จะเรียกนางว่า "ป้า" และยัยป้าที่พูดถึงอยู่นี้ก็คือตัวดิฉันเอง ตอนแรกที่ได้ยินคนอื่นเรียกดิฉันว่า "ป้า..!" ดิฉันก็งงๆ ประมาณว่าเรียกใครเหรอ..!? แต่พอเหลียวซ้ายมองขวาแล้วไม่เห็นมีคนอื่นยืนอยู่ข้างๆ จึงได้ถึงบางอ้อ...อ๋อ! มุงเรียกกรูนิเอง ในใจแอบขุ่นเคืองมิใช่น้อย เพราะไอ้คำๆ นี้เหมาะกับผู้หญิงที่มีตัวเลขอายุมากพอควร หรือที่เรียกว่า "แก่" นั่นแหละ (ว่าแล้วภาพหญิงชรา ผิวสองสี เตี้ยล่ำ มีผมหงอกบ้างเล็กน้อย วิ่งปร๊าดเข้ามาในสมอง โอ้ว! ปวดร้าวหัวใจเลยลงไปถึงตับอ่อน) อายุและหนังหน้าของดิฉันดูแล้วยังไม่เหมาะกับสรรพนามนี้สักหน่อย (อันนี้คิดเอง) แต่นั่นแหละนะ จะไปห้ามคนอื่นไม่ให้เรียกป้าคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นก็ต้องปล่อยไปและเมื่อถูกเรียกบ่อยครั้งเข้าก็ซึมซับ จนสุดท้ายกลายเป็นคุ้นชินและอยู่กับมันมาจนถึงบัดนี้
จากนี้ขอแทนตัวเองว่า "ป้า" ง่าย สั้น เข้าใจตรงกันนะ
พื้นฐานนิสัยของป้าเองไม่ใช่คนเลวร้ายนัก อาจมีอินดี้ตีสแตกไปบ้าง (คนอื่นเขาแจ้งมา) แต่ป้าก็อัธยาศัยดี คุยเก่ง พูดมาก เฮฮา เวลาทำงานป้าก็ทำจริงจัง หากมีคนมาปรึกษาหรือขอความเห็น ในใจป้าคิดเช่นไรปากก็จะพูดออกไปเช่นนั่น เพราะเป็นคนพูดตรง บางครั้งตรงมากจนกลายเป็นปากหมาน ถ้าคบกับใครก็ให้ความจริงใจอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนรัก แต่ใช่ว่าป้าจะไม่เห็นแก่ตัว แหม! คนเรามันก็ต้องมีบ้างแหละที่ให้ความสำคัญกับตัวเองก่อน ส่วนคนอื่นค่อยว่ากันทีหลัง แล้วถ้ามีมนุษย์ตนไหนทำให้โกรธ เขาผู้นั้นจะได้พบกับด้านมืดอันน่ากลัวของป้าแบบจัดเต็มเลยทีเดียว
ป้ามีรสนิยมความชอบหลายรูปแบบ เช่น
ชอบจด - เมื่อหลายปีก่อนป้ามีสมุดเล่มน้อยกับปากกาด้ามสั้นไว้คอยบันทึกเรื่องราว ข่าวสาร เหตุการณ์ งานที่ต้องทำ ฯลฯ สาเหตุที่ต้องจดอันเนื่องมาจากความเป็นคน "ชอบลืม" คือมันไม่ได้ชอบเลย แต่ทำบ่อยจนดูเหมือนจะชอบไปซะงั้น มันเป็นพฤติกรรมที่เป็นไปโดยธรรมชาติไม่มีเสแสร้ง โดยเฉพาะเรื่องสำคัญนี่ลืมง่ายมาก ส่วนไอ้เรื่องปัญญาอ่อนก็ช่างจดช่างจำดีจริง ไม่เข้าใจสมองตัวเองเหมือนกัน
สมุดน้อยเล่มนั้นได้จากป้าไปนานแล้ว จะเหลือไว้เพียงจุดกำเนิดของนิสัยชอบจดบันทึก ปัจจุบันนี้ป้ามี Note 8 กับ Note 5 เข้ามาแทนที (อิอิ) ก็เป็นไปตามสมัยนิยมนั่นแหละ สะดวกพกพา ใช้งานได้หลากหลาย รวดเร็วในการบันทึก โหลดเข้าโหลดออกทันใจ และที่ชอบมากคือเลือกแบบตัวอักษรได้ด้วย เพราะลายมือของป้าไก่เขี่ยยังเรียกพี่ ป้าอ่านเองยังงง มันเขียนว่าอะไรว๊ะ!
ชอบอ่าน - นอกจากชอบจด(แต่ไม่จำ)แล้วป้ายังชอบอ่าน อ่านไปเรื่อย ใบปลิว แผ่นพับ ป้ายข้างถนน ข้อความที่สกรีนบนเสื้อ ตัวอักษรบนผนังส้วมตามปั้มน้ำมัน แผ่นยางกันโคลนล้อรถสิบล้อ สติ๊กเกอร์แปะท้ายรถกระบะ บางทีอ่านแล้วต้องหัวเราะก๊าก แมง...คิดได้ไง! แต่ถ้าอ่านแบบเป็นล่ำเป็นสันอย่างเช่นหนังสือ ป้าจะอ่านหลากแนว ไม่ว่าจะเป็นสารคดี วรรณกรรม นวนิยาย เรื่องสั้น อ่านหมด ส่วนจะอ่านเล่มไหนเรื่องอะไรนั้นขึ้นอยู่กับความสนใจและใฝ่รู้ หลังจากอ่านจบแล้วจะจำได้หรือไม่นั้นอย่าไปพูดถึงเลย
ชอบงานศิลปะ - ชอบจนต้องเรียนและเมื่อเรียนจบก็ทำงานด้านออกแบบ
ชอบถ่ายรูป - ตอนเรียนมหาวิทยาลัยจะมีวิชาสอนถ่ายภาพและตั้งแต่นั้นมาป้าก็ปลื้มการถ่ายรูปถึงขนาดลงทุนซื้อกล้อง DSLR ราคาหลายหมื่นเลยทีเดียว ตั้งใจว่าจะเอามาหัดถ่ายให้ได้ขันเทพ แต่ไปไม่ถึงฝันต้องขายกล้องเพื่อเอาเงินมาซ่อมรถหลังจากประสบอุบัติเหตุกลิ้งหลายตลบ (เรื่องนี้ต้องขยาย ไว้จะเล่าให้ฟังอีกทีนะ) ถึงป้าจะเคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมาแล้วแต่ทว่ายังหลงไหลการเดินทางเช่นเดิม ขับรถขึ้นเหนือลงใต้ชอบมาก...ขอบอก! ระหว่างเดินทางจะเปิดเพลงฟังหลากหลายแนว ส่วนจะเป็นแนวไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตในยามนั้น Pop dance บ้าง Techno บ้าง Deep House บ้าง หรือไม่ก็ Vocal เพลงไทยก็ฟังนะเพื่อชีวิต ลุงหงา น้าแอ๊ด น้าหมู หรือร๊อค แต่เวลาฟังเพลงไทยทีไรก็อดคิดถึงความหมายในหาของเพลงไม่ได้ ทำให้บางทีสมาธิในการขับขี่ด้อยลง ช่วงเวลาที่อยู่ในการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวป้ามีความสุขมากล้น พลังชีวิตที่ถูกดูดกลืนด้วยหน้าที่การงานเหมือนจะคืนฟื้นกลับมา ลมหายใจที่สูดเข้าปอดแต่ละครั้งมันรู้สึกเต็มสูบอย่างบอกไม่ถูก ความอิสระหลุดพ้นจากกฎระเบียบความรับผิดชอบมันช่างหอมหวานเหลือเกิน
นอกจากนี้ป้ายังสนุกกับการทำอาหารไม่ว่าจะทำกินหรือทำเพื่อจำหน่าย ขนมปังปิ้ง ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สลัดโรล ข้าวมันอกไก่ ฯลฯ หากคุณไม่ใช่คนขายอาหารโดยอาชีพคุณจะรู้เลยว่าเวลาเห็นรอยยิ้มของคนที่กินอาหารฝีมือเรานั้นมันเป็นสุขแค่ไหน ป้าทำอาหารที่กล่าวมาขายอยู่ระยะหนึ่งก็ต้องหยุด เพราะว่าสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยและมีผลกระทบกับเวลาในการทำงานประจำ ฯลฯ...นี่เป็นเศษส่วนหนึ่งของความชอบอันหลากหลายของป้า
สมัยละอ่อน
ป้าอยากเล่า : เรื่อง "ทิ้งชีวิตในเมืองกรุง ไปอยู่เกาะดีกว่า"
เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน...
ณ เกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ตั้งอยู่กลางทะเลโดยมีสะพานชื่อ "สารสิน" เป็นตัวเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ได้มีชะนี(ญ)วัยกลางคนค่อนไปทางปลายนางหนึ่งอาศัยอยู่ นางอพยพจากเมืองหลวงเพื่อมาทำงานที่บริษัทเล็กๆ บน "เกาะภูเก็ต" แห่งนี้
ณ ที่บริษัทแห่งนี้ เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่จะเรียกนางว่า "ป้า" และยัยป้าที่พูดถึงอยู่นี้ก็คือตัวดิฉันเอง ตอนแรกที่ได้ยินคนอื่นเรียกดิฉันว่า "ป้า..!" ดิฉันก็งงๆ ประมาณว่าเรียกใครเหรอ..!? แต่พอเหลียวซ้ายมองขวาแล้วไม่เห็นมีคนอื่นยืนอยู่ข้างๆ จึงได้ถึงบางอ้อ...อ๋อ! มุงเรียกกรูนิเอง ในใจแอบขุ่นเคืองมิใช่น้อย เพราะไอ้คำๆ นี้เหมาะกับผู้หญิงที่มีตัวเลขอายุมากพอควร หรือที่เรียกว่า "แก่" นั่นแหละ (ว่าแล้วภาพหญิงชรา ผิวสองสี เตี้ยล่ำ มีผมหงอกบ้างเล็กน้อย วิ่งปร๊าดเข้ามาในสมอง โอ้ว! ปวดร้าวหัวใจเลยลงไปถึงตับอ่อน) อายุและหนังหน้าของดิฉันดูแล้วยังไม่เหมาะกับสรรพนามนี้สักหน่อย (อันนี้คิดเอง) แต่นั่นแหละนะ จะไปห้ามคนอื่นไม่ให้เรียกป้าคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นก็ต้องปล่อยไปและเมื่อถูกเรียกบ่อยครั้งเข้าก็ซึมซับ จนสุดท้ายกลายเป็นคุ้นชินและอยู่กับมันมาจนถึงบัดนี้
จากนี้ขอแทนตัวเองว่า "ป้า" ง่าย สั้น เข้าใจตรงกันนะ
พื้นฐานนิสัยของป้าเองไม่ใช่คนเลวร้ายนัก อาจมีอินดี้ตีสแตกไปบ้าง (คนอื่นเขาแจ้งมา) แต่ป้าก็อัธยาศัยดี คุยเก่ง พูดมาก เฮฮา เวลาทำงานป้าก็ทำจริงจัง หากมีคนมาปรึกษาหรือขอความเห็น ในใจป้าคิดเช่นไรปากก็จะพูดออกไปเช่นนั่น เพราะเป็นคนพูดตรง บางครั้งตรงมากจนกลายเป็นปากหมาน ถ้าคบกับใครก็ให้ความจริงใจอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนรัก แต่ใช่ว่าป้าจะไม่เห็นแก่ตัว แหม! คนเรามันก็ต้องมีบ้างแหละที่ให้ความสำคัญกับตัวเองก่อน ส่วนคนอื่นค่อยว่ากันทีหลัง แล้วถ้ามีมนุษย์ตนไหนทำให้โกรธ เขาผู้นั้นจะได้พบกับด้านมืดอันน่ากลัวของป้าแบบจัดเต็มเลยทีเดียว
ป้ามีรสนิยมความชอบหลายรูปแบบ เช่น
ชอบจด - เมื่อหลายปีก่อนป้ามีสมุดเล่มน้อยกับปากกาด้ามสั้นไว้คอยบันทึกเรื่องราว ข่าวสาร เหตุการณ์ งานที่ต้องทำ ฯลฯ สาเหตุที่ต้องจดอันเนื่องมาจากความเป็นคน "ชอบลืม" คือมันไม่ได้ชอบเลย แต่ทำบ่อยจนดูเหมือนจะชอบไปซะงั้น มันเป็นพฤติกรรมที่เป็นไปโดยธรรมชาติไม่มีเสแสร้ง โดยเฉพาะเรื่องสำคัญนี่ลืมง่ายมาก ส่วนไอ้เรื่องปัญญาอ่อนก็ช่างจดช่างจำดีจริง ไม่เข้าใจสมองตัวเองเหมือนกัน
สมุดน้อยเล่มนั้นได้จากป้าไปนานแล้ว จะเหลือไว้เพียงจุดกำเนิดของนิสัยชอบจดบันทึก ปัจจุบันนี้ป้ามี Note 8 กับ Note 5 เข้ามาแทนที (อิอิ) ก็เป็นไปตามสมัยนิยมนั่นแหละ สะดวกพกพา ใช้งานได้หลากหลาย รวดเร็วในการบันทึก โหลดเข้าโหลดออกทันใจ และที่ชอบมากคือเลือกแบบตัวอักษรได้ด้วย เพราะลายมือของป้าไก่เขี่ยยังเรียกพี่ ป้าอ่านเองยังงง มันเขียนว่าอะไรว๊ะ!
ชอบอ่าน - นอกจากชอบจด(แต่ไม่จำ)แล้วป้ายังชอบอ่าน อ่านไปเรื่อย ใบปลิว แผ่นพับ ป้ายข้างถนน ข้อความที่สกรีนบนเสื้อ ตัวอักษรบนผนังส้วมตามปั้มน้ำมัน แผ่นยางกันโคลนล้อรถสิบล้อ สติ๊กเกอร์แปะท้ายรถกระบะ บางทีอ่านแล้วต้องหัวเราะก๊าก แมง...คิดได้ไง! แต่ถ้าอ่านแบบเป็นล่ำเป็นสันอย่างเช่นหนังสือ ป้าจะอ่านหลากแนว ไม่ว่าจะเป็นสารคดี วรรณกรรม นวนิยาย เรื่องสั้น อ่านหมด ส่วนจะอ่านเล่มไหนเรื่องอะไรนั้นขึ้นอยู่กับความสนใจและใฝ่รู้ หลังจากอ่านจบแล้วจะจำได้หรือไม่นั้นอย่าไปพูดถึงเลย
ชอบงานศิลปะ - ชอบจนต้องเรียนและเมื่อเรียนจบก็ทำงานด้านออกแบบ
ชอบถ่ายรูป - ตอนเรียนมหาวิทยาลัยจะมีวิชาสอนถ่ายภาพและตั้งแต่นั้นมาป้าก็ปลื้มการถ่ายรูปถึงขนาดลงทุนซื้อกล้อง DSLR ราคาหลายหมื่นเลยทีเดียว ตั้งใจว่าจะเอามาหัดถ่ายให้ได้ขันเทพ แต่ไปไม่ถึงฝันต้องขายกล้องเพื่อเอาเงินมาซ่อมรถหลังจากประสบอุบัติเหตุกลิ้งหลายตลบ (เรื่องนี้ต้องขยาย ไว้จะเล่าให้ฟังอีกทีนะ) ถึงป้าจะเคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมาแล้วแต่ทว่ายังหลงไหลการเดินทางเช่นเดิม ขับรถขึ้นเหนือลงใต้ชอบมาก...ขอบอก! ระหว่างเดินทางจะเปิดเพลงฟังหลากหลายแนว ส่วนจะเป็นแนวไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตในยามนั้น Pop dance บ้าง Techno บ้าง Deep House บ้าง หรือไม่ก็ Vocal เพลงไทยก็ฟังนะเพื่อชีวิต ลุงหงา น้าแอ๊ด น้าหมู หรือร๊อค แต่เวลาฟังเพลงไทยทีไรก็อดคิดถึงความหมายในหาของเพลงไม่ได้ ทำให้บางทีสมาธิในการขับขี่ด้อยลง ช่วงเวลาที่อยู่ในการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวป้ามีความสุขมากล้น พลังชีวิตที่ถูกดูดกลืนด้วยหน้าที่การงานเหมือนจะคืนฟื้นกลับมา ลมหายใจที่สูดเข้าปอดแต่ละครั้งมันรู้สึกเต็มสูบอย่างบอกไม่ถูก ความอิสระหลุดพ้นจากกฎระเบียบความรับผิดชอบมันช่างหอมหวานเหลือเกิน
นอกจากนี้ป้ายังสนุกกับการทำอาหารไม่ว่าจะทำกินหรือทำเพื่อจำหน่าย ขนมปังปิ้ง ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สลัดโรล ข้าวมันอกไก่ ฯลฯ หากคุณไม่ใช่คนขายอาหารโดยอาชีพคุณจะรู้เลยว่าเวลาเห็นรอยยิ้มของคนที่กินอาหารฝีมือเรานั้นมันเป็นสุขแค่ไหน ป้าทำอาหารที่กล่าวมาขายอยู่ระยะหนึ่งก็ต้องหยุด เพราะว่าสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยและมีผลกระทบกับเวลาในการทำงานประจำ ฯลฯ...นี่เป็นเศษส่วนหนึ่งของความชอบอันหลากหลายของป้า
สมัยละอ่อน