ทำไมถึงบอกว่า ชนชาติเหล่านี้มีความเป็นชนชาตินักสู้มากกว่าเรา ถ้าเราย้อนดูในอดีต เกาหลี ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ผ่านความลำบาก ความโหดร้ายทางธรรมชาติ และสงคราม อย่างหนักหน่วง มากกว่าไทย ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนั้น จึงเหมือนถูกบังคับให้คนในชาติต้องมีความอดทนสูง ทรหดสูง มีวินัยในการดำรงชีวิต ทำให้ในการทำงานในสังคม ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ กีฬา เทคโนโลยี หรือด้านต่างๆ ทำอะไรมักดูจริงจังเอาใจใส่มาก ไม่ทำเหยาะแยะ จึงถูกปลุกฝังคนในชาติให้ต่อสู้อย่างมีน้ำอดน้ำทน เมื่อเทียบกับไทยเรา ใช่ว่าจะไม่มีเลือดนักสู้ แต่ด้วยภูมิประเทศที่สบายแล้ว เลยทำให้เราไม่ต้องดิ้นรนอะไรแบบโหดร้ายเหมือนพวกเขา ปลูกพืชพรรณอะไรก็ขึ้นง่าย จึงเป็นที่มาเรียกว่า แผ่นดินสุวรรณภูมิ
มาย้อนดูวิวัฒนาการของฟุตบอลไทย ทำไมฟุตบอลไทยถึงไม่ไปไหน เราต้องมองย้อนตัวเองก่อนว่า เราจริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง 20 ปีที่แล้วโดนญี่ปุ่นยิงพรุน มาถึงปัจจุบันเราก็ยังไม่ต่างจากอดีต (ขอกล่าวภาพรวม) ญี่ปุ่น เกาหลี เขาวางเป้าหมายชัดเจน แล้วค่อยๆ สร้างรากฐานเยาวชน สร้างลีกให้แข็งแกร่ง เราต้องยอมรับว่าสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น เกาหลี มีความจริงจังในการสร้างทีมชาติมากกว่าเรา หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก นี่คือเรื่องจริง ว่าหัวใจของการพัฒนาฟุตบอลมันอยู่ที่โครงสร้างสมาคม ในการสร้างเยาวชน รวมถึงทัศนคติของเด็ก ซึ่งเด็กญี่ปุ่น เกาหลี ฝึกตามโปรแกรมอย่างเคร่งครัดและมีวินัย ไม่มีบ่น การฝึกซ้อมในสนามมีความจริงจัง ซึ่งตรงจุดนี้ในสโมสรยุโรปจะมีสิ่งแวดล้อมที่คล้ายคลึงกัน จึงทำให้เวลาเด็กเกาหลี ญี่ปุ่น ไปเล่นที่ยุโรปปรับตัวได้เร็ว
ย้อนดูเด็กไทยในอดีต เราไม่ได้มีโครงสร้างเยาวชนมารองรับ เด็กเริ่มให้ซ้อมหนักเริ่มมีอาการแอนตี้ บ่น เหนื่อย ถ้ามีทักษะดีกว่าคนอื่น ก็เริ่มจะอินดี้ออกนอกลู่นอกทาง เด็กไทยเราจึงเก่งไม่สุด ส่วนหนึ่งมันก็ขึ้นอยู่ที่ผู้ใหญ่ไม่ได้จริงจังเรื่องนี้ด้วย อย่างที่ บุรีรัมย์ เริ่มสร้างอคาดามี่ อย่างจริงจัง แต่สำหรับบ้านเรามันเป็นเรื่องใหม่เรื่องวินัย ความเข้มข้นในการซ้อม ทำให้เด็กบางคนรับไม่ไหว ความอดทนต่ำ เด็กบางคนถึงกับร้องไห้กลับบ้าน
ผู้ใหญ่ต้องสร้างสิ่งแวดล้อมและทัศนคติ เรื่องวินัย ความทรหดอดทน แก่เด็ก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันมีผลมากทั้งเรื่องความแข็งแกร่งทางด้วยจิตใจและร่างกาย
วันก่อนดูเด็กเกาหลีใต้ ถลุง เยเมน ไป 5-0 การวิ่งเคลื่อนที่และเบียดบังมีความแข็งแกร่งมาก การจับบอล จ่ายบอล ไม่มีลั่น ความเร็งในการส่งถือว่าเร็ว และจับบอลนิ่งสามารถพลิกตัวยิงหรือส่งต่อได้ทันที
แม้แต่เกาหลีเหนือที่ปิดประเทศ แต่ท่านผู้นำก็สนับสนุนอย่างจริงจังเช่นกัน วินัย ความทรหดอดทน ไม่ต้องพูดถึง วันนี้ไทยเราเหนื่อย หวังชนะได้แค่ 5.74%
จบเรียงความ
ตึ่กโป๊ะ
เราต้องยอมรับนะว่า ชนชาติเกาหลี ญี่ปุ่น มีความเป็นชนชาตินักสู้มากกว่าไทย ถ้าไทยจะพัฒนาเทียบเท่ามันต้องใช้เวลาอีกหลายปี
มาย้อนดูวิวัฒนาการของฟุตบอลไทย ทำไมฟุตบอลไทยถึงไม่ไปไหน เราต้องมองย้อนตัวเองก่อนว่า เราจริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง 20 ปีที่แล้วโดนญี่ปุ่นยิงพรุน มาถึงปัจจุบันเราก็ยังไม่ต่างจากอดีต (ขอกล่าวภาพรวม) ญี่ปุ่น เกาหลี เขาวางเป้าหมายชัดเจน แล้วค่อยๆ สร้างรากฐานเยาวชน สร้างลีกให้แข็งแกร่ง เราต้องยอมรับว่าสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น เกาหลี มีความจริงจังในการสร้างทีมชาติมากกว่าเรา หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก นี่คือเรื่องจริง ว่าหัวใจของการพัฒนาฟุตบอลมันอยู่ที่โครงสร้างสมาคม ในการสร้างเยาวชน รวมถึงทัศนคติของเด็ก ซึ่งเด็กญี่ปุ่น เกาหลี ฝึกตามโปรแกรมอย่างเคร่งครัดและมีวินัย ไม่มีบ่น การฝึกซ้อมในสนามมีความจริงจัง ซึ่งตรงจุดนี้ในสโมสรยุโรปจะมีสิ่งแวดล้อมที่คล้ายคลึงกัน จึงทำให้เวลาเด็กเกาหลี ญี่ปุ่น ไปเล่นที่ยุโรปปรับตัวได้เร็ว
ย้อนดูเด็กไทยในอดีต เราไม่ได้มีโครงสร้างเยาวชนมารองรับ เด็กเริ่มให้ซ้อมหนักเริ่มมีอาการแอนตี้ บ่น เหนื่อย ถ้ามีทักษะดีกว่าคนอื่น ก็เริ่มจะอินดี้ออกนอกลู่นอกทาง เด็กไทยเราจึงเก่งไม่สุด ส่วนหนึ่งมันก็ขึ้นอยู่ที่ผู้ใหญ่ไม่ได้จริงจังเรื่องนี้ด้วย อย่างที่ บุรีรัมย์ เริ่มสร้างอคาดามี่ อย่างจริงจัง แต่สำหรับบ้านเรามันเป็นเรื่องใหม่เรื่องวินัย ความเข้มข้นในการซ้อม ทำให้เด็กบางคนรับไม่ไหว ความอดทนต่ำ เด็กบางคนถึงกับร้องไห้กลับบ้าน
ผู้ใหญ่ต้องสร้างสิ่งแวดล้อมและทัศนคติ เรื่องวินัย ความทรหดอดทน แก่เด็ก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันมีผลมากทั้งเรื่องความแข็งแกร่งทางด้วยจิตใจและร่างกาย
วันก่อนดูเด็กเกาหลีใต้ ถลุง เยเมน ไป 5-0 การวิ่งเคลื่อนที่และเบียดบังมีความแข็งแกร่งมาก การจับบอล จ่ายบอล ไม่มีลั่น ความเร็งในการส่งถือว่าเร็ว และจับบอลนิ่งสามารถพลิกตัวยิงหรือส่งต่อได้ทันที
แม้แต่เกาหลีเหนือที่ปิดประเทศ แต่ท่านผู้นำก็สนับสนุนอย่างจริงจังเช่นกัน วินัย ความทรหดอดทน ไม่ต้องพูดถึง วันนี้ไทยเราเหนื่อย หวังชนะได้แค่ 5.74%
จบเรียงความ
ตึ่กโป๊ะ