คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 51
ขิม คือเครื่องดนตรี
เป็นสัมภาระอนุญาตพิเศษ ไม่นับเป็นกระเป๋านะคะ
ขนาดไม่เกิน 1 เมตร
ขิมทั่วไปขนาดประมาณ 80 cm ค่ะ
และ ถ้าจะเถียงว่า ผดสใส่กระเป๋ามา
เครื่องดนตรีต้องอยู่ในเคส หรือหีบห่อกันกระแทกที่เหมาะสมค่ะ
จริงๆ ควรให้โหลดหน้าเกทด้วยค่ะ
การบินไทย เครื่องดนตรีไทย ก็เป็นเครื่องดนตรีนะคะ!
ดิทเพิ่ม เนื่องจากคำถาม เพื่อจะได้ไม่ต้องวนไปมานะคะ
เอามาจากไหน
คือ
Special Baggage
Sport/Special Baggage Determination on Special Unit price (Flat Rates) either Weight (within TC3, between TC2 and TC3) or Piece Concept (to/from USA/Canada) for tickets issued on/after 16Dec2013
One portable musical instrumentYes
Note : If the item not exceeding 100cm (39 inches) in length
If it exceeds the allowance apply Special Unit price (Flat Rates).
http://www.thaiairways.com/en/plan_my_trip/travel_information/Baggage.page
เจ้าของกระทู้มีของรวม 89 kg และ จากที่บอกวา่ LH ก็ให้ 5 ใบ ค่ะ
ในคหสต ตามที่อ่าน ไม่ใช่สัมภาระปกติ คือ ไม่ใช่ luggage ค่ะ
เป็นพวก เครื่องดนตรี อุปกรณ์ดำน้ำ อุปกรณ์ตกปลา ถุงกอล์ฟ เครื่องกีฬา จักรยาน ฯลฯ ค่ะ
ซึ่งตามตารางในลิงค์ นำไปได้ฟรีถ้าน้ำหนักรวม ไม่เกิน ซึ่งของจทกท ไม่เกิน
สำหรับจำนวนชิ้น เข้าใจว่าได้ 5 ชิ้นจากที่จขกท ได้ขออนุญาต LH แล้ว
เครื่องดนตรีขนาดไม่เกิน 1 เมตร อาจหิ้วขึ้นเครื่องได้ด้วย เหมือนกีต้าร์ที่บางไฟลท์ก็อาจจะได้
โดยฝากเก็บในตู้
กรณีจขกท เดินทางไกลมาก ถ้ามีกระเป๋าหิ้วกันคนละใบ สามารถแบ่งของใส่โหลดกับใบที่ยังไม่เต็ม
แล้วถือขิมขึ้นเครื่องไปเป็นแครี่หนึ่งใบ โดยอนุโลมขนาดความยาวเกินกระเป๋าหิ้วปกติแต่ไม่เกิน 100 ซม. น่าจะได้ อันนี้ คหสตค่ะ
ถ้าใครจะนำเครื่องดนตรีขึ้น ก็ลองโทรติดต่อแจ้งคอลเซ็นเตอร์ก่อนจะดีกว่าค่ะ
คหสต เห็นว่า ถ้าหิ้วขึ้นเครื่องไม่ได้ ควรโหลดหน้าเครื่องเพราะอาจแตกหักได้ง่ายค่ะ หรือบางคนโหลดกีค้าร์ก็ต้องมีเคสแข็งค่ะ
ดิทเพิ่ม กรณี LT นะคะ
เครื่องดนตรีที่หิ้วขึ้นได้ ขนาดตามที่ระบุในรูป ให้หิ้วขึ้น ขนาดต่างจากนี้ให้ติดต่อเซอร์วิสทีม
ซึ่ง ขิมเป็นขนาดที่หิ้วได้ แต่ต่างจากที่ระบุ ก็ขอไปก่อนบินค่ะ ส่วนขนาดโหลด LT คิดเงินค่ะ ชิ้นใหญ่ต้องซื้อซีทให้ค่ะ

ถ้าจะมีสัมภาระพิเศษไป ก็ติดต่อสายการบินก่อนค่ะ
ป.ล. กรณี จขกท ถ้าถือตาม LT วัดขนาดขิมแล้วเห็นว่าเกิน จขกท ก็น่าจะโหลดได้แบบ 5 ชิ้นตามสิทธิซิลเวอร์สิคะ โดยคนนึงไม่ต้องเช็คธรู
คำเตือน ใครจะนำเครื่องดนตรีขึ้นก็โทรคอลเซ็นเตอร์สายการบินก่อนค่ะ
เป็นสัมภาระอนุญาตพิเศษ ไม่นับเป็นกระเป๋านะคะ
ขนาดไม่เกิน 1 เมตร
ขิมทั่วไปขนาดประมาณ 80 cm ค่ะ
และ ถ้าจะเถียงว่า ผดสใส่กระเป๋ามา
เครื่องดนตรีต้องอยู่ในเคส หรือหีบห่อกันกระแทกที่เหมาะสมค่ะ
จริงๆ ควรให้โหลดหน้าเกทด้วยค่ะ
การบินไทย เครื่องดนตรีไทย ก็เป็นเครื่องดนตรีนะคะ!
ดิทเพิ่ม เนื่องจากคำถาม เพื่อจะได้ไม่ต้องวนไปมานะคะ
เอามาจากไหน
คือ
Special Baggage
Sport/Special Baggage Determination on Special Unit price (Flat Rates) either Weight (within TC3, between TC2 and TC3) or Piece Concept (to/from USA/Canada) for tickets issued on/after 16Dec2013
One portable musical instrumentYes
Note : If the item not exceeding 100cm (39 inches) in length
If it exceeds the allowance apply Special Unit price (Flat Rates).
http://www.thaiairways.com/en/plan_my_trip/travel_information/Baggage.page
เจ้าของกระทู้มีของรวม 89 kg และ จากที่บอกวา่ LH ก็ให้ 5 ใบ ค่ะ
ในคหสต ตามที่อ่าน ไม่ใช่สัมภาระปกติ คือ ไม่ใช่ luggage ค่ะ
เป็นพวก เครื่องดนตรี อุปกรณ์ดำน้ำ อุปกรณ์ตกปลา ถุงกอล์ฟ เครื่องกีฬา จักรยาน ฯลฯ ค่ะ
ซึ่งตามตารางในลิงค์ นำไปได้ฟรีถ้าน้ำหนักรวม ไม่เกิน ซึ่งของจทกท ไม่เกิน
สำหรับจำนวนชิ้น เข้าใจว่าได้ 5 ชิ้นจากที่จขกท ได้ขออนุญาต LH แล้ว
เครื่องดนตรีขนาดไม่เกิน 1 เมตร อาจหิ้วขึ้นเครื่องได้ด้วย เหมือนกีต้าร์ที่บางไฟลท์ก็อาจจะได้
โดยฝากเก็บในตู้
กรณีจขกท เดินทางไกลมาก ถ้ามีกระเป๋าหิ้วกันคนละใบ สามารถแบ่งของใส่โหลดกับใบที่ยังไม่เต็ม
แล้วถือขิมขึ้นเครื่องไปเป็นแครี่หนึ่งใบ โดยอนุโลมขนาดความยาวเกินกระเป๋าหิ้วปกติแต่ไม่เกิน 100 ซม. น่าจะได้ อันนี้ คหสตค่ะ
ถ้าใครจะนำเครื่องดนตรีขึ้น ก็ลองโทรติดต่อแจ้งคอลเซ็นเตอร์ก่อนจะดีกว่าค่ะ
คหสต เห็นว่า ถ้าหิ้วขึ้นเครื่องไม่ได้ ควรโหลดหน้าเครื่องเพราะอาจแตกหักได้ง่ายค่ะ หรือบางคนโหลดกีค้าร์ก็ต้องมีเคสแข็งค่ะ
ดิทเพิ่ม กรณี LT นะคะ
เครื่องดนตรีที่หิ้วขึ้นได้ ขนาดตามที่ระบุในรูป ให้หิ้วขึ้น ขนาดต่างจากนี้ให้ติดต่อเซอร์วิสทีม
ซึ่ง ขิมเป็นขนาดที่หิ้วได้ แต่ต่างจากที่ระบุ ก็ขอไปก่อนบินค่ะ ส่วนขนาดโหลด LT คิดเงินค่ะ ชิ้นใหญ่ต้องซื้อซีทให้ค่ะ

ถ้าจะมีสัมภาระพิเศษไป ก็ติดต่อสายการบินก่อนค่ะ
ป.ล. กรณี จขกท ถ้าถือตาม LT วัดขนาดขิมแล้วเห็นว่าเกิน จขกท ก็น่าจะโหลดได้แบบ 5 ชิ้นตามสิทธิซิลเวอร์สิคะ โดยคนนึงไม่ต้องเช็คธรู
คำเตือน ใครจะนำเครื่องดนตรีขึ้นก็โทรคอลเซ็นเตอร์สายการบินก่อนค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
เจ้าของกระทู้มาต่อนะคะ ทำการบ้านเพิ่มเติมจาก คคหที่ 8 แนะนำมา
กฎที่สายการบินที่เช็คอินเป็นคนกำหนดจำนวนกระเป๋านั้นก็ตาม IATA 302 เช่นกัน แต่เป็นกรณีที่ 3 เมื่อบินภายใน IATA traffic conference area หรือ กรณีที่ 4 เป็นการบินภายในประเทศ กรณีของดิฉันเป็นกรณีที่ 2 อย่างที่อธิบายไปแล้ว ดิฉันยังหาไม่เจอนะคะว่า check-in carrier จะสามารถ overruled MSC ได้ เมื่อบินระหว่าง TC
( อ้างอิงจากเวปการบินไทยที่ให้ไว้ด้านบนนะคะ http://www.thaiairways.com/th_TH/Terms_condition/baggage_policy.page)
ส่วน Baggage allowance ของ star alliance http://www.staralliance.com/baggage-allowance บอกสั้นๆค่ะว่า แล้วแต่สายการบินไม่มีข้อกำหมดเดียวกัน มีโบรชัวร์สิทธิของบัตรทองโดยรวมๆ แต่ดิฉันไม่เห็นข้อกำหนดส่วนกระเป๋าว่าได้เฉพาะบัตรทอง*เท่านั้น* ในเว็ปการบินไทยก็อ้างอิงด้วยลิงค์ให้ไปเช็คที่website ของสายการบิน partner หากสายการบินนั้นๆเป็น MSC ... ซึ่งเว็ป LH มีตารางสำหรับ Extended Free Baggage rule ชัดเจนว่า frequent traveler ได้สิทธิเพิ่มเป็น 2 ใบ โดยไม่มีหมายเหตุใดๆว่า กระเป๋าเพิ่ม 1 ใบนั้นได้เฉพาะ LH operating flight เท่านั้น
https://www.lufthansa.com/online/myportal/lh/cmn/generalinfo?nodeid=1718788265&l=en&cid=1000243
อาจจะพออนุมานได้ว่า โค้ดแชร์ operator อาจจะไม่อนุญาตสิทธิพิเศษของสายการบินพาร์ทเนอร์ ดิฉันก็เตรียมใจไว้บ้างว่าอาจจะต้องเกิดปัญหานี้
แต่นั่นก็เป็นคำถามเช่นกันค่ะ ว่าทำไมการบินไทยจึงยืนยันจะชาร์จกระเป๋าเกินทั้งเส้นทาง BKK-KUL -FRA-ABZ ทั้งๆที่ในส่วน KUL-FRA-ABZ นั้น operate ด้วย LH และทาง LH เขาก็แจ้งกับการบินไทยแล้วว่าส่วนนั้นคือสิทธิของเรา
ยังรอคำตอบชัดๆนะคะ ไม่ต้องตอบรวมๆเพราะกรณีของดิฉันได้ให้ข้อมูลทั้งหมดชัดเจน ไม่มีสมมุติอะไรใดๆทั้งสิ้น ขาดแค่วันเดินทางกับชื่อเท่านั้น ซึ่งพนักงานผู้เกี่ยวข้องวันนั้นมาเห็นย่อมต้องจำได้อยู่แล้ว ถ้าคุณคิดว่าคุณทำถูกจริงช่วยมาตอบคำถามของดิฉันนะคะ หรือผู้รู้ของการบินไทยก็ได้ค่ะเพราะส่วนของค่ากระเป๋าเกินนั้นเก็นะเรื่องที่ยังคาใจ
ดิฉันโตพอที่จะรับฟังและขอโทษออกสื่อหากข้อมูลของทางดิฉันไม่ถูกต้องจริงๆ ค่ะ ... แล้วทางการบินไทยล่ะคะ ? พร้อมจะชี้แจงไหมคะ?
กฎที่สายการบินที่เช็คอินเป็นคนกำหนดจำนวนกระเป๋านั้นก็ตาม IATA 302 เช่นกัน แต่เป็นกรณีที่ 3 เมื่อบินภายใน IATA traffic conference area หรือ กรณีที่ 4 เป็นการบินภายในประเทศ กรณีของดิฉันเป็นกรณีที่ 2 อย่างที่อธิบายไปแล้ว ดิฉันยังหาไม่เจอนะคะว่า check-in carrier จะสามารถ overruled MSC ได้ เมื่อบินระหว่าง TC
( อ้างอิงจากเวปการบินไทยที่ให้ไว้ด้านบนนะคะ http://www.thaiairways.com/th_TH/Terms_condition/baggage_policy.page)
ส่วน Baggage allowance ของ star alliance http://www.staralliance.com/baggage-allowance บอกสั้นๆค่ะว่า แล้วแต่สายการบินไม่มีข้อกำหมดเดียวกัน มีโบรชัวร์สิทธิของบัตรทองโดยรวมๆ แต่ดิฉันไม่เห็นข้อกำหนดส่วนกระเป๋าว่าได้เฉพาะบัตรทอง*เท่านั้น* ในเว็ปการบินไทยก็อ้างอิงด้วยลิงค์ให้ไปเช็คที่website ของสายการบิน partner หากสายการบินนั้นๆเป็น MSC ... ซึ่งเว็ป LH มีตารางสำหรับ Extended Free Baggage rule ชัดเจนว่า frequent traveler ได้สิทธิเพิ่มเป็น 2 ใบ โดยไม่มีหมายเหตุใดๆว่า กระเป๋าเพิ่ม 1 ใบนั้นได้เฉพาะ LH operating flight เท่านั้น
https://www.lufthansa.com/online/myportal/lh/cmn/generalinfo?nodeid=1718788265&l=en&cid=1000243
อาจจะพออนุมานได้ว่า โค้ดแชร์ operator อาจจะไม่อนุญาตสิทธิพิเศษของสายการบินพาร์ทเนอร์ ดิฉันก็เตรียมใจไว้บ้างว่าอาจจะต้องเกิดปัญหานี้
แต่นั่นก็เป็นคำถามเช่นกันค่ะ ว่าทำไมการบินไทยจึงยืนยันจะชาร์จกระเป๋าเกินทั้งเส้นทาง BKK-KUL -FRA-ABZ ทั้งๆที่ในส่วน KUL-FRA-ABZ นั้น operate ด้วย LH และทาง LH เขาก็แจ้งกับการบินไทยแล้วว่าส่วนนั้นคือสิทธิของเรา
ยังรอคำตอบชัดๆนะคะ ไม่ต้องตอบรวมๆเพราะกรณีของดิฉันได้ให้ข้อมูลทั้งหมดชัดเจน ไม่มีสมมุติอะไรใดๆทั้งสิ้น ขาดแค่วันเดินทางกับชื่อเท่านั้น ซึ่งพนักงานผู้เกี่ยวข้องวันนั้นมาเห็นย่อมต้องจำได้อยู่แล้ว ถ้าคุณคิดว่าคุณทำถูกจริงช่วยมาตอบคำถามของดิฉันนะคะ หรือผู้รู้ของการบินไทยก็ได้ค่ะเพราะส่วนของค่ากระเป๋าเกินนั้นเก็นะเรื่องที่ยังคาใจ
ดิฉันโตพอที่จะรับฟังและขอโทษออกสื่อหากข้อมูลของทางดิฉันไม่ถูกต้องจริงๆ ค่ะ ... แล้วทางการบินไทยล่ะคะ ? พร้อมจะชี้แจงไหมคะ?
ความคิดเห็นที่ 14
การบินไทยเค้าเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนมากจะระดับซุป เพราะเป็นพนักงานการบินไทย ส่วนระดับล่างๆจะไม่ค่อยเท่าไหร่เพราะเป็นพนักงานของ วิงสแปน หรือไม่ก็แพนไทย ซึ่งก็ต้องเออ ออตามหัวหน้าถึงบางทีเค้าอยากจะช่วยเราแต่ถ้าหัวหน้าแข็งๆเค้าก็ทำไรไม่ได้ เรื่องกริยามารยาทหลายคนเค้าเป็นแบบนี้จริงๆ เหมือนเค้าไม่ได้มีการ brush up เรื่อง service mind เท่าไหร่เพราะคนแก่ๆจะดัดยาก
ความคิดเห็นที่ 8
ถามคนรู้จัก มาให้ เค้าอธิบายคร่าวๆ ว่า
เรื่องที่เป็นสมากชิกบัตรเงิน LH แล้วได้สิทธิเพิ่ม 1ใบนั้น
เป็นสิทธิเฉพาะ LH เป็น operating carrier เท่านั้น จขกท จอง codeshare LH ก็จริง.
แต่ TG เป็น operating carrier ต้องใช้ กฎ TG
ทีนี้ TG เป็นสมาชิก ใน Star alliance
กฎของ Star alliance จะให้น้ำหนักเพิ่มได้เฉพาะ
ผู้ถือบัตรทองของกลุ่ม Star alliance เท่านั้น
จขกท เป็นบัตรเงิน จึงไม่ได้น้ำหนักเพิ่มแต่อย่างใด
ส่วนเรื่อง most significant carrier มีกฎว่าไว้ก็จริง
แต่มันก็มีกฎ check in carrier ด้วย ที่ว่า
ใครเป็นผู้ check in ให้ apply กฎของสายการบินที่ ทำการ check in
แต่ทีนี้ สองกฎรวมกันแล้วจะใช้อะไร ต้องดูตั๋วผู้โดยสารประกอบกัน
เค้าเล่าคร่าวๆแค่นี้แหละ จริงเท็จยังไง จขกท ลอง
หาจาก web star alliance กับ IATA เองนะ
เพราะเค้าก็ออกตัวว่า เค้าไม่แม่นเป๊ะๆ เหมือนกัน
Check in staff กับพวก ticket staff น่าจะตอบได้ดีกว่า
ก็ลองฟังไว้เป็นข้อมูลอ่ะนะ
เรื่องที่เป็นสมากชิกบัตรเงิน LH แล้วได้สิทธิเพิ่ม 1ใบนั้น
เป็นสิทธิเฉพาะ LH เป็น operating carrier เท่านั้น จขกท จอง codeshare LH ก็จริง.
แต่ TG เป็น operating carrier ต้องใช้ กฎ TG
ทีนี้ TG เป็นสมาชิก ใน Star alliance
กฎของ Star alliance จะให้น้ำหนักเพิ่มได้เฉพาะ
ผู้ถือบัตรทองของกลุ่ม Star alliance เท่านั้น
จขกท เป็นบัตรเงิน จึงไม่ได้น้ำหนักเพิ่มแต่อย่างใด
ส่วนเรื่อง most significant carrier มีกฎว่าไว้ก็จริง
แต่มันก็มีกฎ check in carrier ด้วย ที่ว่า
ใครเป็นผู้ check in ให้ apply กฎของสายการบินที่ ทำการ check in
แต่ทีนี้ สองกฎรวมกันแล้วจะใช้อะไร ต้องดูตั๋วผู้โดยสารประกอบกัน
เค้าเล่าคร่าวๆแค่นี้แหละ จริงเท็จยังไง จขกท ลอง
หาจาก web star alliance กับ IATA เองนะ
เพราะเค้าก็ออกตัวว่า เค้าไม่แม่นเป๊ะๆ เหมือนกัน
Check in staff กับพวก ticket staff น่าจะตอบได้ดีกว่า
ก็ลองฟังไว้เป็นข้อมูลอ่ะนะ
ความคิดเห็นที่ 1
ทั้งหมดนี้ การเช็คอินของดิฉันเสร็จสิ้นเวลาประมาณ 15:45 โดยเคาท์เตอร์ข้างๆซุป ดิฉันเหนื่อยและห่อเหี่ยวมาก รับพาสปอร์ตกลับออกมา โดยพนักงานกราวน์ท่านนี้กล่าวสั้นๆว่า เสร็จแล้วนะครับ ไม่ได้เน้นเวลาเครื่องออกหรือเกตอะไรทั้งสิ้น เมื่อดิฉันเดินกลับมาถึงจุดที่ให้เด็กๆนั่งรอ พบว่าไม่ได้รับบัตรขาออกมากับบอร์ดดิ้งพาส จึงเดินกลับเข้าไปถามว่าไม่ต้องใช้แล้วเหรอคะ ซุปคนเดิมแทรกถามกลับมาแบบห้วนๆ แล้วคุณใช้พาสอะไรเช็ค พอดิฉันบอกว่าพาสไทย 3 ใบ เธอก็ยื่นใบขาออกมาให้โดยไม่มีการขอโทษใดๆทั้งสิ้น พอดิฉันกรอกเอกสารทั้งหมดเสร็จ เห็นเวลาบอร์ดดิ้งแทบลมจับ 16:00 มีเวลา ณ จุดนั้นเพียงแค่ 5 นาทีก่อนเวลาบอร์ดดิ้ง
ดิฉันเดินแกมวิ่งลากลิงไปทางขาออก พอจะขึ้นบันไดเลื่อนพบว่าปิดต้องไปเข้าตรงทางเข้าที่ปลายอีกด้านของเทอร์มินัลดิฉันแทบจะร้องไห้ หางตาเหลือบไปเห็นช่องทางด่วน ดิฉันจึงตัดสินใจเสี่ยงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สนามบินที่ยืนอยู่ตรงนั้น
ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ท่านนั้นอย่างที่สุด ที่ช่วยประสานงานให้ผ่าน security และ immigration ได้อย่างฉับไว
ขาสั้นๆของ 2 ลิง สะพายเป้ booster seat (ซึ่งกว่าพ่อกะแม่นึกได้ว่าหนัก แย่งมาหิ้วแทนให้ก็หอบกันลิ้นห้อยเลยทีเดียว) เรา 4 ชีวิตวิ่งหน้าตั้งถึง gate C9 ทันเวลา ซึ่งบอร์ดดิ้งจริงๆหลังจากนั้นอีกพอสมควร มีเวลาให้กอด A/C หน้าประตูเกท สูดแอร์เย็นๆหายใจก่อนขึ้นเครื่องให้หายหอบ สนามบินสุวรรณภูมิช่วงบ่ายร้อนอบอ้าวมากค่ะ
ป.ล. ของแถม อาหารเด็กบนไฟล์ทการบินไทย BKK-KUL ทั้งขาไปและขากลับเหมือนกันทุกประการ ผลไม้หั่นลูกเต๋ามีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว คาราเมลคัสตาร์ทที่ออกกลิ่นหืนๆ และที่แย่ที่สุดคือไก่ชุบแป้งทอดบนซอสมะเขือเทศกับมันบด ซึ่งหลังจากการอุ่นบนเครื่องแล้วตัวแป้งจะแหยะๆเกาะบนเนื้อไก่หยึยๆ ลูกของดิฉันทานไม่ได้เลยค่ะ อาหารผู้ใหญ่ก็รสชาติน่าผิดหวัง ก็เข้าใจว่าไฟล์ทสั้นๆค่ะ แต่อาหารเด็กชุดนี้ออกแบบไม่เหมาะสมกับเด็กๆและการอุ่นอาหารบนเครื่อง เป็นไส้กรอกไก่ หรือเนื้อไก่ไม่ชุบแป้งน่าจะดีกว่านะคะ
ดิฉันเดินแกมวิ่งลากลิงไปทางขาออก พอจะขึ้นบันไดเลื่อนพบว่าปิดต้องไปเข้าตรงทางเข้าที่ปลายอีกด้านของเทอร์มินัลดิฉันแทบจะร้องไห้ หางตาเหลือบไปเห็นช่องทางด่วน ดิฉันจึงตัดสินใจเสี่ยงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สนามบินที่ยืนอยู่ตรงนั้น
ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ท่านนั้นอย่างที่สุด ที่ช่วยประสานงานให้ผ่าน security และ immigration ได้อย่างฉับไว
ขาสั้นๆของ 2 ลิง สะพายเป้ booster seat (ซึ่งกว่าพ่อกะแม่นึกได้ว่าหนัก แย่งมาหิ้วแทนให้ก็หอบกันลิ้นห้อยเลยทีเดียว) เรา 4 ชีวิตวิ่งหน้าตั้งถึง gate C9 ทันเวลา ซึ่งบอร์ดดิ้งจริงๆหลังจากนั้นอีกพอสมควร มีเวลาให้กอด A/C หน้าประตูเกท สูดแอร์เย็นๆหายใจก่อนขึ้นเครื่องให้หายหอบ สนามบินสุวรรณภูมิช่วงบ่ายร้อนอบอ้าวมากค่ะ
ป.ล. ของแถม อาหารเด็กบนไฟล์ทการบินไทย BKK-KUL ทั้งขาไปและขากลับเหมือนกันทุกประการ ผลไม้หั่นลูกเต๋ามีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว คาราเมลคัสตาร์ทที่ออกกลิ่นหืนๆ และที่แย่ที่สุดคือไก่ชุบแป้งทอดบนซอสมะเขือเทศกับมันบด ซึ่งหลังจากการอุ่นบนเครื่องแล้วตัวแป้งจะแหยะๆเกาะบนเนื้อไก่หยึยๆ ลูกของดิฉันทานไม่ได้เลยค่ะ อาหารผู้ใหญ่ก็รสชาติน่าผิดหวัง ก็เข้าใจว่าไฟล์ทสั้นๆค่ะ แต่อาหารเด็กชุดนี้ออกแบบไม่เหมาะสมกับเด็กๆและการอุ่นอาหารบนเครื่อง เป็นไส้กรอกไก่ หรือเนื้อไก่ไม่ชุบแป้งน่าจะดีกว่านะคะ
ความคิดเห็นที่ 26
ของดิฉันไม่ได้มีปัญหาเรื่องกระเป๋าแต่ปัญหามาจากเจ้าหน้าที่เคาเตอร์เช็คอิน ดิฉันบินล่าสุดกับLHเมื่อปิดเทอมที่ผ่านมาตั๋วไป-กลับขาไปอัลบอร์ก-แฟรงค์เฟิร์ต-กรุงเทพฯขาไปไม่มีปัญหา ขากลับกรุงเทพฯ-กัวลาลัมเปอร์-แฟรงค์เฟิร์ต-อัลบอร์กในตั๋วก็ระบุTGจากไทยไปKLแล้วค่อยต่อเป็นLHทีนี้ดิฉันกับลูกก็ไปเช็คอินเคาเตอร์ของไทยเจ้าหน้าที่ถามจะเดินทางไปไหนเราก็บอกที่จะไป แต่ไม่รู้เขาดูตั๋วยังไงบอกคุณต้องไปเช็คอินกับLHนะซื้อตั๋วกับLHแต่มาเช็คกับTGคุณจะได้กลับไหม คำพูดแค่นี้ดิฉันไม่ติดใจแต่ติดตรงสายตาและท่าทางที่มองมาประมาณว่าไม่รู้เรื่อง,หลงกรุงทำนองนี้ คราวนี้เหมือนตัวเองจะเริ่มโมโหนิดๆดิฉันเลยพูดเสียงแข็งๆว่าคุณคะกรุณาดูที่ตั๋วด้วยค่ะจากไทยไปKLต้องบินกับไทยตั๋วก็ระบุTGคุณมาบอกให้ไปเช็คอินกับLHเดี๋ยวเขาก็คิดว่าดิฉันฉลาดน้อยเสียเวลาเข็ญรถไปมาอีก นางเอาตั๋วกลับไปดูใหม่แล้วถามจะรับกระเป๋าทีไหนเราบอกปลายทางนางก็ทำจนเสร็จยื่นของคืนแต่ไม่มีขอโทษสักคำดิฉันเลยขอบคุณเสียงแข็งๆไปอีกทีภาวนาอย่าให้เจอแบบนี้อีก
แสดงความคิดเห็น
การบินไทยคะ ความผิดพลาดของพนักงานของคุณ จะมีใครรับผิดชอบไหมคะ?
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการบินไทยล่ะคะ?
ปัญหาเกิดที่ ไฟล์ทเดินทางกลับ เริ่มต้นจากกรุงเทพสู่กัวลาลัมเปอร์ดันโอเปอร์เรตด้วย TG .. บอกตามตรงดิฉันไม่ทันสังเกตุตอนซื้อตั๋ว แต่เพราะเห็นว่ามีรหัส LH ทั้งหมด และเป็นสมาชิก Star Alliance ดิฉันจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา ถึงกระนั้นดิฉันได้ทำการบ้านพอสมควรเพราะปรกติแล้ว LH จะเข้มงวดเรื่องกระเป๋ามาก ดิฉันอ่านข้อกำหนดของ IATAว่าด้วยเรื่องสัมภาระที่อนุญาตเวลาเดินทางด้วยหลายสายการบินและโค้ดแชร์ จึงทำให้มั่นใจว่า เพราะสายการบินที่เป็นสายการบินหลัก Most Significant Carrier ในที่นี้ยังเป็น Lufthansa, น้ำหนักจำนวนกระเป๋าจึงควรเป็นไปตามข้อกำหนดของทางLH ซึ่งดิฉันถามย้ำกับทาง LHตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้วว่าได้ทั้งหมด 5 ใบ (เพราะบัตรเงินของสามี)
แต่เหตุการณ์ไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเช็คอินขากลับด้วยการบินไทย พนักงานเช็คอินคนแรกเกิดไม่แน่ใจจำนวนกระเป๋า 5ใบนั้น จึงได้สอบถามไปทางหัวหน้า ทางหัวหน้าตอบกลับมาทางโทรศัพท์ว่า อนุญาตให้ได้แค่ 4 ใบเท่านั้น น้องพนักงานก็ยังช่วยคุยให้ว่า กระเป๋าของดิฉันน้ำหนักไม่เกินที่การบินไทยอนุญาต (30 kg ต่อคน) คือดิฉันจัดมาตามกฎของ LH ใบละไม่เกิน 23 kg ใบที่หนักสุดหนัก 25 kg ดิฉันยังเอาออกระหว่างที่น้องคนแรกเช็คเอกสาร และ ใส่เข้าไปในใบอื่น น้ำหนักกระเป๋าของดิฉันคือ 23, 20, 19, 15 และ 12 kg ใบสุดท้ายคือขิมที่ดิฉันหามานานและรอคอยที่จะนำกลับมาเพื่อได้สอนลูกๆของดิฉันให้เล่นดนตรีไทย
ค่ะ น้ำหนักรวม ของผู้โดยสาร 4 คน คือ 89 kg หากตามกฎของการบินไทย คนละ 30 kg เราก็ไม่เกิน และเราได้รับการยืนยันสิทธิจาก LH แล้วว่าได้ 5 ใบ .. ปัญหาติดอยู่ที่เดียวค่ะ หัวหน้ากราวน์ของการบินไทย ว่าจะต้องนับเป็นใบตามกฎของ LH แต่ไม่ให้กระเป๋าเพิ่ม 1 ใบตามสิทธิ frequent traveler ยืนยันว่ากระเป๋าใบเพิ่มเติมนั้นทางการบินไทยจะให้เฉพาะบัตรทองเท่านั้น ดิฉันได้ถามน้องที่เช็คอินว่า ถ้าต้องจ่ายส่วนต่างสัมภาระ จะคิดยังไง น้องพนักงานบอกว่า คงต้องคิดเป็นน้ำหนัก จากกรุงเทพถึงกัวลา (เพราะที่เหลือนั้น operate โดย Lufthansa) ทั้งหมดของการสนทนาช่วงนี้ หัวหน้ากราวน์คนนี้คุยทางโทรศัพท์ตลอดนะคะ โทรไปๆมาๆหลายรอบ ทั้งๆที่นางนั่งอยู่สองเคาท์เตอร์ถัดไปเท่านั้น ดิฉันไม่เคยเห็นหัวหน้ากราวน์ xx ติดเบาะขนาดนี้ ดิฉันเริ่มร้อนใจเพราะเวลาใกล้จะบอร์ดดิ้งเข้าไปทุกที เวลาตอนนั้นก็น่าจะราวๆ 14:30 ได้ เครื่องออก 16:40 ป้ายแถวๆนั้นติดว่า Gate close 10 minutes before depature คนยังไม่เยอะค่ะ แต่เดินทางกับเด็กๆ ต้องเผื่อเวลาให้ขาสั้นๆเดินตามเราทัน เลยขอน้องพนักงานเช็คอินคุยกับหัวหน้าโดยตรง ดิฉันคิด(ไปเอง)ว่าน่าจะเร็วกว่าเพราะแม้น้องจะพยายามช่วยเหลือ แต่อำนาจตัดสินใจอยู่ที่ซุป
เป็นความผิดของดิฉันและสามีเองค่ะ ที่ลืมคลานเข่าเข้าพบ .. ดิฉันเดินไปที่หน้าเคาเตอร์ เจอหัวหน้ากราวน์หน้าบอกบุญไม่รับ พูดจาห้วนๆ “ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ไม่ได้” ทำเหมือนดิฉันมาขอฟรีๆ ทั้งๆที่เป็นสิทธิตามที่ควรจะได้ ดิฉันพยายามบอกว่าตามกฎควรจะนับตาม baggage allowance ของสายการบินหลัก พอดิฉันขอให้เธอคุยกับทาง LH เธอก็ปัดแบบไม่ใส่ใจว่าให้ไปหาที่ ticket counter ของ LH ด้านบนเอง ดิฉันและสามีจึงต้องวิ่งหน้าตั้งขึ้นไปที่ชั้นบน
เป็นความผิดพลาดและความซวยของดิฉันในวันนั้นที่ไม่มีพนักงาน LH อยู่ที่ห้องออกตั๋วเลย (ซึ่งดิฉันได้ร้องเรียนไปกับ LH แล้ว) เวลานั้นพนักงานกราวน์ของ LH ยังไม่ทำการที่บริเวณเช็คอิน (หลังจากวิ่งไปดูที่ row J ) ดิฉันจึงโทรหา Call Center ของ LH ซึ่งพยายามคุยกับหัวหน้ากราวน์การบินไทยท่านนี้โดยตรงผ่านมือถือของดิฉัน โดยเธอได้เช็คและคอนเฟิร์มกับทางการบินไทยว่า สามีของดิฉันได้กระเป๋าเพิ่ม 1 ใบ
พนักงาน LH ขอโทษดิฉันเพราะไม่สามารถบังคับ TG ได้ .. ณ เวลานั้น ก็เกือบ 15:20 แล้วดิฉันได้สนทนากับซุปท่านนั้นอยู่เป็นเวลานาน พยายามให้เธอเคารพกฎ และพยายามให้ดูกฏของ IATA ซึ่งก็มีอยู่ในเวปการบินไทยเอง เธอได้แต่ยืนกรานกระต่ายขาเดียว ว่าไม่ได้ และบอกให้ดิฉันจัดกระเป๋าใหม่ให้ได้ 4 ใบ ดิฉันบอกว่าถ้าทำแบบนั้น แต่ละใบจะเกิน 23 kg เธอบอกว่าเธอจะยอมให้ถ้าไม่น่าเกลียดเกินไป (ซึ่งถ้าแนะนำแบบนี้ตั้งแต่แรก ก่อนที่ให้ดิฉันวิ่งหัวขวิดหาพนักงานจาก LH เอง ดิฉันก็คงมีเวลาจัดทัน) ดิฉันดูแล้วว่ายังไงๆ ก็ไม่มีเวลาพอ จึงยอมบอกว่า งั้นชาร์จเถอะค่ะ คราวนี้เธอกลับบอกว่าต้องชาร์จเป็นจำนวนใบ 1 ใบ จากกรุงเทพถึงอเบอร์ดีน จากที่ตอนแรกคุยกันไว้ว่า ชาร์จแค่ไฟล์ทแรกเป็นน้ำหนัก 10 kg .. ดิฉันไม่ยอมค่ะ ถามว่าทำไมต้องชาร์จทั้งๆที่อีก 2 ไฟล์ท operated by LH และดิฉันได้สิทธิเพิ่ม 1 ใบแน่นอนจากทาง LH เธอท้ามาว่า งั้นให้เช็คไปแค่ที่ KLไหมล่ะคะ ดิฉันโมโหมากค่ะ ทั้งๆที่เป็น star alliance และไฟล์ททั้งหมดจองในตั๋วเดียวแต่ต้องมารับกระเป๋าระหว่างทางแบบนี้ แต่เพราะเวลาจวนตัวเต็มทีดิฉันจึงยอม บอกเธอไปว่า ได้ค่ะ แต่แค่ของสามีนะคะ เพราะบุ้คกิ้งของสามีนั้นแยกมาคนเดียว (ดิฉันและลูก 2 คนเดินทางมาไทยล่วงหน้าก่อน) ซุปกลับยืนกรานว่าไม่ได้ต้องทั้งหมด ดิฉันถามว่าทำไมไม่ได้ คนละตั๋ว คนละบุ้คกิ้งกันทำไมจะแยกแค่ส่วนที่มีปัญหา 2 ใบไม่ได้ เธอยืนยันว่ายังไงๆ ก็ไม่ได้ จะให้ดิฉัน off load ที่ KL ทั้งหมด 5 ใบ ดิฉันขอให้เธอ “เคารพกฎ” กลับโดนเธอดุว่า "อ้าว พูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ จะให้หลบกฎ" ดิฉันถึงกับงงค่ะ หูเธอหาเรื่อง ได้ยินเป็น หลบกฎ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันทำ ดิฉันบอกเธอว่าถ้าจะเคร่งกฎของการบินไทยดิฉันก็ไม่เกิน 120 กิโล คุณจะให้ดิฉันนับเป็นใบตาม LH แต่คุณไม่ให้สิทธิที่ LH ให้ เธอกลับพูดซ้ำว่า ยังไงๆ ก็ให้เกินจำนวนไม่ได้ หากเกินอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ
สุดท้าย เมื่อดิฉันเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ดิฉันไม่พอใจที่จะต้องเสียค่าปรับทั้งๆ ที่ไม่สมควรจะเสีย แถมดิฉันไม่ทราบว่าจงใจกลั่นแกล้ง หรือเป็นความเพิก เฉยที่ไม่เช็คข้อมูลให้ถี่ถ้วน .. จึงต้องการจะชาร์จดิฉันเกินสมควร และเวลาก็ใกล้หมด ดิฉันจึงต้องตัดใจ ขอให้แม่นำขิมกลับไป .. สรุปรวมแล้ว ดิฉันขนสัมภาระทั้งหมด 4 ใบ น้ำหนักรวม 77 กิโล ที่น่าขันคือ ทั้ง 4 ใบนั้นเช็คมาในชื่อของสามีดิฉันทั้งหมด ซึ่งในบุ้คกิ้งของเขามีตั๋วเขาคนเดียว .. (ดิฉันและลูกๆ อยู่อีกบุ้คกิ้งนึง ถึงเช็คอินพร้อมกันแต่ก็ไม่ได้นั่งด้วยกัน) อย่างนี้ไม่เกินเหรอคะ ไม่กลัวมีปัญหาเหรอคะ ทั้งๆที่ยืนยันหนักแน่นว่ายังไงๆก็เกินไม่ได้ ทำไมระบบจึงยอมให้คนๆเดียวสามารถเช็คกระเป๋าได้ถึง 4 ใบคะ
ถึงการบินไทย
คุณคะ พนักงานของคุณทำให้ดิฉันเสียโอกาส เสียอารมณ์ .. เพราะพนักงานของคุณนอกจากจะไม่มีหัวใจบริการ ทั้งน้ำเสียงกริยา และการแนะนำบริการกับผู้โดยสาร ไม่แม่นกฎ ไม่ยอมรับฟัง และยืนกรานกฎแบบตามที่เธอเข้าใจ ไม่มีความเป็นมืออาชีพ กระเป๋าใบนึงที่ดิฉันนำมาไม่ได้เพราะความผิดพลาดครั้งนี้คุณจะแสดงความรับผิดชอบอะไรใดๆไหมคะ?
ถึงคุณกราวน์ซุปนะคะ
ดิฉันโกรธคุณมากเพราะดิฉันทำตามกฎแต่กลับมีปัญหาแบบนี้ ดิฉันพูดกับคุณ(ด้วยอารมณ์)ว่า เพราะการบินไทยมีพนักงานแบบคุณ จึงสมควรแล้วล่ะค่ะ ที่ใกล้เจ๊ง ตอนนี้ดิฉันหายโกรธแล้ว ดิฉันยังยืนยันเช่นนั้นค่ะ คุณควรจะอ่านเว็ปของการบินไทยเองนะคะ
http://www.thaiairways.com/th_TH/Terms_condition/baggage_policy.page เว็ปที่ดิฉันพยายามให้คุณดูแต่คุณพูดใส่หน้าดิฉันว่า “พี่จะไม่ดูอะไรอีกแล้ว คุณจะทำยังไงก็ได้ไม่ให้เกิน” ดิฉันก็อบมาให้อ่านง่ายๆค่ะ อ่านซะนะคะ ในเว็ปเต็มๆเกิน 7 บรรทัด ดิฉันสรุปสาระสำคัญสั้นว่าๆ
สำหรับการเดินทางระหว่างแทรฟฟิคคอนเฟอเรนซ์แอเรียสองแอเรียหรือมากกว่า สายการบินที่ทำการบินในช่วงแรกที่ข้ามจากแอเรียหนึ่งสู่อีกแอเรียหนึ่งเป็นผู้กำหนดกฎเรื่องสัมภาระ
แอเรีย 1 คือ โลกตะวันตกทั้งหมด
แอเรีย 2 คือ ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา
แอเรีย 3 คือ เอเชียทั้งหมดและเกาะใกล้เคียง (ยกเว้นเกาะที่อยู่ในทีซี 2 แล้ว) ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และเกาะใกล้เคียง ตลอดจนหมู่เกาะแปซิฟิก (ยกเว้นเกาะที่อยู่ในทีซี 1 แล้ว)
ในเคสนี้ KUL – FRA โดย LH คือ Most Significant Carrier และกฎของ LH ควรจะเป็นกฎหลักค่ะ ทาง LH ได้คุยกับคุณและยืนยันสิทธิของสามีดิฉัน คุณยังไปดุเขาอีกว่า บัตรเงินให้เพิ่มได้อย่างไร ของการบินไทยให้เฉพาะบัตรทองเท่านั้น คุณคะ กฎเขามีให้”เคารพ”นะคะ ไม่ใช่ให้หลบเอาตามใจ #
กฎ IATA 302 ภาคภาษาอังกฤษ http://www.tripadvisor.co.uk/Travel-g41707-c211983/Newton:Massachusetts:Baggage.Rules.For.Multi.Airline.Trips.html
เวปของ Airline Tariff Publishing Company (ATPCO) สำหรับให้สายการบินใช้คำนวณค่ากระเป๋าเกิน www.iflybags.com
ถ้าคุณยังคิดว่า ที่คุณยินกรานทั้งหมดนั้นถูกต้องตามกฎทุกประการ กรุณาอธิบายว่า
1) ทำไมถึงค่ากระเป๋าเกินจึงไม่เท่ากัน (ระหว่างที่เช็คอินตอนแรกและสุดท้าย) และทำไมต้องชาร์จในส่วนที่ LH ได้ยืนยันสิทธิกับคุณโดยตรงแล้วคะว่าจาก KUL - FRA - ABZ สามารถใช้สิทธิ frequent traveler ได้
2) ทำไมถึงต้องเช็คกระเป๋าทั้งหมด 5 ใบไปที่ KL ทำไมถึงแยกเฉพาะส่วนที่มีปัญหาคือส่วนของสามีดิฉันไป KL (ซึ่งบุ้คกิ้งของเขามีตั๋วของเขาคนเดียว) แล้วที่เหลือไปอเบอร์ดีนตามตั๋วของดิฉันกับลูกๆ คุณเอากฎอะไรมาบังคับส่วนนี้
3)สุดท้าย ทำไมกระเป๋าทั้งหมด 4 ใบจึงเช็คมาในชื่อของสามีดิฉันได้ ทั้งๆที่คุณย้ำนักหนาว่าเกินชิ้นไม่ได้ ใครจะรับผิดชอบ ตั๋วของเขา ขื่อเขามีเขาเดินทางคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้ลิงค์กับบุ้คกิ้งของดิฉันและลูกๆใดๆทั้งสิ้น (ที่นั่งไม่ได้นั่งด้วยกันนะคะ ดิฉันต้องขอความเห็นใจคนบนเครื่องสล้บที่เอาเอง)