ทำไมเราถึงเลือกไปที่เชียงคานก่อนภูกระดึง คือ มาภูกระดึง มาเตรียมเหนื่อยเลยค่ะ 555 เราเลยขอชิวทั้งร่างกายและจิตใจกันที่เชียงคานก่อน และแล้วก็คิดถูกจริง ๆ ค่ะ เพราะหลังลงมาจากภูคือ...กูอยากพัก ตื่นสาย ๆ ไปเลยพวก!!! ในเช้าวันรุ่งขึ้น 555 กลัวความเหนื่อยไปทำให้พลาดอะไรดี ๆ ที่เชียงคานค่ะ ถ้าเลือกที่จะมาภูกระดึงก่อน แล้วไปเชียงคาน คุณจะเหมือนอายุมากขึ้นประมาณ 20 ปี ทำไมน่ะหรอ...คือมันไม่ใช่แค่การปวดขาธรรมดา แต่มันปวดร้าวมายันก้นทั้งเบ้า!!! 555 นี่คือคำขู่ของสถานที่แห่งนี้
"ภูกระดึง"
(เดินทางช่วงกลาง ธ.ค.)
สำหรับกระทู้นี้เราขอแบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่ ๆ นะคะ
พักเมืองเลย 1 คืน กับ อีกครึ่งวัน ปั่นจักรยานหาของกินขึ้นชื่อ
3 วัน 2 คืน กับชีวิตบนภูกระดึง (หัวข้อใหญ่สุดค่ะ)
หากินกลางคืน ณ เมืองชุมแพ
พักเมืองเลย 1 คืน กับ อีกครึ่งวัน ปั่นจักรยานหาของกินขึ้นชื่อ
พอเราออกจากเชียงคาน มุ่งหน้าเข้าสู่ เมืองเลย โดยขึ้นรถที่ บขส. นครชัยขนส่ง (ปิดประมาณบ่าย 3 โมงครึ่งนะคะ) ถึงเมืองเลยเราเลือกที่จะนอนใกล้ บขส.เลย ก่อนค่ะ 1 คืน เพื่อที่จะหาของกินขึ้นชื่อในเมืองเลยก่อน จากนั้นก็ค่อยเดินทางไปขึ้นภูในตอนประมาณเที่ยง ๆ บ่าย ๆ ค่ะ เราพักกันที่
ม้วนมาณี บูทิค เหมือนเดิมค่ะ จองผ่าน agoda ใน
ราคา ุ690 บาท โอย...ถูกมากค่ะ ตาม GPS เดินจาก บขส. เลยประมาณ 10-15 นาทีค่ะ แต่ทางลัดเลาะซอกซอยหน่อยค่ะ เราไปถึงประมาณ 5 โมงเย็นนะคะ ระหว่างทางที่เราเดิน โชคดีมากค่ะ มีรถคุณตำรวจจอดเห็นเราแบบเป้ใหญ่มาก ของเยอะแยะ เลยถาม "ไปไหนกันน้อง พี่ไปส่ง" น่ารักมากค่ะ ตอนนั้นไม่ดีใจซะทีเดียว เพราะการไปต่างถิ่น เราต้องระวังในใจคิดขอให้เป็นพี่ตำรวจจริง ๆ ด้วยเถิดดดด 555 และแล้วพี่เค้าก็พาเรามาส่งถึงหน้าที่พักค่ะ ต้องบอกว่าเป็น อาณาจักรม้วน เพราะมีหลายม้วนมาก ๆ พอเช็คอินเราก็เอาสัมภาระไปเก็บ คือเปิดมาห้อง!!!!!! แบบว่า ดีงามมากกกกกกก จัดอย่างเป็นระเบียบ ของใช้ใหม่ด้วย สีห้องก็เช่นกันค่ะ ห้องกว้างมาก ห้องน้ำก็กว้างมากเหมือนกันค่ะ กับราคา 690 คือ ดีงามค่ะ เลยรวบภาพมารีวิวให้เค้าซักหน่อยค่ะ ^^

เราไม่รอช้าค่ะ เพราะมันเย็นมากแล้ว หิวค่ะ!!! แต่มันค่อนข้างเย็น บวกกับถ้ายืมจักรยานของที่พัก ปั่นไปมันจะอันตราย เลยให้พนักงานติดต่อรถ สกายแลบให้ค่ะ เราเลือกไปอะไรที่เบสิคสุด ๆ 555 Big C เลย ไปกินข้าวขาหมู (ให้เยอะมากกก) และไปดูหนังค่ะ ตอนนั้นเรื่อง In the Heart of the Sea เข้าค่ะ 555 ฆ่าเวลา คือเป็นโรงหนังอะไรซักอย่างค่ะ ป๊อบคอนกับน้ำถูกมากกก แต่ไม่อร่อยค่ะ 555 สรุปคือหาเรื่องออกมาเสียตังค์แท้ ๆ ดีนะหนังดี ค่ารถ 160 ค่ะ บ๊ะเจ้า!!! เฮ้ยแกรคือมันใกล้นะเหวยยยย!!! แพงอ่ะ ไม่เป็นไรแก้มือใหม่ พรุ่งนี้ ปั่นจักรยานฟรีไป 555
ตื่นเช้าค่ะ ออกหากินกันประมาณ 7 โมง ใคร ๆ เค้าก็ว่า มาเมืองเลยต้องมาโดน "ร้านมะกัน" หาเลยค่ะ เราหาดูแผนที่ตามอินเตอร์เน็ตเลยค่ะ และก็อาศัยถามคนแถวนั้นเอาค่ะ และแล้วก็ถึงค่ะ!!! เย้!! จะบอกว่าที่นี่เค้ามีเลนจักรยานนะคะ แต่รถก็เยอะอยู่ดี 555 หวาดเสียวค่ะ เพราะมีบางช่วงปั่นเข้าวงเวียน
เราสั่ง 3 เมนูค่ะ เมนูแรก เกาเหลารวม 1 ชาม ค่ะ เครื่องเยอะดีค่ะ แต่รสชาติก็ปกติ ๆ เลยค่ะ

เมนูที่ 2 คือไข่กระทะค่ะ คนละ 1 หน้าตาประมาณนี้ค่ะ

เมนูที่ 3 คือ ขนมปังเมืองเลยค่ะ คนละ 1 ไส้แตกต่างจากเชียงคานค่ะ เป็น

ราคาน่าคบหาค่ะ แต่...จำไม่ได้แล้วว่าอะไรเท่าไหร่ค่ะ 555 ใครไปเมืองเลยลองไปแวะชิมนะคะ คือคนเยอะมากค่ะ โอยอิ่ม
จากนั้นเราก็เลยปั่นจักรยาน พยายามหาร้านอื่น ๆ ค่ะ ไปตามเพื่อน ๆ ที่รีวิวในพันทิพนี้ค่ะ
http://pantip.com/topic/32144113 แต่ว่าวันนั้นคือมันเป็นช่วงเช้าค่ะ บางร้านก็อาจจะยังไม่เปิด เลยเปลี่ยนใจปั่นจักรยานเล่นดูบ้านดูเมืองแถวนั้นค่ะ
และแล้วก็ได้เวลาเดินทางค่ะ เราออกจาก บขส. เลย ประมาณ 11 โมงค่ะ และมุ่งหน้าสู่ภูกระดึง ในบขส.เลยไปถามป้าที่ขายตั๋วรถเลยค่ะ บอกเค้าไปภูกระดึง เท่าไหร่นั้น โอยลืมค่ะ รู้แต่ว่ามันไม่แพงค่ะ 555 เป็นรถทัวร์นี่แหละค่ะ รถทัวร์นี้จะพาเราไปส่งต่อให้กับท่ารถเล็ก ๆ ค่ะ เหมือนเป็นที่รับผู้โดยสารต่อจากรถทัวร์นี้ ไปขึ้นรถ 2 แถว เพื่อ
ไปภูกระดึงค่ะ
ค่ารถ 2 แถวนี้คนละ 30 บาทนะคะ
คำเตือน!!! ของที่แห่งนี้นะคะ เน้นย้ำ!!! พอเราลงไปนะคะ จะมี
มนุษย์ลุงคนนึงค่ะ พูดจาดีค่ะ "มามาลูกพักเหนื่อยก่อน ไปหาป้าเลย ไปไป ไปกินข้าวก่อน" อ่าวเดินตามไปตามคำเชิญที่นุ่มนวลค่ะ แล้วไปเลือกกับข้าว พอเห็นป้าตักกับข้าว ใจอคติทันที เออมันน้อยไปป่าววะ กับราคา แล้วจานน่ะเล็กมากจะบอก!!! จานนี้ 45 บาท พ่อง!!! ใจร่ม ๆ
ตามภาพเลยค่ะยังไม่ได้กิน 45 บาท จานโคตรเล็ก ข้าวน้อย กับน้อย คือไม่ได้อยากกินเยอะ แต่ตกใจราคา ป้าคิดได้ไงเนี่ย นี่ยังไม่ทันขึ้นภู วัตถุดิบไม่น่าหายากป๊ะ!!! พอกินเสร็จ อีมนุษย์ลุงเอาอีกค่ะ "ไปไปลูก ไปหยิบเอาขนมได้เลยนะ ไปไป ไปหยิบสปอนเซอร์เตรียมไว้เลย ขึ้นภูมันเหนื่อย" เออเข้าใจมันเหนื่อยมันน่าซื้อเตรียม แต่คำพูดลุงโคตรจะเนียน !!! เหมือนให้ไปหยิบฟรี อ่ะได้รับประสบการณ์ที่แย่ไปค่ะก่อนขึ้นภู
และแล้วก็ถึงตีนภูค่ะ เวลาประมาณ บ่ายโมง
3 วัน 2 คืน กับชีวิตบนภูกระดึง(วันที่1)
มาถึงปุ๊บจัดก่อนเลยค่ะ เช็คอิน 555 เย้!!! ถึงแล้ววว (ข้างล่างนะ 555)
เอาให้เต็มที่ค่ะข้างล่าง บางคนบอกเลยระหว่างทางอาจจะไม่มีแรงแม้แต่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย 555 อ่อ ด้านหลังจะเห็นเป็นลานจอดรถนะคะ ใครมีรถส่วนตัวเอามาจอดได้เลยค่ะ
รูปบนนี้เป็นขั้นตอนแรก ๆ นะคะ บางคนมาถึงอาจจะงง ๆ ค่ะ เข้าไปติดต่อ เช่าเต้นก่อนเลยอันดับแรก
เต้นละ 225 บาท/คืนแล้วจะได้ใบเสร็จแบบนี้มาค่ะ
เย้!!!พร้อมขึ้นภูแล้ว ฟิต ๆ กระเป๋าคนละ 10 kg สบ๊ายยยยย!!

หลอกค่ะ คือ เรารักษาชีวิตเราเองดีกว่า 555 และสร้างรายได้ให้พี่ลูกหาบเค้าด้วย จัดไปค่ะ 2 คน คนละ 10 kg หน่อย ๆ
รวม 20 kg กิโลกรัมละ 30 บาทนะคะ เอ้าคูณเลยค่ะ ๆ 20x30=600 จ้า T_T ค่าหาบของนี้พี่ลูกหาบเค้าได้โดยตรงเลยค่ะ แต่เสียค่าใบอนุญาตให้กับอุทยานปีละ 1000 มั้งคะ แอบถามพี่เค้าค่ะ เพราะมันเป็นงานที่เหนื่อยและลำบากจริง ๆ ใครว่างงานมาเป็นลูกหาบพราง ๆ ได้นะคะ รอบละ 60-80 kg คูณค่ะคูณรายได้วันละเท่าไหร่ 555 แต่สำหรับเราวันนี้ขึ้นภูตัวเปล่าให้รอดก่อนดีกว่า 555
อันนี้เป็นใบสัมภาระนะคะ เสียเงินเพิ่มอีก ประมาณ 10 บาทมั้งคะ
พร้อมแล้วค่ะ ๆ ไปกันเลย อ๊ะ ๆ ก่อนอื่นตรงทางขึ้น เจ้าหน้าที่เค้าจะสอบถามถึงโรคประจำตัวของเราก่อนเลยค่ะ เพราะบางคนคิดว่าตัวเองไหว แต่...มันค่อนข้างจะเหนื่อยมาก ทางบางช่วงทุลักทุเลพอควรเลยค่ะ ทั้งชัน ทั้งหิน บางช่วงลื่นก็มีค่ะ พอเค้าสอบถามเราเสร็จก็จะให้เซ็นชื่อก่อนค่ะ
ศึกษาเส้นทางคร่าว ๆ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วลุยกันเลยค่ะ ได้เวลาแล้ว เริ่มขึ้นประมาณ บ่ายโมงครึ่งนะคะ กับระยะทางลาดชัน 5.5 km เราจะถึงหลังแป และเดินทางเรียบอีก 3.5 km
รวมเป็น 9 km กว่า ๆ ค่ะ
เตรียมผ้าเช็ดเหงื่อ ยาดม อุปกรณ์ทำแผลที่จะเป็น และน้ำดื่ม จิบระหว่างทางค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งที่เราแนะนำว่ามันสำคัญมากจริง ๆ มันทุ่นแรงได้เยอะมากจริง ๆ ไม่เหนื่อยมาก เรารอดได้เพราะ
ไม้ไผ่ เลยจริง ๆ ค่ะ หาที่พอดีมือนะคะ ลองอันที่เราถนัดค่ะ มันจะกองอยู่ตรงปากทางเลยค่ะ ต้องหาให้เจอนะคะ ^^
อันนี้เป็นพี่ลูกหาบนะคะ อึดมากกกก!!!
800 m แรก "ปางกกค่า" บริเวณนี้เป็นป่าไผ่นะคะ สีสวยมากค่ะ มองออกไปริมทางคือเป็นวิวข้างล่าง ความฟินจึงบังเกิดค่ะ บรรยากาศข้างทางนี่แหละค่ะ ทำให้เราพูดได้อย่างเต็มปากว่า
"ถึงจะโคตรเหนื่อย แต่
โคตรคุ้มเลย" สวยงามมากค่ะ เดินมาแค่นี้เริ่มเหนื่อยแล้วค่ะ 555 ฮึบๆ ๆ ไปต่อเลยค่ะ
200 m ต่อมา "ซำแฮก" แฮกตามชื่อซำค่ะ 555 โอยยย ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้ ซำนี้มีของขายนะคะ สปอนเซอร์คนละขวดเถอะ ราคาของแพงกว่าทั่วไปประมาณ 2-3 เท่านะคะ ยกเว้นแตงโม 555 10 บาท ใช้แทนสปอนเซอร์ได้ค่ะ
อีก 4000 m ที่เหลือ เส้นทางสู่หลังแป ขอสรุปเป็นภาพนี้เลยนะคะ ตามซำต่าง ๆ จะมีร้านค้าขายอาหาร และเครื่องดิ่มค่ะ มีตลอดทางค่ะ อาจไม่มีทุกซำนะคะ และซำที่เห็นเป็นจุดเปลี่ยนธรรมชาติของป่าคือ ซำกกโดนค่ะ จากป่าไผ่ในช่วงแรก เราเริ่มเป็น พวกกล้วย พวกพืชตระกูลข่ามากขึ้นค่ะ ป่าเริ่มชืนมากขึ้นค่ะ
5000 m แรกผ่านไป อ๊ะ ๆ อย่าลืมถ่ายรูปกับป้ายพิชิตภูกระดึงนะคะ 555 แต่อย่าโอ้เอ้เชียว สำหรับคนขึ้นมาบ่าย ขึ้นมาถึง หลังแป ประมาณ 5 โมงครึ่ง เพราะเราเหนื่อยก็พักค่ะ ไม่ฝืน
#พักแป๊นะคะครบ 10000 อีกแล้ว!
[CR] [CR]รีวิว-#รักจัง"เลย"2#-เกิดมาซักครั้งต้องลองวัดใจไปพิชิต "ภูกระดึง" (ฺBy Meng&Meng)
[CR]รีวิว-#รักจัง"เลย"1#-หนาวนี้ทิ้งชีวิตวุ่นวายไป "slow life" ณ เชียงคาน (ฺฺBy Meng&Meng)
ตามลิงค์นี้นะคะ http://pantip.com/topic/34659903/comment7
ทำไมเราถึงเลือกไปที่เชียงคานก่อนภูกระดึง คือ มาภูกระดึง มาเตรียมเหนื่อยเลยค่ะ 555 เราเลยขอชิวทั้งร่างกายและจิตใจกันที่เชียงคานก่อน และแล้วก็คิดถูกจริง ๆ ค่ะ เพราะหลังลงมาจากภูคือ...กูอยากพัก ตื่นสาย ๆ ไปเลยพวก!!! ในเช้าวันรุ่งขึ้น 555 กลัวความเหนื่อยไปทำให้พลาดอะไรดี ๆ ที่เชียงคานค่ะ ถ้าเลือกที่จะมาภูกระดึงก่อน แล้วไปเชียงคาน คุณจะเหมือนอายุมากขึ้นประมาณ 20 ปี ทำไมน่ะหรอ...คือมันไม่ใช่แค่การปวดขาธรรมดา แต่มันปวดร้าวมายันก้นทั้งเบ้า!!! 555 นี่คือคำขู่ของสถานที่แห่งนี้ "ภูกระดึง"
(เดินทางช่วงกลาง ธ.ค.)
สำหรับกระทู้นี้เราขอแบ่งเป็น 3 หัวข้อใหญ่ ๆ นะคะ
พอเราออกจากเชียงคาน มุ่งหน้าเข้าสู่ เมืองเลย โดยขึ้นรถที่ บขส. นครชัยขนส่ง (ปิดประมาณบ่าย 3 โมงครึ่งนะคะ) ถึงเมืองเลยเราเลือกที่จะนอนใกล้ บขส.เลย ก่อนค่ะ 1 คืน เพื่อที่จะหาของกินขึ้นชื่อในเมืองเลยก่อน จากนั้นก็ค่อยเดินทางไปขึ้นภูในตอนประมาณเที่ยง ๆ บ่าย ๆ ค่ะ เราพักกันที่ ม้วนมาณี บูทิค เหมือนเดิมค่ะ จองผ่าน agoda ในราคา ุ690 บาท โอย...ถูกมากค่ะ ตาม GPS เดินจาก บขส. เลยประมาณ 10-15 นาทีค่ะ แต่ทางลัดเลาะซอกซอยหน่อยค่ะ เราไปถึงประมาณ 5 โมงเย็นนะคะ ระหว่างทางที่เราเดิน โชคดีมากค่ะ มีรถคุณตำรวจจอดเห็นเราแบบเป้ใหญ่มาก ของเยอะแยะ เลยถาม "ไปไหนกันน้อง พี่ไปส่ง" น่ารักมากค่ะ ตอนนั้นไม่ดีใจซะทีเดียว เพราะการไปต่างถิ่น เราต้องระวังในใจคิดขอให้เป็นพี่ตำรวจจริง ๆ ด้วยเถิดดดด 555 และแล้วพี่เค้าก็พาเรามาส่งถึงหน้าที่พักค่ะ ต้องบอกว่าเป็น อาณาจักรม้วน เพราะมีหลายม้วนมาก ๆ พอเช็คอินเราก็เอาสัมภาระไปเก็บ คือเปิดมาห้อง!!!!!! แบบว่า ดีงามมากกกกกกก จัดอย่างเป็นระเบียบ ของใช้ใหม่ด้วย สีห้องก็เช่นกันค่ะ ห้องกว้างมาก ห้องน้ำก็กว้างมากเหมือนกันค่ะ กับราคา 690 คือ ดีงามค่ะ เลยรวบภาพมารีวิวให้เค้าซักหน่อยค่ะ ^^
เราไม่รอช้าค่ะ เพราะมันเย็นมากแล้ว หิวค่ะ!!! แต่มันค่อนข้างเย็น บวกกับถ้ายืมจักรยานของที่พัก ปั่นไปมันจะอันตราย เลยให้พนักงานติดต่อรถ สกายแลบให้ค่ะ เราเลือกไปอะไรที่เบสิคสุด ๆ 555 Big C เลย ไปกินข้าวขาหมู (ให้เยอะมากกก) และไปดูหนังค่ะ ตอนนั้นเรื่อง In the Heart of the Sea เข้าค่ะ 555 ฆ่าเวลา คือเป็นโรงหนังอะไรซักอย่างค่ะ ป๊อบคอนกับน้ำถูกมากกก แต่ไม่อร่อยค่ะ 555 สรุปคือหาเรื่องออกมาเสียตังค์แท้ ๆ ดีนะหนังดี ค่ารถ 160 ค่ะ บ๊ะเจ้า!!! เฮ้ยแกรคือมันใกล้นะเหวยยยย!!! แพงอ่ะ ไม่เป็นไรแก้มือใหม่ พรุ่งนี้ ปั่นจักรยานฟรีไป 555
ตื่นเช้าค่ะ ออกหากินกันประมาณ 7 โมง ใคร ๆ เค้าก็ว่า มาเมืองเลยต้องมาโดน "ร้านมะกัน" หาเลยค่ะ เราหาดูแผนที่ตามอินเตอร์เน็ตเลยค่ะ และก็อาศัยถามคนแถวนั้นเอาค่ะ และแล้วก็ถึงค่ะ!!! เย้!! จะบอกว่าที่นี่เค้ามีเลนจักรยานนะคะ แต่รถก็เยอะอยู่ดี 555 หวาดเสียวค่ะ เพราะมีบางช่วงปั่นเข้าวงเวียน
เมนูที่ 2 คือไข่กระทะค่ะ คนละ 1 หน้าตาประมาณนี้ค่ะ
เมนูที่ 3 คือ ขนมปังเมืองเลยค่ะ คนละ 1 ไส้แตกต่างจากเชียงคานค่ะ เป็น
จากนั้นเราก็เลยปั่นจักรยาน พยายามหาร้านอื่น ๆ ค่ะ ไปตามเพื่อน ๆ ที่รีวิวในพันทิพนี้ค่ะ http://pantip.com/topic/32144113 แต่ว่าวันนั้นคือมันเป็นช่วงเช้าค่ะ บางร้านก็อาจจะยังไม่เปิด เลยเปลี่ยนใจปั่นจักรยานเล่นดูบ้านดูเมืองแถวนั้นค่ะ
และแล้วก็ได้เวลาเดินทางค่ะ เราออกจาก บขส. เลย ประมาณ 11 โมงค่ะ และมุ่งหน้าสู่ภูกระดึง ในบขส.เลยไปถามป้าที่ขายตั๋วรถเลยค่ะ บอกเค้าไปภูกระดึง เท่าไหร่นั้น โอยลืมค่ะ รู้แต่ว่ามันไม่แพงค่ะ 555 เป็นรถทัวร์นี่แหละค่ะ รถทัวร์นี้จะพาเราไปส่งต่อให้กับท่ารถเล็ก ๆ ค่ะ เหมือนเป็นที่รับผู้โดยสารต่อจากรถทัวร์นี้ ไปขึ้นรถ 2 แถว เพื่อไปภูกระดึงค่ะ ค่ารถ 2 แถวนี้คนละ 30 บาทนะคะ
คำเตือน!!! ของที่แห่งนี้นะคะ เน้นย้ำ!!! พอเราลงไปนะคะ จะมีมนุษย์ลุงคนนึงค่ะ พูดจาดีค่ะ "มามาลูกพักเหนื่อยก่อน ไปหาป้าเลย ไปไป ไปกินข้าวก่อน" อ่าวเดินตามไปตามคำเชิญที่นุ่มนวลค่ะ แล้วไปเลือกกับข้าว พอเห็นป้าตักกับข้าว ใจอคติทันที เออมันน้อยไปป่าววะ กับราคา แล้วจานน่ะเล็กมากจะบอก!!! จานนี้ 45 บาท พ่อง!!! ใจร่ม ๆ
ตามภาพเลยค่ะยังไม่ได้กิน 45 บาท จานโคตรเล็ก ข้าวน้อย กับน้อย คือไม่ได้อยากกินเยอะ แต่ตกใจราคา ป้าคิดได้ไงเนี่ย นี่ยังไม่ทันขึ้นภู วัตถุดิบไม่น่าหายากป๊ะ!!! พอกินเสร็จ อีมนุษย์ลุงเอาอีกค่ะ "ไปไปลูก ไปหยิบเอาขนมได้เลยนะ ไปไป ไปหยิบสปอนเซอร์เตรียมไว้เลย ขึ้นภูมันเหนื่อย" เออเข้าใจมันเหนื่อยมันน่าซื้อเตรียม แต่คำพูดลุงโคตรจะเนียน !!! เหมือนให้ไปหยิบฟรี อ่ะได้รับประสบการณ์ที่แย่ไปค่ะก่อนขึ้นภู
และแล้วก็ถึงตีนภูค่ะ เวลาประมาณ บ่ายโมง
รูปบนนี้เป็นขั้นตอนแรก ๆ นะคะ บางคนมาถึงอาจจะงง ๆ ค่ะ เข้าไปติดต่อ เช่าเต้นก่อนเลยอันดับแรก เต้นละ 225 บาท/คืนแล้วจะได้ใบเสร็จแบบนี้มาค่ะ
รวม 20 kg กิโลกรัมละ 30 บาทนะคะ เอ้าคูณเลยค่ะ ๆ 20x30=600 จ้า T_T ค่าหาบของนี้พี่ลูกหาบเค้าได้โดยตรงเลยค่ะ แต่เสียค่าใบอนุญาตให้กับอุทยานปีละ 1000 มั้งคะ แอบถามพี่เค้าค่ะ เพราะมันเป็นงานที่เหนื่อยและลำบากจริง ๆ ใครว่างงานมาเป็นลูกหาบพราง ๆ ได้นะคะ รอบละ 60-80 kg คูณค่ะคูณรายได้วันละเท่าไหร่ 555 แต่สำหรับเราวันนี้ขึ้นภูตัวเปล่าให้รอดก่อนดีกว่า 555
พร้อมแล้วค่ะ ๆ ไปกันเลย อ๊ะ ๆ ก่อนอื่นตรงทางขึ้น เจ้าหน้าที่เค้าจะสอบถามถึงโรคประจำตัวของเราก่อนเลยค่ะ เพราะบางคนคิดว่าตัวเองไหว แต่...มันค่อนข้างจะเหนื่อยมาก ทางบางช่วงทุลักทุเลพอควรเลยค่ะ ทั้งชัน ทั้งหิน บางช่วงลื่นก็มีค่ะ พอเค้าสอบถามเราเสร็จก็จะให้เซ็นชื่อก่อนค่ะ
ศึกษาเส้นทางคร่าว ๆ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วลุยกันเลยค่ะ ได้เวลาแล้ว เริ่มขึ้นประมาณ บ่ายโมงครึ่งนะคะ กับระยะทางลาดชัน 5.5 km เราจะถึงหลังแป และเดินทางเรียบอีก 3.5 km รวมเป็น 9 km กว่า ๆ ค่ะ เตรียมผ้าเช็ดเหงื่อ ยาดม อุปกรณ์ทำแผลที่จะเป็น และน้ำดื่ม จิบระหว่างทางค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งที่เราแนะนำว่ามันสำคัญมากจริง ๆ มันทุ่นแรงได้เยอะมากจริง ๆ ไม่เหนื่อยมาก เรารอดได้เพราะ ไม้ไผ่ เลยจริง ๆ ค่ะ หาที่พอดีมือนะคะ ลองอันที่เราถนัดค่ะ มันจะกองอยู่ตรงปากทางเลยค่ะ ต้องหาให้เจอนะคะ ^^
800 m แรก "ปางกกค่า" บริเวณนี้เป็นป่าไผ่นะคะ สีสวยมากค่ะ มองออกไปริมทางคือเป็นวิวข้างล่าง ความฟินจึงบังเกิดค่ะ บรรยากาศข้างทางนี่แหละค่ะ ทำให้เราพูดได้อย่างเต็มปากว่า "ถึงจะโคตรเหนื่อย แต่
200 m ต่อมา "ซำแฮก" แฮกตามชื่อซำค่ะ 555 โอยยย ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้ ซำนี้มีของขายนะคะ สปอนเซอร์คนละขวดเถอะ ราคาของแพงกว่าทั่วไปประมาณ 2-3 เท่านะคะ ยกเว้นแตงโม 555 10 บาท ใช้แทนสปอนเซอร์ได้ค่ะ
อีก 4000 m ที่เหลือ เส้นทางสู่หลังแป ขอสรุปเป็นภาพนี้เลยนะคะ ตามซำต่าง ๆ จะมีร้านค้าขายอาหาร และเครื่องดิ่มค่ะ มีตลอดทางค่ะ อาจไม่มีทุกซำนะคะ และซำที่เห็นเป็นจุดเปลี่ยนธรรมชาติของป่าคือ ซำกกโดนค่ะ จากป่าไผ่ในช่วงแรก เราเริ่มเป็น พวกกล้วย พวกพืชตระกูลข่ามากขึ้นค่ะ ป่าเริ่มชืนมากขึ้นค่ะ
5000 m แรกผ่านไป อ๊ะ ๆ อย่าลืมถ่ายรูปกับป้ายพิชิตภูกระดึงนะคะ 555 แต่อย่าโอ้เอ้เชียว สำหรับคนขึ้นมาบ่าย ขึ้นมาถึง หลังแป ประมาณ 5 โมงครึ่ง เพราะเราเหนื่อยก็พักค่ะ ไม่ฝืน
#พักแป๊นะคะครบ 10000 อีกแล้ว!