คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 30
บางท่านบอกว่าบริจาคร่างกาย ก็ใช่ครับ แต่ทว่าอันนี้ก็ต้องมีเงื่อนไขว่าท่านตายในโรงพยาบาล หรือสถานที่อื่นใดที่มีคนรู้ว่าท่านตายนะครับ
แต่จะบอกว่าถ้าเผอิญว่านอนตายในห้อง ในบ้าน ในคอนโดคนเดียว และไม่มีใครรู้เลยทั้งเพื่อน ทั้งญาติที่พอจะมี จนขึ้นอืด 3 วัน 7 วัน ผ่านไปแล้ว ถึงมีคนมาเห็นเพราะสงสัย หรือเพราะได้กลิ่น เขาอาจจะไม่รับนะครับ ที่บริจาคร่างกายไว้หน่ะ
บางทีหลายคนอาจจะมองว่า ช่างมันสิก็ตายไปแล้ว จะสนใจอะไรเพราะตอนนั้นไม่ได้มีตัวตนแล้ว แต่ก็น่าคิดในแง่ว่า เราก็เป็นภาระกับคนอื่นอยู่นะครับ มาขึ้นอืดในคอนโด หอพัก งี้ ห้องข้างๆมีหลอนแน่ๆ
แต่จะบอกว่าถ้าเผอิญว่านอนตายในห้อง ในบ้าน ในคอนโดคนเดียว และไม่มีใครรู้เลยทั้งเพื่อน ทั้งญาติที่พอจะมี จนขึ้นอืด 3 วัน 7 วัน ผ่านไปแล้ว ถึงมีคนมาเห็นเพราะสงสัย หรือเพราะได้กลิ่น เขาอาจจะไม่รับนะครับ ที่บริจาคร่างกายไว้หน่ะ
บางทีหลายคนอาจจะมองว่า ช่างมันสิก็ตายไปแล้ว จะสนใจอะไรเพราะตอนนั้นไม่ได้มีตัวตนแล้ว แต่ก็น่าคิดในแง่ว่า เราก็เป็นภาระกับคนอื่นอยู่นะครับ มาขึ้นอืดในคอนโด หอพัก งี้ ห้องข้างๆมีหลอนแน่ๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 34
ในกรณีที่แก่แล้ว ไม่มีภาระนุ่นนี้ที่ต้องออกไปข้างนอกแล้ว
ผมว่าให้หาอะไรทำที่เป็นรูทีน เป็นประจำทุกวันให้คนอื่นเห็นครับ
เช่น ลงไปเดินสวนหน้าคอนโดทุกเช้า 6 โมง กินลมสูดอากาศ หรือลงไปนั่งที่ห้องล็อบบี้ทุกวัน 7 โมง สัก 15 นาทีก็ค่อยขึ้น
หรือเช่น ใส่บาตรทุกเช้าตอนตีห้าครึ่ง ไรแบบนี้ครับ
แบบนี้เราจะได้ทำกิจกรรมเบาๆ แบบเบามากๆสำหรับคนแก่มากที่พอขยับตัวไปไหนได้ นั่งรถเข็นลงไปก็ได้ (ถึงตอนนั้นก็คงมีรถเข็นที่แบบอัตโนมัติกดปุ่มไฟฟ้าเลื่อนได้แบบชาร์ลเซเวียในเอ็กซเม็น ไม่ต้องให้คนเข็น)
แต่ผมว่าน่าจะทำอีกแบบนึงด้วยครับ คือ
หาเพื่อนที่โสดด้วยกัน แล้วนัดกันทำรูทีนอะไรบางอย่าง
เช่น หารกันจ้างคนขับรถตู้มารับส่งไปสวนสาธารณะกับเพื่อน วันเว้นวัน (ทุกวันคงถี่ไป/ห่างนานไปก็ศพอืด) หรือนัดกันว่า ทุกวันตอนเช้าจะส่งภาพดอกไม้สวัสดีวันจันทร์ ถ้าเน็ตพังก็โทรไปหาแทน
ทั้งหมดนี้จะเกิดรูทีนให้คนอื่นเห็นครับ ถ้ารูทีนขาดไป ให้ส่งสัยไว้ว่า ตายแล้ว
เงินทั้งหมดก็ฝากไว้ที่เพื่อนไว้ครับ
ผมว่าต่างประเทศเขาดีมากเลย มีกิจกรรมสำหรับคนแก่ตลอดเวลา มีสวัสดิการต่างๆที่สนับสนุน เช่น สวนสาธารณะ อย่างที่ปักกิ่งงี้ สวนสาธารณะเนียะคนแก่เขาเข้าฟรี คนแก่เขาก็เข้าไปจับกลุ่มกันร้องเพลง รำดาบ เล่นไพ่ เล่นดนตรี กิจกรรมเยอะเลยครับ ผมเลยคิดว่า ตอนเรายังหนุ่มสาวแบบนี้ เรามาผลักดันให้เกิดสวัสดิการและวัฒนธรรมการรวมกลุ่มของคนแก่ให้เกิดขึ้นกับรุ่นพ่อแม่ปุ่ย่าตายายเราดีกว่าครับ ให้มีวัฒนธรรมแบบนี้ขึ้นมาให้ได้ คนแก่จะได้ไม่เฉา ไม่อยู่คนเดียว เราเองแก่ไปก็จะได้ไม่เฉาด้วยครับ
ผมว่าให้หาอะไรทำที่เป็นรูทีน เป็นประจำทุกวันให้คนอื่นเห็นครับ
เช่น ลงไปเดินสวนหน้าคอนโดทุกเช้า 6 โมง กินลมสูดอากาศ หรือลงไปนั่งที่ห้องล็อบบี้ทุกวัน 7 โมง สัก 15 นาทีก็ค่อยขึ้น
หรือเช่น ใส่บาตรทุกเช้าตอนตีห้าครึ่ง ไรแบบนี้ครับ
แบบนี้เราจะได้ทำกิจกรรมเบาๆ แบบเบามากๆสำหรับคนแก่มากที่พอขยับตัวไปไหนได้ นั่งรถเข็นลงไปก็ได้ (ถึงตอนนั้นก็คงมีรถเข็นที่แบบอัตโนมัติกดปุ่มไฟฟ้าเลื่อนได้แบบชาร์ลเซเวียในเอ็กซเม็น ไม่ต้องให้คนเข็น)
แต่ผมว่าน่าจะทำอีกแบบนึงด้วยครับ คือ
หาเพื่อนที่โสดด้วยกัน แล้วนัดกันทำรูทีนอะไรบางอย่าง
เช่น หารกันจ้างคนขับรถตู้มารับส่งไปสวนสาธารณะกับเพื่อน วันเว้นวัน (ทุกวันคงถี่ไป/ห่างนานไปก็ศพอืด) หรือนัดกันว่า ทุกวันตอนเช้าจะส่งภาพดอกไม้สวัสดีวันจันทร์ ถ้าเน็ตพังก็โทรไปหาแทน
ทั้งหมดนี้จะเกิดรูทีนให้คนอื่นเห็นครับ ถ้ารูทีนขาดไป ให้ส่งสัยไว้ว่า ตายแล้ว
เงินทั้งหมดก็ฝากไว้ที่เพื่อนไว้ครับ
ผมว่าต่างประเทศเขาดีมากเลย มีกิจกรรมสำหรับคนแก่ตลอดเวลา มีสวัสดิการต่างๆที่สนับสนุน เช่น สวนสาธารณะ อย่างที่ปักกิ่งงี้ สวนสาธารณะเนียะคนแก่เขาเข้าฟรี คนแก่เขาก็เข้าไปจับกลุ่มกันร้องเพลง รำดาบ เล่นไพ่ เล่นดนตรี กิจกรรมเยอะเลยครับ ผมเลยคิดว่า ตอนเรายังหนุ่มสาวแบบนี้ เรามาผลักดันให้เกิดสวัสดิการและวัฒนธรรมการรวมกลุ่มของคนแก่ให้เกิดขึ้นกับรุ่นพ่อแม่ปุ่ย่าตายายเราดีกว่าครับ ให้มีวัฒนธรรมแบบนี้ขึ้นมาให้ได้ คนแก่จะได้ไม่เฉา ไม่อยู่คนเดียว เราเองแก่ไปก็จะได้ไม่เฉาด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
คนโสดแบบอยู่คนเดียวไม่มีญาตพี่น้องวางแผนจัดงานศพตัวเองอย่างไรคะ ?
คนโสดแบบ ต้องอยู่คอนโดคนเดียว บ้านคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้อง ตัวคนเดียว
ในวันที่เจ็บป่วยใกล้ตาย จะนั่ง Taxi ไปตายที่ ร.พ. หรือ นั่งไปวัด เลยดีคะ
วางแผนชีวิตกันอย่างไร เพราะตอนนี้ อายุก็ 30 กว่าๆ แล้ว พ้นวัยจะไปมองหาใครแล้ว
และมีความรู้สึกว่า เริ่มเจ็บป่วย ไม่สบายก็บ่อย เคยไปเที่ยวต่างประเทศมาคนเดียว พอกลับมาคอนโด ป่วยหนักเกือบตาย
ต้องลากสังขาร ตัวเองขึ้น Taxi ไปนอน ร.พ. จากนั้นมา ก็เลยเริ่มคิด ว่าชีวิตคนเรามันสั้น จะตายวันไหนก็ไม่รู้
วันนึงสุดท้าย เราก็ต้องตาย "เกิดมาคนเดียว ตายคนเดียว" เป็นเรื่องปกติ
เลยอยากจะถามคนโสดที่ไม่คิดจะมีครอบครัว อยู่คนเดียว มีแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรคะ
จะนอนตายอืดคาคอนโด ก็สงสารเพื่อนร่วมตึก จะไปอยู่บ้านพักคนชรา ก็ไม่อยากเป็นภาระใคร
เพื่อนๆ วางแผนให้ใครจัดงานศพให้คะ หรือ พอรู้ว่า ใกล้ตาย เราจะหนีไปอยู่ในถ้ำ ในป่า ให้ย่อยสลายไปเองตามธรรมชาติ
จริงๆ อยากให้ทาง Facebook มีระบบคนโสด แจ้งเตือน ไม่ Up Status ภายใน 3 วัน ให้แจ้งเตือนเพื่อนๆ ใน Facebook
ว่าตายแล้ว มาดูที่ห้องหน่อยงี้
บางทีก็ไม่อยากแบบว่า นอนไม่สบายอยู่ที่ห้อง แล้วไม่ตื่นมาอีกเลย แบบนอนอืดในห้องอยู่ 3 วัน จน นิติฯ ต้องมาพังประตู
สงสารเพิ่มร่วมคอนโดจังเลยค่ะ กลัวเค้าหลอน !!! ราคาคอนโดก็จะตก ขายต่อก็ไม่ได้ราคา เป็นบาป ต่อเพื่อนรวมตึก
จะเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว ถ้าเราตายไปกระทันหัน ก็สงสารมันนะคะ ถูกขังไว้ในห้องด้วยกัน
มันคงหิว แล้วก็มาแทะเราอีก สงสารมัน
สุดท้ายขอเข้าเรื่องดราม่าเล็กๆ มีชีวิตอยู่ รักใครให้บอก คิดถึงใครให้ไปหา อยากทำดีกับใครให้รีบทำ
ชีวิตเราจะอยู่ถึงวันไหนไม่รู้ จะสมหวังหรือไม่ก็ช่างมัน ในวันที่เรากลับจากไปเที่ยวมาแล้ว นอนป่วยหนักที่คอนโด
คิดว่าตัวเองจะตายแล้วตอนนั้น โอกาสจะร่ำลา คนที่เราอยากจะลา ไม่มีโอกาสเลยด้วยซ้ำ
ใครมีวิธี สวยๆ น่ารักๆ วาวแผนกันอย่างไร แนะนำกันบ้างนะคะ เราต้องตายอย่างมีสติ และ สตรอง ค่ะ
พอเริ่มจะชักลิ้นจุกปาก เห็นยมฑูต มายืนรอปลายเตียงแล้ว ให้รีบคลานไปเปิดประตูห้อง นอนขวางไว้ค่ะ
ยังไงต้องมีคนเห็นแน่ๆ ไม่อืดคาห้องแน่ๆ
ปอลิง ภาพประกอบเหมียวๆ จากคุณ LingZon ยืมมา
ปล.อย่าบอกให้ไปบริจาค ร่างกายนะคะ เผื่อเน่าแล้วมา 48 ช.ม.
ปล.2 จริงๆ เรามีเพื่อนที่สนิทกันมากๆ 5-6 คน ยังไงก็ไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่าวันนึง เพื่อนมันก็ต้องไปมีครอบครัว
มีลูกมีหลาน เราก็ไม่อยากจะไปกวนอะไรเค้ามากมาย
ถึงวันนึงเราป่วยตาย ไม่สบาย ก็คงต้องเพิ่งพาเค้านี่แหละ แต่ ตอนนี้ ต่างคนต่างทำงาน แยกย้ายไปกันคนละที่
แต่อัพเดทกันตลอด ยังคอยบอกกันตลอด ใครเป็นอะไรไปก่อนฝากด้วยนะ อย่างน้อยเราก็ยังมีคนรอบข้างดีๆ ค่ะ ^^
ปล.3 บางคนมาตอบ เหมือนอ่านแค่ บรรทัดแรก อ่านผ่านๆ ยังไม่เข้าใจประเด็น
พยายามจะสื่อว่า ตายแล้วยังมาห่วงร่างตัวเองอยู่ทำไม จะตายแล้วยังจะมีปัญหาอีก ไม่มีใครรักหรอ >>>> ขวางโลกค่ะ
ตายเมื่อไหร่ จะชวนพวกนี่ไปอยู่ด้วยให้หมด !!!!! ยิ่งบางคน มาแช่งบอกว่า ตั้งกระทู้นี่อยากจะตายไวๆ หรอ >>> ปากแมวเนอะ!!!!!
ลองอ่านดีๆ นะคะ เราหมายถึงคนเรา แคร์ เราห่วง คนรอบข้าง คนข้างห้อง คนร่วมตึก ที่มีคนอืดนอนตายอยู่
บางคนก็มาบอกว่า จะไปห่วงความรู้สึกคนอื่นทำไม ตายไป แล้ว >>>>> สังคม เราสังมีจิตสำนึกส่วนรวม น้อยมากกกก คิดถุงแต่ตัวเองเป็นหลัก ใช่ไหม ??? พูดเอาฮานะ ไม่ต้อง Comment เรียนเชิญไปพบจิตแพทย์อีกนะ ไม่ไปๆๆๆ 555+