ถูกหลอกไปดอยปุยหลวง(อุทยานแห่งชาติแม่เงา) แต่กลับประทับใจสุดๆกับวิว 360 องศา


สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เกิดขึ้นมาได้เนื่องจากการอยากเขียนรีวิวที่เที่ยวของเราผนวกกับการโดนทวงรูปจากทีมงานในทริปที่ทวงกันมาเนิ่นนานนะคะ(กราบขออภัยพี่ๆมา ณ ที่นี่ด้วยที่น้องส่งรูปมาให้ดูช้านะคะ อิอิอมยิ้ม16อมยิ้ม17) เพราะเหตุนี้นี่จึงเป็นกระทู้แรกของเรา หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยและน้อนรับคำแนะนำมานะที่นี่ด้วยนะคะ
    มาเริ่มกันเลยดีกว่า ทริปนี้เป็นทริป4วัน4คืนที่เกิดขึ้นมาได้เนื่องจากพี่ชายคนนึงที่ยังโสด ใจดี มีรถขับ(โปรโมทให้แล้วนะคะพี่เก่งยิ้ม) อยากจะชวนทุกคนในกรุ๊ปที่เคยไปเที่ยวปิตุ๊โกรโดยบริษัททัวร์แห่งนึง(เป็นกรุ๊ปที่ต่างคนต่างจองทัวร์แล้วไปเจอกันจนสนิทกัน)ไปเที่ยวด้วยกันอีกครั้ง โดยมีแผนการว่าจะไปเดินเล่นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงที่สบเมยและขึ้นดอยพุ่ยโคชมทะเลหมอก ซึ่งรวบรวมผู้เคราะห์ร้ายได้ 8 คนด้วยกัน รูปทีมงานค่ะ


มาอธิบายกันก่อนดีกว่าว่าทำไมหัวข้อกระทู้จึงเป็นทริปถูกหลอก ก็อย่างที่บอกในข้างต้นตอนแรกผู้นำทริปของเราได้บอกไว้ว่าจะพาไปเที่ยวดอยพุ่ยโคมีการเดินป่านิดหน่อยสบายๆให้เตรียมอุปกรณ์เดินป่าให้เรียบร้อย นอกนั้นพี่แกจะจัดการให้เอง ทั้งติดต่อเจ้าหน้าที่ เตรียมวัตถุดิบอาหาร เรื่องรถเรื่องการเดินทาง ฯลฯ ทุกคนก็เลยไว้วางใจให้พี่เก่งนำทัพ โดยที่ทุกคนรวบรวมเงินให้พี่เก่งคนละ 3,000บาท แล้วพี่แกก็จัดการให้ทุกอย่างจริงๆค่ะ ทั้งวัตุดิบอาหารแบบFull option น้ำมงน้ำมันรถ ติดต่อเจ้าหน้าที่และลูกหาบ(ซึ่งเราคิดว่าค่าใช้จ่ายน่าจะเยอะกว่านี้เพราะแกเตรียมทุกอย่างมาเยอะเป็นพิเศษจริงๆ) แต่แล้วทุกคนก็ได้มากระจ่างว่าเป้าหมายที่เรากำลังเดินทางไปนั้นไม่ใช่”ดอยพุ่ยโค” แต่เป็น”ดอยปุยหลวงในวันรองสุดท้ายของการเดินทาง ช็อคสิคะช็อคร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้
พี่ชายท่านนี้เลยค่ะ ผู้นำทริปของเรา


        สำหรับการเดินทางวันแรกพี่ๆขับรถมารับเราที่อยุธยา ณ เวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่งของวันที่ 22 ต.ค. 58 ซึ่งเป็นเย็นหลังเลิกงานก่อนวันหยุดยาว ขับรถกันไปตามสายเอเชียเข้าตากไปสบเมยใช้เวลาร่วม 12 ชั่วโมงจึงถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เงา
ศูนย์ผู้อพยพ(รูประหว่างทางผ่าน)

พี่ก้อยพี่สาวผู้ใจดีประจำทริป

       ณ เวลา 10 โมงครึ่งของวันที่ 23 ต.ค. 58 เราก็เลยเล่นน้ำ กางเต๊นท์รอให้เพื่อนๆของพี่เก่งที่เค้านัดไว้มาร่วมสมทบล่องแพและปาร์ตี้กันเล็กๆ ที่นี่ไม่มีสัญญาณมือถือนะคะ อาจจะติดต่อกันยากหน่อย หากต้องการใช้สัญญาณต้องขับรถออกไปด้านหน้าอุทยานประมาณ 4กม.โน้นแหนะ
หาอะไรลงท้องกันสักนิด

พี่ไมค์พร้อมกล้องคู่ใจ

เต๊นท์ของอุทยานหลังใหญ่สุดๆ สามารถนอนได้ 8 คนแบบสบายๆ



        ตื่นเช้ามาอีกวันก็ได้เวลาโบกมือลาเพื่อนๆของพี่เก่ง และแล้วในที่สุดพี่กล้าก็มาสมทบพร้อมวัตถุดิบจำนวนมากตามคำบัญชาการของพี่เก่ง ซึ่งเตรียมเผื่อไว้ให้สำหรับผู้ร่วมทริปทั้งหมด 8 คน บวกเจ้าหน้าที่อุทยาน 2 คน และลูกหาบอีก 5 คน รวมทั้งหมดเป็น 15 ชีวิต เรื่องราคาทั้งหมดอย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าเราไม่ค่อยทราบรายละเอียดจริงๆ แต่รู้แค่ว่าลูกหาบคนนึงสามารถแบกน้ำหนักได้คนละ 20 กก. ก็ลองประเมินกันเองละกันนะคะว่าทริปของเพื่อนๆต้องใช้ลูกหาบกี่คน(แจ้งเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนล่วงหน้าก่อนจะออกเดินทางนะ เค้าจะได้ติดต่อลูกหาบไว้ให้)
ตื่นเช้ามาชมวิวสักนิด

ชักภาพให้พี่เบียร์ตากล้องของเราสักหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีรูปยิ้ม

บายบ๊ายครอบครัวที่น่ารักทั้งสองด้วยภาพทิ้งท้าย


เตรียมตัวออกเดินทางกันได้
(เพิ่มรูปนำเรื่องนะจ๊ะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่