สุนัข พุดเดิ้ล อายุ 14 ปี
อาการป่วย ตัวร้อน มีไข้ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เดินเซ หายใจเหนื่อยหอบ ซึมและเบื่ออาหาร
ไม่มีอาการอาเจียน ไม่ถ่ายเหลว

ไปหาหมอ หมอเจาะตรวจเลือด  ฉีดยาลดไข้ ยาฆ่าเชื้อ และยาบำรุง
หมอจ่ายยาเม็ด ลดไข้ 2 เม็ด กินครั้งละ ครึ่งเม็ด
ยาน้ำ ฆ่าเชื้อ amoxiclav 156  กิน 3 cc/ครั้ง
ยาน้ำ บำรุงเลือด เฟอริค พลัส-เค กิน 3 cc/ครั้ง
กินยา เช้า - เย็น

วันรุ่งขึ้น ผลเลือดออกมา
หมอมุ่งประเด็นไปที่ 2 อย่าง คือ โรคโลหิตจาง และโรคไต
เป็นโลหิตจาง มีค่า 18% ไม่พบพยาธิเม็ดเลือด   ค่าไต 2.2
หมอให้น้ำเกลือใต้ผิวหนัง 300 cc และให้เจ้าของกลับไปให้เองที่บ้าน
โดยอาจจะให้ทุกวันหรือวันเว้นวัน
ซึ่งวันนี้ ผมกำลังจะให้น้ำเกลือเองที่บ้านเป็นครั้งแรก

จากผลเลือด สอบถามหมอว่า ควรหยุดยาฆ่าเชื้อไหม?
หมอให้ทานต่อ เพราะร่างกายอ่อนแอ อาจจะติดเชื้อได้
(ซึ่งฝืนกับความรู้สึกของเราที่ว่า ในเมื่อร่างกายไม่ได้ติดเชื้อ แต่ทำไมต้องให้กินยาฆ่าเชื้อด้วย)

ตอนนี้กินยาเข้าสู่ วันที่ 3
อาการไข้ลดลง กินอาหารได้ แต่ยังอ่อนเพลีย ไม่มีแรง เดินเซ
สิ่งผิดสังเกตุคือ หลังทานยาทั้งฆ่าเชื้อและบำรุงเลือด เขาจะมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกเป็นพักๆ หัวใจเต้นเร็ว

1. สาเหตุกล้ามเนื้อกระตุก เป็นผลจากยาฆ่าเชื้อ หรือ ยาบำรุงเลือด?
(ผมสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นยาฆ่าเชื้อ และคิดจะหยุดให้ยาฆ่าเชื้อ)

2. ยาน้ำ ฆ่าเชื้อ amoxiclav 156 กับ ยาน้ำ บำรุงเลือด เฟอริค พลัส-เค กินพร้อมกัน อันตรายหรือเปล่า?

3. สุนัขอายุ 14 ปี ค่าไต 2.2  นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า?

4.จากอาการสุนัข เขามีโอกาสเป็นโรคอื่น นอกเหนือจาก โรคโลหิตจาง และโรคไต?

ขอบคุณครับ