เปลี่ยนกันเถอะครับ เพื่อความเจริญ เพื่อความผาสุข



O===================================O
   เปลี่ยนกันเถอะครับ เพื่อความเจริญ เพื่อความผาสุข
O===================================O

https://www.facebook.com/BossKubPom

เฮ้อ.........ไม่ว่าจะสมัยนี้
หรือสมัยพุทธกาล

จิตใจของผู้คน  ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย  มีแต่จะกลับหลังหันให้ "กุศล"

วนกันไป  วนกันมา  วนกันแล้ว  วนกันอีก

ในโลภ โกรธ หลง  อิจฉา ริษยา มาดร้าย คิดร้าย
ก็ยังคงมีอยู่ในโลกใบนี้เต็มไปหมด
_______________________________________
จะหาคนที่คิดแต่ กุศล  ได้ตลอดทั้งวัน  ทั้งคืน
ช่างหาได้ยากเย็นจริง  ๆ

ชีวิตผมยังไม่เคยเจอเลยซักคน  หรือแม้แต่คนเดียว
ไม่ว่าจะเป็นฆราวาส หรือ ผู้ใส่จีวร ที่มิใช่พระสงฆ์แท้ ๆ
_______________________________________
พระสงฆ์แท้ ๆ คือผู้ที่จะต้องยึดคำศาสดาของตน
ต้องยึดคำของผู้บัญญัติศาสนาอย่างเหนียวแน่น  
วินัยสงฆ์  ต้องมาก่อน
_______________________________________
แต่บัดนี้  กลับทำตามแต่ใจตน และเกรงใจฆราวาสผู้มาทำบุญ  
กลัวจะไม่ถูกใจ  กลัวจะไม่ได้ทาน  กลัวจะอดตาย  กลัวจะไม่มีที่อยู่
กลัวไม่มีค่าน้ำ  กลัวไม่มีค่าไฟ  กลัวจะลำบาก  กลัวสารพัดที่จะกลัว.....ฯลฯ
ลืมคำอาจารย์ของผมกันไปแล้วหรือครับ   ยังไงเราก็ศิษย์อาจารย์
สำนักเดียวกัน  สำนัก  "พุทธะ"

ส่วนพระสงฆ์แท้ ๆ ก็ต้องหลีกตัวเอง ปลีกวิเวก
ไปสู่ชนบทอันห่างไกลแสนไกล  เพราะ  เป็นหมู่น้อย มิใช่หมู่มาก

ฆราวาส ก็ช่างกะไร  ใจอยากพ้นทุกข์แต่สร้าง
เหตุให้ไปอบายภูมิกันได้ทั้งวัน ทุกวัน
ธรรมชาติของปุถุชนผู้เป็นฆราวาสทั่วไป
ธรรมชาติของปุถุชนผู้เป็นสงฆ์ที่ใส่แต่จีวร (มันก็เป็นแค่ธาตุดิน เป็นเพียงผ้าเท่านั้น)
เครื่องแบบของอาจารย์ผม พุทธะ
ตถาคต ผู้ อรหันต์สัมมาสัมพุทธะ
ช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้  ธรรมชาติของปุถุชนทั่วไป

ตั้งหน้าตั้งตากันหาความสุขอยู่บนกองทุกข์ของผู้อื่นและตนเอง
อย่างขยันขันแข็ง  ทุ่มทุกเรี่ยวแรงเพื่อแสวงหาทุกข์มาใส่ตน
เพราะความไม่รู้  จึงหลงเข้าใจไปว่าเป็นความสุขอันแท้จริง
_______________________________________
จะหาความสุขจริง ๆ ต้องทำยังไง

ก็แค่เปลี่ยนความคิดเพียงนิดเดียว  ชีวิตของพวกท่านทั้งหลาย
ก็จะประสพ พบเจอแต่ความสุขเป็นอันมากแล้ว

"อย่าเห็นความทุกข์  เป็นความสุข
อย่าเห็นความสุข  เป็นความทุกข์

ให้เห็นความทุกข์  เป็นความทุกข์
ให้เห็นความสุข  เป็นความสุข"

แค่ทำเพียงเท่านี้  ความสุขก็อยู่ใกล้ตัวแล้ว
อยู่ในตัวของเรา ไม่ต้องวิ่งไปหาที่ไหนอีกเลย
_______________________________________
แล้วจะทำยังไงถึงจะเห็นแบบนี้ได้

น้อมนำคำของอาจารย์ผม  "พุทธะ แห่งศากยะ" เมื่อ 2600 กว่าปีก่อน
คำของ ตถาคต ผู้ อรหันตสัมมาสัมพุทธะ
เข้ามาสู่ใจตน  ปฏิบัติในหลักธรรมเห็นความไม่เที่ยงในสรรพสิ่ง
ทุกข์มันเกิดได้  มันก็ดับได้  สุขก็เช่นกัน  มีเกิดและมีดับ

พยายาม รักษาศีล 5 เดินตามประสบการณ์ของท่าน ตถาคต  เดินโดยใช้ มรรค 8
แล้วก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางแห่งชีวิตของตน  ไปเรื่อย ๆ  ไปเรื่อย ๆ  
และไปเรื่อย ๆ  โดยไม่ต้องสนใจกาลเวลา

พวกท่านทั้งหลายผู้มีธรรมชาติของปุถุชน ทั้งฆราวาส และ ผู้อาศัยจีวรเลี้ยงชีพ
ปฏิบัติธรรม ตามแบบอาจารย์ผม  ก็จะประสพแต่ความสุขเป็นอันมาก  สุขอย่างยิ่ง
ไปเป็นผู้บรรลุธรรม  ได้บุญสูงสุดในศาสนาพุทธ
_______________________________________

ทำเพียงเท่านี้ พวกท่านก็จะได้รับสิ่งที่ประเสริฐที่สุดที่มนุษย์พึงจะได้รับ
ในชาติปัจจุบันแล้ว  ไม่มีหนทางใดเป็นหนทางอันประเสริฐกว่านี้อีกแล้ว

ในโลกใบนี้ ไม่มีใครมีเมตตา มากกว่าอาจารย์ของผมอีกแล้ว

แค่เปลี่ยนเท่านั้นเอง
ทุกข์นี้จะดับไป  ทุกข์ใหม่จะไม่เกิดขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่