สวัสดีค่ะ มารีวิวต่อจากกระทู้นี้ >>
[CR]รีวิว เที่ยวโตเกียวคนเดียว 6 วัน 5 คืน พี่มาเพื่อเป็นเซอร์ไวเวอร์
คราวนี้เราจะมีรีวิวแยกในส่วนของสายการบิน "เวียดนาม แอร์ไลน์"
กับโรงแรม "อาซากุสะ ฟุกุดายะ"
ขอแยกกระทู้เพื่อแท็กห้องเพิ่มนะคะ
เกริ่นอีกนิด ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 26 ธ.ค. 58 - 1 ม.ค. 59
จองตั๋วเครื่องบิน + ที่พักผ่าน expedia ในราคา 16,550 บาท
ที่พักนี่น่าจะราคาประมาณ 900 บาท 5 คืนก็ 4,500 บาท
ในส่วนของตั๋วเครื่องบินจึงราคาประมาณ 12,050 บาท เทียบกับบินช่วงปีใหม่ ก็ถือว่าโอเค
เริ่มจากเวียดนามแอร์ไลน์ เป็นสายการบินฟูลเซอร์วิสสัญชาติเวียดนาม อยู่ในกลุ่ม SKYTEAM
ก่อนจองก็อ่านรีวิว ได้ยินเรื่องการดีเลย์กับเลื่อนไฟล์ทกระทันหัน เราก็ได้แต่ภาวนา
แต่ทว่า.....

มีเมล์มาแจ้งเปลี่ยนเวลาบินวันที่ 23 !!! ยังดีที่เลื่อนนิดเดียวและไฟล์ทเดียว
เวียดแอร์จะเปิดให้ทำเว็บเช็คอินก่อนเวลา 24 ชม. และเปิดเคาท์เตอร์ก่อน 2.3 ชม.
เราเลยทำเว็บเช็คอินไป และเลือกที่นั่งริมหน้าต่างทั้งหมด
เคาท์เตอร์เวียดนามแอร์ไลน์จะอยู่ Row L ที่สุวรรณภูมิค่ะ ตอนไปคนโล่งมากกกกก

ใช้กราวด์ของการบินไทย ยื่นแค่พาสปอร์ตก็จะได้ตั๋วมา 2 ใบ BKK->SGN + SGN->NRT
ขาจากกรุงเทพฯไปโฮจิมินห์ ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 ที่นั่งกว้างพอสมควร
เราสูง 160 ยืดขาได้สบายเลย 55555
บินประมาณ 2 ชม. แอร์จะเสิร์ฟอาหารหลังจากเครื่องขึ้นสักพัก ลืมถ่ายมา มัวแต่หิว....
ถึงโฮจิมินห์จะมีรถบัสมารับ
ก็ขึ้นไป ถึงเทอมินอลก็เดินตามป้าย transfer ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องผ่าน ตม. ไปรอที่เกทต่อไปเลย
เที่ยวบินที่จะต่อไปนาริตะ ไฟล์ทเรามีดีเลย์ประมาณ 40 นาทีค่ะ ถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องไปต่อ
คราวนี้เป็นที่นั่งแบบ 2-4-2 (หรือ 2-3-2 ไม่แน่ใจ เพราะเรานั่งติดหน้าต่าง ลืมนับแถวกลาง 555 )
มีหน้าจอส่วนตัวให้เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงด้วย แอร์จะเดินถามว่าจะรับหูฟังมั้ย? เราก็เอามา

อ้อ มีหมอนกับผ้าห่มให้ด้วย
เช้าล้าววววววววว
ส่วนอาหารจะเสิร์ฟก่อนเครื่องลงประมาณ ชม. นึง
ขากลับ มาขึ้นเครื่องที่เทอมินอล 1 Row C ค่ะ
คราวนี้ใช้กราวด์ของเดลต้า 5555

เกทค่อนข้างไกล อย่าลืมเผื่อเวลาเดินกันนะคะ
ไฟล์ทกลับเป็นที่นั่ง 3-3 ทั้ง 2 ไฟล์ ไม่มีจอส่วนตัว แต่มีจอรวมที่เปิดหนังให้ดูค่ะ
เที่ยวโตเกียวไปโฮจิมินห์เราดูหนังจบไป 2 เรื่อง เพราะนอนไม่หลับ 555555
และที่สะเทือนใจคือ เราได้ที่นั่งแถวหลังๆ พอแอร์มาเสิร์ฟอาหารก็จะบอกว่ามีไก่กับเนื้อนะคะ
เรากำลังจะอ้าปากบอกว่าไก่ แม่นางก็ตัดหน้าด้วยการบอกว่า "แต่ไก่หมด เหลือแต่เนื้อ"
ว้อทททท แล้วจะบอกทำไม รู้ว่ามีไก่ แต่หมดแล้วมันปวดใจนะรู้มั้ยยยยยย
เนื้อก็เนื้อ ไม่ซีเรียส แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากกิน (ใครกินไม่ได้น่าจะต้องจองล่วงหน้าหรือบอกเคาท์เตอร์ตอนเช็คอินดูนะคะ)
เนื่องจากขากลับเรารอต่อเครื่องนาน ดีที่เป็นช่วงเที่ยงคืน คนไม่ค่อยมี มีแต่คนที่รอต่อเครื่องเหมือนกัน
ก็หามุมสงบๆในสนามบินนอนค่ะ
ใกล้เวลาก็จะพบพี่น้องชาวไทย และชาวเวียดนามมารอขึ้นเครื่องไปกรุงเทพฯ
อาหารก็เป็นเซตมื้อเช้าเหมือนเดิม เราชอบขนมปังกับเนยนะ 5555
สรุป
- ก็โอเคในระดับหนึ่ง ราคาที่ได้รวมค่าอาหาร เลือกที่นั่งได้ กระเป๋า(ปัจจุบัน) 30 kg. โหลดได้ 2 ใบ
- ช่วงนี้สามารถเลือกตั๋วถูกๆได้ราคาประมาณ 8500 บาท
- เสียตรงที่ต้องรอต่อเครื่องนาน แต่เราเจอ 8 ชม.กว่า ก็เฉยๆนะ นั่งเล่นนอนเล่นรอ ไม่ได้รีบอะไร
- อาหารพอกินได้ แต่บางมื้อที่มีเนื้อ ถ้าไม่กินควรบอกก่อน อาจจะต้องเมล์แจ้ง
- มีเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตในไทย เราเมล์ไปสอบถามหลายครั้ง ก็ตอบเร็วดี >> info.th@vietnamairlines.com
- ที่นั่งกว้างดี สำหรับคนสูงไม่เกิน 180 ถ้าสูงกว่านี้อาจจะติดพอดี
- สนามบินที่โฮจิมินห์ใช้เงินดอลล่าห์ ไม่รู้สกุลอื่นด้วยรึเปล่า เพราะไม่ได้ซื้ออะไร
- น้ำที่เสิร์ฟบนเครื่องพร้อมอาหาร นางจะถามแล้วเสิร์ฟเป็นแก้วพลาสติกเล็กๆ ;_;
- กระเป๋าเช็คทรู ไปรับทีเดียวปลายทาง
ที่นึกได้ก็ประมาณนี้ ถ้าถามว่าจะบินกับเวียดแอร์อีกมั้ย.... ถ้าได้ตั๋วโปรช่วงไม่เกินหมื่นบาทก็โอเค
แต่ถ้าสูงกว่านั้น อาจจะต้องไปส่องสายการบินอื่นก่อน
จริงๆแอร์เอเชียที่เคยบินก็โอเคนะ ถึงจะไม่เลือกอาหาร บินตรงแค่ 5 ชม.นิดๆก็ทนได้อยู่
แต่เหมือนตอนนี้จะเพิ่มค่าโหลดกระเป๋า บวกไปบวกมาก็ไม่ค่อยโลวคอสเลย(ถ้าไม่ได้ตั๋วโปรถูกสุด)
เอาเป็นว่า ถ้าใครไม่แคร์เรื่องการรอต่อเครื่องมากกว่า 6 ชม. ก็ถือว่าผ่าน บินสวยๆ


มาถึงโรงแรมอาซากุสะ ฟุกุดายะ Asakusa Hotel Fukudaya
เวลาเข้าเว็บพวกจองตั๋วที่มีแพ็คเก็จโรงแรม จะต้องเจอชื่อนี้ในรายชื่อต้นๆเมื่อเลือกตามราคาแน่ๆ
เราก็ส่องมานาน จะดีมั้ยว้าาาาา จองไปแล้วค่อยมาหาทางไปโรงแรมอย่างจริงจัง 555555
อันนี้เว็บไซต์โรงแรม (แปะได้ใช่มั้ย?)
http://www.h-fukudaya.com/
ในเว็บน่ารักมาก มีบอกทางไปโรงแรมอย่างละเอียดเลย
http://www.h-fukudaya.com/map.html
การเดินทางหลักๆที่เราเดินทางไปครั้งนี้มี 2 ทางคือบัสกับรถไฟ
เดินทางโดยบัส เราขึ้นจากอุเอโนะ ขึ้นสาย 46 ไป minami-senju ราคา 210 เยนตลอดสาย
จะต้องไปลงป้าย kiyokawa 2 chome (ไม่ต้องกังวล บนรถจะมีประกาศชื่อป้ายทุกป้าย มีตัววิ่งภาษาอังกฤษด้วย)
ลงป้ายนั้นแล้วก็เดินข้ามสี่แยกไป โรงแรมจะอยู่ด้านขวามือ สังเกตไม่ยากค่ะ แถวนั้นจะมีร้าน lawson สีแดงๆด้วย
*ขออภัยที่ไม่มีรูปโดยละเอียด ตอนนั้นมันหนาวจริงๆ ไม่มีอารมณ์มาถ่ายรูปรอบๆเลย*
ส่วนเดินทางโดยรถไฟ ใกล้สุดน่าจะเป็นสถานี minami-senju เป็นโตเกียวเมโทรสาย Hibiya
(เหมือนจะมีสถานี JR ด้วย เดินเลยไปนิด แต่เราซื้อพาสของเมโทรเลยขึ้นสถานี้นี้)
เดินไม่ยาก เดินตรงอย่างเดียวเลยค่ะ จากสถานี เดินตรงออกมาก็จะเจอแยก Kiyokawa 2 chome นั่นเองงงงง
อันนี้แผนที่โดยรวม จริงๆแล้วไม่ไกลกันเลยค่ะ เดินชมวิวไปเรื่อยๆได้ เห็นโตเกียวสกายทรีลิบๆด้วย
สถานี minami-senju ถ้าเดินมาจากโรงแรม ก็เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ (มีลิฟท์ด้วยนะ)
วิวถนนแถวนั้น
ส่วนนี้คือสถาพห้องพัก
รูปอื่นๆ ลืมถ่ายมา ลองไปดูจากกูเกิ้ลได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.google.co.th/maps/uv?hl=th&pb=!1s0x60188eefafa5925d:0x6a97c3dad8eaec04!2m5!2m2!1i80!2i80!3m1!2i100!3m1!7e1!4shttp://m.hanniwan.com/hotel/31281.html!5zYXNha3VzYSBmdWt1ZGF5YSAtIOC4hOC5ieC4meC4q-C4suC4lOC5ieC4p-C4oiBHb29nbGU&sa=X&sqi=2&ved=0ahUKEwjckqvvzrPKAhVTj44KHd7XAaQQoioIngEwCg
อันนี้กฏของโรงแรม

เปิดให้เช็คอิน 13.00 น. เช็คเอาท์ก่อน 10.00 น. (ถ้าอยู่เกินจนถึง 12.00 น. จ่ายเพิ่ม 1000 เยน)
ประตูจะปิดช่วงเที่ยงคืนถึง 7.00 น. แต่เราจะได้รหัสไว้กดเปิดประตูเข้ามาเอง
ห้องอาบน้ำรวม ใช้ได้ตลอดเวลา (มี 2 ห้อง มีน้ำอุ่นกับสบู่เหลว แชมพูให้)
มีบ่อแช่น้ำรวม ผู้หญิงเข้าได้ 16.00 - 20.00 น. ผู้ชายเข้าได้ 20.00 - 23.30 น.
มีน้ำร้อนกับน้ำเย็นให้กดใช้ได้ มีไดร์เป่าผมให้ยืม
สรุป
- ห้องพักเหมาะกับการ backpack อย่างแท้จริง ใครติดสบายขอให้ผ่านไปเลยค่ะ ไปหาโรงแรมอื่นแถวนั้น
- แถวนั้นมีโรงแรมและร้านสะดวกซื้อเยอะ โรงแรมราคาอยู่ที่ประมาณ 3000 เยนซะส่วนใหญ่
- เท่าที่ส่องดู โรงแรมอื่นที่ราคาใกล้เคียงกัน มีที่ดูดีกว่า แต่น่าจะต้องจองผ่านเว็บโรงแรมโดยตรง
- จริงๆจะเดินไปสถานีอาซากุสะ หรือไปแม่น้ำซุมิดะน่าจะไม่ไกล แต่เราไม่ได้ลองเดิน 555555
นึกได้ประมาณนี้ ถ้ามีอะไรสงสัยถามได้นะคะ
ขออภัยที่รูปน้อย เพราะไม่รู้ว่าจะถ่ายอะไรบ้างจริงๆ ตอนนั้นก็หนาว ตอนเดินเลยไม่ค่อยได้หยิบออกมาถ่ายรูปด้วย
[CR] รีวิว วิถีคนประหยัด เวียดนามแอร์ไลน์ไปญี่ปุ่น กับโรงแรม อาซากุสะ ฟุกุดายะ
คราวนี้เราจะมีรีวิวแยกในส่วนของสายการบิน "เวียดนาม แอร์ไลน์"
กับโรงแรม "อาซากุสะ ฟุกุดายะ"
ขอแยกกระทู้เพื่อแท็กห้องเพิ่มนะคะ
เกริ่นอีกนิด ทริปนี้เราเดินทางวันที่ 26 ธ.ค. 58 - 1 ม.ค. 59
จองตั๋วเครื่องบิน + ที่พักผ่าน expedia ในราคา 16,550 บาท
ที่พักนี่น่าจะราคาประมาณ 900 บาท 5 คืนก็ 4,500 บาท
ในส่วนของตั๋วเครื่องบินจึงราคาประมาณ 12,050 บาท เทียบกับบินช่วงปีใหม่ ก็ถือว่าโอเค
เริ่มจากเวียดนามแอร์ไลน์ เป็นสายการบินฟูลเซอร์วิสสัญชาติเวียดนาม อยู่ในกลุ่ม SKYTEAM
ก่อนจองก็อ่านรีวิว ได้ยินเรื่องการดีเลย์กับเลื่อนไฟล์ทกระทันหัน เราก็ได้แต่ภาวนา
แต่ทว่า.....
มีเมล์มาแจ้งเปลี่ยนเวลาบินวันที่ 23 !!! ยังดีที่เลื่อนนิดเดียวและไฟล์ทเดียว
เวียดแอร์จะเปิดให้ทำเว็บเช็คอินก่อนเวลา 24 ชม. และเปิดเคาท์เตอร์ก่อน 2.3 ชม.
เราเลยทำเว็บเช็คอินไป และเลือกที่นั่งริมหน้าต่างทั้งหมด
เคาท์เตอร์เวียดนามแอร์ไลน์จะอยู่ Row L ที่สุวรรณภูมิค่ะ ตอนไปคนโล่งมากกกกก
ใช้กราวด์ของการบินไทย ยื่นแค่พาสปอร์ตก็จะได้ตั๋วมา 2 ใบ BKK->SGN + SGN->NRT
ขาจากกรุงเทพฯไปโฮจิมินห์ ที่นั่งเป็นแบบ 3-3 ที่นั่งกว้างพอสมควร
เราสูง 160 ยืดขาได้สบายเลย 55555
บินประมาณ 2 ชม. แอร์จะเสิร์ฟอาหารหลังจากเครื่องขึ้นสักพัก ลืมถ่ายมา มัวแต่หิว....
ถึงโฮจิมินห์จะมีรถบัสมารับ
ก็ขึ้นไป ถึงเทอมินอลก็เดินตามป้าย transfer ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องผ่าน ตม. ไปรอที่เกทต่อไปเลย
เที่ยวบินที่จะต่อไปนาริตะ ไฟล์ทเรามีดีเลย์ประมาณ 40 นาทีค่ะ ถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องไปต่อ
คราวนี้เป็นที่นั่งแบบ 2-4-2 (หรือ 2-3-2 ไม่แน่ใจ เพราะเรานั่งติดหน้าต่าง ลืมนับแถวกลาง 555 )
มีหน้าจอส่วนตัวให้เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงด้วย แอร์จะเดินถามว่าจะรับหูฟังมั้ย? เราก็เอามา
อ้อ มีหมอนกับผ้าห่มให้ด้วย
เช้าล้าววววววววว
ส่วนอาหารจะเสิร์ฟก่อนเครื่องลงประมาณ ชม. นึง
ขากลับ มาขึ้นเครื่องที่เทอมินอล 1 Row C ค่ะ
คราวนี้ใช้กราวด์ของเดลต้า 5555
เกทค่อนข้างไกล อย่าลืมเผื่อเวลาเดินกันนะคะ
ไฟล์ทกลับเป็นที่นั่ง 3-3 ทั้ง 2 ไฟล์ ไม่มีจอส่วนตัว แต่มีจอรวมที่เปิดหนังให้ดูค่ะ
เที่ยวโตเกียวไปโฮจิมินห์เราดูหนังจบไป 2 เรื่อง เพราะนอนไม่หลับ 555555
และที่สะเทือนใจคือ เราได้ที่นั่งแถวหลังๆ พอแอร์มาเสิร์ฟอาหารก็จะบอกว่ามีไก่กับเนื้อนะคะ
เรากำลังจะอ้าปากบอกว่าไก่ แม่นางก็ตัดหน้าด้วยการบอกว่า "แต่ไก่หมด เหลือแต่เนื้อ"
ว้อทททท แล้วจะบอกทำไม รู้ว่ามีไก่ แต่หมดแล้วมันปวดใจนะรู้มั้ยยยยยย
เนื้อก็เนื้อ ไม่ซีเรียส แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากกิน (ใครกินไม่ได้น่าจะต้องจองล่วงหน้าหรือบอกเคาท์เตอร์ตอนเช็คอินดูนะคะ)
เนื่องจากขากลับเรารอต่อเครื่องนาน ดีที่เป็นช่วงเที่ยงคืน คนไม่ค่อยมี มีแต่คนที่รอต่อเครื่องเหมือนกัน
ก็หามุมสงบๆในสนามบินนอนค่ะ
ใกล้เวลาก็จะพบพี่น้องชาวไทย และชาวเวียดนามมารอขึ้นเครื่องไปกรุงเทพฯ
อาหารก็เป็นเซตมื้อเช้าเหมือนเดิม เราชอบขนมปังกับเนยนะ 5555
สรุป
- ก็โอเคในระดับหนึ่ง ราคาที่ได้รวมค่าอาหาร เลือกที่นั่งได้ กระเป๋า(ปัจจุบัน) 30 kg. โหลดได้ 2 ใบ
- ช่วงนี้สามารถเลือกตั๋วถูกๆได้ราคาประมาณ 8500 บาท
- เสียตรงที่ต้องรอต่อเครื่องนาน แต่เราเจอ 8 ชม.กว่า ก็เฉยๆนะ นั่งเล่นนอนเล่นรอ ไม่ได้รีบอะไร
- อาหารพอกินได้ แต่บางมื้อที่มีเนื้อ ถ้าไม่กินควรบอกก่อน อาจจะต้องเมล์แจ้ง
- มีเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตในไทย เราเมล์ไปสอบถามหลายครั้ง ก็ตอบเร็วดี >> info.th@vietnamairlines.com
- ที่นั่งกว้างดี สำหรับคนสูงไม่เกิน 180 ถ้าสูงกว่านี้อาจจะติดพอดี
- สนามบินที่โฮจิมินห์ใช้เงินดอลล่าห์ ไม่รู้สกุลอื่นด้วยรึเปล่า เพราะไม่ได้ซื้ออะไร
- น้ำที่เสิร์ฟบนเครื่องพร้อมอาหาร นางจะถามแล้วเสิร์ฟเป็นแก้วพลาสติกเล็กๆ ;_;
- กระเป๋าเช็คทรู ไปรับทีเดียวปลายทาง
ที่นึกได้ก็ประมาณนี้ ถ้าถามว่าจะบินกับเวียดแอร์อีกมั้ย.... ถ้าได้ตั๋วโปรช่วงไม่เกินหมื่นบาทก็โอเค
แต่ถ้าสูงกว่านั้น อาจจะต้องไปส่องสายการบินอื่นก่อน
จริงๆแอร์เอเชียที่เคยบินก็โอเคนะ ถึงจะไม่เลือกอาหาร บินตรงแค่ 5 ชม.นิดๆก็ทนได้อยู่
แต่เหมือนตอนนี้จะเพิ่มค่าโหลดกระเป๋า บวกไปบวกมาก็ไม่ค่อยโลวคอสเลย(ถ้าไม่ได้ตั๋วโปรถูกสุด)
เอาเป็นว่า ถ้าใครไม่แคร์เรื่องการรอต่อเครื่องมากกว่า 6 ชม. ก็ถือว่าผ่าน บินสวยๆ
มาถึงโรงแรมอาซากุสะ ฟุกุดายะ Asakusa Hotel Fukudaya
เวลาเข้าเว็บพวกจองตั๋วที่มีแพ็คเก็จโรงแรม จะต้องเจอชื่อนี้ในรายชื่อต้นๆเมื่อเลือกตามราคาแน่ๆ
เราก็ส่องมานาน จะดีมั้ยว้าาาาา จองไปแล้วค่อยมาหาทางไปโรงแรมอย่างจริงจัง 555555
อันนี้เว็บไซต์โรงแรม (แปะได้ใช่มั้ย?) http://www.h-fukudaya.com/
ในเว็บน่ารักมาก มีบอกทางไปโรงแรมอย่างละเอียดเลย http://www.h-fukudaya.com/map.html
การเดินทางหลักๆที่เราเดินทางไปครั้งนี้มี 2 ทางคือบัสกับรถไฟ
เดินทางโดยบัส เราขึ้นจากอุเอโนะ ขึ้นสาย 46 ไป minami-senju ราคา 210 เยนตลอดสาย
จะต้องไปลงป้าย kiyokawa 2 chome (ไม่ต้องกังวล บนรถจะมีประกาศชื่อป้ายทุกป้าย มีตัววิ่งภาษาอังกฤษด้วย)
ลงป้ายนั้นแล้วก็เดินข้ามสี่แยกไป โรงแรมจะอยู่ด้านขวามือ สังเกตไม่ยากค่ะ แถวนั้นจะมีร้าน lawson สีแดงๆด้วย
*ขออภัยที่ไม่มีรูปโดยละเอียด ตอนนั้นมันหนาวจริงๆ ไม่มีอารมณ์มาถ่ายรูปรอบๆเลย*
ส่วนเดินทางโดยรถไฟ ใกล้สุดน่าจะเป็นสถานี minami-senju เป็นโตเกียวเมโทรสาย Hibiya
(เหมือนจะมีสถานี JR ด้วย เดินเลยไปนิด แต่เราซื้อพาสของเมโทรเลยขึ้นสถานี้นี้)
เดินไม่ยาก เดินตรงอย่างเดียวเลยค่ะ จากสถานี เดินตรงออกมาก็จะเจอแยก Kiyokawa 2 chome นั่นเองงงงง
อันนี้แผนที่โดยรวม จริงๆแล้วไม่ไกลกันเลยค่ะ เดินชมวิวไปเรื่อยๆได้ เห็นโตเกียวสกายทรีลิบๆด้วย
สถานี minami-senju ถ้าเดินมาจากโรงแรม ก็เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ (มีลิฟท์ด้วยนะ)
วิวถนนแถวนั้น
ส่วนนี้คือสถาพห้องพัก
รูปอื่นๆ ลืมถ่ายมา ลองไปดูจากกูเกิ้ลได้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้กฏของโรงแรม
เปิดให้เช็คอิน 13.00 น. เช็คเอาท์ก่อน 10.00 น. (ถ้าอยู่เกินจนถึง 12.00 น. จ่ายเพิ่ม 1000 เยน)
ประตูจะปิดช่วงเที่ยงคืนถึง 7.00 น. แต่เราจะได้รหัสไว้กดเปิดประตูเข้ามาเอง
ห้องอาบน้ำรวม ใช้ได้ตลอดเวลา (มี 2 ห้อง มีน้ำอุ่นกับสบู่เหลว แชมพูให้)
มีบ่อแช่น้ำรวม ผู้หญิงเข้าได้ 16.00 - 20.00 น. ผู้ชายเข้าได้ 20.00 - 23.30 น.
มีน้ำร้อนกับน้ำเย็นให้กดใช้ได้ มีไดร์เป่าผมให้ยืม
สรุป
- ห้องพักเหมาะกับการ backpack อย่างแท้จริง ใครติดสบายขอให้ผ่านไปเลยค่ะ ไปหาโรงแรมอื่นแถวนั้น
- แถวนั้นมีโรงแรมและร้านสะดวกซื้อเยอะ โรงแรมราคาอยู่ที่ประมาณ 3000 เยนซะส่วนใหญ่
- เท่าที่ส่องดู โรงแรมอื่นที่ราคาใกล้เคียงกัน มีที่ดูดีกว่า แต่น่าจะต้องจองผ่านเว็บโรงแรมโดยตรง
- จริงๆจะเดินไปสถานีอาซากุสะ หรือไปแม่น้ำซุมิดะน่าจะไม่ไกล แต่เราไม่ได้ลองเดิน 555555
นึกได้ประมาณนี้ ถ้ามีอะไรสงสัยถามได้นะคะ
ขออภัยที่รูปน้อย เพราะไม่รู้ว่าจะถ่ายอะไรบ้างจริงๆ ตอนนั้นก็หนาว ตอนเดินเลยไม่ค่อยได้หยิบออกมาถ่ายรูปด้วย