หัดแต่งครั้งแรกค่ะ ติชมได้เลยนะคะ...
Apologize ขอโอกาสอีกสักครั้ง
“ชัช” เด็กหนุ่มวัย 16 ปี เกิดมาในครอบครัวที่แสนอบอุ่น เขาเป็นลูกชายคนเดียว และวันนี้เป็นวันเกิดของเขา ซึ่งทั้งครอบครัวจะไปฉลองวันเกิดของเขาที่ร้านอาหารหรูนอกบ้าน แต่ในขณะที่กำลังเดินทางนั้น รถเกิดเสียการควบคุม พุ่งชนกับเสาไฟฟ้าอย่างแรง จนทำให้ตัวรถเกิดไฟปะทุ และระเบิดขึ้น โดยเขาและแม่ได้กระเด็นออกมาจากตัวรถ แต่พ่อของเขายังติดอยู่ข้างใน เขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดจากการถูกไฟครอก เขาเห็นพ่อถูกเผาไปต่อหน้าต่อตาในขณะที่เขาไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้เลย เขาสูญเสียฮีโร่ในดวงใจไป ในวันเกิดของเขาเอง
ไม่นานผู้เป็นแม่ก็ได้แต่งงานใหม่ จนทำให้เขาและแม่ต้องย้ายมาอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ค่อนข้างห่างไกลจากความเจริญจากตัวเมือง ผู้เป็นแม่ให้เหตุผลกับเขาว่าไม่อยากให้เขาต้องจมปลักอยู่กับที่เดิมๆ อยากให้เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่มันเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับเขาที่จะต้องดำเนินชีวิตไปอย่างไร้พ่อ ผู้ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา ชัชเอาแต่โทษตัวเองและมักใช้เวลาอยู่แต่ในห้องของเขา และไม่ค่อยได้สุงสิงกับครอบครัวใหม่ของเขาเท่าไรนัก เพราะเขายังไม่พร้อมที่จะเห็นแม่มีความสัมพันธ์รักกับคนใหม่ เขายังคงคิดถึงผู้เป็นพ่ออยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เหตุการณ์นั้นเป็นดั่งแผลในใจและฝันร้ายที่เปลี่ยนชีวิตจากคนที่ร่าเริงจนกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด อมทุกข์ตลอดเวลา เขาฝันถึงเหตุการณ์ในวันนั้นทุกๆคืน
ต่อมา เขาได้รู้ว่าแม่ของเขากำลังตั้งท้องกับสามีใหม่ของเธอ เขาทั้งคู่ต่างก็ดีใจมาก แต่มันกลับยิ่งทำให้เขารู้สึกว่า แม่ของเขาอาจลืมพ่อไปแล้ว และเขาก็อาจจะถูกลืมไปแล้วด้วยเช่นกัน เขาอยากจะดีใจที่เห็นแม่ของเขามีความสุข แต่เขากลับยิ่งรู้สึกเหมือนเขาต้องอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดตั้งแต่พ่อเสียไป แม้ว่าแม่และพ่อเลี้ยงของเขา พยายามที่จะเข้าหาเขามากเท่าไรก็ตาม แต่ชัชกลับพยายามผลักตัวเองให้ออกไป เขากลายเป็นเด็กมีปัญหาที่ไม่ยอมสุงสิงกับใครแม้กระทั่งเพื่อนที่โรงเรียน
เมื่อเขาย้ายที่อยู่ แน่นอนว่าเขาต้องย้ายโรงเรียนใหม่ซึ่งด้วยแผลในใจของเขาที่มีนั้น มันทำให้เขาเป็นคนที่ไม่เขาหาใคร อยู่คนเดียว ส่งผลให้การเรียนของเขาตกต่ำลงไป บางทีเขาก็ขาดเรียนอย่างไม่จำเป็น ยิ่งเวลาที่เขาเห็นเพื่อนๆในโรงเรียนมีพ่อและแม่มารับ มาส่ง มันยิ่งบีบแผลที่อยู่ในใจของเขาให้เจ็บมากขึ้น และเป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละโรงเรียน จะมีเด็กนักเรียนชายที่เป็นเด็กชอบแกล้งเพื่อน วันหนึ่งที่เขากำลังทำธุระในห้องน้ำ ก็มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาและมาล้อเขาเรื่องที่พ่อของเขาเสียชีวิตไป จนทำให้เกิดบันดาลโทสะ ชกต่อยกับเพื่อนกลุ่มนั้น
จนกระทั่ง ครูจากที่โรงเรียนต้องเรียกแม่ของชัชไปคุย ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและสภาพจิตใจของเขา เพราะเขาเอาแต่นั่งเหม่อลอย และมักจะอยู่คนเดียว และกลายเป็นเด็กอารมณ์ร้อน ในขณะที่เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับเขาต่างก็อยู่กันเป็นกลุ่มและเที่ยวเล่นกันตามประสาวัยรุ่น ทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกไม่ดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเป็นห่วงเขา แม่พยายามอธิบายและบอกว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของเขา แต่ชัชไม่สนใจในคำพูดของแม่เลย เขาเอาแต่พูดว่าเพราะเขาพ่อถึงต้องตาย ถ้าหากวันนั้นเขาไม่อยากออกไปฉลองวันเกิดเรื่องราวต่างๆคงไม่เกิดขึ้น และแม่เองก็ลืมพ่อไปแล้ว แม่กำลังมีครอบครัวใหม่ที่อบอุ่น ฉะนั้นเขาก็ไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่ชัชเป็นทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากการเลือกให้เขาอยู่ตามลำพัง ให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาพอใจ อาจเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ไม่ถูกนัก แต่ถ้าหากยิ่งกดดันเขามากไป ชัชอาจทำในสิ่งที่ใครไม่คาดคิด เธอจึงเลือกที่จะคอยดูแลเขาอยู่ห่างๆ
วันหนึ่ง ขณะที่ชัชกำลังนั่งมองเหม่อกับสิ่งที่อยู่ภายนอกหน้าต่างพลางนึกถึงวันเก่าๆที่อยู่กันพร้อมหน้า 3 คน พ่อ แม่ ลูก และภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุในวันนั้น เสียงร้องของผู้เป็นพ่อ ดังกึกก้องอยู่ข้างในหัวของเขา เขารู้สึกผิดและรู้สึกเดี่ยวดาย ไม่เหลือใคร อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างกระทบกับฝาผนังบริเวณหน้าต่างของเขา เขาหันไปเห็นเด็กสาว ผมดำเงาหยักศก นัยน์ตาสีน้ำตาลเศร้า เธอมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา กำลังนั่งมองเขาอยู่ที่หน้าต่างบ้านของเธอ เขาจึงโบกมือทักทายและยิ้มให้กับสาวน้อยคนนั้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เขาพยายามสื่อสารกับเธอ เขาจึงหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนให้เธอดูเพื่อแทนการพูด และรู้ว่าสาวน้อยคนนั้นเธอมีชื่อว่า “ราตรี” ทั้งคู่ได้คุยกันผ่านการเขียนตัวหนังสือลงในกระดาษ
ราตรีได้บอกกับเขาว่าเธอถูกขังอยู่ในห้องนี้มา 1 วันแล้ว เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา และอยู่ๆ ราตรีก็หันไปมองสิ่งหนึ่งที่อยู่ข้างหลังของเธอและก็รีบปิดหน้าต่างไปด้วยท่าทางที่ตกใจและลุกลี้ลุกลน ทิ้งคำถามไว้กับชัช ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ราตรีบอกนั้นเป็นความจริงหรือไม่ หรือถ้าหากเป็นความจริง เขาจะช่วยเธอได้อย่างไร เขานั่งใช้ความคิดอยู่ซักพัก ก็ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่ แต่เมื่อเขาเห็นแม่กับคนรักของเธอกำลังมีความสุขอยู่ด้วยกัน เขาจึงกลับมาที่ห้องของเขาดังเดิม อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างปากระทบกับหน้าต่างของเขา และก็พบว่า ราตรีกำลังถือกระดาษที่มีข้อความขอความช่วยเหลืออยู่ และใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เขาใช้ความคิดอยู่สักพักและตอบตกลงที่จะช่วยเหลือเธอ เขาจึงตัดสินใจไปคุยกับสองสามีภรรยาที่บ้านหลังนั้นเพราะเขาคิดว่าพวกเขาน่าจะเป็นผู้ปกครองของราตรี
แต่สิ่งที่เขาได้ยินมาจากปากของสองสามีภรรยาคู่นั้นก็คือ ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกัน และเพิ่งย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ก่อนหน้าครอบครัวของชัชเพียงแค่สามเดือน ที่สำคัญพวกเขายังไม่มีลูก และห้องนั้นที่ชัชได้เจอกับราตรี ในทุกๆคืนพวกเขามักจะได้ยินเสียงบางอย่างจากห้องนั้น และพวกเขาก็เคยพาหมอผีมาแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลอะไร ชัชถึงกับอึ้งในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เขาขนลุกไปทั้งตัว และกลับมาบ้านด้วยอาการช็อกสุดขีด เขาไม่คิดว่าสิ่งที่ตนเองได้ยินเป็นเรื่องจริง เขาต้องไม่ตาฝาดแน่ๆ เขาเห็นสาวน้อยคนนั้นราวกับว่าเธอมีชีวิตอยู่จริงๆ และถ้าหากสิ่งที่สองสามีภรรยาพูดเป็นเรื่องจริง แล้วใครกันที่เขาคุยด้วย
ในคืนนั้นเขาได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างปากระทบกับหน้าต่างของเขา เช่นที่ราตรีเคยทำเมื่อเธอต้องการเรียกเขา เขารู้สึกตกใจและลังเลที่จะเดินไปเปิดหน้าต่างนั้น แต่สิ่งที่สองสามีภรรยาคู่นั้นพูดมันดังอยู่ในก้องหัวของเขา สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่เปิดหน้าต่างออกไปเพื่อคุยกับเธอ เขาพยายามข่มตาหลับและไม่สนใจ เสียงวัตถุกระทบกันหน้าต่างดังอยู่หลายครั้งจนเงียบไป และไม่นานเขาก็ได้ยินเสียง เอะอะโวยวายราวกับคนทะเลาะกัน เขาพยายามตั้งใจฟัง แต่ก็คิดว่าอาจเป็นเสียงของสองสามีภรรยาข้างบ้าน
เช้าวันต่อมาเขาตื่นด้วยเสียงของไซเรนรถตำรวจ เขาจึงมองลอดผ่านหน้าต่างลงไปนอกบ้านเห็นรถตำรวจจอดอยู่ที่หน้าบ้านของสองสามีภรรยาคู่นั้นและตรงนั้นมีแม่และพ่อเลี้ยงของเขาด้วย เขาจึงรีบวิ่งลงไปดู และเดินไปถามผู้เป็นแม่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอบอกกับเขาว่า เกิดเหตุฆาตกรรมอันน่าสยดสยองเมื่อคืนนี้ มีสองสามีภรรยาที่อยู่บ้านหลังนี้ได้ทรมานเด็กสาวโดยการหั่นอวัยวะของเด็กสาวทีละชิ้นในขณะเธอยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งเธอได้เสียชีวิตลง สามีภรรยาคู่นั้นเป็นฆาตกรโรคจิตที่ชอบจับเด็กผู้หญิงมาขังไว้แล้วทรมานทุกรูปแบบ เพราะทั้งคู่เคยเสียลูกสาวไปจากการถูกฆาตกรรมเช่นกันเมื่อ 5 ปีก่อน ทำให้เด็กผู้หญิงหายไม่เว้นแต่ละวัน แต่ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เพราะถ้าหากไม่ได้อาศัยอยู่ในบริเวณละแวกนี้จะไม่มีวันรู้เรื่องเลยว่าแท้จริงแล้วสองสามีภรรยาคู่นี้เป็นฆาตกรโรคจิตที่โหดเหี้ยม และแม่ของชัช ก็เป็นคนแจ้งความเอง เนื่องจากเสียงที่ดังเมื่อคืนนี้ เขาตกใจมากกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะแน่นอนว่าเด็กสาวผู้นั้นต้องเป็น ราตรีแน่ๆ และนี่ก็คือแผลที่สองในหัวใจของเขา เขาโทษตัวเองว่าถ้าหากเขาไม่ขี้ขลาด เขาต้องช่วยอะไรเธอได้บ้างแน่ๆ เขารู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เขานึกถึงพ่อของเขาขึ้นมาทันที ทำไมเขาถึงไม่สามารถช่วยใครไว้ได้เลยทั้งที่มีโอกาส
วันนั้นเขากลับมายังห้องของตัวเองด้วยความเสียใจ เขาเดินไปเปิดหน้าต่างออกและพบกระดาษติดอยู่กับหน้าต่างบานนั้น ข้อความในนั้นเขียนว่า “ฉันมีแค่แม่เพียงคนเดียวและอยากกลับไปหาเธอ” เขาอ่านมันด้วยความรู้สึกผิดและสะเทือนใจที่สุด เขาทนไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา ข้อความนั้นทำให้เขาคิดได้ว่า เขาควรใช้เวลาที่มีอยู่กับคนที่เขารักให้มากที่สุด และควรจะทำในสิ่งที่อยากทำก่อนที่มันจะไม่มีโอกาส เขาปล่อยให้เหตุการณ์ที่ผ่านมานี้เป็นบทเรียน แทนการมานั่งโศกเศร้าและเสียใจกับอดีตที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก แม้ว่าในใจยังคงโทษตัวเองอยู่ แต่เขาจะไม่นำอดีตที่เขามี มาทำให้เวลาที่เหลืออยู่ของเขากับคนที่เขารักนั้นสูญเปล่าไป เขาพยายามใช้เวลาอยู่กับครอบครัวใหม่ของเขาให้มากขึ้น
และสัมผัสได้ว่าทุกสิ่งที่แม่เขาทำก็เพื่อเขาทุกอย่าง และครอบครัวใหม่ครอบครัวนี้ก็ทำให้เขามีความสุขได้เหมือนกัน ตอนนี้เมื่อเขาคิดที่จะทำสิ่งใด ก็รีบที่จะทำมันก่อนสายและตอนนี้เขาก็ไม่ได้เหงาโดดเดี่ยวอีกต่อไป เพราะมีสมาชิกใหม่ตัวน้อยๆ ที่พ่อเลี้ยงตั้งชื่อให้กับน้องว่า“ชาติ” เพื่อให้คล้องกับชื่อของเขา ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุข แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะเปิดหน้าต่างออกไปเพื่อมองไปยังหน้าต่างบานนั้น ราวกับรอให้สาวน้อยคนนั้นถือกระดาษที่มีข้อความบางอย่างถึงเขาอยู่ และก็ยังคงคิดถึงพ่อของเขาอยู่เสมอ ชีวิตทุกชีวิตล้วนมีเกิด แก่ เจ็บ และตายเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่าใครจะตายก่อนตายหลังก็แค่นั้น แต่ถ้าหากเป็นไปได้ เขาอยากจะขอโอกาสอีกสักครั้งเพื่อเขาจะได้ทำทุกอย่างที่เขาอยากจะทำเพื่อคนที่เขารักกลับคืนมา
FIN..
เรื่องสั้น "Apologize ขอโอกาสอีกสักครั้ง"
Apologize ขอโอกาสอีกสักครั้ง
“ชัช” เด็กหนุ่มวัย 16 ปี เกิดมาในครอบครัวที่แสนอบอุ่น เขาเป็นลูกชายคนเดียว และวันนี้เป็นวันเกิดของเขา ซึ่งทั้งครอบครัวจะไปฉลองวันเกิดของเขาที่ร้านอาหารหรูนอกบ้าน แต่ในขณะที่กำลังเดินทางนั้น รถเกิดเสียการควบคุม พุ่งชนกับเสาไฟฟ้าอย่างแรง จนทำให้ตัวรถเกิดไฟปะทุ และระเบิดขึ้น โดยเขาและแม่ได้กระเด็นออกมาจากตัวรถ แต่พ่อของเขายังติดอยู่ข้างใน เขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดจากการถูกไฟครอก เขาเห็นพ่อถูกเผาไปต่อหน้าต่อตาในขณะที่เขาไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้เลย เขาสูญเสียฮีโร่ในดวงใจไป ในวันเกิดของเขาเอง
ไม่นานผู้เป็นแม่ก็ได้แต่งงานใหม่ จนทำให้เขาและแม่ต้องย้ายมาอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ค่อนข้างห่างไกลจากความเจริญจากตัวเมือง ผู้เป็นแม่ให้เหตุผลกับเขาว่าไม่อยากให้เขาต้องจมปลักอยู่กับที่เดิมๆ อยากให้เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่มันเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับเขาที่จะต้องดำเนินชีวิตไปอย่างไร้พ่อ ผู้ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา ชัชเอาแต่โทษตัวเองและมักใช้เวลาอยู่แต่ในห้องของเขา และไม่ค่อยได้สุงสิงกับครอบครัวใหม่ของเขาเท่าไรนัก เพราะเขายังไม่พร้อมที่จะเห็นแม่มีความสัมพันธ์รักกับคนใหม่ เขายังคงคิดถึงผู้เป็นพ่ออยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เหตุการณ์นั้นเป็นดั่งแผลในใจและฝันร้ายที่เปลี่ยนชีวิตจากคนที่ร่าเริงจนกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด อมทุกข์ตลอดเวลา เขาฝันถึงเหตุการณ์ในวันนั้นทุกๆคืน
ต่อมา เขาได้รู้ว่าแม่ของเขากำลังตั้งท้องกับสามีใหม่ของเธอ เขาทั้งคู่ต่างก็ดีใจมาก แต่มันกลับยิ่งทำให้เขารู้สึกว่า แม่ของเขาอาจลืมพ่อไปแล้ว และเขาก็อาจจะถูกลืมไปแล้วด้วยเช่นกัน เขาอยากจะดีใจที่เห็นแม่ของเขามีความสุข แต่เขากลับยิ่งรู้สึกเหมือนเขาต้องอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดตั้งแต่พ่อเสียไป แม้ว่าแม่และพ่อเลี้ยงของเขา พยายามที่จะเข้าหาเขามากเท่าไรก็ตาม แต่ชัชกลับพยายามผลักตัวเองให้ออกไป เขากลายเป็นเด็กมีปัญหาที่ไม่ยอมสุงสิงกับใครแม้กระทั่งเพื่อนที่โรงเรียน
เมื่อเขาย้ายที่อยู่ แน่นอนว่าเขาต้องย้ายโรงเรียนใหม่ซึ่งด้วยแผลในใจของเขาที่มีนั้น มันทำให้เขาเป็นคนที่ไม่เขาหาใคร อยู่คนเดียว ส่งผลให้การเรียนของเขาตกต่ำลงไป บางทีเขาก็ขาดเรียนอย่างไม่จำเป็น ยิ่งเวลาที่เขาเห็นเพื่อนๆในโรงเรียนมีพ่อและแม่มารับ มาส่ง มันยิ่งบีบแผลที่อยู่ในใจของเขาให้เจ็บมากขึ้น และเป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละโรงเรียน จะมีเด็กนักเรียนชายที่เป็นเด็กชอบแกล้งเพื่อน วันหนึ่งที่เขากำลังทำธุระในห้องน้ำ ก็มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาและมาล้อเขาเรื่องที่พ่อของเขาเสียชีวิตไป จนทำให้เกิดบันดาลโทสะ ชกต่อยกับเพื่อนกลุ่มนั้น
จนกระทั่ง ครูจากที่โรงเรียนต้องเรียกแม่ของชัชไปคุย ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและสภาพจิตใจของเขา เพราะเขาเอาแต่นั่งเหม่อลอย และมักจะอยู่คนเดียว และกลายเป็นเด็กอารมณ์ร้อน ในขณะที่เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับเขาต่างก็อยู่กันเป็นกลุ่มและเที่ยวเล่นกันตามประสาวัยรุ่น ทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกไม่ดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเป็นห่วงเขา แม่พยายามอธิบายและบอกว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของเขา แต่ชัชไม่สนใจในคำพูดของแม่เลย เขาเอาแต่พูดว่าเพราะเขาพ่อถึงต้องตาย ถ้าหากวันนั้นเขาไม่อยากออกไปฉลองวันเกิดเรื่องราวต่างๆคงไม่เกิดขึ้น และแม่เองก็ลืมพ่อไปแล้ว แม่กำลังมีครอบครัวใหม่ที่อบอุ่น ฉะนั้นเขาก็ไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่ชัชเป็นทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากการเลือกให้เขาอยู่ตามลำพัง ให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาพอใจ อาจเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ไม่ถูกนัก แต่ถ้าหากยิ่งกดดันเขามากไป ชัชอาจทำในสิ่งที่ใครไม่คาดคิด เธอจึงเลือกที่จะคอยดูแลเขาอยู่ห่างๆ
วันหนึ่ง ขณะที่ชัชกำลังนั่งมองเหม่อกับสิ่งที่อยู่ภายนอกหน้าต่างพลางนึกถึงวันเก่าๆที่อยู่กันพร้อมหน้า 3 คน พ่อ แม่ ลูก และภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุในวันนั้น เสียงร้องของผู้เป็นพ่อ ดังกึกก้องอยู่ข้างในหัวของเขา เขารู้สึกผิดและรู้สึกเดี่ยวดาย ไม่เหลือใคร อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างกระทบกับฝาผนังบริเวณหน้าต่างของเขา เขาหันไปเห็นเด็กสาว ผมดำเงาหยักศก นัยน์ตาสีน้ำตาลเศร้า เธอมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา กำลังนั่งมองเขาอยู่ที่หน้าต่างบ้านของเธอ เขาจึงโบกมือทักทายและยิ้มให้กับสาวน้อยคนนั้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เขาพยายามสื่อสารกับเธอ เขาจึงหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนให้เธอดูเพื่อแทนการพูด และรู้ว่าสาวน้อยคนนั้นเธอมีชื่อว่า “ราตรี” ทั้งคู่ได้คุยกันผ่านการเขียนตัวหนังสือลงในกระดาษ
ราตรีได้บอกกับเขาว่าเธอถูกขังอยู่ในห้องนี้มา 1 วันแล้ว เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา และอยู่ๆ ราตรีก็หันไปมองสิ่งหนึ่งที่อยู่ข้างหลังของเธอและก็รีบปิดหน้าต่างไปด้วยท่าทางที่ตกใจและลุกลี้ลุกลน ทิ้งคำถามไว้กับชัช ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ราตรีบอกนั้นเป็นความจริงหรือไม่ หรือถ้าหากเป็นความจริง เขาจะช่วยเธอได้อย่างไร เขานั่งใช้ความคิดอยู่ซักพัก ก็ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่ แต่เมื่อเขาเห็นแม่กับคนรักของเธอกำลังมีความสุขอยู่ด้วยกัน เขาจึงกลับมาที่ห้องของเขาดังเดิม อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างปากระทบกับหน้าต่างของเขา และก็พบว่า ราตรีกำลังถือกระดาษที่มีข้อความขอความช่วยเหลืออยู่ และใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เขาใช้ความคิดอยู่สักพักและตอบตกลงที่จะช่วยเหลือเธอ เขาจึงตัดสินใจไปคุยกับสองสามีภรรยาที่บ้านหลังนั้นเพราะเขาคิดว่าพวกเขาน่าจะเป็นผู้ปกครองของราตรี
แต่สิ่งที่เขาได้ยินมาจากปากของสองสามีภรรยาคู่นั้นก็คือ ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกัน และเพิ่งย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ก่อนหน้าครอบครัวของชัชเพียงแค่สามเดือน ที่สำคัญพวกเขายังไม่มีลูก และห้องนั้นที่ชัชได้เจอกับราตรี ในทุกๆคืนพวกเขามักจะได้ยินเสียงบางอย่างจากห้องนั้น และพวกเขาก็เคยพาหมอผีมาแล้วแต่ก็ไม่ได้ผลอะไร ชัชถึงกับอึ้งในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เขาขนลุกไปทั้งตัว และกลับมาบ้านด้วยอาการช็อกสุดขีด เขาไม่คิดว่าสิ่งที่ตนเองได้ยินเป็นเรื่องจริง เขาต้องไม่ตาฝาดแน่ๆ เขาเห็นสาวน้อยคนนั้นราวกับว่าเธอมีชีวิตอยู่จริงๆ และถ้าหากสิ่งที่สองสามีภรรยาพูดเป็นเรื่องจริง แล้วใครกันที่เขาคุยด้วย
ในคืนนั้นเขาได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างปากระทบกับหน้าต่างของเขา เช่นที่ราตรีเคยทำเมื่อเธอต้องการเรียกเขา เขารู้สึกตกใจและลังเลที่จะเดินไปเปิดหน้าต่างนั้น แต่สิ่งที่สองสามีภรรยาคู่นั้นพูดมันดังอยู่ในก้องหัวของเขา สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่เปิดหน้าต่างออกไปเพื่อคุยกับเธอ เขาพยายามข่มตาหลับและไม่สนใจ เสียงวัตถุกระทบกันหน้าต่างดังอยู่หลายครั้งจนเงียบไป และไม่นานเขาก็ได้ยินเสียง เอะอะโวยวายราวกับคนทะเลาะกัน เขาพยายามตั้งใจฟัง แต่ก็คิดว่าอาจเป็นเสียงของสองสามีภรรยาข้างบ้าน
เช้าวันต่อมาเขาตื่นด้วยเสียงของไซเรนรถตำรวจ เขาจึงมองลอดผ่านหน้าต่างลงไปนอกบ้านเห็นรถตำรวจจอดอยู่ที่หน้าบ้านของสองสามีภรรยาคู่นั้นและตรงนั้นมีแม่และพ่อเลี้ยงของเขาด้วย เขาจึงรีบวิ่งลงไปดู และเดินไปถามผู้เป็นแม่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอบอกกับเขาว่า เกิดเหตุฆาตกรรมอันน่าสยดสยองเมื่อคืนนี้ มีสองสามีภรรยาที่อยู่บ้านหลังนี้ได้ทรมานเด็กสาวโดยการหั่นอวัยวะของเด็กสาวทีละชิ้นในขณะเธอยังมีชีวิตอยู่จนกระทั่งเธอได้เสียชีวิตลง สามีภรรยาคู่นั้นเป็นฆาตกรโรคจิตที่ชอบจับเด็กผู้หญิงมาขังไว้แล้วทรมานทุกรูปแบบ เพราะทั้งคู่เคยเสียลูกสาวไปจากการถูกฆาตกรรมเช่นกันเมื่อ 5 ปีก่อน ทำให้เด็กผู้หญิงหายไม่เว้นแต่ละวัน แต่ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เพราะถ้าหากไม่ได้อาศัยอยู่ในบริเวณละแวกนี้จะไม่มีวันรู้เรื่องเลยว่าแท้จริงแล้วสองสามีภรรยาคู่นี้เป็นฆาตกรโรคจิตที่โหดเหี้ยม และแม่ของชัช ก็เป็นคนแจ้งความเอง เนื่องจากเสียงที่ดังเมื่อคืนนี้ เขาตกใจมากกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะแน่นอนว่าเด็กสาวผู้นั้นต้องเป็น ราตรีแน่ๆ และนี่ก็คือแผลที่สองในหัวใจของเขา เขาโทษตัวเองว่าถ้าหากเขาไม่ขี้ขลาด เขาต้องช่วยอะไรเธอได้บ้างแน่ๆ เขารู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เขานึกถึงพ่อของเขาขึ้นมาทันที ทำไมเขาถึงไม่สามารถช่วยใครไว้ได้เลยทั้งที่มีโอกาส
วันนั้นเขากลับมายังห้องของตัวเองด้วยความเสียใจ เขาเดินไปเปิดหน้าต่างออกและพบกระดาษติดอยู่กับหน้าต่างบานนั้น ข้อความในนั้นเขียนว่า “ฉันมีแค่แม่เพียงคนเดียวและอยากกลับไปหาเธอ” เขาอ่านมันด้วยความรู้สึกผิดและสะเทือนใจที่สุด เขาทนไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา ข้อความนั้นทำให้เขาคิดได้ว่า เขาควรใช้เวลาที่มีอยู่กับคนที่เขารักให้มากที่สุด และควรจะทำในสิ่งที่อยากทำก่อนที่มันจะไม่มีโอกาส เขาปล่อยให้เหตุการณ์ที่ผ่านมานี้เป็นบทเรียน แทนการมานั่งโศกเศร้าและเสียใจกับอดีตที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก แม้ว่าในใจยังคงโทษตัวเองอยู่ แต่เขาจะไม่นำอดีตที่เขามี มาทำให้เวลาที่เหลืออยู่ของเขากับคนที่เขารักนั้นสูญเปล่าไป เขาพยายามใช้เวลาอยู่กับครอบครัวใหม่ของเขาให้มากขึ้น
และสัมผัสได้ว่าทุกสิ่งที่แม่เขาทำก็เพื่อเขาทุกอย่าง และครอบครัวใหม่ครอบครัวนี้ก็ทำให้เขามีความสุขได้เหมือนกัน ตอนนี้เมื่อเขาคิดที่จะทำสิ่งใด ก็รีบที่จะทำมันก่อนสายและตอนนี้เขาก็ไม่ได้เหงาโดดเดี่ยวอีกต่อไป เพราะมีสมาชิกใหม่ตัวน้อยๆ ที่พ่อเลี้ยงตั้งชื่อให้กับน้องว่า“ชาติ” เพื่อให้คล้องกับชื่อของเขา ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุข แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะเปิดหน้าต่างออกไปเพื่อมองไปยังหน้าต่างบานนั้น ราวกับรอให้สาวน้อยคนนั้นถือกระดาษที่มีข้อความบางอย่างถึงเขาอยู่ และก็ยังคงคิดถึงพ่อของเขาอยู่เสมอ ชีวิตทุกชีวิตล้วนมีเกิด แก่ เจ็บ และตายเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่าใครจะตายก่อนตายหลังก็แค่นั้น แต่ถ้าหากเป็นไปได้ เขาอยากจะขอโอกาสอีกสักครั้งเพื่อเขาจะได้ทำทุกอย่างที่เขาอยากจะทำเพื่อคนที่เขารักกลับคืนมา
FIN..