สวัสดี..หนีห่าว เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาว pantip ทุกท่าน ตามที่ได้เกริ่นมาในข้างต้น ทริปนี้เป็นทริปไปฮาร์บิ้นฉบับเอาง่าย ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรมากนัก สาระก็ไม่ค่อยมี แค่เรารู้ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างในฮาร์บิ้นแค่นั้นเอง
ยังไงก็ตามแต่ขอให้รูปภาพบรรยายความสนุกด้วยตัวมันเองละกันนะ
ชื่อแพรค่ะ ไปเยือนฮาร์บิ้นครั้งแรก ผู้ร่วมเดินทางในทริปนี้ชื่อ พี่กีฟท์ ไปเยือนฮาร์บิ้นเป็นรอบที่ 2
ทั้งสองคนความรู้ภาษาจีนเท่าหางอึ่ง พอไปนู่นไปนี่ได้ แต่จะโดนหลอกมั้ย อันนี้ก็ไม่แน่ใจ
พวกเราทำงานกันอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ วันหยุดก็น๊อยน้อย ได้หยุดทีก็นั่นหละ พร้อมคนจีน หยุดกันทั้งประเทศ จะไปเที่ยวไหนก็ต้องแย่งกัน ดังนั้น เราจึงต้องเลือกไปในวันที่พวกคนจีนไม่ได้หยุดงาน ซึ่งแพลนการเดินทางของเราก็คือ
"วันที่ 3 มกราคม ถึง 6 มกราคม 2559"
The cold never bothered me anyway #หราาา
--กำหนดการเดินทางแบบหลวมๆ--
> 1 มกราคม กรุงเทพฯ - เซี่ยงไฮ้
> 2 มกราคม นอนพักร่าง ให้ได้ปรับอุณหภูมิสักเล็กน้อย
> 3 มกราคม เซี่ยงไฮ้ – ฮาร์บิ้น
เดินเล่น Zhongyang Street (中央大街) แม่น้ำซงฮัว (Song Hua River 松花江) และโบสถ์ St.Sophia ภาคกลางคืน
> 4 มกราคม ทำเป็นไปเล่นสกีที่ YABULI (亚布力)
> 5 มกราคม ชมเทศกาลหิมะนานาชาติ & เทศกาลหิมะน้ำแข็งนานาชาติ
> 6 มกราคม ไปเก็บตกกิจกรรมแม่น้ำซงฮัวและโบสถ์ St.Sophia ภาคกลางวันและกลับเซี่ยงไฮ้ตอนเย็น
ฮาร์บิ้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองน้ำแข็งที่มีวัฒนธรรมเกี่ยวกับหิมะและน้ำแข็งสวยงามมากมาย จุดเด่นของเมืองฮาร์บิ้นก็คือเทศกาลงานแกะสลักหิมะและเทศกาลน้ำแข็งนานาชาติที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ในฤดูหนาวอุณหภูมิติดลบแน่นอน แต่จะติดลบเท่าไหร่นั้นก็เป็นเรื่องของโชคชะตาตัวท่านเอง อุณหภูมิเฉลี่ยที่เราประสบพบเจอตลอดระยะเวลา 4 วัน ณ ฮาร์บิ้นอยู่ที่
-20 องศา
--สิ่งที่เราต้องเตรียม--
*เสื้อผ้าห่อหุ้มให้ร่างกายอบอุ่น
กว่าจะซื้อครบก็หมดไปหลายหยวน ตอนซื้อนี่ยังไม่แน่ใจเลยนะ ว่ามันจะอุ่นมั้ย?? แต่ซื้อเสื้อผ้าอุปกรณ์กันหนาวที่จีนนี่ถูกต้องละ ต้องเชื่อเค้าเนาะเพราะบ้านเรา ฤดูหนาวเป็นยังไง? ไม่เคยสัมผัส
**สิ่งที่สำคัญมากกกกกกกกที่สุดคือ เราต้องสูญเสียความร้อนในร่างกายให้น้อยที่สุด --> ง่ายกว่านั้นก็คือ เราจะไม่เหลือช่องเล็กช่องน้อยให้มวลความเย็นเข้าไปสัมผัสร่างกายได้เลย!!
เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่จะช่วยทำให้เราไม่หนาวตาย ความคิดในหัวตอนแรกคือต้องหนาต้องหลายชั้น แต่ไม่เลย เข้าไปอ่านในกระทู้พันทิปเนี่ยแหละ ถึงได้ อ๋อ มันไม่ต้องหนา แต่ควรเรียงลำดับผ้าแต่ละชนิดของแต่ละชั้นให้ถูก กราบขอบพระคุณ pantip.com
เนื่องจากว่าเราไปแบบประหยัดเลยจะไม่โหลดกระเป๋าลงใต้ท้องเครื่อง ดังนั้นเรามีสิทธิ์ยัดของในเป้ได้แค่ 7 กิโลกรัมเท่านั้น อะไรซ้ำได้ก็ซ้ำ แค่ 4 วันเอง
--ท่อนบน--
(เรียงตามลำดับจากชั้นในสุด)
>เสื้อแนบตัว Heat tech
>เสื้อคอเต่าผ้าฟลีทของ Uniqlo ดี๊ดีมาก สอบผ่านฉลุย
>เสื้อฟลีทของ Quechua - Decathlon ราคาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าตังค์
[ภาพจาก Website]
>Down Jacket ของ Canada Goose ตัวนี้ต้องดีหน่อย เพราะจะเป็นตัวที่อยู่นอกสุด ต้องกันน้ำได้ด้วย ไม่งั้นคุณไม่ได้ไปต่อค่ะ
[ภาพจาก Website]
--ท่อนล่าง--
(เรียงตามลำดับจากชั้นในสุด)
>กางเกงแนบตัว Heat tech
>กางเกง Legging ด้านในมีขนนุ่มๆอุ่นๆชนิดหนาแบบไม่เคยพบไม่เคยเห็น ใส่แล้วจะดูขาบวมๆน่องบวมๆ แต่ใส่เหอะ ช่วยได้ดีจริงๆ
[ภาพจาก Website]
>>กางกางกันลมจาก Uniqlo ไว้ไปเล่นสกีโดยเฉพาะ
***กางเกงเราเอาไป 3 ตัว เพราะเผื่อไว้ในการใช้งานที่ต่างกัน ไปเดินเล่น ไปสกีไรงี้
ต่อกันที่หัวและเท้ากันบ้าง
>หมวกไหมพรม จำเป็นมาก ต้องใส่ตลอด
>ถุงมือไหมพรม จำเป็นเช่นกัน
>ถุงมือกันลม ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคล
>หน้ากากกันลม อันนี้จำเป็นมากที่สุด ช่วยชีวิตไว้ได้มาก ใส่ได้หลายแบบหลายสไตล์
[ภาพจาก Website]
>ถุงเท้าธรรมดา แต่ไม่ใช่แบบบางสะจนเห็นเล็บเท้านะ เอาแบบที่ช่วยให้ไออุ่นเราได้บ้าง
>ถุงเท้าผ้า Wool อันนี้สำคัญเช่นกัน
>รองเท้าหุ้มข้อแบบมี Snow Contact มันจะช่วยทำให้เราไปเดินแล้วไม่ลื่นต่อหน้าสาธารณชน
****ถึงจะมีไอ้ Snow Contact แต่การเดินในฮาร์บิ้นก็ต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่งั้นได้ลงไปนอนกองกะพื้นแน่ๆ
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "แผ่นให้ความร้อน Heat Patch" อันนี้ช่วยชีวิตเราไว้ได้มาก กระหน่ำติดเข้าไป เราติดที่หน้าอก หน้าท้อง ในถุงมือทั้ง 2 ข้าง ถุงเท้า 2 ข้าง แต่อย่าติดแนบไปกะเนื้อหนังของตัวเราโดยตรงนะ ต้องติดผ่านเสื้อ ผ่านถุงเท้าชั้นแรกไรงี้ แผ่นนี้ถือว่าอึดอยู่ อยู่ได้นานน่าจะสัก 8 ชั่วโมง นี่ขนาดเดินบนหิมะ เดินบนลานน้ำแข็งนะ สอบผ่านมากอ่ะคุณ
ยี่ห้อนี้ที่เราใช้ [ภาพจาก Website]
เกริ่นมาสะนาน แต่งตัวกันขนาดนี้แล้ว ไขมันก็พร้อม ไปหนาวกันเห๊อะ!!
"Harbin...ฮาปลิ้น" ท่องเที่ยวฉบับเอาง่ายเอาฮา ณ ฮาร์บิ้น
ยังไงก็ตามแต่ขอให้รูปภาพบรรยายความสนุกด้วยตัวมันเองละกันนะ
ชื่อแพรค่ะ ไปเยือนฮาร์บิ้นครั้งแรก ผู้ร่วมเดินทางในทริปนี้ชื่อ พี่กีฟท์ ไปเยือนฮาร์บิ้นเป็นรอบที่ 2
ทั้งสองคนความรู้ภาษาจีนเท่าหางอึ่ง พอไปนู่นไปนี่ได้ แต่จะโดนหลอกมั้ย อันนี้ก็ไม่แน่ใจ
พวกเราทำงานกันอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ วันหยุดก็น๊อยน้อย ได้หยุดทีก็นั่นหละ พร้อมคนจีน หยุดกันทั้งประเทศ จะไปเที่ยวไหนก็ต้องแย่งกัน ดังนั้น เราจึงต้องเลือกไปในวันที่พวกคนจีนไม่ได้หยุดงาน ซึ่งแพลนการเดินทางของเราก็คือ "วันที่ 3 มกราคม ถึง 6 มกราคม 2559"
> 1 มกราคม กรุงเทพฯ - เซี่ยงไฮ้
> 2 มกราคม นอนพักร่าง ให้ได้ปรับอุณหภูมิสักเล็กน้อย
> 3 มกราคม เซี่ยงไฮ้ – ฮาร์บิ้น
เดินเล่น Zhongyang Street (中央大街) แม่น้ำซงฮัว (Song Hua River 松花江) และโบสถ์ St.Sophia ภาคกลางคืน
> 4 มกราคม ทำเป็นไปเล่นสกีที่ YABULI (亚布力)
> 5 มกราคม ชมเทศกาลหิมะนานาชาติ & เทศกาลหิมะน้ำแข็งนานาชาติ
> 6 มกราคม ไปเก็บตกกิจกรรมแม่น้ำซงฮัวและโบสถ์ St.Sophia ภาคกลางวันและกลับเซี่ยงไฮ้ตอนเย็น
ฮาร์บิ้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองน้ำแข็งที่มีวัฒนธรรมเกี่ยวกับหิมะและน้ำแข็งสวยงามมากมาย จุดเด่นของเมืองฮาร์บิ้นก็คือเทศกาลงานแกะสลักหิมะและเทศกาลน้ำแข็งนานาชาติที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ในฤดูหนาวอุณหภูมิติดลบแน่นอน แต่จะติดลบเท่าไหร่นั้นก็เป็นเรื่องของโชคชะตาตัวท่านเอง อุณหภูมิเฉลี่ยที่เราประสบพบเจอตลอดระยะเวลา 4 วัน ณ ฮาร์บิ้นอยู่ที่ -20 องศา
*เสื้อผ้าห่อหุ้มให้ร่างกายอบอุ่น
กว่าจะซื้อครบก็หมดไปหลายหยวน ตอนซื้อนี่ยังไม่แน่ใจเลยนะ ว่ามันจะอุ่นมั้ย?? แต่ซื้อเสื้อผ้าอุปกรณ์กันหนาวที่จีนนี่ถูกต้องละ ต้องเชื่อเค้าเนาะเพราะบ้านเรา ฤดูหนาวเป็นยังไง? ไม่เคยสัมผัส
**สิ่งที่สำคัญมากกกกกกกกที่สุดคือ เราต้องสูญเสียความร้อนในร่างกายให้น้อยที่สุด --> ง่ายกว่านั้นก็คือ เราจะไม่เหลือช่องเล็กช่องน้อยให้มวลความเย็นเข้าไปสัมผัสร่างกายได้เลย!!
เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่จะช่วยทำให้เราไม่หนาวตาย ความคิดในหัวตอนแรกคือต้องหนาต้องหลายชั้น แต่ไม่เลย เข้าไปอ่านในกระทู้พันทิปเนี่ยแหละ ถึงได้ อ๋อ มันไม่ต้องหนา แต่ควรเรียงลำดับผ้าแต่ละชนิดของแต่ละชั้นให้ถูก กราบขอบพระคุณ pantip.com
เนื่องจากว่าเราไปแบบประหยัดเลยจะไม่โหลดกระเป๋าลงใต้ท้องเครื่อง ดังนั้นเรามีสิทธิ์ยัดของในเป้ได้แค่ 7 กิโลกรัมเท่านั้น อะไรซ้ำได้ก็ซ้ำ แค่ 4 วันเอง
(เรียงตามลำดับจากชั้นในสุด)
>เสื้อแนบตัว Heat tech
>เสื้อคอเต่าผ้าฟลีทของ Uniqlo ดี๊ดีมาก สอบผ่านฉลุย
>เสื้อฟลีทของ Quechua - Decathlon ราคาเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าตังค์
[ภาพจาก Website]
>Down Jacket ของ Canada Goose ตัวนี้ต้องดีหน่อย เพราะจะเป็นตัวที่อยู่นอกสุด ต้องกันน้ำได้ด้วย ไม่งั้นคุณไม่ได้ไปต่อค่ะ
[ภาพจาก Website]
(เรียงตามลำดับจากชั้นในสุด)
>กางเกงแนบตัว Heat tech
>กางเกง Legging ด้านในมีขนนุ่มๆอุ่นๆชนิดหนาแบบไม่เคยพบไม่เคยเห็น ใส่แล้วจะดูขาบวมๆน่องบวมๆ แต่ใส่เหอะ ช่วยได้ดีจริงๆ
[ภาพจาก Website]
>>กางกางกันลมจาก Uniqlo ไว้ไปเล่นสกีโดยเฉพาะ
***กางเกงเราเอาไป 3 ตัว เพราะเผื่อไว้ในการใช้งานที่ต่างกัน ไปเดินเล่น ไปสกีไรงี้
ต่อกันที่หัวและเท้ากันบ้าง
>หมวกไหมพรม จำเป็นมาก ต้องใส่ตลอด
>ถุงมือไหมพรม จำเป็นเช่นกัน
>ถุงมือกันลม ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคล
>หน้ากากกันลม อันนี้จำเป็นมากที่สุด ช่วยชีวิตไว้ได้มาก ใส่ได้หลายแบบหลายสไตล์
[ภาพจาก Website]
>ถุงเท้าธรรมดา แต่ไม่ใช่แบบบางสะจนเห็นเล็บเท้านะ เอาแบบที่ช่วยให้ไออุ่นเราได้บ้าง
>ถุงเท้าผ้า Wool อันนี้สำคัญเช่นกัน
>รองเท้าหุ้มข้อแบบมี Snow Contact มันจะช่วยทำให้เราไปเดินแล้วไม่ลื่นต่อหน้าสาธารณชน
****ถึงจะมีไอ้ Snow Contact แต่การเดินในฮาร์บิ้นก็ต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่งั้นได้ลงไปนอนกองกะพื้นแน่ๆ
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "แผ่นให้ความร้อน Heat Patch" อันนี้ช่วยชีวิตเราไว้ได้มาก กระหน่ำติดเข้าไป เราติดที่หน้าอก หน้าท้อง ในถุงมือทั้ง 2 ข้าง ถุงเท้า 2 ข้าง แต่อย่าติดแนบไปกะเนื้อหนังของตัวเราโดยตรงนะ ต้องติดผ่านเสื้อ ผ่านถุงเท้าชั้นแรกไรงี้ แผ่นนี้ถือว่าอึดอยู่ อยู่ได้นานน่าจะสัก 8 ชั่วโมง นี่ขนาดเดินบนหิมะ เดินบนลานน้ำแข็งนะ สอบผ่านมากอ่ะคุณ
ยี่ห้อนี้ที่เราใช้ [ภาพจาก Website]
เกริ่นมาสะนาน แต่งตัวกันขนาดนี้แล้ว ไขมันก็พร้อม ไปหนาวกันเห๊อะ!!