สวัสดีค่ะ พี่น้องชาว pantip ทุกท่าน..
น้องใหม่หัดเล่า อยากมาแชร์ประสบการ์ทริปเที่ยวครั้งนี้
พึ่งหัดเขียนเป็นครั้งแรก หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะค่ะ
เป็นคนรักท่องท่องแบบ ป่า เขา ลำเนาไพร อยากท่องเที่ยวแบบ SlowLife.. แพลนไปมา เป็นท่องเที่ยวแบบ หฤโหด ซะงั้น!!
#เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ อยากจะรู้เลยต้องไป!!
#เป้าหมาย > เชียงใหม่-บ้านขุนช่างเคี่ยน-ดอยผ้าห่มปก-ดอยอ่างขาง-ปาย-ห้วยน้ำดัง- ถ้ำปลา-ปางอุ๋ง-บ้านรักไทย-ม่อนแจ่ม-น้ำตกแม่สา
เริ่มกันเลยล่ะกัน..อิอิ!!
เริ่มออกเดินทางวันแรกจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ วันที่ 30 เวลา 20.30 น. นครชัยแอร์ (คนเยอะม๊วกก)
เช้าวันที่ 31. ถึงอาเขตเชียงใหม่เวลา 06.30น. เข้าเช็คอินโรงแรม Diamond Grand ใกล้อาเขต วันล่ะ 590บาท (ห้องดีมากๆ) รีบเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องก็รีบนั่งรถแดง ไปรินคำ ไปเช่ามอไซค์ #ดีที่จองและติดต่อไว้ก่อน ร้าน CoocaseBikeRental เช่ารถ PCX วันล่ะ 350บาท ถูกและบริการดี
##ลืมบอกไปทริปนี้ ใช้มอเตอร์ไซค์ เป็นพาหนะ ในทริปหฤโหดนี้ โหดไหมล๊ะะะะะะ ฮาาาา
ได้มอไซค์ปุ๊บ ก็รีบออกเที่ยวกันเลย > รอบเชียงใหม่
ขี่ขึ้น >บ้านขุนช่างเคี่ยน
ระหว่างทาง
ทางขึ้นบ้านขุนช่างเคี่ยน ทางโหด ทั้งแคบและขรุขระ
เย้ๆใกล้ถึงแล้ว
มาถึงก็เจอน้องๆขอถ่ายรูป (พี่ค่ะ 20บาท)
กรื๊ดดดดด!!! พญาเสือโคร่ง 4-5ต้น ก็ฟินได้
จากที่ฟินเจอพญาเสือโคร่ง 4-5ต้น ได้รูปมาประมาณ 200กว่ารูป ก็ต้องกลับ มาเตรียมตัว Pattaya Countdown 2016
Happy New Year 2016 นะค๊าาาา....................................................................
เช้าวันที่ 1. เริ่มต้นปีใหม่ ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปดอยผ้าห่มปก ลุยยยยยย!!!
ระหว่างทาง ถนน107 ตรงยาวๆๆๆ
ระหว่างทาง ต้องตรึงกับภูเขาลูกนี้ ช้าอยูใย รีบจอดรถทันที
นายแบบประจำทริปนี้
ก็ยังวิ่งเส้น 107 อ.ไชยปราการ
จากที่หลงไปพักใหญ่ หาทางไปดอยผ้าห่มปกไม่เจอ สุดท้ายก็เจอทางเข้า
ทางเข้าดอยผ้าห่มปก จะมีป้ายเขียน "หมู่บ้านห้วยบอน" ด้วยความที่ดีใจ เลยลืมถ่ายรูปทางเข้าเลย T_T
ระหว่างทาง เจอเด็กๆหมู่บ้านห้วยบอน โบกมือโบกไม้ใหญ่เลย น่ารักๆๆ
อยากไปสัมผัสที่สวยๆ ก็ต้องยอมแลกกับความยากลำบาก สู้เว้ยยย
เส้นทางขึ้นดอยผ้าห่มปก
ในที่สุดก็ถึงที่หมายยย...กิ่วลม จุดกางเต้นดอยผ้าห่มปก น้ำจิไหล...
รีบถอยหายใจ 1เฮื่อกยาวว แล้วเดินขึ้นไปติดต่อเต๊นที่จองไว้ #หากไม่ได้นำเต๊นมาเอง ควรจองเต็นในเว็บดอยผ้าห่มปกมาก่อน
เห็นผ้าห่ม! ยืนยิ้ม เช่า 2ผืนต่อคนเลยจ้า (เชื่อได้ว่าหนาวแน่ๆ)
ปล.ควรจ้างไกค์นำทางเดินขึ้นดอยผ้าห่มปก ราคา 300บาท
หลังจากเอาของไปวางที่เต๊น ก็รีบหาของใส่ท้องอย่างไว ที่ลานกางเต๊น จะมีร้านขายอาหาร ร้านนึง (ราคาแพงนิดนึง แต่ก็เข้าใจได้ เขาต้องขนขึ้นมาขายเลยราคาสูงนิดนุง)
อากาศหนาว นั่งปิ้งมันกินนี่ มัน "เริ่ดดดมากก" จุดไฟๆๆๆ
ใกล้ค่ำแล้ว ก็ออกไปเดินถ่ายบรรยากาศสักหน่อย
เริ่มพระอาทิตย์ตกดิน ความมืดก็ครอบคลุม สัญญาโทรศัพท์ไม่มี ไฟไม่มี แล้วหนาวเหน็บ ทางเดียวคือ หลับซะ!! 555
omg!! นัดไกค์ไว้ตี3 แล้วต้องตื่นกี่โมงเนี่ยยย ราตรีสวัสดิ์ คร่อกกกกฟี่!!!! zzZzzz
#ที่นี่จะปั่นไฟตอน 18.00-22.00น. หลังจากนั้นก็มืดสนิท และสำหรับคนที่สนใจอยากจะชาร์จไฟ ที่อุทยานก็มีบริการให้ตั้งแต่ 18.00-20.00น.
เช้าวันที่ 2. ผลจากการที่ อยากเริ่มเดินขึ้นดอยไวๆ ผลลัพธ์คือ ถึงยอดดอย ตี5 กลุ่มแรกที่ไปถึง ซึ่งควรจะดีใจแต่น้ำตาตกใน หึหึ!!
พระอาทิตย์ขึ้นเกือบ 7โมงเช้า นั้นหมายความว่า ต้องนั่งรออยู่ยอดดอย เกือบ 2ชม. ไม่ต้องถามว่าหนาวไหม ชาไปทั้งตัว!!!!
ปล.ด้วยที่ตอนเช้ามืด ตั้งใจกับการเดินขึ้นเขาอย่างยากลำบากและมืดมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปเลย
ในที่สุด แสงอาทิตย์ก็ทอแสง กรี๊ดดด ของจริงสวยมากกก
บีบซะดีไหม
Accessory เยอะขนาดนี้ อย่าได้ถามว่า หนาวไหม
ขอประกาศ ได้ถึงยอดดอยผ้าห่มปก ด้วยระยะทาง 3.8 km. อย่างสวยงาม #เหนื่อยโคต
วิว 360 องศา
ต้นอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าน่ารัก
จากที่ชมทิวทัศน์มาหลายชั่วโมง ก็ถึงเวลาเดินลง
#อยากเม้า!ตอนขึ้นเหนื่อยมาก มาถึงตอนลง แอบยิ้มมุมปาก มันล่ะ!หึหึ!!น้ำตาจิไหล!!!
(เหมือนรถกำลังลงเขาแล้วต้องเหยียบเบรกตลอดเวลา) ระบมน่องและต้นขาไป 1วันเต็ม!!!
ด้วยที่ต้องใช้เท้าเบรกตลอดเส้นทาง ก็มาถึงเต๊น เก็บของขึ้นรถ เตรียมไป >อ่างขางต่อ โหดไหมล่ะ!!!
ลงจากดอยผ้าห่มปก วิ่งถนน 107 ไปเลี้ยวเข้าถนน 1249 ไปอ่างขาง
ด้วยทัศนียภาพตามเส้นทางอ่างขางสวยสดงดงาม ก็แฝงด้วยความโหดร้าย >,< (ทางลาดชันมาก ถนนชันไม่พอหักมุมด้วยต่างหาก)
วิวตามทางอ่างขาง
มาถึงอ่างขาง สิ่งแรกที่ควรทำคือ "กิน" หิวจนตาลาย
ขอฝากท้องที่ ร้านดอกเหมย อ่างขาง
อาหารอร่อย แต่ด้วยที่คนเยอะ อาหารได้ช้าผุดๆ จาเป็นลม
แต่ประทับใจเจ้าของร้านบริการดี เช็คบิล พี่เค้าหยิบส้มให้ 2ใบ อร่อยมากๆๆ
หลังจากท้องอิ่ม ก็ไม่รอช้า เข้าสู่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางทันที
มาอ่างขางครั้งนี้เพราะมีความหลังกับสถานที่นี้ ต้นบ๊วย "พี่อาทิจ..น้องณีมาแล้ววว" 5555
ไปต่อๆๆ
ความตั้งใจจะนอนอ่างขาง 1คืน แต่ด้วยเผลอเที่ยวไปซะหมดแล้ว เลยเปลี่ยนแผนกลับเข้าเชียงใหม่เลย
เพราะต้องไปรอรับพี่ชายร่วมทิปเพิ่มอีก 1คน ไป >ปางอุ๋ง-บ้านรักไทย-ถ้ำปลา-ปาย-ห้วยน้ำดัง ในเช้าวันที่ 4 ลุยโลดดด!!!
กลับมาถึงเชียงใหม่ ตอน 17.30 น. เข้าเช็คอินโรงแรมแถวอาเขต ชื่อโรงแรมอาเขต2 คืนล่ะ 350บาท
ได้เข้าห้องปุ๊บ รีบอาบน้ำแล้วออกไปหาอะไรกิน แล้วก็กลับมานอน คืนนั้นบอกได้คำเดียว หลับตาย!!!
เช้าวันที่ 3. ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น #หรออออ!! ระบมไปทั้งตัว
หาอะไรกินกัน วันนี้ขอเสนอ ไข่กระทะเลิศรส เชียงใหม่ แค่ชื่อก็เริ่ดดแหละ
มีนัดกับพี่โน๊ต อุดม เลยขอแวะมาหาพี่เค้าสักหน่อย
นี่ไงค่ะ พี่โน๊ตต อ้าวววพี่โน๊ตเปลี๊ยนไป๊.. #iberry
จัดมาสองถ้วย
ปล.ด้วยที่วันนี้สภาพระบมไปทั้งตัว เลยสามารถมาเที่ยวได้แค่นี้ ขอเก็บแรงเอาไว้พรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไกลถึงแม่ฮ่องสอน ปู๊นนน!!
อยากได้กลับบ้านนน
เช้าวันที่ 4. ตื่นเช้ามาเช็คเอ้าออกจากโรงแรม แพ็คกระเป๋าขึ้นรถ รีบไปรับพี่ชายที่สนามบินเพื่อพาพี่ชายไปเช่ามอเตอร์ไซค์ เสร็จแล้วรีบทานข้าว แล้วมุ่งตรงสู่ถนน 107 และเลี้ยวเข้าถนน 1095 ไปทางปาย #เป้าหมายตั้งใจว่าจะมุ่งตรงไปปางอุ๋งก่อนแล้วค่อยกลับมาปาย แต่ด้วยตอนที่เลี้ยวเข้าสู่ถนน 1095 ถนนไม่ดีอย่างแรง ช่วงนี้เค้าทำถนน เลยทำให้ต้องค่อยๆขี่กันไป เลยเปลี่ยนแผน แวะพักปายก่อน เช้ามืดขี่ย้อนไปห้วยน้ำดัง แล้วค่อยไปต่อ ถ้ำปลา-ปางอุ๋ง #บอกแล้วว่าโหดดด
จุดเริ่มต้น ถนน 1095
เย้ๆๆใช้เวลานานมาก เพราะถนนไม่ค่อยดี ต้องคอยระวังกันไป แต่ก็เข้าเขตแม่ฮ่องสอนแล้ว อีกนิดเดียวก็ถึงปายแล้ววว
เย้ๆถึงปายสักที รีบเช็คอินที่ Giant House Riverside ถ้าเป็นบ้านหลังเล็กคืนล่ะ 350บาท ห้องน้ำแยก
แต่ด้วยอยากอยู่ด้วยกันหมดเลยนอนบ้านหลังใหญ่มี 2ห้องนอน คืนล่ะ ราคา 800บาท ห้องน้ำในตัว
ที่นอนคืนนี้ อิอิ น่านอนจังงงง
เหมือนเดิมหลังจาก ชมทัศนียภาพที่พักโดยรอบเสร็จแล้ว ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เพื่อไปหาอะไรหม่ำกัน อิอิ #เรื่องกิน นี่งานถนัด
#กองทัพต้องเดินด้วยท้อง วันนี้ขอฝากท้องที่ ร้านน้องเบียร์ แหละกัน
จากนั้นก็ไปเดินถนนคนเดินต่อ ชิววว
เดินๆอยู่ก็ไปเตะตากับขนนนี้เข้า "ข้าวปุกงา" อยากบอกว่าอร่อยอ่าาาา
[CR] ปีใหม่นี้หนีเมืองกรุงมา ท่องเที่ยวแบบ SlowLife...แบบหฤโหด!!!
น้องใหม่หัดเล่า อยากมาแชร์ประสบการ์ทริปเที่ยวครั้งนี้
พึ่งหัดเขียนเป็นครั้งแรก หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะค่ะ
เป็นคนรักท่องท่องแบบ ป่า เขา ลำเนาไพร อยากท่องเที่ยวแบบ SlowLife.. แพลนไปมา เป็นท่องเที่ยวแบบ หฤโหด ซะงั้น!!
#เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ อยากจะรู้เลยต้องไป!!
#เป้าหมาย > เชียงใหม่-บ้านขุนช่างเคี่ยน-ดอยผ้าห่มปก-ดอยอ่างขาง-ปาย-ห้วยน้ำดัง- ถ้ำปลา-ปางอุ๋ง-บ้านรักไทย-ม่อนแจ่ม-น้ำตกแม่สา
เริ่มกันเลยล่ะกัน..อิอิ!!
เริ่มออกเดินทางวันแรกจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ วันที่ 30 เวลา 20.30 น. นครชัยแอร์ (คนเยอะม๊วกก)
เช้าวันที่ 31. ถึงอาเขตเชียงใหม่เวลา 06.30น. เข้าเช็คอินโรงแรม Diamond Grand ใกล้อาเขต วันล่ะ 590บาท (ห้องดีมากๆ) รีบเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องก็รีบนั่งรถแดง ไปรินคำ ไปเช่ามอไซค์ #ดีที่จองและติดต่อไว้ก่อน ร้าน CoocaseBikeRental เช่ารถ PCX วันล่ะ 350บาท ถูกและบริการดี
##ลืมบอกไปทริปนี้ ใช้มอเตอร์ไซค์ เป็นพาหนะ ในทริปหฤโหดนี้ โหดไหมล๊ะะะะะะ ฮาาาา
ได้มอไซค์ปุ๊บ ก็รีบออกเที่ยวกันเลย > รอบเชียงใหม่
ขี่ขึ้น >บ้านขุนช่างเคี่ยน
ระหว่างทาง
ทางขึ้นบ้านขุนช่างเคี่ยน ทางโหด ทั้งแคบและขรุขระ
เย้ๆใกล้ถึงแล้ว
มาถึงก็เจอน้องๆขอถ่ายรูป (พี่ค่ะ 20บาท)
กรื๊ดดดดด!!! พญาเสือโคร่ง 4-5ต้น ก็ฟินได้
จากที่ฟินเจอพญาเสือโคร่ง 4-5ต้น ได้รูปมาประมาณ 200กว่ารูป ก็ต้องกลับ มาเตรียมตัว Pattaya Countdown 2016
Happy New Year 2016 นะค๊าาาา....................................................................
เช้าวันที่ 1. เริ่มต้นปีใหม่ ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปดอยผ้าห่มปก ลุยยยยยย!!!
ระหว่างทาง ถนน107 ตรงยาวๆๆๆ
ระหว่างทาง ต้องตรึงกับภูเขาลูกนี้ ช้าอยูใย รีบจอดรถทันที
นายแบบประจำทริปนี้
ก็ยังวิ่งเส้น 107 อ.ไชยปราการ
จากที่หลงไปพักใหญ่ หาทางไปดอยผ้าห่มปกไม่เจอ สุดท้ายก็เจอทางเข้า
ทางเข้าดอยผ้าห่มปก จะมีป้ายเขียน "หมู่บ้านห้วยบอน" ด้วยความที่ดีใจ เลยลืมถ่ายรูปทางเข้าเลย T_T
ระหว่างทาง เจอเด็กๆหมู่บ้านห้วยบอน โบกมือโบกไม้ใหญ่เลย น่ารักๆๆ
อยากไปสัมผัสที่สวยๆ ก็ต้องยอมแลกกับความยากลำบาก สู้เว้ยยย
เส้นทางขึ้นดอยผ้าห่มปก
ในที่สุดก็ถึงที่หมายยย...กิ่วลม จุดกางเต้นดอยผ้าห่มปก น้ำจิไหล...
รีบถอยหายใจ 1เฮื่อกยาวว แล้วเดินขึ้นไปติดต่อเต๊นที่จองไว้ #หากไม่ได้นำเต๊นมาเอง ควรจองเต็นในเว็บดอยผ้าห่มปกมาก่อน
เห็นผ้าห่ม! ยืนยิ้ม เช่า 2ผืนต่อคนเลยจ้า (เชื่อได้ว่าหนาวแน่ๆ)
ปล.ควรจ้างไกค์นำทางเดินขึ้นดอยผ้าห่มปก ราคา 300บาท
หลังจากเอาของไปวางที่เต๊น ก็รีบหาของใส่ท้องอย่างไว ที่ลานกางเต๊น จะมีร้านขายอาหาร ร้านนึง (ราคาแพงนิดนึง แต่ก็เข้าใจได้ เขาต้องขนขึ้นมาขายเลยราคาสูงนิดนุง)
อากาศหนาว นั่งปิ้งมันกินนี่ มัน "เริ่ดดดมากก" จุดไฟๆๆๆ
ใกล้ค่ำแล้ว ก็ออกไปเดินถ่ายบรรยากาศสักหน่อย
เริ่มพระอาทิตย์ตกดิน ความมืดก็ครอบคลุม สัญญาโทรศัพท์ไม่มี ไฟไม่มี แล้วหนาวเหน็บ ทางเดียวคือ หลับซะ!! 555
omg!! นัดไกค์ไว้ตี3 แล้วต้องตื่นกี่โมงเนี่ยยย ราตรีสวัสดิ์ คร่อกกกกฟี่!!!! zzZzzz
#ที่นี่จะปั่นไฟตอน 18.00-22.00น. หลังจากนั้นก็มืดสนิท และสำหรับคนที่สนใจอยากจะชาร์จไฟ ที่อุทยานก็มีบริการให้ตั้งแต่ 18.00-20.00น.
เช้าวันที่ 2. ผลจากการที่ อยากเริ่มเดินขึ้นดอยไวๆ ผลลัพธ์คือ ถึงยอดดอย ตี5 กลุ่มแรกที่ไปถึง ซึ่งควรจะดีใจแต่น้ำตาตกใน หึหึ!!
พระอาทิตย์ขึ้นเกือบ 7โมงเช้า นั้นหมายความว่า ต้องนั่งรออยู่ยอดดอย เกือบ 2ชม. ไม่ต้องถามว่าหนาวไหม ชาไปทั้งตัว!!!!
ปล.ด้วยที่ตอนเช้ามืด ตั้งใจกับการเดินขึ้นเขาอย่างยากลำบากและมืดมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปเลย
ในที่สุด แสงอาทิตย์ก็ทอแสง กรี๊ดดด ของจริงสวยมากกก
บีบซะดีไหม
Accessory เยอะขนาดนี้ อย่าได้ถามว่า หนาวไหม
ขอประกาศ ได้ถึงยอดดอยผ้าห่มปก ด้วยระยะทาง 3.8 km. อย่างสวยงาม #เหนื่อยโคต
วิว 360 องศา
ต้นอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าน่ารัก
จากที่ชมทิวทัศน์มาหลายชั่วโมง ก็ถึงเวลาเดินลง
#อยากเม้า!ตอนขึ้นเหนื่อยมาก มาถึงตอนลง แอบยิ้มมุมปาก มันล่ะ!หึหึ!!น้ำตาจิไหล!!!
(เหมือนรถกำลังลงเขาแล้วต้องเหยียบเบรกตลอดเวลา) ระบมน่องและต้นขาไป 1วันเต็ม!!!
ด้วยที่ต้องใช้เท้าเบรกตลอดเส้นทาง ก็มาถึงเต๊น เก็บของขึ้นรถ เตรียมไป >อ่างขางต่อ โหดไหมล่ะ!!!
ลงจากดอยผ้าห่มปก วิ่งถนน 107 ไปเลี้ยวเข้าถนน 1249 ไปอ่างขาง
ด้วยทัศนียภาพตามเส้นทางอ่างขางสวยสดงดงาม ก็แฝงด้วยความโหดร้าย >,< (ทางลาดชันมาก ถนนชันไม่พอหักมุมด้วยต่างหาก)
วิวตามทางอ่างขาง
มาถึงอ่างขาง สิ่งแรกที่ควรทำคือ "กิน" หิวจนตาลาย
ขอฝากท้องที่ ร้านดอกเหมย อ่างขาง
อาหารอร่อย แต่ด้วยที่คนเยอะ อาหารได้ช้าผุดๆ จาเป็นลม
แต่ประทับใจเจ้าของร้านบริการดี เช็คบิล พี่เค้าหยิบส้มให้ 2ใบ อร่อยมากๆๆ
หลังจากท้องอิ่ม ก็ไม่รอช้า เข้าสู่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางทันที
มาอ่างขางครั้งนี้เพราะมีความหลังกับสถานที่นี้ ต้นบ๊วย "พี่อาทิจ..น้องณีมาแล้ววว" 5555
ไปต่อๆๆ
ความตั้งใจจะนอนอ่างขาง 1คืน แต่ด้วยเผลอเที่ยวไปซะหมดแล้ว เลยเปลี่ยนแผนกลับเข้าเชียงใหม่เลย
เพราะต้องไปรอรับพี่ชายร่วมทิปเพิ่มอีก 1คน ไป >ปางอุ๋ง-บ้านรักไทย-ถ้ำปลา-ปาย-ห้วยน้ำดัง ในเช้าวันที่ 4 ลุยโลดดด!!!
กลับมาถึงเชียงใหม่ ตอน 17.30 น. เข้าเช็คอินโรงแรมแถวอาเขต ชื่อโรงแรมอาเขต2 คืนล่ะ 350บาท
ได้เข้าห้องปุ๊บ รีบอาบน้ำแล้วออกไปหาอะไรกิน แล้วก็กลับมานอน คืนนั้นบอกได้คำเดียว หลับตาย!!!
เช้าวันที่ 3. ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น #หรออออ!! ระบมไปทั้งตัว
หาอะไรกินกัน วันนี้ขอเสนอ ไข่กระทะเลิศรส เชียงใหม่ แค่ชื่อก็เริ่ดดแหละ
มีนัดกับพี่โน๊ต อุดม เลยขอแวะมาหาพี่เค้าสักหน่อย
นี่ไงค่ะ พี่โน๊ตต อ้าวววพี่โน๊ตเปลี๊ยนไป๊.. #iberry
จัดมาสองถ้วย
ปล.ด้วยที่วันนี้สภาพระบมไปทั้งตัว เลยสามารถมาเที่ยวได้แค่นี้ ขอเก็บแรงเอาไว้พรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไกลถึงแม่ฮ่องสอน ปู๊นนน!!
อยากได้กลับบ้านนน
เช้าวันที่ 4. ตื่นเช้ามาเช็คเอ้าออกจากโรงแรม แพ็คกระเป๋าขึ้นรถ รีบไปรับพี่ชายที่สนามบินเพื่อพาพี่ชายไปเช่ามอเตอร์ไซค์ เสร็จแล้วรีบทานข้าว แล้วมุ่งตรงสู่ถนน 107 และเลี้ยวเข้าถนน 1095 ไปทางปาย #เป้าหมายตั้งใจว่าจะมุ่งตรงไปปางอุ๋งก่อนแล้วค่อยกลับมาปาย แต่ด้วยตอนที่เลี้ยวเข้าสู่ถนน 1095 ถนนไม่ดีอย่างแรง ช่วงนี้เค้าทำถนน เลยทำให้ต้องค่อยๆขี่กันไป เลยเปลี่ยนแผน แวะพักปายก่อน เช้ามืดขี่ย้อนไปห้วยน้ำดัง แล้วค่อยไปต่อ ถ้ำปลา-ปางอุ๋ง #บอกแล้วว่าโหดดด
จุดเริ่มต้น ถนน 1095
เย้ๆๆใช้เวลานานมาก เพราะถนนไม่ค่อยดี ต้องคอยระวังกันไป แต่ก็เข้าเขตแม่ฮ่องสอนแล้ว อีกนิดเดียวก็ถึงปายแล้ววว
เย้ๆถึงปายสักที รีบเช็คอินที่ Giant House Riverside ถ้าเป็นบ้านหลังเล็กคืนล่ะ 350บาท ห้องน้ำแยก
แต่ด้วยอยากอยู่ด้วยกันหมดเลยนอนบ้านหลังใหญ่มี 2ห้องนอน คืนล่ะ ราคา 800บาท ห้องน้ำในตัว
ที่นอนคืนนี้ อิอิ น่านอนจังงงง
เหมือนเดิมหลังจาก ชมทัศนียภาพที่พักโดยรอบเสร็จแล้ว ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เพื่อไปหาอะไรหม่ำกัน อิอิ #เรื่องกิน นี่งานถนัด
#กองทัพต้องเดินด้วยท้อง วันนี้ขอฝากท้องที่ ร้านน้องเบียร์ แหละกัน
จากนั้นก็ไปเดินถนนคนเดินต่อ ชิววว
เดินๆอยู่ก็ไปเตะตากับขนนนี้เข้า "ข้าวปุกงา" อยากบอกว่าอร่อยอ่าาาา