อวสารโลกสวยชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยน

สวัสดีสมาชิกชาวพันทิปทุกคนนาจา แนะนำตัวกันก่อนน ตอนนี้เราเป็นนักเรียนไทยในต่างแดนชนิดที่มาทดลองอยู่แบบ10 เดือน ตอนแรกก่อนที่จะมาสำหรับโครงการเรากว่าจะมาต้องสอบไอเอลด้วย ถ้าใครหลายคนศึกษาเรื่องนี้อยู่ก้คงรู้ว่าโครงการอะไร เพราะมีอยู่โครงการเดียว เราบอกก่อนเราไม่ได้ไปแลกเปลี่ยนที่เมกาอย่างใครๆ แต่ขอไม่กล่าวถึงประเทศน้ะค่ะ ก่อนจะมาก็ว่ายากแล้วกว่าจะสอบไอเอลได้ก็หนักหนาเอาการ แต่ก็คิดว่ามาหาเอาประสบการณ์ ลองใช้ชีวิตแบบไม่มีแม่ที่บ้านบ่นดูบ้าง ได้เที่ยวบ้าง ถ่ายรูปชิคๆ อากาศดีๆ เรียนง่ายๆ ให้เพื่อนที่ไทยอิจฉาเล่นแถมกลับไปไม่ต้องซ้ำชั้น เพระาเราเรียนสายศิลป์ แต่มาถึงเครื่องlanding ปั๊ป งานคิดถึงบ้านก้มาเลยจ้าาาาา ที่จริงก่อนที่จะไปเจอโฮสแฟมมิลี่เค้าจะมีค่ายให้ปรับตัวก่อนน้ะค่ะ แต่เราขอเล่าข้ามช็อคนี้ไป เพราะว่าตอนที่อยู่ค่ายนั้นเราก้คิดว่านี่ก้หนักหนาสำหรับชั้นแล้ว หวังว่าไปเจอโฮสคงจะชีวิตดีได้
          


                     แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดเลยจ้า เราต้องปรับตัวชนิดที่ว่าทุกอย่างในชีวิต อาหารการกิน การใช้ชีวิต เอาเป็นว่าคุณต้องปรับทุกอย่างตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน สำหรับเราถ้าได้ปรับตัวมากกว่านี้อีกนิดคงจะเปลี่ยนสีได้เหมือนจิ้งจกแล้วหล่ะค่ะ ส่วนใครที่คิดว่ามาแลกเปลี่ยนแล้วะได้รับอิสระอยากทำอะไรก็ทำ นั้นคิดผิดอย่างยิ่งเลยน้ะจ๊ะะะ ที่นี่เวลาเราจะไปไหนทำอะไรไปกับใคร จะกลับบ้านยังไง โฮสจะต้องรับรู้ตลอด รายงานความเคลื่อนไหวตลอด สิ่งที่เราเจอมาหล่ะเค้า concernมากๆคือ เวลาจะไปไหนต้องขออนุญาติเช่นเราจะขอไปเที่ยวกะเพื่อนต่างเมือง ต้องถามว่าไปได้มั้ย ข้อนี้เรายอมรับว่าเราผิดเองที่ติดนิสัยจากที่บ้านที่บอกให้แม่แค่รับรู้ว่าเราจะไปนู่นไปนี่น้ะ เพราะแม่เราก้รู้ว่าเราไม่เคยนอกลู่นอกนาง ไม่ค่อยได้มีการขออนุญาติกันเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว ขอย้ำว่าสำหรับเรา ปรับตัวกับการที่อยู่ที่นี่ทุกๆอย่าง ชีวิตแลกเปลี่ยนมันไม่ได้ยากแต่มันก็ไม่ได้ง่ายน้ะค่ะ มาเรื่องการเรียนบ้าง ประเทศที่เราเรียนยากกว่าเมกามากค่ะ ตอนแรกเราก้ไม่รู้คาดหวังว่าจะเรียนเลขแบบ ม1 ม2 ความรู้ไม่เกิน ม4 ไรงี้จ้า แต่ความจริงนั้นมันไม่ใช่ ความจริงนั้นเรียนแคลเบื้องต้นจ้าาา ทั้งที่ไทยไม่เคยได้เข้าใกล้เลยสักนิด ยิ่งกว่าเลขนั้นก็คือ business จ้า ชนิดที่ว่าเข้าใจอย่างเดียวก้ทำข้อสอบไม่ได้ เพราะเป็นข้อสอบเขียน เขียนไม่พอน้ะจ๊ะ ต้องเป็นศัพท์เฉพาะตรงตาม text book ด้วย สามเดือนแรก ก็ได้ U ไปตามระบบ ( U คือเกรดที่ต่ำสุดที่นี่น้ะจ้ะ5555 +) อย่างไรก้ตามความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั้น ก่อนที่จะปิดคริสมาต เราก้คว้า a* คะแนน 100% มาได้ นี่ก็ไม่รู้ว่ามันฟลุคหรือไร ไม่ได้จะอวดหรืออย่างไรน้ะค่ะ ยอมรับว่าโง่มาตลอดสอบกี่ครั้งมันได้ที่สุดท้ายมาตลอด ตอนนั้นมันเปนฟีลที่แย่น้ะ แต่เราก้น้อมรับกับชะตากรรมที่เราเลือกมาที่นี่ เพราะยังไงก้กลับบ้านไม่ได้อยู่ดี ชีวิตต้องสตรองค่ะะ ช่วงแรกๆก็คิดมาตลอดน้ะ ว่าเรามาที่นี่ทำไม เอาชีวิตดีๆที่ไทย เอาเวลาดีๆกับพ่อแม่กับเพื่อนมาทิ้งที่นี่ทำไม กลับไปชั้นจะได้อะไรมั้ย มันก็คิดไปเรื่อยเปื่อย ฟุ้งซ่านมากจ้าา แต่ที่เล่าๆมา มันไม่ได้มีแต่ข้อเสียหรอกน้ะค่ะ มันอยู่ที่มุมมองของคนเรามากกว่า ถ้าเราเจอปัญหาเยอะ ก็เหมือนเราเข้าใจโลกมากขึ้นและนี่คือสิ่งที่หาจากการใช้ชีวิตดีๆที่ไทยไม่ได้ ไม่อยากจะโลกสวยหรอกน้ะค่ะ แต่มันก้ต้องพยายามคิดอย่างนั้นเพราะมันทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากใช้ชีวิตต่อไป ตัวเราเป็นคนเลือกเองว่าจะมีความสุข หรือจะทุกข์ เพ้อไปใหญ่แล้วมาต่อกันเลยจ้า มาเรื่องโฮสแฟมมิลี่อีกนิด (คงจะไม่นิด) เริ่มกันเลย ตัวเรานี่อยู่กับโฮสคนที่2ค่ะ ใช่ค่ะ เรามีการเปลี่ยนโฮส จากตอนที่เข้าค่ายที่ไทย ฟังพี่ๆแชร์ประสบการณ์ชีวิตแลกเปลี่ยนต่างๆ ทั้งร้ายทั้งดี เราก้ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่เอาจริงๆมันก้เกิดกับทุกคนนั้นแหละค่ะ กรณีเรากะโฮสแรกคือเหมือนเราเข้ากันไม่ได้มากกว่าค่ะ บางทีคำพูดเค้ามันทำให้เราลำบากใจมากถึงมากที่สุด และมันไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้เพราะมันเป็นอยู่กับนิสัย มันเป็นกับสิ่งที่เค้าเป็นอยู่ และเหตุผลนี้เองที่ทำให้เราได้โฮสใหม่ บอกก่อนเลยน้ะค่ะ การย้ายโฮสไม่ใช่เรื่องง่ายเค้าจะมีกระบวนการกันหลายขั้นตอนเลยทีเดียว อันดับแรกต้องพูดคุยกันก่อนโดยจะมีคนกลาง เรียกว่า iecน้ะค่ะ มาคอยใกล่เกลี่ยเหตุการณ์ ช่วงแรกๆ เราร้องไห้หนักมาก อยู่ในรถบัสระหว่างทางไป รร ก้ร้อง คุยกับคุณแม่ที่บ้านก้ร้อง คุยกับพ่อก้ร้อง มันเปนอะไรที่ไม่ไหวจริงๆ ตอนนั้นคิดอยู่ว่าเดียว ว่าจะต้องกลับ ชั้นจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป แต่มันก้ได้แค่คิดนั้นแหละจ้า มันกลับไม่ได้ เหนื่อยได้ ท้อได้ แต่กลับไม่ได้ นี่คือหลักการคิดที่บอกกับตัวเองมาตลอด พอเปลี่ยนโฮสใหม่แล้ว ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับค่ะ แต่กว่าจะเปลี่ยนได้ก้ต้องทนอยู่กับโฮสเก่าประมาณ2เดือนเลยน้ะค่ะ อยู่แบบที่เราบอกความในใจว่าอึดอัดยังไง เราจะย้ายออกน้ะ แต่ก้ยังทนอยู่ด้วยอีกเป็นเดือน คิดดูน้ะค่ะว่ามันลำบากใจขนาดไหน เขารู้ว่าเราอยากจะย้าย แต่มันต้องรอการดำเนินการก็ต้องอยู่ให้ได้ค่ะ ที่สำคัญช่วงนั้นเป็นวันเกิดเราด้วย มันเป้นสถารการณ์ที่awkwardมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะผ่านมาได้เลยจีๆ แต่ใช่ว่าพอเราย้ายโฮสมาจะไม่มีปัญหาน้ะค่ะ มันก็ยังต้องปรับตัวเหมือนเดิมค่ะ การย้ายบ้านไม่ใช่ทางออกเสมอไป บางทีมันต้องปรับที่ตัวเราด้วย แต่สำหรับกรณีเรามันเป็นเกี่ยวกับ personality ของใครของมัน ซึ่งแก้ไม่ได้ค่ะ เลยจำเป็นต้องย้าย เล่าต่อถึงโฮสใหม่ โฮสใหม่เราก้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็iec นั้นแหละจ้า เราก้อยู่กับเขาไป ตอนนี้เราถึงได้พบกะปัญหาเหมือนกะ นรแลกเปลี่ยน ทั่วไปเสียที ก้ไม่ใช่ปัญหาไรมากมายค่ะ ก้เป็นการใช้ชีวิตทั่วไป ที่เราต้องอยู่กับสังคมวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไป ซึ่งมันก้ต้องปรับตัวกันอีกเช่นเคย เราก้พยายามคิดน้ะค่ะ ที่เราต้องพยายามปรับตัวกันขนาดนี้มันเป็นเพราะมันเป็นวัฒนธรรมที่ต่างจากที่เราเคยใช้ชีวิตมา ถ้าเราเกิดและโตที่นี่ก็คงไม่มีปัญหานี้หรอกใช่มั้ยหล่ะคะ
          

                    ที่พิมมาก็เยอะพอสมควร อยากจะรู้เรื่องราวของเพื่อนๆที่ตอนนี้ประสบกันอยู่ หลายคนเรียกได้ว่าชีวิตดีมากๆ หลายคนมีปัญหามากมาย เหมือนคำพูดในทวิตเตอร์นึงกล่าวไว้ "นักเรียนแลกเปลี่ยนชีวิตดีแค่ในไอจีเท่านั้นแหละ" สำหรับคนที่เจอปัญหาหนักๆ ก้ขอเป็นกำลังใจให้ เข้าใจว่ามันยาก มันไม่ง่ายเลยที่ต้องห่างบ้าน ครอบครัว เพื่อน มาใช้ชีวิตจริงๆ มาแก้ปัญหาอะไรคนเดียว มันยากน้ะที่ต้องทำตัวชีวิตดี ดี๊ด๊าให้เพื่อนที่ไทย ให้คนที่บ้านรู้ว่าเราโอเค ให้พวกรุ่นน้องมันอิจฉาแล้วมาแลกเปลี่ยนแบบเราดู ถถถถถถถถถ แต่เราจะผ่านมันไปด้วยกันน้ะ อยากให้มาแชร์ เรื่องราวกันเยอะๆ อยากให้กระทู้นี้เหมือนถังขยะสำหรับคนที่กำลังท้อ เอาปัญหาบ้าบอนั้นมาทิ้งที่นี่ได้เลยน้ะ หล่ะถึงคนชีวิตดี มาแชร์อะไรดีๆ แนวคิดดีๆ มาให้กำลังใจคนยากด้วยยย ได้โปรดดดด ปล.เราไม่ได้บอกว่าชีวิตตัวเองตอนนี้ไม่ดี แต่แค่จะบอกว่าที่ไทยมันสุขใจกว่า และ

          
                    สุดท้ายฝากถึง ขุ่นแม่หลายๆคนน้ะค่ะ การมาแลกเปลี่ยนไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น กลับไปหนูเชื่อว่าหนูจะได้หลายๆอย่าง หลายคนบอกว่าหลังจากหนึ่งปีในการแลกเปลี่ยนจะทำให้ขุ่นแม่ได้ลูกคนใหม่ ขอแย้งนิดนึงน้ะค่ะ ระยะเวลาหนึ่งปีหรือสิบเดือนมันทำให้เปลี่ยนอะไรไม่ได้มากหรอกค่ะ แต่สิ่งที่จะได้มานั้นคือการจัดการตัวที่ดี การเอาตัวรอด นอกนั้นหนูว่าหนูยังเป็นคนเดิม เพิ่มเติมคือข้าวของที่ไปช้อปปิ้งมา และถ้าขุ่นแม่ทั้งหลายกลัวลูกๆจะลำบาก ขอให้หยุดความคิดว่าจะส่งลูกมาแลกเปลี่ยนเลยน้ะค่ะ เพราะมันจะลำบากแน่นอนค่ะ แต่มันได้ฝึกความอดทนน้ะเธอออ ซึ่งตอนนี้ จกขท ก้กำลังฝึกอยู่เช่นกันจ้าาาา

          
                     และสำหรับน้องๆที่คิดจะมาแลกเปลี่ยนขอแนะนำว่าลองเข้าไปดูแทค #นักเรียนแลกเปลี่ยน ในทวิตเตอร์ดูก่อนได้น้ะจ๊ะ ไม่มีโลกสวยแน่นอน แล้วจะได้รู้วิถีคนจริง คนจริงแบบพี่เจ้บจริงไม่ใช้แสตนอิน

                    
                    ปล พึ่งเคยกระทู้นี้เป็นครั้งแรกอาจจะตั้งผิดห้องต้องอภัยด้วยนาจา ด้วยรักจากคนไกล
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่