ใช้งานสถาปนิกยังไงให้คุ้มสุดคุ้ม
พวกสถาปนิกนั้นเก็บค่าแบบแพง บางทีเสก็ตมายังไม่เห็นอะไรเลยจะเก็บค่าแบบลูกเดียว ต้องใช้งานให้หนักๆ แก้แบบ 100 รอบเอาให้สะใจ
ให้คุ้มค่าจ้างเป็นแสน แต่ไม่ใช่วิธีนั้น
นี่คือวิธีการใช้งานสถาปนิกให้คุ้มราคาค่าแบบที่คุณอาจจะกำไรก็เป็นได้
การใช้งานสถาปนิกให้คุ้มนั้นคือ....
หัวสมองสถาปนิกเป็นหัวสมองที่รองรับโจทย์การแก้ปัญหาใหม่ๆ ลูกค้าสามารถสร้างโจทย์ที่ท้าทายหรือเกิดประโยชน์ต่อลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็น
1.ด้านความสะดวก เช่น การมีบ้าน function ดีจะไม่ทำให้คุณเสียเวลา กับบ้านที่ function วกวน เดินวนไปวนมา เสียเวลาแม้แต่อยุ่ภายในบ้าน บ้านที่ดีต่อการเก็บของเป็นระเบียบ จะไม่ทำให้คุณเสียเวลาหาของเพราะของในบ้าน สามารถถูกออกแบบให้อยุ่ที่ใดที่หนึ่งเฉพาะจนคุณไม่ต้องจำว่า เอาอันนี้ไปไว้แถวไหนนะ สถาปนิกกำหนดการจัดวางให้ได้ ประหยัดเวลานั่งหาของ
2. ประหยัดเม็ดเงิน เช่น ประหยัดพลังงาน การทำบ้านประหยัดพลังงานไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีแพงนะคะ เพียงให้เค้าออกแบบวาง Layout ให้เหมาะสม ไม่ต้องเสียค่ามาติดแผงกันแดด ติดฟิล์ม เหมือนบ้านในหมู่บ้านที่ไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะ สามารถประหยัดค่าไฟได้จริง
ทีนี้ หากยังไม่เห็นภาพ เราคำนวณความคุ้มราคาให้ดู
1.หากคุณเป็นพวกที่ชอบหาของไม่เจอ เคยคำนวณไหมว่าวันหนึ่งเสียเวลาหาของไปเท่าไหร่
พูดเลย 30 นาที ขั้นต่ำ หากคุณเป็นคนเงินเดือน 40,000 บาท เท่ากับรายได้ของคุณวันละ 2,000 ตกชั่วโมงละ 250 บาท 30นาที คือ 125 บาท
หากคุณเป็นพวกหาของไม่เจอ ค่าเสียโอกาสของการเสียเวลา 30 นาทีนั้นคือ
=125บาทx5วันx52สัปดาห์ = 32,500 บาท
ที่คุณต้องเสียเวลาเสียอารมณ์ และไปทำงานไม่ทัน
หาคุณอยู่ในบ้านนั้น 10 ปี = 325,000 บาท (อาจมีบางวันทีเสียเวลาน้อยกว่านี้และบางวันที่เสียเวลามากกว่านี้ เช่น ลืมของ บ้านรก เคยไหมตามหาของเล็กๆที่ไปอยู่ตรงไหมรู้ในบ้าน และความจริงคือเราอยู่ในบ้านหลังหนึ่งนานกว่า 10 ปี)
2.ออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงาน ในจุดนี้คงเห็นภาพว่า บ้านที่ออกแบบดีไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา ไม่ต้องติดฟิล์มบนกระจกทุกบาน ซึ่งค่าฟิล์มติดตั้งบ้าน หลายหมื่นนะจ๊ะ ไม่รวมค่าทำกันสาดรอบบ้านกันแดด ซึ่งจะบอกว่าเมืองไทยบางตำแหน่งกันสาดไม่ช่วยกันแดดนะ แดดบ่ายมันแยงเข้าหน้าบ้าน กันไม่อยู่เลยค่ะ สรุปติดม่าน รวมเบ็ดเสร็จค่าทำทุกอุปกรณ์กันแดด เกือบ 100,000 ค่ะ ไม่รวมค่าไฟที่สามารถลดลงได้
ลองติดเอามาหักลบกันค่าแบบจ้างสถาปนิก ค่าแบบปกติ คิด 7% หากบ้านคุณ 200 ตรม.
ราคาบ้านคือ =200x20,000(ค่าก่อสร้างต่อตรม.) =4,000,000 บาท
สรุปค่าเสียหายให้สถาปนิก 280,000 บาท
คิดดูเองว่าราคามันคุ้มไหม กับบ้านที่คุณต้องอยู่ในระยะยาว
ไม่ได้อวยพวกเดียวกันเองนะให้คุณลูกค้าพิจารณาคิดดูตามนี้ละกัน สนใจเรื่องราว สอบถามไอเดีย อยากคุยไร้สาระ
ไอเดียของเพจคือการพยายามทำความเข้าใจลูกค้า และเข้าใจพวกเดียวกันเอง(ซึ่งยากมากกกกก)
https://www.facebook.com/Architect.who.we.are/
แก้เผ็ดวิธีการใช้งานสถาปนิกให้คุ้ม สมกับค่าแบบ
พวกสถาปนิกนั้นเก็บค่าแบบแพง บางทีเสก็ตมายังไม่เห็นอะไรเลยจะเก็บค่าแบบลูกเดียว ต้องใช้งานให้หนักๆ แก้แบบ 100 รอบเอาให้สะใจ
ให้คุ้มค่าจ้างเป็นแสน แต่ไม่ใช่วิธีนั้น
นี่คือวิธีการใช้งานสถาปนิกให้คุ้มราคาค่าแบบที่คุณอาจจะกำไรก็เป็นได้
การใช้งานสถาปนิกให้คุ้มนั้นคือ....
หัวสมองสถาปนิกเป็นหัวสมองที่รองรับโจทย์การแก้ปัญหาใหม่ๆ ลูกค้าสามารถสร้างโจทย์ที่ท้าทายหรือเกิดประโยชน์ต่อลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็น
1.ด้านความสะดวก เช่น การมีบ้าน function ดีจะไม่ทำให้คุณเสียเวลา กับบ้านที่ function วกวน เดินวนไปวนมา เสียเวลาแม้แต่อยุ่ภายในบ้าน บ้านที่ดีต่อการเก็บของเป็นระเบียบ จะไม่ทำให้คุณเสียเวลาหาของเพราะของในบ้าน สามารถถูกออกแบบให้อยุ่ที่ใดที่หนึ่งเฉพาะจนคุณไม่ต้องจำว่า เอาอันนี้ไปไว้แถวไหนนะ สถาปนิกกำหนดการจัดวางให้ได้ ประหยัดเวลานั่งหาของ
2. ประหยัดเม็ดเงิน เช่น ประหยัดพลังงาน การทำบ้านประหยัดพลังงานไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีแพงนะคะ เพียงให้เค้าออกแบบวาง Layout ให้เหมาะสม ไม่ต้องเสียค่ามาติดแผงกันแดด ติดฟิล์ม เหมือนบ้านในหมู่บ้านที่ไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะ สามารถประหยัดค่าไฟได้จริง
ทีนี้ หากยังไม่เห็นภาพ เราคำนวณความคุ้มราคาให้ดู
1.หากคุณเป็นพวกที่ชอบหาของไม่เจอ เคยคำนวณไหมว่าวันหนึ่งเสียเวลาหาของไปเท่าไหร่
พูดเลย 30 นาที ขั้นต่ำ หากคุณเป็นคนเงินเดือน 40,000 บาท เท่ากับรายได้ของคุณวันละ 2,000 ตกชั่วโมงละ 250 บาท 30นาที คือ 125 บาท
หากคุณเป็นพวกหาของไม่เจอ ค่าเสียโอกาสของการเสียเวลา 30 นาทีนั้นคือ
=125บาทx5วันx52สัปดาห์ = 32,500 บาท
ที่คุณต้องเสียเวลาเสียอารมณ์ และไปทำงานไม่ทัน
หาคุณอยู่ในบ้านนั้น 10 ปี = 325,000 บาท (อาจมีบางวันทีเสียเวลาน้อยกว่านี้และบางวันที่เสียเวลามากกว่านี้ เช่น ลืมของ บ้านรก เคยไหมตามหาของเล็กๆที่ไปอยู่ตรงไหมรู้ในบ้าน และความจริงคือเราอยู่ในบ้านหลังหนึ่งนานกว่า 10 ปี)
2.ออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงาน ในจุดนี้คงเห็นภาพว่า บ้านที่ออกแบบดีไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา ไม่ต้องติดฟิล์มบนกระจกทุกบาน ซึ่งค่าฟิล์มติดตั้งบ้าน หลายหมื่นนะจ๊ะ ไม่รวมค่าทำกันสาดรอบบ้านกันแดด ซึ่งจะบอกว่าเมืองไทยบางตำแหน่งกันสาดไม่ช่วยกันแดดนะ แดดบ่ายมันแยงเข้าหน้าบ้าน กันไม่อยู่เลยค่ะ สรุปติดม่าน รวมเบ็ดเสร็จค่าทำทุกอุปกรณ์กันแดด เกือบ 100,000 ค่ะ ไม่รวมค่าไฟที่สามารถลดลงได้
ลองติดเอามาหักลบกันค่าแบบจ้างสถาปนิก ค่าแบบปกติ คิด 7% หากบ้านคุณ 200 ตรม.
ราคาบ้านคือ =200x20,000(ค่าก่อสร้างต่อตรม.) =4,000,000 บาท
สรุปค่าเสียหายให้สถาปนิก 280,000 บาท
คิดดูเองว่าราคามันคุ้มไหม กับบ้านที่คุณต้องอยู่ในระยะยาว
ไม่ได้อวยพวกเดียวกันเองนะให้คุณลูกค้าพิจารณาคิดดูตามนี้ละกัน สนใจเรื่องราว สอบถามไอเดีย อยากคุยไร้สาระ
ไอเดียของเพจคือการพยายามทำความเข้าใจลูกค้า และเข้าใจพวกเดียวกันเอง(ซึ่งยากมากกกกก)
https://www.facebook.com/Architect.who.we.are/