-------- สงสาร ปนสมเพช สลิ่ม บางตัวป่วยทางจิตเภท (Schizophrenia) ไม่รู้ตัว -----

ในขณะที่ทุกคนกำลัง ง่วนเซียงสนทนาปากท้อง ชีวิตประจำวัน
เรื่องความเป็นอยู่ ของชีวิต เศรษฐกิจที่บางคนเพี้ยนบอกว่า
เศรษฐกิจกำลังเป็นไปในทิศ ทางที่ดีขึ้น เป็นเศรษฐกิจขาขึ้น

ผู้เดือดร้อน หลายคนก็สวนกลับทันควันว่า พวกบ้า เพี้ยนจนสติแตก
คงจะเป็นขาขึ้นที่คนพวกนี้พูดกันจริง ๆ คือ"ขาขึ้นมาก่ายหน้าฝาก"

ทุกวันจะเห็นข่าวจาก ทีวี ข่าวจาก นสพ. หัวสี ขึ้นหน้าหนึ่ง บ้างก็ชาวสวนยางผูกคอตาย
บ้างก็ชาวนาผูกคอตาย จนแทบจะเป็น "เทรนด์ใหม่"ในการฆ่าตัวตาย
เหตุ เพราะราคาสินค้าเกษตร ทั้งข้าว ทั้งยางพาราตกดิ่งลงเหว
เป็นที่เศร้าสะเทือนใจแก่ผู้อ่านข่าว......

..แต่ทุก ๆ วันในกระดานราชดำเนินแห่งนี้ ก็จะมีสลิ่มตาบอด บอกว่า ชีวิตดีดี
อะไรก็ดีดี  ดีไปหมด ธุรกิจกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี๊ดี ใครที่บอกว่าไม่ดีตามที่สลิ่มเพี้ยนตัวนี้บอก
http://pantip.com/topic/34661510  ก็ไล่ให้เขาไปหาหมอ ไปบำบัดว่าไปโน่น คนที่เห็นได้อ่านสลิ่มตาบอดตัวนี้ออกมาทีไร
ต่างเบือนหน้าหนี เอือมระอากับพฤติกรรมบ้า ๆ บอ ๆ ของสลิ่มตัวบอดตัวนี้...
ทุก ๆ วันสลิ่มตาบอดก็จะออกมาอวดร่ำอวดรวยแก่เพื่อนบ้างหล่ะ นัยหนึ่งก็หวังเพื่อให้เพื่อน ๆ ชาวราชดำเนิน
อิจฉาเล่น  คนที่มีความคิด มีมันสมองก็คงไม่อิจฉานะผมว่า แต่ส่วนมากจะสมเพชกับพฤติกรรมมากกว่า

เผอิญผมสงสาร ปนสมเพช ก็เลยไปหา รายละเอียดและพฤติกรรมที่สลิ่มตาบอดตัวนี่เป็น
เลยก็อปมาฝาก เผื่อสลิ่มตาดี หรือผู้มีจิตใจเป็นบุญเป็นกุศลจะได้พาเขาไปรักษาไปบำบัด เอาบุญบ้าง
ผมว่า สลิ่มตาบอดตัวนี้น่าจะเป็นโรคนี้นะครับ..หรือ( คุณหมอตงฟาน วินิจฉัยว่าเป็นโรคไรครับ )

โรคจิตเภท (Schizophrenia)
144
โรคจิตเภท คืออะไร
                  โรคจิตเภท (Schizophrenia) คือ กลุ่มอาการของโรคที่มีความผิดปกติของความคิด ทำให้ผู้ป่วยมีความคิดและการรับรู้ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้มีผลเสียต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การดูแลตัวเอง การใช้ชีวิตในสังคม ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเริ่มเป็นเมื่ออายุประมาณ 14-16 ปี หรือช่วงปลายวัยรุ่น โรคนี้พบได้ ประมาณร้อยละ 1 ของประชากร

โรคจิตเภท เกิดจากอะไร

        เชื่อว่ามีสาเหตุมาจากทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ดังนี้

ด้านร่างกาย
ทางพันธุกรรม ยิ่งมีความใกล้ชิดทางสายเลือดกับผู้ป่วยมากยิ่งมีโอกาสสูง
จากความผิดปกติของสมอง โดยสารเคมีในสมองมีความผิดปกติและจากโครงสร้าง
 ของสมองบางส่วนที่มีความผิดปกติเล็กน้อย

ด้านจิตใจ
         จากความเครียดในชีวิตประจำวัน เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเจ็บป่วย
         การใช้อารมณ์กับผู้ป่วย การตำหนิ มีท่าทีที่ไม่เป็นมิตรหรือจู้จี้ยุ่งเกี่ยวกับผู้ป่วยมากไปก็มีผลต่อการกำเริบของโรคได้



โรคจิตเภท มีอาการอย่างไร
อาการเริ่มต้น
        อาการเริ่มต้น อาจเกิดในแบบเฉียบพลันทันที หรือเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ในกรณีที่อาการเริ่มต้นเป็นแบบค่อย เป็นค่อยไป จะมีอาการเริ่มต้นอย่างช้าๆ อาจมีอาการสับสน มีความรู้สึกแปลกๆ ไม่อยู่ในความเป็นจริง อาการ จะค่อยๆ มากขึ้น ทำให้ครอบครัวและคนรอบข้างรู้สึกว่าผู้ป่วยเปลี่ยนไปจากบุคลิกภาพเดิม อาทิเช่น แยกตัว ไม่อยากสุงสิงกับใครมีอาการ ระแวงคนอื่น มีปัญหาการนอนหลับ ไม่สามารถรับผิดชอบหน้าที่การงาน การเรียน ได้เหมือน ปกติ ค่อยๆ หมดความสนใจ สิ่งต่างๆ รอบตัว รวมถึง การดูแลสุขภาพอนามัยส่วนตัว
        อาการเหล่านี้ เป็นอาการเริ่มต้นที่ช่วยเตือนว่า อาจจะมีการเริ่มต้นของโรคจิตเภทแล้ว สิ่งที่สำคัญที่ควรทำ คือ การ ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการบำบัดรักษาแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดีกว่าการปล่อยไว้นานจนเป็นการเจ็บป่วยเรื้อรัง
ลักษณะอาการแบ่งออกได้ 2 กลุ่ม คือ

   1. กลุ่มอาการที่เพิ่มมากกว่าคนปกติทั่วไป ได้แก่

อาการหลงเชื่อผิด เป็นความเชื่อของผู้ป่วยที่ผิดไปจากความเป็นจริง เช่น คิดว่าคนอื่นจะมาทำร้าย ระแวงว่าตนจะถูกวางยาพิษ คิดว่าตนส่งกระแสจิตได้
ความคิดผิดปกติ ผู้ป่วยคิดแบบมีเหตุผลอย่างต่อเนื่องไม่ได้ ทำให้คุยกับคนอื่นไม่เข้าใจ ผู้ป่วยมักพูดไม่เป็นเรื่องราว พูดไม่ต่อเนื่อง เปลี่ยนเรื่องพูดโดยไม่มีเหตุผล
ประสาทหลอน โดยผู้ป่วยคิดว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ ความจริงไม่มีสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น เช่น ได้ยินเสียงคนมาพูดด้วยทั้งๆ ที่ไม่มีใครพูดด้วย (หูแว่ว) มองเห็นวิญญาณ (เห็นภาพหลอน)
มีพฤติกรรมผิดปกติ โดยมักเกี่ยวข้องกับความคิดและความเชื่อที่ผิดปกติ เช่น ทำร้ายคนอื่น อยู่ในท่าแปลกๆ    ซ้ำๆ หัวเราะหรือร้องไห้สลับกันเป็นพักๆ

2. กลุ่มอาการที่ขาดหรือบกพร่องไปจากคนปกติทั่วไป ได้แก่


เก็บตัว ซึม ไม่อยากพบปะผู้คน แยกตัวเอง
ไม่ดูแลตัวเอง ไม่สนใจเรื่องการแต่งกาย กลางคืนไม่นอน
ไม่มีความคิดริเริ่ม เฉื่อยชาลง ไม่ทำงาน นั่งเฉยๆ ได้ทั้งวัน ผลการเรียนหรือการทำงานตกต่ำ
พูดน้อย ใช้เวลานานกว่าจะตอบ พูดจาไม่รู้เรื่อง เนื้อความไม่ปะติดปะต่อกัน
การแสดงออกทางอารมณ์ลดลงมาก ไร้อารมณ์ มักมีสีหน้าเฉยเมย ไม่มีอาการยินดียินร้าย

ในระยะอาการกำเริบ อาการส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาการที่เพิ่มมากกว่าคนปกติทั่วไป ส่วนกลุ่มอาการที่ ขาดหรือบกพร่องไป
จากคนปกติทั่วไปมักพบในระยะ หลังโรค หากท่านหรือผู้ใกล้ชิดมีอาการดังกล่าว ควร รีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา

โรคจิตเภท มีการดูแลรักษาอย่างไร

การรักษาด้วยยา เพื่อควบคุมอาการและลดการกำเริบซ้ำของโรค
การฟื้นฟูสภาพจิตใจ โดยฝึกการเข้าสังคมและให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย
การทำจิตบำบัด โดยผู้เชี่ยวชาญพูดคุยกับผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจตนเองและปัญหาของตนเองมากขึ้น
ครอบครัวบำบัด โดยแพทย์เป็นผู้ให้ความรู้ในเรื่องโรคและสิ่งที่ญาติควรปฏิบัติต่อผู้ป่วย
กลุ่มบำบัด เป็นการจัดกิจกรรมกลุ่มระหว่างผุ้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยมีเพื่อนคอยสนับสนุนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

หลักทั่วไปในการดูแลผู้ป่วย
ข้อควรทำ

เข้าใจผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยไม่ได้ตั้งใจสร้างความรำคาญเดือดร้อน จึงควรให้อภัยไม่ถือโทษผู้ป่วย ไม่ควรโต้เถียงกับ ผู้ป่วยเกี่ยวกับอาการทางจิต แต่ควรแสดงความเห็นใจในความทุกข์ที่ผู้ป่วยได้รับจากอาการทางจิต รวมทั้งเสนอความ ช่วยเหลือด้วยความอดทน
กระตุ้น แต่ไม่บังคับ ความเครียดมีส่วนทำให้โรคจิตเภทกำเริบได้ จึงไม่ควรมุ่งหวังหรือผลักดันผู้ป่วยมากเกินไป แต่การปล่อยปละละเลยก็ทำให้อาการแย่ลงได้เช่นกัน
ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ กระตุ้นแต่ไม่บังคับ เช่น กระตุ้นให้ผู้ป่วยช่วยเหลือตนเอง ช่วยทำงานบ้านอย่างง่ายๆ โดยไม่ใช้การบังคับ และควรหลีกเลี่ยงการตำหนิติเตียนผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น
ดูแลผู้ป่วย การดูแลผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญ จึงควรให้ความดูแลผู้ป่วยเรื่องการกินยาให้ครบ รวมทั้งการดูแลที่เหมาะสมต่อไป
144
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่