ผู้นำสาธารณรัฐเช็กระบุ “ชาวมุสลิม” ไม่มีวันรวมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมยุโรปได้....

นานาเรียนนานาเรียน
              ประธานาธิบดี มิลอส เซมาน แห่งสาธารณรัฐเช็ก


           เอเอฟพี - ประธานาธิบดีมิลอส เซมาน ผู้นำฝีปากกล้าแห่งสาธารณรัฐเช็กซึ่งประกาศจุดยืนต่อต้านผู้อพยพ ออกมาเตือนวานนี้
                (17 ม.ค.) ว่า
             ความพยายามหลอมรวมชาวมุสลิมเข้ากับสังคมยุโรปนั้น “ไม่มีทางเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติ”
       
                “ประสบการณ์ของประเทศตะวันตกที่เต็มไปด้วยย่านชาวยิวและชุมชนที่แปลกแยกจากสังคมแสดงให้เห็นแล้วว่า
                   การหลอมรวมชาวมุสลิมคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยทางปฏิบัติ”      เซมาน ให้สัมภาษณ์ทางสื่อโทรทัศน์
       
       “ปล่อยให้พวกเขามีวัฒนธรรมของพวกเขาเองอยู่ในประเทศของพวกเขาเอง อย่าปล่อยให้เข้ามาในยุโรป มิเช่นนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์เหมือนที่โคโลญ” ผู้นำสาธารณรัฐเช็กกล่าว โดยอ้างถึงเหตุล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงที่เกิดขึ้นหลายร้อยกรณีในเยอรมนีและที่อื่นๆ เมื่อช่วงค่ำคืนก่อนปีใหม่ 2016
       
                      “การหลอมรวมประชากรอาจเป็นไปได้ หากมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน และในความคล้ายคลึงก็ยังมีความแตกต่าง”
                          เซมานกล่าว พร้อมเอ่ยถึงผู้อพยพชาวเวียดนามและยูเครนที่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมเช็กได้เป็นอย่างดี
       

                                          เม่าตกอับ  เม่าตกอับ   เม่าตกอับ  เม่าตกอับ

                                      เซมาน วัย 71 ปี เป็นประธานาธิบดีหัวซ้ายจัดที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกของสาธารณรัฐเช็ก
                                และเคยออกมาคัดค้านการเปิดรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเข้าสู่ยุโรปมาแล้วหลายครั้ง
       
                          เมื่อต้นเดือนนี้ เขาอ้างว่าคลื่นผู้อพยพจำนวนนับล้านๆ คนเป็นแผนของขบวนการอิสลามิสต์ภราดรภาพมุสลิม                                   (Muslim Brotherhood) ซึ่งได้รับเงินทุนอุดหนุนจากรัฐบาลหลายประเทศ
                                                    “เพื่อส่งชาวมุสลิมเข้าครอบครองยุโรปอย่างช้าๆ”
                                      เพี้ยนออกทริป เพี้ยนออกทริปเพี้ยนออกทริป


                       ปลายปีที่แล้ว เซมานเตือนว่า ผู้ลี้ภัยจากตะวันออกกลางที่หลั่งไหลมายังยุโรปมากขึ้นเรื่อยๆ เป็น “แผนรุกราน”
                 อย่างหนึ่ง และเรียกร้องให้คนหนุ่มในอิรักและซีเรีย “จับอาวุธ” ต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แทนที่จะหนีหัวซุกหัวซุน
       
                  ข้อมูลจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่า ตลอดทั้งปี 2015 มีคลื่นผู้อพยพเดินทางเข้าสู่
               ยุโรปมากกว่า 1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นผู้สี้ภัยที่หนีสงครามมาจากอัฟกานิสถาน อิรัก และซีเรีย
                                   ออกทะเล     ออกทะเล    ออกทะเล     ออกทะเล


                        ผู้อพยพบางส่วนพอใจที่จะอาศัยอยู่ในสาธารณรัฐเช็กซึ่งมีประชากรราว 10.5 ล้านคน
                                    และเป็นสมาชิกทั้งสหภาพยุโรป (อียู) และนาโต
                    ขณะที่ส่วนใหญ่มุ่งหน้าต่อไปยังเยอรมนีและชาติยุโรปตะวันตกที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่า
       
                       สาธารณรัฐเช็กคัดค้านการจัดโควต้ากระจายผู้อพยพ 160,000 คนไปยังประเทศต่างๆ ทั่วอียู
                             ขณะที่นายกรัฐมนตรีโบฮูสลาฟ โซบอตกา เตือนว่า นโยบายนี้ไม่มีทางสำเร็จ
                    เนื่องจากผู้อพยพส่วนใหญ่ตั้งใจจะไปตั้งถิ่นฐานในเยอรมนี หรือประเทศอื่นๆ ที่พวกเขาพอใจอยู่แล้ว

                                          http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000005837
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่