
เพราะความร้ากกกกกกกกก ที่มันไม่เลือกเวลาเกิด ...
เมื่อปีที่แล้วฤดูหนาวของยุโรปได้มีโอกาสไปเที่ยว ระหว่างที่โทรเราก็ไปเช็คอินด้วยจนเสร็จก็เดินไปหาอาจารย์ ก็ทักทายอาจารปกติค่ะแล้วเราก็เดินgateไป ไลน์กลุ่มเด้งเข้ามาถามหาคนชื่อ ส้มโอ(นามสมมติ) เป็นรูมเมทกับเราที่จะนอนด้วยกันตอนอยู่ยุโรป ส้มโออยู่ไหนครับ?มานั่งร้านอาบัง วิลล์ด้วยกันสิ(ร้านสมมติ) อะ... เราก็เดินไปก็ได้นั่งคุยเรื่อยเปื่อย พี่แกเดินมาเว่ย สวัสดีครับพี่ชื่อ แมน(นามสมมติ)นะครับ เรามาสนุกด้วยกันนะครับ ยิ้มตาตี่มาเลยโอ้ยยกรูละลาย ปกติชอบคนตี๋อยู่ละ อ่อ..ชื่อ ออย(นามสสติ) นะคะ อิอิ(ในใจ) จนขึ้นเครื่องก็เดินหาที่นั่งปกติ หันไปอีกทีอ้าวนั่งใกล้กันเฉย เคๆ ออยครับ!!! พี่ฝากเสื้อแปปนึง เสร็จกรูล่ะจะยึดมาคลุมเพราะผ้าห่มมันรุงรังนั่งยาวๆๆๆๆๆๆ จนเครื่องลงพอดี เราก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้เข้าเยี่ยมชมเมืองก็มาถ่ายรูปด้วยกันนะ ก็ได้เวลากินข้าวเย็น พอกินๆๆๆๆเสร็จเราออกไปเดินเล่นกับรูมเมทนอกร้าน พี่เค้าก็เอาผ้าพันคอเราไป แถมยังใส่คืนให้ที่คอเรา พี่แมนถามเราจะไปไหน อ่อ..จะไปเดินเล่นตรงนู้นค่ะ ป่ะไปด้วยกัน (หูยยยยยยย)
กลับห้องนอน ตื่นมาตอนเช้าก็ถ่ายรูปด้วยกันนิดหน่อยหน้าโรงแรมจนเข้าเมืองไปเดินเล่นอจ.ปล่อยให้ถ่ายรูปครึ่งชม. นางแอบถ่ายรูปเราอ่าาาาา ชมว่าน่ารัก เราก็ไม่ได้อะไร พอตอนกลางคืนนางก็ส่งมานะบอกว่า ชอบรูปนี้มากนะ >____< เขินจ้าาา
และวันนี้เองก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรา ระหว่างที่ลงมานั่งที่บาร์ของโรงแรมมีเพื่อนๆลงมาประมาณสิบคนได้ ตอนที่เล่นแล้วดื่มก็เริ่มจะมึนแต่ไม่เมา เพื่อนบางคนไปเข้าห้องน้ำ เราก็เล่นมือถือดูไรไปเรื่อยพี่เค้าก็แซว อะไรติด social หรอเอาไปเฉยละก็เจอไอจีของคนๆนึง
เค้าชะงักหันมาถามเราว่ารู้จักด้วยหรอเราเลยบอกว่า คนบ้านเดียวกัน เค้าก็ทำสีหน้าแปลกๆขอให้เราออกไปคุยกับเค้าข้างนอกตอนที่คุยกันก็อธิบายให้ฟัง ไม่ได้ปลอบใจ แค่ทำให้ตาสว่างเฉยๆ
เราพูดไปเพราะไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยนะ มันหนาวมากๆข้างนอก 3 องศาได้มั้ง พอเราหนาวมากๆเค้าก็เอามือเราไปซุกในเสื้อ แต่สาบานได้เรายังไม่ได้คิดอะไร อาจจะมีสะดุดบ้างเพราะเค้าน่ารักเราชอบผู้ชายแบบนี้อารมเหมือนคนเดินผ่านมาผ่านไป เค้าชวนเราไปเดินเล่นแล้วก็ดึงเราไปกอดแน่นอ่ะ จูบเราต่อ
....

ยยยเราก็เขินดิ มาบอกให้เราเป็นเด็กดีของเค้าคืออัลไล และทุกๆวันที่อยู่จะต้อง kiss gn ทุกคืน เราเป็นคนมีความรู้สึกมันเริ่มพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนวันเกิดของเราพี่เค้าพาเราไปเลี้ยงนะมันก็หลายบาท เดินไปไหนก็อยู่ใกล้ๆกันตลอด ตามประสาเหมือนคนเป็นแฟนกัน
ช่วงเวลานั้นที่เกิดขึ้นเหมือนเราไม่ได้อยู่ในโลกของความเป็นจริงหรอก เราอยู่ในยุโรป อากาศหนาวๆ บรรยากาศดีๆแม้กระทั่งร้านอาหารที่เราได้กินด้วยกัน ที่ๆคนรักทุกคู่อยากมาด้วยกัน แม้แต่ตัวของเราเองก็ไม่เคยได้มากับคนรักเลย จนมันมีเหตุการณ์แบบนี้ที่เราเล่าไป มันเป็นแบบนี้จนถึงวันที่ต้องกลับและนาทีสุดท้ายที่พี่เค้ามาส่งเรา เชือกรองเท้าเราหลุดพี่เค้าก้มลงไปผูกให้ อายใครรึป่าวเราไม่รู้ แต่เราซึ้งน้ำใจจริงๆ เรามีลางสังหรณ์ในใจตั้งแต่อยู่ที่นั่นแล้วว่ากลับมามีชีวิต real life มันต้องไม่เหมือนเดิม และมันก็จริงช่วงเวลาตั้งแต่ที่กลับมันไม่เคยเหมือนเดิมเลยแม้แต่วันเดียว เราแทบไม่ได้คุยกันแต่เราเฉยๆ เราเข้าใจว่าทุกคนมีภาระหน้าที่ เรายอมรับในสิ่งที่เค้าเป็นและสิ่งที่เค้าทำ เมื่อไหร่ที่เค้าว่างพอจะมีเวลาให้เรา เราก็ยินดีที่จะให้เค้าเข้ามา
เราสองคนได้คุยกันนะ เค้าบอกว่า
"เรื่องของเรามันมีความทรงจำ แต่เวลายังไม่มีความหมาย" สำหรับเรามันมีความหมายมากๆนะ อีกแค่ไม่กี่เปอร์เซนต์อยู่ที่เวลา
พอเราฟังเรา เราจุกว่ะ เราทำไรไม่ถูก เค้าให้สัญญาว่า ห้ามมีน้ำตา เราทำไม่ได้เลย!!!!!! แต่ก็เข้าใจมาตลอดไม่ว่าสิ่งที่เค้าพูดบอกเราว่าทำอะไรจะเป็นเรื่องจริงหรือโกหก เราก็ไม่เคยถามไม่เคยจุกจิก เราอยู่เฉยๆมาตลอด เวลาอยู่ด้วยกันเราขี้อ้อนตลอด คอยเอาใจ เมื่อยก็จะนวด ไม่เมื่อยกรูก็นวด เราอยากให้คนของเรายิ้ม มีความสุขแค่นั้นจริงๆอ่ะ พี่เค้าโทรมาหาบ่อยๆนะอาจจะไม่ทุกวันแต่ทุกครั้งที่คุยกันมีแต่เสียงหัวเราะ จนถึงวันนี้เรายังตอบตัวเองไม่ได้ว่าเราจะอยู่ไปแบบนี้ หรือเราควรจะออกมา เราเคยคิดและบอกพี่เค้าไปว่าให้หยุดเรื่องของเราไว้แค่นี้ ถ้ามันดีมันใช่มันจะกลับมาหาเราเอง เค้าพูดดักใจของเราว่า
"ความสุขมันไม่ได้หาง่ายๆนะ" เราจะเลิกคุยกันจริงๆหรอ ?
เราตอบอะไรไม่ได้เลยและขอวางสาย พอถึงอีกวันเราก็โทรหาเค้าปกติถามว่าทำอะไร ไปไหน เหนื่อยมั้ย
ถามทุกครั้งและทุกวันตั้งแต่นั้นมา เราเอาใจใส่เค้าด้วยคำพูดแทนไปเพราะตัวเรามีภาระหน้าที่หลายๆอย่าง
พี่เค้าก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง โอเค! เราไม่ได้คิดมากนะ เราก็ปล่อย ช่างเค้า
เห็น รู้สึก ที่เค้าไปเม้นหาคนอื่น คนที่เข้ามาในชีวิตของพี่เค้าในเวลาคาบเกี่ยวกับเรา เรายอมรับแบบนี้มาแต่แรกเราก็โทษใครไม่ได้ แต่ถ้าถามว่า
พี่เค้าใจร้ายกับเราไหม? เราคงตอบได้ว่า มากเหลือเกิน!!!!!!!! เพราะเราเป็นแค่ไพ่ใบนึงเหมือนกันที่เค้าหยิบไว้ในมือ เรื่องเราสองคนเราไม่เคยใช้คำว่า "อดทน" เราแค่ทำตามตามนิสัยของเราจริงๆ เราไม่พูด ไม่บ่นเรื่องอย่างนี้ แต่อาจจะงงๆมึนๆปรึกษาเพื่อนสนิทบ้าง แต่อย่างว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับเรามาทีหลังหรอก
วันนี้เราแพ้ใจตัวเอง เราตัดเค้าออกไปไม่ได้ แต่ตอนที่กลับมาเราเจอกัน เราได้ใช้เวลาด้วยกันอาจจะไม่หรูหราเหมือนที่อยู่เมืองนอก
เราก็มีความสุขมากๆจริงๆนะ (เธอเก่ง)... เรามีรักแรกมันก็สัปรังเค ไม่อยากให้มันพังอีกเราเลยจะรักษาพี่เค้าไว้ให้นานที่สุด ดูเหมือนไม่มีโชคเรื่องผู้ชายเลย เค้าบอกว่าเราดีมากๆ โคตรขี้อ้อน โคตรเอาใจ งึม..
5555555555555555555555555555555555
ทุกวันนี้ตอบตัวเองไม่ได้เลยว่า นี่เราเริ่มใช่มั้ยหรือเราแค่หวั่นไหวหรอ? เราเหมือนเพลง ไกลเท่าเดิม ของบุรินทร์เลย
เราอยากจะเริ่มต้นกับคนอื่น เราก็ทำไม่ได้ ทุกๆครั้งที่ดูรูป

น้ำตาไหลตลอด อยากจะตัดใจ อยากจะหลีกก็ทำไม่ได้ ดีแต่ปาก ดีแต่คิด
เราคิดมาเสมอว่า ถึงแม้ว่าวันนั้นพี่เค้าจะไม่ได้ไปต่อกับเรา เราก็ยังได้ทำดีที่สุดแล้ว เป็นใครเจอแบบนี้มันก็คงเคว้งๆเนอะ
ทำใจลำบาก แน่นอนมั้ง คนโดนแบบนี้คือเรา แต่เค้าเป็นคนกระทำ
ถอยหรือเดินไปต่อ ใครมีประสบการณ์ใกล้เคียงมาแชร์ มาแสดงความคิดเห้นกันนะ
เมื่อปีที่แล้วฤดูหนาวของยุโรปได้มีโอกาสไปเที่ยว ระหว่างที่โทรเราก็ไปเช็คอินด้วยจนเสร็จก็เดินไปหาอาจารย์ ก็ทักทายอาจารปกติค่ะแล้วเราก็เดินgateไป ไลน์กลุ่มเด้งเข้ามาถามหาคนชื่อ ส้มโอ(นามสมมติ) เป็นรูมเมทกับเราที่จะนอนด้วยกันตอนอยู่ยุโรป ส้มโออยู่ไหนครับ?มานั่งร้านอาบัง วิลล์ด้วยกันสิ(ร้านสมมติ) อะ... เราก็เดินไปก็ได้นั่งคุยเรื่อยเปื่อย พี่แกเดินมาเว่ย สวัสดีครับพี่ชื่อ แมน(นามสมมติ)นะครับ เรามาสนุกด้วยกันนะครับ ยิ้มตาตี่มาเลยโอ้ยยกรูละลาย ปกติชอบคนตี๋อยู่ละ อ่อ..ชื่อ ออย(นามสสติ) นะคะ อิอิ(ในใจ) จนขึ้นเครื่องก็เดินหาที่นั่งปกติ หันไปอีกทีอ้าวนั่งใกล้กันเฉย เคๆ ออยครับ!!! พี่ฝากเสื้อแปปนึง เสร็จกรูล่ะจะยึดมาคลุมเพราะผ้าห่มมันรุงรังนั่งยาวๆๆๆๆๆๆ จนเครื่องลงพอดี เราก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้เข้าเยี่ยมชมเมืองก็มาถ่ายรูปด้วยกันนะ ก็ได้เวลากินข้าวเย็น พอกินๆๆๆๆเสร็จเราออกไปเดินเล่นกับรูมเมทนอกร้าน พี่เค้าก็เอาผ้าพันคอเราไป แถมยังใส่คืนให้ที่คอเรา พี่แมนถามเราจะไปไหน อ่อ..จะไปเดินเล่นตรงนู้นค่ะ ป่ะไปด้วยกัน (หูยยยยยยย)
กลับห้องนอน ตื่นมาตอนเช้าก็ถ่ายรูปด้วยกันนิดหน่อยหน้าโรงแรมจนเข้าเมืองไปเดินเล่นอจ.ปล่อยให้ถ่ายรูปครึ่งชม. นางแอบถ่ายรูปเราอ่าาาาา ชมว่าน่ารัก เราก็ไม่ได้อะไร พอตอนกลางคืนนางก็ส่งมานะบอกว่า ชอบรูปนี้มากนะ >____< เขินจ้าาา
และวันนี้เองก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรา ระหว่างที่ลงมานั่งที่บาร์ของโรงแรมมีเพื่อนๆลงมาประมาณสิบคนได้ ตอนที่เล่นแล้วดื่มก็เริ่มจะมึนแต่ไม่เมา เพื่อนบางคนไปเข้าห้องน้ำ เราก็เล่นมือถือดูไรไปเรื่อยพี่เค้าก็แซว อะไรติด social หรอเอาไปเฉยละก็เจอไอจีของคนๆนึง
เค้าชะงักหันมาถามเราว่ารู้จักด้วยหรอเราเลยบอกว่า คนบ้านเดียวกัน เค้าก็ทำสีหน้าแปลกๆขอให้เราออกไปคุยกับเค้าข้างนอกตอนที่คุยกันก็อธิบายให้ฟัง ไม่ได้ปลอบใจ แค่ทำให้ตาสว่างเฉยๆ
เราพูดไปเพราะไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยนะ มันหนาวมากๆข้างนอก 3 องศาได้มั้ง พอเราหนาวมากๆเค้าก็เอามือเราไปซุกในเสื้อ แต่สาบานได้เรายังไม่ได้คิดอะไร อาจจะมีสะดุดบ้างเพราะเค้าน่ารักเราชอบผู้ชายแบบนี้อารมเหมือนคนเดินผ่านมาผ่านไป เค้าชวนเราไปเดินเล่นแล้วก็ดึงเราไปกอดแน่นอ่ะ จูบเราต่อ
....
ช่วงเวลานั้นที่เกิดขึ้นเหมือนเราไม่ได้อยู่ในโลกของความเป็นจริงหรอก เราอยู่ในยุโรป อากาศหนาวๆ บรรยากาศดีๆแม้กระทั่งร้านอาหารที่เราได้กินด้วยกัน ที่ๆคนรักทุกคู่อยากมาด้วยกัน แม้แต่ตัวของเราเองก็ไม่เคยได้มากับคนรักเลย จนมันมีเหตุการณ์แบบนี้ที่เราเล่าไป มันเป็นแบบนี้จนถึงวันที่ต้องกลับและนาทีสุดท้ายที่พี่เค้ามาส่งเรา เชือกรองเท้าเราหลุดพี่เค้าก้มลงไปผูกให้ อายใครรึป่าวเราไม่รู้ แต่เราซึ้งน้ำใจจริงๆ เรามีลางสังหรณ์ในใจตั้งแต่อยู่ที่นั่นแล้วว่ากลับมามีชีวิต real life มันต้องไม่เหมือนเดิม และมันก็จริงช่วงเวลาตั้งแต่ที่กลับมันไม่เคยเหมือนเดิมเลยแม้แต่วันเดียว เราแทบไม่ได้คุยกันแต่เราเฉยๆ เราเข้าใจว่าทุกคนมีภาระหน้าที่ เรายอมรับในสิ่งที่เค้าเป็นและสิ่งที่เค้าทำ เมื่อไหร่ที่เค้าว่างพอจะมีเวลาให้เรา เราก็ยินดีที่จะให้เค้าเข้ามา
เราสองคนได้คุยกันนะ เค้าบอกว่า
"เรื่องของเรามันมีความทรงจำ แต่เวลายังไม่มีความหมาย" สำหรับเรามันมีความหมายมากๆนะ อีกแค่ไม่กี่เปอร์เซนต์อยู่ที่เวลา
พอเราฟังเรา เราจุกว่ะ เราทำไรไม่ถูก เค้าให้สัญญาว่า ห้ามมีน้ำตา เราทำไม่ได้เลย!!!!!! แต่ก็เข้าใจมาตลอดไม่ว่าสิ่งที่เค้าพูดบอกเราว่าทำอะไรจะเป็นเรื่องจริงหรือโกหก เราก็ไม่เคยถามไม่เคยจุกจิก เราอยู่เฉยๆมาตลอด เวลาอยู่ด้วยกันเราขี้อ้อนตลอด คอยเอาใจ เมื่อยก็จะนวด ไม่เมื่อยกรูก็นวด เราอยากให้คนของเรายิ้ม มีความสุขแค่นั้นจริงๆอ่ะ พี่เค้าโทรมาหาบ่อยๆนะอาจจะไม่ทุกวันแต่ทุกครั้งที่คุยกันมีแต่เสียงหัวเราะ จนถึงวันนี้เรายังตอบตัวเองไม่ได้ว่าเราจะอยู่ไปแบบนี้ หรือเราควรจะออกมา เราเคยคิดและบอกพี่เค้าไปว่าให้หยุดเรื่องของเราไว้แค่นี้ ถ้ามันดีมันใช่มันจะกลับมาหาเราเอง เค้าพูดดักใจของเราว่า
"ความสุขมันไม่ได้หาง่ายๆนะ" เราจะเลิกคุยกันจริงๆหรอ ?
เราตอบอะไรไม่ได้เลยและขอวางสาย พอถึงอีกวันเราก็โทรหาเค้าปกติถามว่าทำอะไร ไปไหน เหนื่อยมั้ย
ถามทุกครั้งและทุกวันตั้งแต่นั้นมา เราเอาใจใส่เค้าด้วยคำพูดแทนไปเพราะตัวเรามีภาระหน้าที่หลายๆอย่าง
พี่เค้าก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง โอเค! เราไม่ได้คิดมากนะ เราก็ปล่อย ช่างเค้า
เห็น รู้สึก ที่เค้าไปเม้นหาคนอื่น คนที่เข้ามาในชีวิตของพี่เค้าในเวลาคาบเกี่ยวกับเรา เรายอมรับแบบนี้มาแต่แรกเราก็โทษใครไม่ได้ แต่ถ้าถามว่า
พี่เค้าใจร้ายกับเราไหม? เราคงตอบได้ว่า มากเหลือเกิน!!!!!!!! เพราะเราเป็นแค่ไพ่ใบนึงเหมือนกันที่เค้าหยิบไว้ในมือ เรื่องเราสองคนเราไม่เคยใช้คำว่า "อดทน" เราแค่ทำตามตามนิสัยของเราจริงๆ เราไม่พูด ไม่บ่นเรื่องอย่างนี้ แต่อาจจะงงๆมึนๆปรึกษาเพื่อนสนิทบ้าง แต่อย่างว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับเรามาทีหลังหรอก
วันนี้เราแพ้ใจตัวเอง เราตัดเค้าออกไปไม่ได้ แต่ตอนที่กลับมาเราเจอกัน เราได้ใช้เวลาด้วยกันอาจจะไม่หรูหราเหมือนที่อยู่เมืองนอก
เราก็มีความสุขมากๆจริงๆนะ (เธอเก่ง)... เรามีรักแรกมันก็สัปรังเค ไม่อยากให้มันพังอีกเราเลยจะรักษาพี่เค้าไว้ให้นานที่สุด ดูเหมือนไม่มีโชคเรื่องผู้ชายเลย เค้าบอกว่าเราดีมากๆ โคตรขี้อ้อน โคตรเอาใจ งึม..
5555555555555555555555555555555555
ทุกวันนี้ตอบตัวเองไม่ได้เลยว่า นี่เราเริ่มใช่มั้ยหรือเราแค่หวั่นไหวหรอ? เราเหมือนเพลง ไกลเท่าเดิม ของบุรินทร์เลย
เราอยากจะเริ่มต้นกับคนอื่น เราก็ทำไม่ได้ ทุกๆครั้งที่ดูรูป
เราคิดมาเสมอว่า ถึงแม้ว่าวันนั้นพี่เค้าจะไม่ได้ไปต่อกับเรา เราก็ยังได้ทำดีที่สุดแล้ว เป็นใครเจอแบบนี้มันก็คงเคว้งๆเนอะ
ทำใจลำบาก แน่นอนมั้ง คนโดนแบบนี้คือเรา แต่เค้าเป็นคนกระทำ