ถ้าย้อนเวลาไปเมื่อ ปี 2549...
ตอนนั้นเราเรียนอยู่ ม.3 .... พ่อกับพี่ชายเรามีอาชีพ ก่อสร้าง ... ส่วนแม่เรา มีอาชีพรับจ้างฟันหญ้า
ครอบครัวเราอยู่กันแบบพอมีพอกิน ไม่เดือดร้อนอะไร....สำหรับเราแล้ว เราว่ามันโอเคมาก..เรามีความสุขที่สุด
แต่...... ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน..
เพราะอยู่ๆ ...ช่วงเดือนธันวา...แม่เราก็ป่วย ... อยู่ดีๆแม่ก็ปวดหัว เวียนหัวขั้นรุนแรง จนไม่สามารถทำอะไรได้...พ่อเห็นท่าไม่ดี เลยพาแม่ไปหาหมอ...
หมอให้แม่เอ็กซเรย์...ผลออกมาคือแม่สมองบวม...โดยไม่รู้สาเหตุ...หลังจากนั้นไม่นาน...แม่เราก็ปากเบี้ยว...พูดไม่ได้ เป็นอัมพาตครึ่งตัว....
ความรู้สึกเราตอนนั้น คือเสียใจมาก ทุกอย่างมันรวดเร็ว เร็วจนเราตั้งตัวไม่ทัน...เราได้แต่นั่งร้องไห้เฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล...นั่งคิดว่า ทำไมนะ..ทำไมแม่ถึงป่วย...สภาพจิตใจเราตอนนั้น มันแย่มาก...จากที่แม่เป็นคนร่าเริงเฮฮา...แต่วันนึงกลับต้องมานอนนิ่งๆ พูดไม่ได้ เดินไม่ได้ ช่วยเหลือคัวเองไม่ได้เลย...แม่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบเดือน...หมอก็ให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน...จากที่ปกติแม่คอยทำนู้น ทำนี่ทุกอย่างภายในบ้าน...พอแม่ป่วยทุกคนในบ้านก็ช่วยกัน...พ่อตื่นตี 5 มาหุงข้าว เราตื่นตี 5 ครึ่งมาช่วยพ่อทำกับข้าวแล้วก็ไปเรียน...ส่วนพี่ชายเราจะช่วยซักผ้าและกวาดบ้าน...ชีวิตตอนนั้น บอกได้เลยว่าท้อมาก...
พ่อกับพี่ต้องหยุดงานเพื่อมาดูแลแม่...ค่าใช้จ่ายภายในบ้านก็สูงขึ้น...แม่ก็อาการไม่ดีขึ้นเลย....แต่เรา 3 คนพ่อลูกก็ไม่ถอย...ทุกๆวัน เรา3 คนจะช่วยกันป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดฉี่ เช็ดอึ อาบน้ำ ทำกายภาพแม่...ทำทุกอย่าง...เพื่อให้แม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง....เวลาผ่านไปเกือบปี แม่ก็เริ่มพูดได้...เริ่มเดินได้...เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันนึงแม่หายดี....แต่ถึงแม่จะเดินได้ พูดได้ เหมือนเดิม....แต่แม่มักจะมีอาการ งงๆ เบลอๆ อยู่เสมอ...จากที่แม่สามารถขึ้นรถเมล์ไปไหนมาไหนได้....ตอนนี้แม่ไม่สามารถไปไหนคนเดียวได้เลย....แต่เราคิดว่า....แค่นี้ก็พอแล้วนะ...แค่แม่เดินได้ พูดได้เหมือนเดิม...แค่นี้เราก็ดีใจที่สุดแล้ว...
จากวันนั้น...เราก็ดูแลแม่มาเรื่อย...จนวันนึงเมื่อปี 2556 ... ตอนนั้นเราเรียนมหาลัยปี 3 ...เราอยู่หอ...ซึ่งก็ไกลบ้านพอสมควร...
อยู่ดีๆ แม่ก็โทรมาหาเรา...
เรา : ฮัลโหล แม่?
แม่ : (ชื่อเรา) กลับมาหาแม่ได้ไหม ??? แม่ไม่มีใครแล้ว
เรา : อ้าว...ทำไมอ่ะแม่...แม่เป็นไร...
แม่ : แม่เหงา...แม่อยู่คนเดียวแม่เหงา
เรา : แล้วพ่อล่ะ...พ่อไปไหน
แม่ : พ่อไม่สนใจแม่แล้ว...(ชื่อพี่ชายเรา)มันก็ไม่สนใจแม่เลย
แม่ : กลับมาหาแม่เถอะนะ แม่เหงา แม่ไม่มีใครเลย
เรา : ได้ค่ะ เดี๋ยวเย็นนี้เลิกเรียนจะรีบกลับไปหานะแม่ ^^
หลังจากทีแม่วางสายไป...ด้วยความ งง เราจึงโทรไปถามพ่อ...แล้วพ่อก็บอกว่า แม่หาว่าพ่อมีเมียน้อย หาว่าไปติดสาวคนที่นู้นที่นี่...
หาว่าพี่ชายสมรู้ร่วมคิดกันไปหมด...เลยทำให้ พ่อกับพี่ชายทะเลาะกับแม่ทุกวัน
พอดีช่วงนั้นปิดปีใหม่หลายวัน...เราเลยกลับไปอยู่บ้าน ไปอยู่กับแม่
สิ่งที่เราได้รับรู้ตอนนั้นก็คือ...แม่คอยจับผิดพ่อทุกอย่าง...แม่คอยกดดูเบอโทรเข้าโทรออกของพ่อ แล้วแอบจดไว้ แล้วเอาไปโท ตอนดึกๆดื่น เพื่อถามว่าเบอร์ใคร...แม่คิดไปเอง ว่าพ่อมีคนอื่น คิดว่าพ่อเอาตังไปให้คนอื่น โวยวาย ร้องไห้ทุกวัน
แม่ไปเที่ยวพูดบอกคนในซอยว่า พ่อมีเมียน้อย ไปพูดว่า พ่อกับพี่สะใภ้เราแอบมีอะไรกัน
แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดคือ ทุกคนแถวบ้านเชื่อแม่ เอาเรื่องครอบครัวเราไปพูดต่างๆนาๆ....
เราก็พยายามพูดกับแม่ อธิบายให้แม่ฟังว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะ...แต่แม่ก็ไม่เปลี่ยนความคิดเลย เป็นหนักขึ้นทุกวัน...
ตี 1 ตี 2 ไม่ยอมหลับยอมนอน จะลุกขึ้นมานั่งเฝ้าพ่อ แอบไปเดินย่องดูรอบๆบ้าน ว่าพ่อนัดใครไว้รึเปล่า
และทุกคืนก็จะปลุกพ่อขึ้นมา เพื่อชวนทะเลาะ...ทำให้ช่วงนั้นพ่อเครียดมาก....พ่อเรียกเราไปคุย บอกเราว่า เชื่อพ่อนะ พ่อไม่มีใคร พ่อไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไร พูดอะไรก็ไม่เชื่อ แล้วพ่อก็ร้องไห้ออกมา พ่อพูดไปร้องไห้ไป ว่าทำงานก็เครียดแล้ว แม่ยังจะทำให้เครียดอีก...ซึ่งตั้งแต่เกิดมา เราเพิ่งเคยเห็นพ่อร้องไห้เป็นครั้งแรก...เราสงสารพ่อมาก...ครอบครัวเราทะเลาะกันทุกวัน...จนหลังๆ แม่ก็โกรธเรา หาว่าเราพวกเดียวกับพ่อ ถึงขนาดชี้หน้าตัดแม่ตัดลูกกับเราเลย
เราทั้งเครียด ทั้งเสียใจ...ไม่รู้จะทำไง...วันๆแม่ก็ชอบหนีออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้า โทรตามก็ไม่รับสาย...จนดึกๆจะโทรกลับมา...ว่าหาทางกลับบ้านไม่ถูก...เดินไปบ้าง พายเรือไปบ้าง...แล้วเราก็ต้องขับรถไปตามแม่กลับมาทุกครั้ง
9 ปีแล้วนะ... ที่แม่เปลี่ยนไป
ตอนนั้นเราเรียนอยู่ ม.3 .... พ่อกับพี่ชายเรามีอาชีพ ก่อสร้าง ... ส่วนแม่เรา มีอาชีพรับจ้างฟันหญ้า
ครอบครัวเราอยู่กันแบบพอมีพอกิน ไม่เดือดร้อนอะไร....สำหรับเราแล้ว เราว่ามันโอเคมาก..เรามีความสุขที่สุด
แต่...... ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน..
เพราะอยู่ๆ ...ช่วงเดือนธันวา...แม่เราก็ป่วย ... อยู่ดีๆแม่ก็ปวดหัว เวียนหัวขั้นรุนแรง จนไม่สามารถทำอะไรได้...พ่อเห็นท่าไม่ดี เลยพาแม่ไปหาหมอ...
หมอให้แม่เอ็กซเรย์...ผลออกมาคือแม่สมองบวม...โดยไม่รู้สาเหตุ...หลังจากนั้นไม่นาน...แม่เราก็ปากเบี้ยว...พูดไม่ได้ เป็นอัมพาตครึ่งตัว....
ความรู้สึกเราตอนนั้น คือเสียใจมาก ทุกอย่างมันรวดเร็ว เร็วจนเราตั้งตัวไม่ทัน...เราได้แต่นั่งร้องไห้เฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล...นั่งคิดว่า ทำไมนะ..ทำไมแม่ถึงป่วย...สภาพจิตใจเราตอนนั้น มันแย่มาก...จากที่แม่เป็นคนร่าเริงเฮฮา...แต่วันนึงกลับต้องมานอนนิ่งๆ พูดไม่ได้ เดินไม่ได้ ช่วยเหลือคัวเองไม่ได้เลย...แม่นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบเดือน...หมอก็ให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน...จากที่ปกติแม่คอยทำนู้น ทำนี่ทุกอย่างภายในบ้าน...พอแม่ป่วยทุกคนในบ้านก็ช่วยกัน...พ่อตื่นตี 5 มาหุงข้าว เราตื่นตี 5 ครึ่งมาช่วยพ่อทำกับข้าวแล้วก็ไปเรียน...ส่วนพี่ชายเราจะช่วยซักผ้าและกวาดบ้าน...ชีวิตตอนนั้น บอกได้เลยว่าท้อมาก...
พ่อกับพี่ต้องหยุดงานเพื่อมาดูแลแม่...ค่าใช้จ่ายภายในบ้านก็สูงขึ้น...แม่ก็อาการไม่ดีขึ้นเลย....แต่เรา 3 คนพ่อลูกก็ไม่ถอย...ทุกๆวัน เรา3 คนจะช่วยกันป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดฉี่ เช็ดอึ อาบน้ำ ทำกายภาพแม่...ทำทุกอย่าง...เพื่อให้แม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง....เวลาผ่านไปเกือบปี แม่ก็เริ่มพูดได้...เริ่มเดินได้...เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันนึงแม่หายดี....แต่ถึงแม่จะเดินได้ พูดได้ เหมือนเดิม....แต่แม่มักจะมีอาการ งงๆ เบลอๆ อยู่เสมอ...จากที่แม่สามารถขึ้นรถเมล์ไปไหนมาไหนได้....ตอนนี้แม่ไม่สามารถไปไหนคนเดียวได้เลย....แต่เราคิดว่า....แค่นี้ก็พอแล้วนะ...แค่แม่เดินได้ พูดได้เหมือนเดิม...แค่นี้เราก็ดีใจที่สุดแล้ว...
จากวันนั้น...เราก็ดูแลแม่มาเรื่อย...จนวันนึงเมื่อปี 2556 ... ตอนนั้นเราเรียนมหาลัยปี 3 ...เราอยู่หอ...ซึ่งก็ไกลบ้านพอสมควร...
อยู่ดีๆ แม่ก็โทรมาหาเรา...
เรา : ฮัลโหล แม่?
แม่ : (ชื่อเรา) กลับมาหาแม่ได้ไหม ??? แม่ไม่มีใครแล้ว
เรา : อ้าว...ทำไมอ่ะแม่...แม่เป็นไร...
แม่ : แม่เหงา...แม่อยู่คนเดียวแม่เหงา
เรา : แล้วพ่อล่ะ...พ่อไปไหน
แม่ : พ่อไม่สนใจแม่แล้ว...(ชื่อพี่ชายเรา)มันก็ไม่สนใจแม่เลย
แม่ : กลับมาหาแม่เถอะนะ แม่เหงา แม่ไม่มีใครเลย
เรา : ได้ค่ะ เดี๋ยวเย็นนี้เลิกเรียนจะรีบกลับไปหานะแม่ ^^
หลังจากทีแม่วางสายไป...ด้วยความ งง เราจึงโทรไปถามพ่อ...แล้วพ่อก็บอกว่า แม่หาว่าพ่อมีเมียน้อย หาว่าไปติดสาวคนที่นู้นที่นี่...
หาว่าพี่ชายสมรู้ร่วมคิดกันไปหมด...เลยทำให้ พ่อกับพี่ชายทะเลาะกับแม่ทุกวัน
พอดีช่วงนั้นปิดปีใหม่หลายวัน...เราเลยกลับไปอยู่บ้าน ไปอยู่กับแม่
สิ่งที่เราได้รับรู้ตอนนั้นก็คือ...แม่คอยจับผิดพ่อทุกอย่าง...แม่คอยกดดูเบอโทรเข้าโทรออกของพ่อ แล้วแอบจดไว้ แล้วเอาไปโท ตอนดึกๆดื่น เพื่อถามว่าเบอร์ใคร...แม่คิดไปเอง ว่าพ่อมีคนอื่น คิดว่าพ่อเอาตังไปให้คนอื่น โวยวาย ร้องไห้ทุกวัน
แม่ไปเที่ยวพูดบอกคนในซอยว่า พ่อมีเมียน้อย ไปพูดว่า พ่อกับพี่สะใภ้เราแอบมีอะไรกัน
แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดคือ ทุกคนแถวบ้านเชื่อแม่ เอาเรื่องครอบครัวเราไปพูดต่างๆนาๆ....
เราก็พยายามพูดกับแม่ อธิบายให้แม่ฟังว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะ...แต่แม่ก็ไม่เปลี่ยนความคิดเลย เป็นหนักขึ้นทุกวัน...
ตี 1 ตี 2 ไม่ยอมหลับยอมนอน จะลุกขึ้นมานั่งเฝ้าพ่อ แอบไปเดินย่องดูรอบๆบ้าน ว่าพ่อนัดใครไว้รึเปล่า
และทุกคืนก็จะปลุกพ่อขึ้นมา เพื่อชวนทะเลาะ...ทำให้ช่วงนั้นพ่อเครียดมาก....พ่อเรียกเราไปคุย บอกเราว่า เชื่อพ่อนะ พ่อไม่มีใคร พ่อไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไร พูดอะไรก็ไม่เชื่อ แล้วพ่อก็ร้องไห้ออกมา พ่อพูดไปร้องไห้ไป ว่าทำงานก็เครียดแล้ว แม่ยังจะทำให้เครียดอีก...ซึ่งตั้งแต่เกิดมา เราเพิ่งเคยเห็นพ่อร้องไห้เป็นครั้งแรก...เราสงสารพ่อมาก...ครอบครัวเราทะเลาะกันทุกวัน...จนหลังๆ แม่ก็โกรธเรา หาว่าเราพวกเดียวกับพ่อ ถึงขนาดชี้หน้าตัดแม่ตัดลูกกับเราเลย
เราทั้งเครียด ทั้งเสียใจ...ไม่รู้จะทำไง...วันๆแม่ก็ชอบหนีออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้า โทรตามก็ไม่รับสาย...จนดึกๆจะโทรกลับมา...ว่าหาทางกลับบ้านไม่ถูก...เดินไปบ้าง พายเรือไปบ้าง...แล้วเราก็ต้องขับรถไปตามแม่กลับมาทุกครั้ง